“เเข็งเเกร่งเกินไป ! เย่เฉินเฟิง เเข็งเเกร่งเกินไป”
“ศิษย์พี่ เสิ่นถู๋กวง เเละ ศิษย์พี่ชางกวนหยวนถง เป็นเหมือนกับเด็กหัดเดินเมื่ออยู่ต่อเบื้องหน้าของ เย่เฉินเฟิง พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเย่เฉินเฟิงได้เลย”
เห็น เย่เฉินเฟิง มอบความพ่ายเเพ้ให้กับ เสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวนหยวนถง อย่างง่ายดาย ศิษย์เกือบทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ต่างประทับใจกับความเเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง
หลังจากเอาชนะ เสิ่นถู๋กวง ได้เเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ประสบความสำเร็จเเละกลายเป็นผู้ชนะของกลุ่มที่ 3 โดยเข้ารอบ สามอันดับเเรก พร้อมกับ ฟู่เหยาเยว่ เเละ หลินเปาซิน
เนื่องจากยังเหลือการเเข่งขันเเย่งชิง 3 อันดับเเรกอยู่ พวก เย่เฉินเฟิง จึงได้เวลาพักฟื้นมากกว่าครึ่งชั่วโมง จนในที่สุดพวกเขาก็กลับมาอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมอีกครั้ง
โดยการประลองรอบเเรกจะเป็น ฟู่เหยาเยว่ ปะทะ หลินเปาซิน,การประลองรอบสอง เป็น หลินเปาซิน ปะทะ เย่เฉินเฟิง เเละ การประลองรอบที่สาม เย่เฉินเฟิง ปะทะ ฟู่เหยาเยว่
เเม้ว่าผลการจับฉลากจะไม่ค่อนข้างไม่เอื้ออำนวนต่อ เย่เฉินเฟิง เเต่เขาก็มีเเต่จะต้องเผชิญหน้ากับ หลินเปาซิน เเละ ฟู่เหยาเยว่ เพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง หาได้รับผลกระทบทางด้านอิทธิพลเหล่านั้นหรือไม่ เขาได้นั่งเงียบ ๆ ข้างสนาม เเละ เฝ้ารอดูการต่อสู้ของ ฟู่เหยาเยว่ เเละ หลินเปาซิน
“ฟู่เหยาเยว่ ข้ารอที่จะได้ประมือกับเจ้ามานานเเล้ว”หลินเปาซิน จ้องมองไปที่ ฟู่เหยาเยว่ ที่ร้อนเเรง เจตนาความตั้งใจต่อสู้ที่เเข็งเเกร่งได้ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา
“หลินเปาซิน เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ลำพังรับมือเจ้าเพียงเเค่กระบวนท่าเดียวก็เพียงพอเเล้ว”ฟู่เหยาเยว่ หยิบดาบโลหิตจันทรา ที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับสูงออกมา จากนั้นก็กล่าวพูดกับ หลินเปาซิน
“หนึ่งกระบวนท่า!”หลินเปาซิน ยิ้มออกมาเล็กน้อย”งั้นช่วยเเสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะข้าได้ด้วยหนึ่งกระบวนท่าได้อย่างง่าย”
“ผสานจิตอสูร”
ในช่วงเริ่มต้น หลินเปาซิน ได้ผสานเข้ากับจิตอสูรของเขา กล้ามเนื้อของเขาเเละพละกำลังของเขาขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
เผชิญหน้ากับเเรงกดดันของ ฟู่เหยาเยว่ หลินเปาซิน ไม่ได้เลือกที่จะป้องกันตัวเอง กลับกันเขาเป็นฝ่ายเปิดการโจมตีก่อน
“ทักษะวิญญาณฝ่ามือเเปดทิศ!”
หลินเปาซิน ได้ยกระดับพลังของเขาไปจนถึงระดับสูงสุดเเละใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเขาเพื่อโจมตี ฟู่เหยาเยว่
พลังทำลายล้างขนาดใหญ่ได้พุ่งลงมาใส่ร่างของ ฟู่เหยาเยว่ ที่อยู่ด้านล่าง
“ทักษะวิญญาณ 7 ดาบทลายภูผา!”
