หลังจากออกจากโรงแรมแล้ว ทั้งสองเงียบไปตลอดทาง รถได้ขับเคลื่อนผ่านสะพานคว่าไห่อย่างเงียบๆ ไม่นานก็มาถึงริมทะเล
สายตาราบเรียบของซูย้าวมองไปที่คลื่นบนผิวทะเลที่อยู่ไกล คิดว่าเขาจะพาตัวเองมาริมทะเล แต่รถขับผ่านทางหลวงริมทะเลไป โดยไม่ได้หยุดลง แล้วขับไปข้างหน้าเรื่อยๆ
เธอหันหน้ากลับมาอย่างงุนงงเล็กน้อย มองดูชายหนุ่มอย่างสงสัย แล้วหลับตาลง ก็ได้เขาพูดว่า”ไม่นานก็จะถึงแล้ว”
เขายิ้มเล็กน้อย มือข้างหนึ่งหมุนพวงมาลัย เลี้ยวไปอีกทางค่อยๆขับไป
ซูย้าวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าถาม ไม่ว่าอย่างไรเธอเป็นคนตามเขามาหลิ่งโจวเอง ปล่อยให้เขาขับรถไป รถได้วิ่งผ่านวิลล่าริมทะเลไป สุดท้ายก็จอดลงหน้าประตูสนามกีฬาแห่งหนึ่ง โดยไม่รู้ตัว
ท้องฟ้าสีครามเมฆสีขาว ใบหญ้าเขียวขจี สนามกีฬาที่กว้างใหญ่สุดขอบฟ้า พูดให้ถูกต้องคือ ที่จริงมันเป็นสนามกอล์ฟ
ลี่เฉินซีลงรถก่อน อ้อมไปหนึ่งรอบ มาเปิดประตูรถให้เธอ เอื้อมมือจูงเธอลงรถ
ทันทีที่เข้าไปในสนามกีฬา ก็มีบริการวิ่งเข้ามา ก้มคำนับอย่างเกรงใจและมีมารยาทก่อน จากนั้นกล่าวอย่างขอโทษว่า”ต้องขอโทษ คุณผู้ชายคุณผู้หญิง วันนี้ที่ไม่ให้คนนอก…….”
แต่บริกรยังไม่ทันพูดจบ ดูเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงรีบถามขึ้นว่า”ไม่ทราบว่าท่านคือประธานลี่เฉินซีใช่ไหมครับ?”
ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย มือข้างหนึ่งจับมือซูย้าวไว้ จูงเธอเดินตรงไปข้างใน
บริกรติดตามดูแลอยู่ข้างหลังอย่างกระตือรือร้นและนอบน้อม แต่ลี่เฉินซีไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนชุดกีฬา เพียงแค่พาซูย้าว เดินผ่านลานกีฬา จนมาถึงสนามชั้นในสุด
บนผืนหญ้าที่เขียวขจี ร่างชายหนุ่มที่อยู่ไกลออกไปสะดุดสายตาเป็นพิเศษ ใส่ชุดกีฬาสีขาวอ่อน โน้มตัวสวิงไม้กอล์ฟในมือ ลูกบอลเล็กสีขาวที่ไม่ใหญ่ หลังจาก’ปัง’หนึ่งเสียง ก็ถูกตีออกไปไกล ชายหนุ่มเงยหน้ามองตามไป เลขากับบริกรที่ติดตามปรบมือเชียร์อยู่ห่างๆ “ลูกดี”
ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มบางๆ มองข้ามหลายคนที่อยู่ข้างๆไป สังเกตเห็นสองคนที่เดินมาแต่ไกล กำลังเดินมาทางนี้ ดวงตาลุ่มลึกมีประกายระยิบระยับ จากนั้นก็ยิ้ม “ประธานลี่ ไม่เจอกันนานเลย”
ลี่เฉินซีก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงข้างๆเขา และจับมือกับชายหนุ่ม”ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ ประธานเจียง”
ทั้งสองทักทายกันตามมารยาทไม่กี่คำ ทันใดนั้นเจียงจี้เซิงก็เหลือบไปสังเกตเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างกายลี่เฉินซี ดวงตาของเขาตกตะลึง จากนั้นใบหน้าหล่อเหลามีความสีสันสดใส กล่าวอุทานออกมาว่า”เป็นคุณซูจริงๆด้วย……..”
อย่างกับเขาคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเปลี่ยนคำพูดว่า”ตอนนี้ควรจะเปลี่ยนเรียกคุณนายลี่ใช่ไหม?”
ดวงตาคู่สวยของซูย้าวตึงแน่น มองไปทางชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัยเล็กน้อย รูปร่างสูงใหญ่ งดงามและบุคลิกโดดเด่น โครงหน้าที่สวยงาม เหลี่ยมเป็นเหลี่ยม กลิ่นอายรอบกายซ่อนเร้น ไม่ต้องคิดก็เดาออกว่า ฐานะคนคนนี้ จะต้องไม่ธรรมดา
แต่ฟังคำเมื่อกี้ของเขา’คุณซู’หรือว่ารู้จักเธอ?!
