ซูย้าวเก็บแฟลชไดรฟ์ขึ้นมาให้เร็วที่สุดแล้วขึ้นรถเลย
เธอเปิดประตูรถออก จากนั้นปิดแรงๆ ปลดล็อก ใส่เกียร์ เหยียบคันเร่ง จนถึงรถสตาร์ทติดและขับขึ้นไปถนนเส้นหลักแล้ว ความคิดวุ่นวายของซูย้าวถึงค่อยๆ สงบลงมา ส่วนแขนที่จับพวงมาลัยอยู่ยังแอบสั่นไม่หยุดเลย
ถูกต้อง ชอลพุซพูดถูกมาก
เธอไม่มีหลักฐานที่โดยตรงจริงๆ ถึงไปแจ้งความก็สูญเปล่าอยู่ดี กลับยิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่นง่ายกว่าเดิม ขัดแข้งขัดขาตัวเองเปล่าๆ
สิ่งที่ซูย้าวอยากทำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือปกป้องเตียวเตียว เช่นนั้น เห็นได้ว่าสิ่งที่ตัวเองอยากทำเมื่อกี้เป็นทางเลือกที่ผิด
เธอขับรถอย่างสับสนมึนงงมาตลอดทาง รถที่ไร้จุดหมายขับไปเรื่อยๆ สุดท้ายหาถนนที่เงียบหน่อย จอดรถไว้ข้างทาง จากนั้นจึงเอาแฟลชไดรฟ์อันไม่คุ้นตานั้นขึ้นมา
ข้างในจะเป็นอะไรเหรอ
ชอลพุซเป็นคนที่Jockส่งมา จุดประสงค์เดียวก็คืออยากใช้วิธีที่ถูกกฎหมายพาเตียวเตียวไป เพื่อที่จะทำให้เรื่องนี้สำเร็จด้วยดี ดูออกได้ว่าพวกเขาเตรียมตัวมาอย่างดี ในมือยังมีของที่ซูย้าวอยากได้มากที่สุดด้วย
แล้ว แฟลชไดรฟ์นี้…
เธอมีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย และนำแฟลชไดรฟ์ไปเชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คด้วยความสงสัย หลังจากเปิดออกมา สิ่งนี้ทำให้เธอตกใจมากจริงๆ
คือสิ่งที่เธออยากได้ที่สุด
เอกสารที่มีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หนึ่งชุด และยังมีภาพหน้าจอของบันทึกภาพกล้องวงจรปิด
หลังจากดูจบทุกอย่าง ลมหายใจของซูย้าวหยุดลงแล้ว ดูเนื้อหาที่อยู่บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คอย่างตกตะลึงพรึงเพริด ตกใจจนเหมือนความคิดทุกอย่างกำลังสั่นอยู่ วิญญาณไม่อยู่ติดกับตัว
เนื้อหาในนั้นคือบันทึกทั้งหมดของเหตุการณ์รถชนทำให้อานโล๋เสียชีวิตเมื่อห้าปีก่อน ละเอียดกว่าที่เธอเคยสืบมาก่อนหน้าไม่รู้กี่เท่า
มีข้อมูลทั้งหมดของรถที่เกิดเหตุและเจ้าของรถ
หลี่ขุยกาง ชื่อที่คุ้นเคยมากสำหรับเธอ เจ้าของรถที่กระทำความผิด หลังจากคุณแม่เสียชีวิตเมื่อห้าปีก่อน ก็ถูกทางตำรวจแจ้งจับอยู่ตลอดเวลา แต่กลับไม่มีวี่แววอะไรเลย เหมือนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
เธอสืบข้อมูลของคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่หาคนนี้ไม่เจอเลยรวมทั้งเพื่อนญาติพี่น้องทั้งหมดของเขา
ส่วนในเอกสารชุดนี้ ไม่เพียงมีแค่ที่อยู่ชัดเจนของคนนี้ และยังมีภาพหน้าจอกล้องวงจรปิดที่เขากลับมาประเทศเข้าออกสนามบิน
กับภาพหน้าจอกล้องวงจรปิดอีกชุด และก็เป็นสิ่งที่ซูย้าวตกใจมากด้วย
นั่นก็คือภาพหน้าจอในปั๊มน้ำมันเมื่อห้าปีก่อน หลี่ขุยกางยืนอยู่ข้างรถโรลส์ รอยซ์คันหนึ่ง สนทนากับคนที่อยู่ในรถอย่างไร้ศักดิ์ศรี
รถยนต์แบรนด์รถโรลส์ รอยซ์ เลขที่ป้ายรถดูคุ้นเคยมาก
ส่วนคนที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังคนขับ ถ้าดูจากภาพหน้าจอกล้องวงจรปิดที่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง และดูเหมือนมีอายุแล้ว