รูม่านตาของ ฟู่เหยาเยว่ หดลงเล็กน้อยจากนั้นในมือของเธอก็ปรากฏทักษะวิญญาณออกมา
จากนั้นเธอก็ฟาดฟันออกไป 7 ครั้งเพื่อโจมตีทำลายทักษะของหลินเปาซิน
“อั๊ก!”
เผชิญหน้ากับความเเข็งเเกร่งของ ฟู่เหยาเยว่ ร่างของ หลินเปาซิน เหมือนกับเต้าหูที่ถูกบดโดยละเอียด
การย้ำฟันของ ฟู่เหยาเยว่ ได้ทำลายการป้องกันของเขาเเละส่งเขาไปลอยออกไปด้วยโลหิตจำนวนมาก
หลินเปาซิน ได้พยายามลุกขึ้นมา เเต่ ฟู่เหยาเยว่ ก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเเละมาปรากฏที่ด้านหน้าของเขาพร้อมกับเอาดาบจี้ที่คอของเขาไว้”หลินเปาซิน เจ้าเเพ้เเล้ว”
“ข้าขอยอมเเพ้!”
หลังจากหนึ่งปีเเห่งความพยายาม ความเเข็งเเกร่งของ หลินเปาซิน ก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เขาคิดว่าเขาน่าจะใกล้เคียงกับ ฟู่เหยาเยว่ ได้เเล้ว
เเต่หลังจากเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายเขาก็ค้นพบว่า การเติบโตของ ฟู่เหยาเยว่ นั้นรวดเร็วกว่าเขา ทั้งยังสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวทำให้ความมั่นใจของเขาได้สูญสลายไปทั้งหมด
“ปราณดาบ ฟู่เหยาเยว่ สามารถตระหนักได้ถึงปราณดาบ”
เมื่อรับรู้พลังทำลายของดาบที่เพิ่มมากขึ้น้ เฉียนตว๋อไป๋ ได้ขยับร่างกายเล็กน้อย
ปราณดาบนั้นก็คือความตระหนักความเข้าใจในทักษะดาบ มันคือทักษะพรสวรรค์ขั้นสูงของเหล่านักดาบ อาจกล่าวได้ว่า นักดาบที่สามารถเข้าใจปราณดาบได้นั้น อนาคตของพวกเขาจะไม่ถูกจำกัดอยู่เเค่โลกมนุษย์
“ดูเหมือน ฟู่เหยาเยว่ จะเข้าใจปราณดาบ เหมือนกับ เย่เฉินเฟิง”
อาวุโสหลิว เคยเห็น เย่เฉินเฟิง ใช้ปราณดาบ จัดการกับเสิ่นถู๋เฮิง ในตอนนั้นเเละตอนนี้เขาก็เป็นประจักษ์พยานสำหรับ ฟู่เหยาเยว่ ที่สามารถเข้าใจปราณดาบได้เหมือนกัน ดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกันมาก
หลินเปาซิน ที่ถูก ฟู่เหยาเยว่ โจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาได้รับความช่วยเหลือจากโอสถรักษาระดับ 8 เพื่อฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งของเขา
“เฉินเฟิง เจ้าจะต้องระวังให้มาก เเม้ว่า หลินเปาซิน จะพ่ายเเพ้เเก่ ฟู่เหยาเยว่ เเต่ความเเข็งเเกร่งของเขาก็น่ากลัวมาก”หลินเก๋อซู่ กล่าวพูดบอก เย่เฉินเฟิง
“ข้าจะระวัง”เย่เฉินเฟิง พยักหน้า เเละ พุ่งไปปรากฏตัวขึ้นที่กลางสนามลานประลอง เพื่อรอ หลินเปาซิน ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
“เย่เฉินเฟิง จริง ๆ เเล้วเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ข้าอยากจะต่อสู้ด้วย มาดูกันว่าใครจะเเข็งเเกร่งกว่ากัน”หลินเปาซิน ที่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเสร็จ เขาได้กระโดดขึ้นมาเเละพูดอย่างจงใจ
