โดยไม่รู้ตัว
ซูย้าวถูกสิ่งของเข้ามาในสายตาโดยสมบูรณ์อย่างไม่โดนควบคุม โครงสร้างและรูปแบบที่ไม่ธรรมดานั้น ทำให้เธอขำ
คำว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เกิดขึ้นเพราะอย่างนี้เอง
แม้ว่า ซูย้าวจะหัวเราะ ก็สังเกตเห็นทันทีว่าเด็กน้อยบนเตียงที่อยู่ด้านข้างมุ่ยปากเล็ก แต่เธอก็ยังอดไม่ได้
“คุณแม่แย่มาก!” ซีซีจ้องมองไปที่เธออย่างไม่อดทน
“คุณแม่ก็เหมือนปะป๊า ไม่มีหัวศิลปะ สมองไม้!”
ซูย้าว “……”
เธออึ้งจนพูดไม่ออก หยุดความขำขันนั่นอย่างยากลำบาก แล้วถึงเดินไปนั่งลงข้างๆ เด็กน้อย นิ้วชี้ไปที่ชุดกระโปรงชุดนั้นที่แขวนอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า “นี่คือ ปะป๊าหนูทำเหรอ?”
ซีซีก้มศีรษะเล็กๆ อย่างช่วยไม่ได้ ท้ายที่สุดก็พยักหน้า
ซูย้าวยิ่งมีความอยากที่จะหัวเราะขึ้นมาอีก แต่เธอก็อดทนไว้ แล้วหันไปมองชุดกระโปรงนั้นอีกครั้ง
ถ้าดูจากภาพรวมแล้ว ก็ดูออกได้ไม่ยากว่าเป็นเสื้อตัวหนึ่ง หรือเป็นชุดกระโปรงของเด็กผู้หญิง เพียงแต่สีนี้ กับลวดลายบนนั้น แม้แต่ดีไซน์บนกระโปรง……
ก็แปลกประหลาดเกินไปแล้ว มีความเป็นศิลปะมากไปหรือเปล่า!
สีทั้งตัวกระโปรง เป็นแบบที่ดูเหมือนสีดำ แต่ก็ไม่ใช่สีดำ และไม่ใช่สีเทาหรือสีน้ำตาล หลักๆ แล้วแยกไม่ออกว่าเป็นสีอะไรกันแน่ ได้เพียงใช้คำว่า ‘สีเข้ม’ มาบรรยาย ประดับด้วยลายดอกไม้หลายๆดอก
นี่มันดอกอะไรกันแน่ ตัวซูย้าวเองดูไม่ออก ถึงยังไงก็เป็นดอกไม้ประเภทหนึ่ง แล้วยังมีขนาดต่างกัน กระโปรงด้านซ้ายมี5-6ดอก ด้านขวากลับมีแค่ดอกเดียว
ที่สำคัญคือ กระโปรงตัวนี้ ซ้ายขวาไม่สมมาตรกันอย่างสิ้นเชิง ด้านหนึ่งยาวมาก อีกด้านสั้นมาก แล้วยังมีเส้นด้ายยาว แล้วสีของเส้นด้าย ก็เป็นสีขาวจั้วะ!
ที่ทำให้ซูย้าวแปลกใจที่สุดคือ ผ้าพันคอไหมพรมสีชมพูที่ด้านบนของไม้แขวน และโครงสร้างโดยรวม ไม่เพียงแต่ไม่เข้าชุดกัน แต่มันไปคนละทิศละทางเลย!
ถึงยังไงสิ่งที่สัมผัสถึงความสวยงามไม่ได้ ล้วนแต่เรียกได้ว่าเป็นศิลปะ
ดังนั้น เธอครุ่นคิดอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ได้แต่พูดว่า “ดูแบบนี้แล้ว ปะป๊าหนูช่าง…..มีสกิวศิลปะมากเลย!”
ซีซีเลิกคิ้วมองไปที่เธอ “แต่น่าเกลียดมากเลยนะ! น่าเกลียดสุดๆ !”
ซูย้าวพยายามอย่างหนักที่จะไม่ขำ แต่ก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว
“วันนี้คุณครูให้นักเรียนทุกคนเอาชุดออกงานที่ทำเสร็จแล้วไปด้วย คุณครูจะ—-ตรวจสอบ หนูไม่สามารถไปโรงเรียนได้เลย! ถ้าให้พวกเพื่อนๆ เห็น จะต้องหัวเราะหนูแน่…..”
ซีซีก้มหน้าลงอย่างน้อยใจ มือน้อยๆ จับกระดุมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซูย้าวอดทนแล้วอดทนอีก พยายามให้ตัวเองไม่คิดถึงชุดออกงานชุดนี้ด้วยความยากเย็น จากนั้นก็หันตัวมองไปที่เด็กน้อย “บอกฉันได้ไหม ว่าทำไมถึงออกแบบมาเป็นแบบนี้?”
ซีซีเงยศีรษะเล็กๆ ขึ้น “หนูก็ไม่รู้!”