ลี่เฉินซี่ย่อมยื่นแขนไปรั้งซูย้าวเข้ามาในอ้อมกอดอยู่แล้ว ท่าทางสนิทสนมไม่ปิดบัง และน้ำเสียงแหบพร่า พูดเพียงว่า”ไม่ใช่คุณนายลี่ เธอชื่อ อานหว่านชิง”
เจียงจี้เซิงตะลึงไปทันที พูดซ้ำไปซ้ำมา”อานหว่านชิงหรือ ?”
พูดพลาง เขาก็เดินเข้าไป เอียงข้างกระซิบข้างหูลี่เฉินซี โดยใช้เสียงที่ทั้งสองได้ยินเท่านั้น”คุณซูยังมีพี่น้องฝาแฝดด้วยหรือ?”
ลี่เฉินซีหลุดหัวเราะออกมา แววตาคลุมเครือเล็กน้อยทันใดนั้นก็หายวับไป พูดเพียงว่า”ไม่ใช่พี่น้องฝาแฝด เธอก็คืออานหว่านชิง แฟนของผม”
เจียงจี้เซิงยังรู้สึกมึนงงเล็กน้อย กวาดสายตาไปมาอยู่บนตัวซูย้าว มั่นใจว่าตัวเองจำคนไม่ผิด ผู้หญิงตรงหน้า จะต้องเป็นซูย้าวอย่างไม่ต้องสงสัยอย่างแน่นอน แต่ว่าอานหว่านชิง……หมายความว่าอย่างไร?
ความสงสัยนี้ ก็หายไปในพริบตา ในที่สุดสายตาหม่นหมองของเขาก็หายไป แทนที่ด้วย การที่เขายื่นมือออกไปหาซูย้าวอย่างเร็ว “ดีใจที่ได้เจอคุณ คุณอาน”
ซูย้าวรู้สึกประหลาดใจกับความเปลี่ยนแปลงของเขา แต่สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยน และก็จับมือเขาอย่างให้ความร่วมมือ แล้วตอบรับว่า”ฉันก็เช่นกัน ประธานเจียง”
ลี่เฉินซีกอดเธอไว้ เพิ่มเติมเสียงเบาว่า “คนนี้ก็คือประธานของบริษัทเจียงหย่วนแห่งเมืองB เจียงจี้เซิง”
ซูย้าวพยักหน้าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย บริษัทเจียงหย่วน เธอเคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็รู้จักไม่มาก ถือว่าเป็นบริษัทใหญ่อันดับหนึ่งอันดับสองของประเทศ
และหลายปีมานี้ กิจการในประเทศเฟื่องฟูมาตลอด เผชิญกับการขอเข้าร่วมลงทุนจำนวนมหาศาลของบริษัทต่างประเทศ เจียงจี้เซิงก็ไม่สนใจ ปฏิเสธไปโดยตรง ในแง่การประพฤติปฏิบัติ เรียกได้ว่าเด็ดขาด การสังหารที่โหดเหี้ยม และก็เป็นตัวละครที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง
แต่ว่าซูย้าวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่ลี่เฉินซีมาหลิ่งโจว ครั้งนี้ ก็เพื่อพบกับเจียงจี้เซิงหรือ?
ความสงสัยในใจของเธอได้คำตอบอย่างรวดเร็ว หลังจากพวกเขานั่งลงแล้ว เจียงจี้เซิงเป็นคนกล่าวก่อน โดยกล่าวทันทีว่า”ประธานลี่ เกรงว่าครั้งนี้จะทำให้คุณต้องกลับไปมือเปล่าแล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่ดินอู๋ซินฉวูผืนนั้น เกรงว่าจบแล้ว”
ลี่เฉินซีก็ไม่รู้สึกแปลกใจ เพียงแค่เลิกคิ้วเล็กน้อย “อ๋อ ?”
