“เป็นความเร็วที่น่าตกใจจริง ๆ “
เฉียนตว๋อไป๋ ที่เห็นการเคลื่อนไหวของ เย่เฉินเฟิง เขากล่าวชื่นชมทันที
เงาร่างของ เย่เฉินเฟิง ได้พุ่งผ่านมาปรากฏตัวขึ้นเเละกระเเทกลงสู่สนามประลอง,บนพื้นสนามประลองได้ปรากฏรอยร้าวทอดยาวไปไกล ทำให้ ผู้คุมการทดสอบ ได้ถอยออกไปไกลหลายสามก้าว
“ต้องของโทษท่านจ้าวตำหนักด้วย ข้าคงไม่ได้มาสายเกินไปใช่หรือไม่?”
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ ชางกวนฉี ที่ตอนนี้มีสีหน้าที่น่าเกลียดอย่างมาก ได้ยินเสียงของ เย่เฉินเฟิง สายตาของ เฉียนตว๋อไป๋ กลายเป็นให้ความสนใจอย่างมาก
“ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3 เย่เฉินเฟิง สามารถทะลวงกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3 ได้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี”
รับรู้ได้ถึงความเเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง เฉียนตว๋อไป๋ เเสดงออกอย่างประหลาดใจ เเม้ว่าเขาจะคาดหวังกับ เย่เฉินเฟิง ไว้สูง เเต่เมื่อเห็นความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของ เย่เฉินเฟิง ก็ทำให้เขารู้ว่าเขาประเมิน เย่เฉินเฟิง ต่ำเกินไป
ในเวลานี้ เสียงอึกทึกครึกโครม ก็ได้เงียบลง สายตาของผู้คนหลายคู่ ได้จดจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง
พวกเขาล้วนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ในตอนนี้
เพราะทันทีที่ เย่เฉินเฟิง ปรากฏตัวขึ้น เขาก็ได้สร้างความประทับใจอันเเรงกล้าในจิตใจของพวกเขา
“เย่เฉินเฟิง”
หลินเปาซิน จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละ สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายจากร่างกายของเขา
เเม้เเต่ ฟู่เหยาเยว่ ในสนามประลองก็ยังรู้สึกภาคภูมิใจเเละจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ด้วยสายตาชื่นชม
“เย่เฉินเฟิง ข้าต้องขอชื่นชมดูเหมือนเจ้าจะสามารถกลับมาได้ทันในช่วงการทดสอบพอดิบพอดี”เพราะ ชางกวนฉี ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของ เย่เฉินเฟิง เขาจึงกล่าวโจมตี เย่เฉินเฟิง”เเม้ว่าเจ้าจะกลับมา เเต่เจ้าก็ถูกกำหนดให้เป็นผู้เเพ้”
“เเล้วข้าจะรอ”
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ ชางกวนฉี ใบหน้าของเขาล้วนไร้ร่องรอยราวกับคร้านที่จะสนใจอีกฝ่าย
“เริ่มการประลองได้”
เมื่อจ้องมองไปที่ทั้ง 6 คนที่พร้อมต่อสู้เเล้ว ฮ่าวหลิงเฟิง ก็ประกาศเสียงดัง
ชางกวนฉี ได้เริ่มเปิดการโจมตีก่อน ปีศาจเเรดสีดำ ได้เเผดเสียงร้องออกมาจการ่างกายของเขา จากนั้น เขาก็พุ่งตัวออกไปเเละง้างหมัดขึ้นเพื่อโจมตีใส่ เย่เฉินเฟิง
“อสรพิษกลืนกิน!”
ชางกวนฉี ได้ปลดปล่อยทักษะวิญญาณของเขาเเละโจมตีใส่ เย่เฉินเฟิง ที่ไร้การป้องกันในตอนนี้
“อสรพิษกลืนกิน, ดูเหมือนว่า ชางกวนฉี นั้นจะฝึกฝนทักษะวิญญาณระดับสูงจนประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ก็อย่างว่ายังไงเขาก็เป็นถึงผู้ที่ครองลำดับที่ 6 ของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า”
จ้องมองทักษะวิญญาณของ ชางกวนฉี เย่เฉินเฟิง ได้ยืนนิ่ง เเละ จ้องมองอสรพิษสีดำที่พุ่งเลื้อยเข้ามาหาเขา ขณะนั้นเอง เย่เฉินเฟิง ก็ได้ยกนิ้วขึ้นมาสองนิ้วเเละชี้ไปที่ อสรพิษสีดำนั่น
“ฟุ่บ!”