“เอ่อ…..” ซูย้าวกะพริบตา “งั้นซีซีหนูอยากได้ชุดออกงานแบบไหนจ้ะ?”
ได้ฟังดังนี้ ซีซีก็ตัวบินทันที โผล่เข้าสู่อ้อมแขนของซูย้าว มือเล็กๆ โอบรอบคอเธอไว้แน่น “คุณแม่จะทำให้หนูใหม่เหรอคะ?”
ซูย้าวอดไม่ได้ที่จะเช็ดเหงื่อ เธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะหน่อย!
“ขอร้องล่ะคุณแม่ ทำให้หนูใหม่สักชุดนะคะ! วันมะรืนก็เป็นเทศกาลศิลปะแล้ว หนูแสดงเป็นเจ้าหญิงน้อยด้วย ถ้าให้หนูใส่ชุดกระโปรงน่าเกลียดนี่ขึ้นเวที คุณครูกับเพื่อนๆ ก็จะหัวเราะเยาะหนู……”
ซีซีเองก็ไร้หนทางจริงๆ นึกถึงตอนลี่เจิ้งกับลี่หมิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งตอนที่เห็นกระโปรงตัวนี้ เธอก็แทบทรุด
ซูย้าวยังรู้สึกไม่ค่อยอยาก เธอไม่ค่อยเก่งออกแบบเสื้อผ้า แล้วยังเป็นกระโปรงของเด็กผู้หญิง มีความแตกต่างไปหน่อย ถ้าทำให้ซีซีไม่มีความสุข แบบนี้ไม่ใช่ว่าเธอหาเรื่องให้ตัวเองเหรอ?
ซีซีเห็นเธอไม่พูดจา จึงอ้อนวอนต่อ “คุณแม่ คุณแม่คนดีของหนู ขอร้องนะคะ ได้โปรดเถอะ!”
เด็กน้อยนั่งอยู่ในอ้อมแขนเธอ มือเล็กๆ จับแขนของเธอไม่หยุด เขย่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “คุณแม่ เห็นแก่ที่สองปีมานี้หนูช่วยคุณแม่อยู่ข้างกายคุณพ่อ จับตาดูเขาไม่ให้หาคุณน้าคนอื่น ขอร้องล่ะค่ะ ช่วยหน่อยเถอะนะ!”
ซูย้าวเลิกคิ้วในทันที “ซีซี หนูพูดอะไรน่ะ?”
เด็กคนนี้ รู้เยอะเกินไปหรือเปล่า!
ซีซีกลับทำท่าทีจริงจัง แล้วยังเอียงศีรษะไปจุ๊บแก้มเธอหนึ่งที “หนูจับตามองคุณพ่อมาตลอดเลยนะ! เขาเป็นเด็กดีมาก ข้างกายไม่มีผู้หญิงคนไหนเลย มีแค่ครูลู่ที่มีใจให้เขา แต่หนูกับพี่ใหญ่พี่รองไม่เห็นด้วยเหรอก!”
“คุณแม่วางใจ พวกเราจะป้องกันอย่างเข้มงวด จะปกป้องคุณพ่อแทนคุณแม่อย่างดีเลย!”
เด็กน้อยเพิ่มความมั่นใจเป็น2เท่า แล้วยังใช้มือเล็กๆ ที่ขาวนวลตบหน้าอกตนเองอย่างไม่หยุดหย่อน ท่าทางมั่นอกมั่นใจนั้น ทำให้ซูย้าวไร้คำจะพูดอีกครั้ง
เธอหันไปมองกระโปรงที่ทำให้คนหัวเราะได้ง่ายๆ ตัวนั้น แล้วมองไปที่ซีซีอีกครั้ง “เจ้าหญิงน้อย สรุปแล้วหนูอยากได้กระโปรงแบบไหนจ้ะ?”
“เรื่องนั้นเหรอ…..” ซีซีนิ่งเงียบใช้ความคิด เค้นสมองครุ่นคิด แล้วรีบพูด “หนูอยากได้แบบพิเศษ แบบที่ไม่เหมือนกับที่เพื่อนๆ คนอื่นใส่กัน”
ถ้างั้น ลี่เฉินซีก็ทำให้ความปรารถนาของลูกสาวเป็นจริงแล้วไม่ใช่เหรอ?
ชุดกระโปรงนี้พอใส่ไปแล้ว ทั้งพิเศษ ทั้งไม่เหมือนใคร
ซูย้าวอยากจะตอบเธอไปแบบนี้มาก แต่เด็กน้อยเศร้าสร้อยจริงๆ ท่าทางขมวดคิ้วแน่น ยิ่งทำให้เธอทนไม่ได้
ดีที่ตอนนี้เธอก็ไม่มีธุระอะไร แล้วก็ถือซะว่าขอบคุณลี่เฉินซีที่ช่วยแนะนำวิธีแก้ปัญหาให้เธอ ตอบแทนน้ำใจเขา ก็ไม่เลวนัก
ดังนั้นเธอจึงพิจารณาอย่างรอบคอบ แล้วถึงพยักหน้า “โอเค! น้าจะลองช่วยแก้ให้หนูดู”
“อย่าแก้นะ!” ซีซีรีบห้ามไว้ “ทำให้หนูใหม่เถอะ! ขอแค่ไม่ใช่ชุดน่าเกลียดนี่ จะเป็นแบบไหน หนูก็รับได้ทั้งนั้น…..”