เจียงจี้เซิงเอาไม้กอล์ฟในมือโยนให้เลขา ตัวเองก็ถอดถุงมือออก เอียงข้างนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ ดื่มน้ำเปล่าไปสองสามคำ แล้วพูดต่อว่า”ที่ดินอู๋ซินฉวูผืนนั้น อยู่ภายใต้ชื่อของตระกูลเจียง แต่ว่าไม่ได้อยู่ในการดูแลของผม”
เขาพูดพลาง ส่งสายตาให้เลขา เลขาเก็บไม้กอล์ฟไปด้วย ก็รีบเดินเข้ามา หยิบแท็บเล็ตออกมา หาข่าวออกมาหลายหน้า แล้วส่งให้ลี่เฉินซีดูอย่างนอบน้อม
ซูย้าวนั่งอยู่ข้างๆ สามารถมองเห็นได้ไม่มากก็น้อย เนื้อหาในข่าวตรงไปตรงมา ‘ คุณชายรองเจียงจี้ฉีของบริษัทเจียงหย่วนถูกกล่าวหาว่าทำร้ายแฟนสาว ได้ถูกฝ่ายหญิงฟ้องร้องแล้ว จะเปิดศาลพิจารณาไต่สวนในเร็วๆนี้……… ‘
เจียงจี้เซิงวางขวดน้ำลง เอียงข้างมาพูดต่อ”อสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อตระกูลเจียงเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ รวมทั้งผืนที่คุณอยากได้ ล้วนอยู่ภายใต้ชื่อของอาฉี แต่คุณก็เห็นแล้ว ตอนนี้เขา……”
ชายหนุ่มรู้สึกไม่สามารถพูดต่อไปได้อีก ไม่ว่าอย่างไรเป็นน้องชายแท้ๆของตัวเอง จู่ๆเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่เพียงแค่ตระกูลเจียง กับบริษัท แต่ทุกอย่างล้วนได้รับผลกระทบที่ร้ายแรงกับเหตุการณ์นี้
ซูย้าวกวาดตาดูวันที่ในข่าว เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน
ลี่เฉินซีคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้มีอารมณ์อะไรแสดงออกมา พูดเพียงว่า”ผมไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น แต่ว่า ต้องดูที่เรื่องราวความเป็นมาไม่อาจจะดูแค่ภาพลักษณ์ภายนอก อาจจะมีอะไรบางอย่างปกปิดไว้ !ไม่ว่าอย่างไรอาฉีก็เป็นน้องชายแท้ๆของคุณ ไม่ใช่หรือ?”
ทันใดนั้นเจียงจี้เซิงขมวดคิ้วขึ้นมา ความกลัดกลุ้มแผ่ซ่านไปบนใบหน้าที่หล่อเหลา”เขาเป็นน้องชายของผมก็จริง แต่ว่าทำให้เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ก็ทำได้เพียงให้เขาเป็นคนจัดการให้เรียบร้อยเอง !”
เขาหยุดไปครู่หนึ่ง เพราะว่ารู้จักกับลี่เฉินซี มาก็หลายปีแล้ว นอกจากความสัมพันธ์ด้านการงาน ทั้งสองยิ่งเป็นเหมือนเพื่อน ก็ไม่เห็นเป็นคนนอก เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า”คุณอู๋หยานคู่กรณีของเรื่องนี้ ไม่ใช่แฟนสาวของเขา แต่เป็นคู่หมั้นเก่าของเขา หลายเดือนก่อน ไม่รู้ว่าทั้งสองเกิดอะไรขึ้น ตระกูลอู๋เป็นฝ่ายเข้ามาถอนหมั้นไป และก็ยกเลิกความสัมพันธ์ของทั้งสองคน แต่ไม่คิดว่า จะเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นอีก……..”
ลี่เฉินซีชะงักไปครู่หนึ่ง “คุณอู๋หยานคนนี้ ก็แซ่อู๋หรือ ?”
อยู่ในวงการนี้ คนที่มีความสามารถและหวังจะมีการแต่งงานกับตระกูลเจียง และแซ่อู๋ด้วย ก็มีเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นแล้ว
เจียงจี้เซิงถอนหายใจ “ลูกสาวคนโตของประธานอู๋หงฟาแห่งกรุ๊ปอู๋ซื่อ อาของเขาคุณน่าจะรู้จัก อู๋หงยุ่น ทำธุรกิจอยู่ในเมืองAมาตลอด”
เพียงไม่กี่คำ ในใจซูย้าวก็อดคิดไม่ได้ หลานสาวของอู๋หงยุ่นหรือ ?
ทันใดนั้น ในใจของเธอมีลางสังหรณ์แปลกๆ แต่ว่า คิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นความบังเอิญ ไม่ว่าอย่างไร วงการนี้ จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ บอกว่าเล็กหรือ ที่จริงก็ไม่เล็กมาก
อีกอย่างคู่กรณีเป็นอู๋หยานกับเจียงจี้ฉี ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ และก็ไม่อาจจะคาดเดาเหลวไหลเพราะสิ่งนี้ ไม่ว่าอย่างไร เห็นเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
หัวข้อสนทนาของทั้งสองก็วกเข้ามาในเรื่องงาน เรื่องที่คุยกันส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ‘อู๋ซินฉวู’ ซูย้าวฟังไปรู้สึกเบื่อเล็กน้อย จึงลุกขึ้น กระซิบข้างหูลี่เฉินซี “พวกคุณคุยกัน ฉันออกไปเดินเล่นก่อน”