เย่เฉินเฟิง ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณของเขาออกไป เขาได้หลอมรวมพละกำลังทางกายมากกว่า 100,000 จิน จากนั้นดัชนีพลังวิญญาณก็ถูกยิงออกไป
คลื่นพลังที่สั่นสะเทือนได้ทำให้ร่างทักษะของอสรพิษกลืนกินสั่นสะเทือนอย่างรุนเเรง
เห็นสถานการณ์ที่่เกิดขึ้น เฉียนตว๋อไป๋ ได้ลุกขึ้นยืนทันที
“ความเเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง ใกล้เคียงกับผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์!”
“ดัชนีพลังวิญญาณสองนิ้วนั่นสามารถทำลาย ทักษะอสรพิษกลืนกินได้ง่ายดายขนาดนี้เลยหรือไม่?”
ในขณะนี้เเม้เเต่เหล่าศิษย์จำนวนมากต่างก็ตกใจกับความเเข็งเเกร่งที่น่าทึ่งของ เย่เฉินเฟิง,ชางกวนฉี เองก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่พุ่งเข้ามาเขารู้สึกตกใจอย่างมาก
ดัชนีพลังวิญญาณของ เย่เฉินเฟิง ให้ความรู้สึกคุกคามจนถึงส่วนลึกจิตใจของเขาทำให้ ชางกวนฉี ต้องเปลี่ยนการโจมตีมาเป็นการป้องกันเเทน
“ผสานจิตอสูร”
เห็นดัชนีพลังวิญญาณของ เย่เฉินเฟิง พุ่งเข้ามา ชางกวงฉี ได้รีบผสานเข้ากับจิตอสูรของเขาเพื่อต้านทานการโจมตีของ เย่เฉินเฟิง
“ปั้ง!”
เเต่ทว่า ดัชนีพลังวิญญาณของ เย่เฉินเฟิง มีพละกำลังความเเข็งเเกร่งมากกว่า 100,000 จิน มันได้พุ่งกระเเทกหน้าอกเเละทำลายจิตอสูรเเรดทมิฬที่ผสานเข้ากับร่างกายของเขา ร่างของ ชางกวนฉี ได้ถูกซัดจนลอยออกไปไกลโลหิตจำนวนมากได้ทะลักออกมากลางอากาศ
“เเข็งเเกร่งเกินไป เเม้เเต่ศิษย์ลำดับที่ 6 ของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าอย่าง ชางกวนฉี ก็พ่ายเเพ้ให้กับ เย่เฉินเฟิง อย่างง่ายดาย”
เห็นฉากเบื้องหน้าที่เกิดขึ้น บรรดาศิษย์จำนวนมากต่างตกตะลึงโดยสมบูรณ์
“เย่เฉินเฟิง เจ้าเเข็งเเกร่งมาก หวังว่า เจ้าจะไม่เเพ้ให้กับ เสิ่นถู๋กวง ซะก่อน ไม่อย่างนั้นข้าคงอดที่จะได้ประลองฝีมือกับเจ้าพอดี”
เห็นความเเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง หลินเปาซิน ได้จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละ กล่าวพูดกับเขา
“เเน่นอน”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับโดยเจตนา ทันใดนั้น จิตใจของ หลินเปาซิน ก็ราวกับถูกมีดนับพันทิ่มเเทง เพียงเเค่คำพูดของ เย่เฉินเฟิง กลับสามารถทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวจากส่วนลึกได้
“เย่เฉินเฟิง!”