เด็กน้อยน้อยใจจนถอยมาถึงจุดนี้แล้ว เห็นได้ว่าชุดออกงานชุดนี้ของลี่เฉินซี มันดูไม่ได้แค่ไหน!
ซูย้าว—-ตอบรับคำขอของเด็กน้อย แล้วให้แม่บ้านนำเครื่องมือและผ้าสำหรับตัดเย็บมาให้เธอ ในตอนที่เหล่าพี่เลี้ยงนำผ้ามาให้ เธอก็ตกตะลึง
พี่เลี้ยงสิบกว่าคน ทยอยนำผ้าหลากหลายชนิด จนเกือบจะเต็มพื้นห้องทำงานของเธอ
ผ้ามากมายขนาดนี้ ตัวเลือกมากมายขนาดนี้ แต่ลี่เฉินซีกลับทำชุดราตรีน่าเกลียดสุดขีดแบบนั้นออกมา เขาไม่มีใครแล้วจริงๆ
ซูย้าวส่ายหน้าพลางถอนหายใจ แน่นอน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ลี่เฉินซีเป็นผู้ชายที่มีความสามารถสูง หน้าตาหล่อเหลา เป็นที่น่าพอใจของผู้คน
เธอยืนส่งพี่เลี้ยงแล้วปิดประตูลง ขณะเดียวกันในใจก็มีความดูหมิ่นใครบางคน จากนั้นก็เข้าอินเตอร์เน็ตหาชุดกระโปรงเด็กหลากหลายสไตล์ ในสมองก็นึกภาพของซีซี จากนั้นจึงลงมือร่างแบบ
วาดภาพร่างไว้ก่อน แก้ไขคร่าวๆ อีกครั้ง แล้วร่างภาพใหม่อีก2-3ใบ หลังจากกำหนดภาพสำเร็จรูปแล้ว ก็เริ่มตัดเย็บผ้า
เธอเดิมทีนึกว่าตนเองไม่มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบเสื้อผ้าเลยแม้แต่น้อย และไม่เคยเรียนมาก่อน แต่เมื่อถึงตอนปฏิบัติจริง ก็ทำได้ราบรื่นจนเกินความคาดหมายของเธอ
ตัวซูย้าวเองก็เริ่มสงสัย หรือว่าแต่ก่อนนี้ตนจะเคยทำพวกนี้?
ความสงสัยคงอยู่เพียงไม่กี่วินาที ก็หายไปกับบรรยากาศที่วุ่นวาย เธอยุ่งอยู่ในห้องทำงานคนเดียว คิดไม่ถึงเลยว่า งานนี้ เธอจะทำจนถึงเที่ยงคืน
ในตอนที่ซูย้าวรู้สึกเหนื่อยล้า ถึงสังเกตว่าเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว
เธอลุกขึ้นยืดร่างกาย มองดูชุดออกงานที่ทำไปได้เกินครึ่งแล้ว สวมกระโปรงไว้แบบหุ่นไม้ด้วยความพึงพอใจ เพราะลืมกินข้าวเย็น ตอนนี้ท้องจึงร้องครวญคราง หิวแล้วจริงๆ
ซูย้าววางทุกอย่างในมือ เตรียมจะลงไปชั้นล่างหาของว่างยามดึก เมื่อลงบันไดเวียนมาจนจะถึงพื้น ก็ถูกดึงดูดสายตา โดยเงาร่างในห้องอาหารที่อยู่ไกลออกไป
เพราะเป็นกลางดึกแล้ว ไฟในคฤหาสน์จึงดับหมด มีเพียงโคมไฟติดผนังไม่กี่ดวง เปล่งแสงสลัว ภายในห้องอาหาร เงาร่างที่ชัดเจนของชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ ขาไขว่ห้าง มือคีบบุหรี่ ไม่ชัดไม่มัว มุมโค้งและบรรยากาศในตอนกลางคืน ทำให้ยากที่จะแยกแยะสีหน้าของเขา
ฝีเท้าของซูย้าวชะงักเล็กน้อย ลังเลเตรียมที่จะกลับขึ้นชั้นบน แต่ทันทีที่เธอหันตัว ด้านหลังก็มีเสียงต่ำนิ่งของชายหนุ่มดังสวนมา “หิวแล้ว?”
เธอสะดุ้งเล็กน้อย หันตัวกลับไปอีกครั้งช้าๆ หันไปพูดกับเขานิ่งๆ “ไม่เท่าไหร่ ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อน”
พูดจบ เธอก็คิดที่จะเผ่นอีก แต่น้ำเสียงที่สงบนิ่งของลี่เฉินซี ก็เปล่งขึ้นมาอีกครั้ง “เพราะอยากพักผ่อน ก็เลยรอเธออยู่”