เซ็นทรัลสแควร์มีคนจำนวนมาก เดินผ่านไปผ่านมา
บริเวณรอบๆมีคนขายดอกไม้สดและลูกโป่ง ซูย้าวอยู่ท่ามกลางผู้คน เขามองผู้คนไปรอบๆทั้งสี่ด้าน มองดูเด็กน้อยที่คุยเล่นกันอยู่บริเวณลานน้ำพุที่ตั้งเวลาไว้ คนในครอบครัวที่อยู่ข้างๆจับตามองอย่างไม่คลาดสายตา เมื่อเห็นว่าน้ำพุกำลังพุ่งขึ้นมาก็รีบอุ้มเด็กแล้วเดินจากไป ……
เธอหาเก้าอี้ว่างๆแล้วนั่งลง
ในเวลานี้อาตงเดินเข้ามาใกล้เธอ แล้วยื่นกาแฟร้อนที่เพิ่งซื้อเมื่อสักครู่นี้มอบให้กับเธอ ซูย้าวก้มหน้าดื่มอึกหนึ่ง จากนั้นจึงได้เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นบริเวณรอบๆเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกของผู้คน แววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
มีความรู้สึกคุ้นเคยราวกับว่าในความฝันตนเคยมาสถานที่แห่งนี้
อีกทั้ง เธอยังรู้สึกชื่นชอบบรรยากาศแบบนี้ การอยู่ท่ามกลางผู้คนที่วุ่นวายได้มองดูพฤติกรรมของผู้คน ยิ่งทำให้เธอค่อยๆรู้สึกประหลาดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ชีวิตคนธรรมดาๆ ที่แท้ควรจะเป็นแบบไหนกันนะ?
ไปโรงเรียนศึกษาหาความรู้ เรียนจบ ทำงาน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็แต่งงานมีลูกใช้ชีวิตอยู่กันจนแก่เฒ่าไปชั่วชีวิต
เรียบง่ายและธรรมดา เป็นธรรมชาติและเรียบง่าย
เรื่องที่ดูเหมือนง่ายแบบนี้ จะมีวันให้เธอได้สัมผัสไหม?สักวันหนึ่งเธอก็ต้องมีคนรัก
มีคนที่อยากจะแต่งงานด้วย มี……
“แม่!”
ขณะที่ซูย้าวกำลังครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง จู่ๆก็มีเสียงจากข้างกายของเธอดังขึ้น ยังไม่ทันได้สังเกต เด็กน้อยก็พูดมาประโยคหนึ่ง ทำให้เธอตกใจไม่น้อย
แรกเริ่มเธอนั้นรู้สึกงงงวย แต่หลังจากนั้นก็ได้สติ จึงหันไปมองเด็กผู้หญิงที่อยู่ด้านข้าง ใบหน้าขาวสะอาด ดวงตากลมโต สวยราวกับตุ๊กตาในตู้โชว์มีระดับ ผมยาวประบ่ามีด้านบนของศีรษะมีโบว์เล็กๆติดอยู่
“แม่คะ ในที่สุดแม่ก็กลับมาแล้ว!”ขณะที่ซีซีพูด ก็พุ่งเข้ามาหาซูย้าว มือน้อยๆของเด็กน้อยกอดเธอไว้แน่น
ซูย้าวตะลึงแล้วตะลึงอีก ร่างกายเกิดอาการช็อก แข็งทื่อจนขยับเขยื้อนไม่ได้
อาตงที่อยู่ไม่ไกลก็ได้สังเกตเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้านี้ จึงรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ขณะที่กำลังเข้ามาใกล้ ซูย้าวก็ส่งสายตาเป็นสัญญาณ จึงหยุดฝีเท้าลง จึงทำได้เพียงมองดูพวกเขาอยู่ห่างๆ
เมื่อซูย้าวได้สติ จึงค่อยๆดึงมือของเด็กน้อยออกอย่างค่อนข้างลำบากเล็กน้อย พลางถามเด็กน้อยด้วยความสงสัยว่า “หนูชื่ออะไรคะ?”
ซีซีมองไปที่เธอ จู่ๆดวงตาก็แดงก่ำ ขนตายาวขยับ น้ำตาก็ไหลพรากออกมา พลางพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า“แม่คะ!”
ซูย้าวตะลึงงันพลางขมวดคิ้วแน่น “ทำไมถึงเรียกฉันว่าแม่ล่ะคะ?สาวน้อย หนูหาแม่ไม่เจอใช่ไหมคะ?ให้คุณน้าช่วยติดต่อให้ไหมคะ?”
ซีซีกัดริมฝีปาก นัยน์ตาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา มือทั้งสองอย่างจับที่ชายเสื้ออย่างไร้เรี่ยวแรง แล้วค่อยๆทำจมูกฟุดฟิด “คุณก็คือแม่ของหนูไงคะ!แม่คะ ทำไมแม่ไม่รู้จักหนูแล้วคะ?”