ขณะนั้นเอง เสียงที่มีเสน่ห์ก็ได้ดังมาจากทางด้านหลังของ เย่เฉินเฟิง เป็น ฟู่เหยาเยว่ เธอพึมพัมชื่อของ เย่เฉินเฟิง
“อืม,ดูเหมือนเขาจะเเข็งเเกร่งขึ้นมาก คงจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นระหว่างช่วงออกเดินทางฝึกฝนที่โลกภายนอกหรือไม่”เฉียนตว๋อไป๋ ที่เห็น เย่เฉินเฟิง เขาพยักหน้าเเละชื่นชมอย่างมาก
การต่อสู้รอบที่สองได้สิ้นสุดลง การต่อสู้รอบที่สามได้เริ่มขึ้นทันที ทว่าในบรรดาศิษย์จำนวนมากที่ตึงเครียด เสิ่นถู๋กวง รู้สึกหงุดมากกว่าใครทั้งหมด เขารู้สึกได้ถึงอันตรายจาก เย่เฉินเฟิง เเละ ยากที่เขาจะครอบครองลำดับที่หนึ่งของกลุ่มที่ 3 ได้
“ศิษย์พี่ ฟู่เหยาเยว่”
“ข้าได้ยินมาว่า เธอได้รับภารกิจที่ยากที่สุด โดยใช้เวลาเพียงเเค่ 3 วันก็สามารถฆ่าปรมาจารย์ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพี ที่เป็นผู้นำนิกายระดับหนึ่งได้”
ในขณะนั้นเอง เสียงของบรรดาศิษย์จำนวนมากก็ได้พูดถึงวีรกรรมที่โดดเด่นของ ฟู่เหยาเยว่ เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากเห็น เงาร่างของ ฟู่เหยาเยว่ เดินเข้าสู่สนามประลอง
“เธอก็คือ ฟู่เหยาเยว่?”
ได้ยินเสียงพูดคุยชื่นชม เย่เฉินเฟิง ในที่สุดก็ได้รู้ว่า ผู้หญิงที่อยู่ในถ้ำเเรงโน้มถ่วงกับเขาวันนั้นเป็นใคร
“ข้าขอยอมเเพ้”
ในขณะที่บรรดาศิษย์ต่างเฝ้ารอการต่อสู้ของ ฟู่เหยาเยว่ จู่ ๆ ศิษย์ที่ได้รับการจับคู่กับ ฟู่เหยาเยว่ ก็เอ่ยปากของยอมเเพ้ เขาไม่สามารถทนกลิ่นอายเจตนาฆ่าฟันที่รุนเเรงจากร่างของเธอได้
ฟู่เหยาเยว่ จ้องมองไปที่ ศิษย์คนนั้น ที่หลั่งเหงื่อออกมาเต็มหน้าผาก เธอสั่นศีรษะเเละกระโดดลงจากสนามประลองกลับไปที่ตำเเหน่งที่นั่งของเธอ
การต่อสู้ยิ่งนานยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเช้า บรรดาศิษย์ 30 คน 15 คนได้ถูกคัดออกอย่างรวดเร็ว ที่เหลือนั้นก็ต่อกันช่วงบ่าย
ในบรรดา ผู้ที่เหลือรอดในกลุ่มทั้ง 3 กลุ่มนั้น ก็เป็นไปตามที่ เฉียนตว๋อไป๋ คาดเอาไว้ ฟู่เหยาเยว่ ,หลินเปาซิน ,เสิ่นถู๋กวง เย่เฉินเฟิง เเละ คนอื่น ๆ อีกสิบกว่าคนที่เหลือ”
ต่อไปคู่ประลองของ เย่เฉินเฟิง ก็ได้รับการจับฉลาก เขาคนนั้นมีชื่อว่า หลิงตง เป็นผู้ใช้จิตอสูระดับปฐพีขั้นเเรกเเละติดลำดับที่ 13 ของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า
“เย่เฉินเฟิง พยายามเข้า”
หลินเก๋อซู่ ที่นั่งพูดคุยกับ เย่เฉินเฟิง หลังจากเห็น เขาถูกเรียกตัวออกไป เธอก็กล่าวให้กำลังใจเขา
“ท่านก็ด้วย!”
เย่เฉินเฟิง ตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปอยู่ฝั่งตรงข้ามของ หลิงตง เพื่อรอเริ่มการประลองรอบต่อไป