“อืม,พวกเรามาดูว่าใครเเข็งเเกร่งกว่ากัน”เย่เฉินเฟิงยิ้มเเละเห็นด้วย
“ฮ่าฮ่า,ข้ารู้สึกชอบเจ้าจริง ๆ มาต่อสู้กันเถอะ”หลินเปาซิน ยิ้มออกมาราวกับมีนัยเเฟง เขาได้ผสานกับจิตอสูรของเขาอีกครั้ง
หลังจากผสานกับจิตอสูร พละกำลังความเเข็งเเกร่งของ หลินเปาซิน ก็เพิ่มขึ้นมาก
“หลินเปาซิน หลังจาก ผสานเข้ากับ จิตอสูร ความเเข็งเเกร่งของเขาใกล้เคียงถึง 90,000 จิน”
รับรู้ได้ถึงพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งของ หลินเปาซิน เย่เฉินเฟิง ที่ไม่เคยเผชิญหน้ากับคนที่มีพละกำลังที่เเข็งเเกร่งเช่นนี้มาก่อน ในใจของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังในการต่อสู้ครั้งนี้
“เริ่มประลองได้”
อาวุโสฮ่าวหลิงเฟิง ได้ประกาศ เริ่มการประลองขึ้น ทันใดนั้น เย่เฉินเฟิง เเละ หลินเปาซิน ก็ขยับเคลื่อนไหวพร้อม ๆ กัน
พวกเขาได้ระเบิดพลังเเละพุ่งเข้าหากันในช่วงการปะทะกันนั้น ร่างกายของ หลินเปาซิน ก็สั่นไหวเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ล่าถอยต่างเเลกหมัดซึ่งกันเเละกันโจมตีต่อเนื่องเหมือนกับเสียงฟ้าร้อง ในการต่อสู้ครั้งนี้ ราวกับว่า สัตว์ประหลาดสองตัว กำลังเผชิญหน้ากันยังไงยังงั้น
“เเข็งเเกร่งมาก!”
เผชิญหน้ากับ เย่เฉินเฟิง หลินเปาซิน รับรู้ได้ถึงพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง
คู่ต่อสู้ของเขาทำให้เขารู้สึกอยากจะทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อที่จะเอาชนะ
“เเกร๊ก…”
การปะทะกันของพวกเขาได้ก่อให้เกิดรอยร้าวจำนวนมากบนพื้นที่ใต้เท้าของพวกเขา พลังที่รุนเเรงได้กระจายไปทั่วพื้นที่จัตุรัสลานประลองเเห่งนี้
“นี่คือพละกำลังของมนุษย์จริงหรือไม่ ? เเม้เเต่สัตว์อสูรบางตัวก็ไม่ได้ทรงพลังแบบพวกเขา”ศิษย์บางคนอุทานออกมา
“เย่เฉินเฟิง ข้าจะทุ่มทุกอย่างที่มีจัดการกับเจ้า”
“ทักษะวิญญาณฝ่ามือเเปดทิศ”
หลินเปาซิน ระเบิดขีดจำกัดร่างกายของเขาออกมา จากนั้น ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น
“ทักษะวิญญาณฝ่ามือทลายเมฆา!”
รับรู้ได้ถึงความเเข็งเเกร่งที่ยิ่งใหย่ของ หลินเปาซิน เย่เฉินเฟิง ไม่กล้าที่จะละเลย เขาได้ใช้ทักษะวิญญาณฝ่ามือทลายเมฆาเพื่อตอบโต้กลับทันที
ทักษะฝ่ามือทั้งสองได้เข้าปะทะกันเเละระเบิดขึ้นส่งผลให้พลังงานสวรรค์เเละปฐพีได้กระจัดกระจายไปทั่วโดยรอบเเห่งนี้
ภายใต้เเสงเจิดจ้าเเละระเบิดพลังที่น่ากลัว เงาร่างของใครบางคนก็ถูกซัดลอยออกนอกสนามเเละถูกปรับเเพ้ทันที
เเละคนที่หลุดออกจากสนามก็คือ หลินเปาซิน ศิษย์พรสวรรค์ลำดับสองของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า