ซูย้าวรู้สึกปวดหัว สายตามองไปยังเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้อยู่อย่างซับซ้อน และไม่รู้ว่าวิ่งมาจากที่ไหน หน้าตาน่ารักทีเดียว แต่ว่าจู่ๆก็เรียกเธอว่าแม่ นี่ก็ดูเหมือนจะ……
เธอสูดหายใจเข้าลึกอย่างจนปัญญา ค่อยๆพยุงศีรษะของเด็กน้อยขึ้นอย่างอดทน “สาวน้อย หนูหลงทางใช่ไหมคะ?หาครอบครัวไม่เจอใช่ไหม?ถ้าอย่างนั้นหนูบอกคุณน้าสิคะว่าหนูชื่ออะไร?เดี๋ยวคุณน้าจะช่วยตามหาครอบครัวของหนูค่ะ ดีไหม?”
ซีซียิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นเข้าไปใหญ่ นัยน์ตาเต็มไปด้วยน้ำตา แทบจะไม่สามารถพูดออกมาเป็นประโยคได้
ซูย้าวถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ถูก พยายามที่จะปลอบใจเด็กน้อย“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคุณน้าจะช่วยหนูตามหาครอบครัวนะคะ จะต้องตามหาพ่อกับแม่หนูจนเจอแน่ๆค่ะ ดีไหมคะ?”
แต่ว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ซีซีก็เกาะเธอไว้แน่ไม่ยอมปล่อย ยังคงสะอึกสะอื้นพลางพูดไม่หยุดว่า‘แม่’
เด็กน้อยคนนี้ร้องไห้หนักมาก ซูย้าวก็ไม่มีประสบการณ์ในการปลอบเด็ก ขณะที่กำลังเป็นกังวลอยู่อาตงก็เดินมาอยู่ข้างๆเธอ โน้มตัวลงแล้วกระซิบที่ข้างหูของเธอสองประโยค สีหน้าของเธอไม่นานก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
หลังจากนั้น ซูย้าวก็หันมามองซีซีอีกครั้งพลางขมวดคิ้ว“เด็กน้อย แม่ที่หนูพดถึงเมื่อสักครู่นี้ คงไม่ใช่ซูย้าวหรอกนะคะ?”
เธอรู้ว่าตนกับซูย้าวหน้าตาค่อนข้างเหมือนกัน เรื่องนี้ก่อนที่จะมาเมืองA อานเจียเย้นเคยบอกกับเธอแล้ว
และเมื่อเป็นเช่นนั้น ธุระที่ต้องจัดการในครั้งนี้ เธอจึงต้องเป็นคนจัดการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้ว่าจะมีการเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เตรียมไว้เป้าหมายก็คือลี่เฉินซี ไม่รวมถึงเด็กน้อย
เมื่อซีซีได้ยินคำว่า‘ซูย้าว’ก็งุนงงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นศีรษะน้อยๆของเขาก็พยักหน้าราวกับโขลกกระเทียม “อืม ก็คือซูย้าว”
“ดังนั้น หนูก็เป็นลูกสาวของลี่เฉินซีใช่ไหมคะ?”ซูย้าวถอนหายใจลงอย่างโล่งอก ขณะที่ลุกขึ้นก็อุ้มเด็กน้อย“ถ้าอย่างนั้น คุณน้าจะพาหนูไปอีกที่หนึ่ง แล้วจะช่วยติดต่อคุณพ่อให้ ดีไหมคะ?”
เซ็นทรัลสแควร์ที่นี่คนเยอะมาก เสียงดังวุ่นวาย ไม่ค่อยสะดวกในการจัดการกับปัญหา หากเด็กคนนี้หายไปอีกครั้ง ก็คงจะไม่ดีเป็นแน่
ซีซีรัดคอเธอแน่น ทั้งยังหอมแก้มเธออย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นก็พยักหน้า “แม่จะพาหนูไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นค่ะ หนูจะไปกับแม่!”
ซูย้าวถอนหายใจอีกครั้ง เด็กน้อยคนนี้ยังคงเรียกคำติดปากว่า‘แม่’ไม่หยุด ทำให้เธอยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ?
เธออุ้มเด็กน้อยขึ้นรถอาตงก็ออกรถทันที
ตลอดการเดินทาง ซีซีก็ค่อยๆเงียบลง ไม่ร้องไห้แล้ว เพียงแต่ว่ายังคงยื่นมือออกไปจับมือของซูย้าว ราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไป
ซูย้าวมองดูเด็กน้อยคนนี้ ก็ทำใจไม่ได้ที่จะขัดใจเธอ จึงปล่อยไปตามที่เธอต้องการ ซีซีเงยหน้ามองดูดวงตากลมโตที่กำลังกะพริบของเธอ “แม่คะ แม่กลับบ้านไปพร้อมกับหนูดีไหมคะ?หากพวกพี่ๆและคุณพ่อ เห็นคุณแม่จะต้องดีใจแน่ๆค่ะ!”
“เอ๋อ……”ซูย้าวขยับปากอย่างอึดอัดใจ แต่กลับไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เด็กน้อยเข้าใจได้อย่างไร ทำได้เพียงพยักหน้า“ได้ค่ะ เดี๋ยวอีกสักพักคุณน้าจะติดต่อพ่อของหนูนะคะ
ซีซีกลับส่ายศีรษะ“ไม่ ไม่ เดี๋ยวหนูติดต่อเองค่ะ!หนูอยากเซอร์ไพรส์คุณพ่อ!”
เซอร์ไพรส์?!
ในใจของซูย้าวยิ้มอย่างขมขื่น ลี่เฉินซีเคยเจอเธอตั้งนานแล้ว จะเซอร์ไพรส์ได้ยังไงกัน
แต่ซีซีเด็กน้อยคนนี้ ก็ทำให้คนเอ็นดูได้ไม่น้อย บนท้องถนนรถติดอยู่พอดี ซูย้าวก็ไม่มีอะไรทำ จึงอุ้มซีซีขึ้นมา พลางพูดคุยกับเธอว่า“เมื่อกี้หนูพูดว่า‘พวกพี่ๆ’หนูมีพี่ชายกี่คนเหรอคะ?”
“สองคนค่ะ”ซีซีใช้นิ้วจิ้มลิ้มของเธอทำท่าทาง“แต่ว่าหนูชอบพี่สองมากกว่า เขาดีกับหนูมากเลยค่ะ ไม่ว่าหนูจะโวยวายยังไง พี่เขาก็จะปลอบหนู”
ซูย้าวยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย“แล้วพี่ใหญ่ของหนูล่ะคะ?”
เมื่อพูดถึงลี่เจิ้ง ซีซีก็รีบเบะปากขึ้นทันที“พี่ใหญ่ชอบทำตัวดุ หนูไม่ชอบเขาค่ะ!”
สักพักหนึ่งเด็กน้อยก็พูดขึ้นอีกว่า“แต่ว่าแม่บุญธรรมเคยพูดว่า พี่ใหญ่เหมือนพ่อ พี่รองเหมือนแม่ ดังนั้นพี่ใหญ่ก็เลยมีท่าทีอารมณ์ไม่ดีอยู่บ่อยๆ”
ซูย้าวแอบถอนหายใจเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า“เด็กน้อยทั้งสามคนนี้ ดูเหมือนว่าซูย้าวคนนี้ก็มีความสามารถในการให้กำเนิดไม่น้อย”
ซีซีมองมาที่เธอด้วยสายตาประหลาดใจ“แม่คะ ทำไมแม่ถึงได้พูดถึงตัวเองอย่างนั้นล่ะคะ แบบนี้จะดีเหรอคะ?”
ซูย้าว“……”
เด็กน้อยมองเธอด้วยสีหน้าหมดคำพูด ทั้งยังยื่นมือออกลูบที่ศีรษะของเธอ“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ในใจของซีซี แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกเลยค่ะ!”
ซูย้าวส่ายศีรษะอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ พลางพูดขึ้นอีกว่า“หนูหลงทางมาได้ยังไงคะ?”
เมื่อถามเช่นนี้ ซีซีจึงได้นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่เธออยู่ที่เซ็นทรัลสแควร์กับพี่สอง โม่หว่านหว่านไปซื้อไอศกรีมให้กับพวกเธอ ส่วนตัวเธอนั้นเห็นซูย้าวแต่ไกลคิดว่าตัวเองดูผิดจึงตามมาดู จึงได้รู้ว่าเป็นซูย้าวจริงๆ จึงรีบวิ่งมาโดยไม่ได้เป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเอง ……
แต่สิ่งที่เธอไม่สามารถเข้าใจได้ก็คือ ทำไมซูย้าวถึงไม่รู้จักเธอแล้ว แม้แต่เรียกเธอว่าแม่เธอก็ปฏิเสธ เธอขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าซีซีก้มหน้าลงอย่างหดหู่ใจ ทั้งยังค่อยๆออกจากอ้อมกอดของเธอ
ซูย้าวดูออกว่าเด็กน้อยกำลังโมโห แม้ว่าในใจจะรู้สึกสับสน แต่ก็อดทนขยับตัวเข้าไปแล้วพูดขึ้นว่า“เด็กน้อย เป็นอะไรไปคะ?ตอนนี้จะติดต่อคุณพ่อหรือยังคะ?”
ซีซีหันไปมองเธอ ดวงตากลมโตเป็นประกายกะพริบตาไปมา “ทำไมถึงให้หนูเรียกว่าคุณน้าคะ?คุณเป็นแม่ของหนู ทำไมถึงไม่ให้หนูเรียกว่าแม่?”
เด็กน้อยจับมือของเธออีกครั้ง และเขย่าเบาๆ“คุณไม่รู้จักซีซีแล้วเหรอคะ?”