ถึงแม้มีแค่หน้าข้างๆ และยังไม่ค่อยขัดเท่าไหร่ด้วย แต่ซูย้าวกลับสามารถดูแค่ครั้งเดียวก็ดูออกได้ว่าเป็นเจี่ยงเวินอี๋
ดูวันที่จากบนกล้องวงจรปิด เป็นหนึ่งวันถัดมาของวันที่คุณแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อห้าปีที่แล้ว เจี่ยงเวินอี๋เหมือนยื่นอะไรสักอย่างให้หลี่ขุยกางผ่านกระจกรถ
ข้อมูลจบลงถึงแค่นี้ แต่ดูออกว่าสิ่งที่อยากจะแสดงและอยากจะบอกชัดแจ้งมากแล้ว
เหตุการณ์นี้เหมือนมีความเกี่ยวข้องกับเจี่ยงเวินอี๋ทั้งเรื่องเลย
หลังจากที่เกิดเรื่องแล้ว รวมถึงปัจจุบัน หานฉ่ายหลิงถูกคิดว่าเป็นผู้ก่อเหตุมาตลอด ลี่เฉินซีก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับ…ซูย้าวที่สืบเรื่องนี้
ดูจากตอนนี้แล้ว คนเดียวที่สามารถทำให้ลี่เฉินซีหวั่นไหว ทำให้เขายอมเสียสละทุกอย่างก็ต้องปกป้องไว้ คงมีแค่เจี่ยงเวินอี๋คนเดียวแล้วแหละ
เหมือนนิทานที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนแตกสลายไปหมด นำชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ มารวมกันเรื่อยๆ ส่วนเนื้อหาของแฟลชไดรฟ์นี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุด
ซูย้าวนั่งอยู่บนรถคนเดียว นั่งนานมากๆ แล้ว นานจนแสงเงินแสงทองบนท้องฟ้ายามอาทิตย์ตกย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีแดงหมดแล้ว พระอาทิตย์ตก เธอยังคงจ้องมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คอย่างมึนงงอยู่ เหม่อลอยไม่หยุด
เสียงริงโทนของมือถืออยู่ๆ ก็ดังขึ้นมาในพื้นที่แคบๆ ของรถ เสียงริงโทนที่มาอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ความคิดของเธอสับสนวุ่นวายมาก
ซูย้าวพยายามกดความคิดที่รวมกันในหัวลงไป หายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจึงรับสายขึ้นมา
เพิ่งได้รับสายขึ้นมา เสียงใจร้อนของพ่อบ้านทางนั้นก็ดังขึ้นมา “คุณซู ไม่ทราบว่าคุณได้ไปรับคุณหนูน้อยกับคุณหนูไหม”
ทันใดนั้นซูย้าวตกใจมาก “อะไรนะ”
เธอไม่ได้ไปโรงเรียนอนุบาลเลย แล้วจะรับเด็กสองคนไปได้ยังไง
วินาทีต่อมา สีหน้าของซูย้าวตกใจมาก นึกถึงชอลพุซโดยสัญชาตญาณเลย วุ่นวายจนไม่ทันได้พูดอะไร พ่อบ้านทางนั้นก็บอกว่า “แล้วใครเป็นคนรับคุณหนูน้อยกับคุณหนูไปเหรอ ตอนที่ผมมาถึง เหล่าคุณครูล้วนบอกว่าเมื่อกี้คุณเพิ่งเคยมา…”
อยู่ๆ ซูย้าวก็ตกใจมาก ไม่ทันไปคิดอะไรอย่างอื่น ฝากคำพูดไว้ให้พ่อบ้าน จากนั้นก็วางสายลง สตาร์ทรถใหม่ ขับไปทางโรงเรียนอนุบาล
ความจริงที่คุณแม่ถูกทำร้ายสำคัญมาก แต่ ณ ตอนนี้ เรื่องของลูกๆ ยิ่งสำคัญกว่า!
ถึงแม้เอกสารข้อมูลที่ชอลพุซให้เธออาจจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะจงใจเอามาหลอกลวงเพื่อได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ!
ก่อนที่จะมีหลักฐานที่แน่ชัดถูกต้อง ซูย้าวจะไม่เชื่อใจใครอีกเลย!
เธอซิ่งรถไปถึงโรงเรียนอนุบาลตลอดทาง พอไปถึงก็เห็นรถโรลส์ รอยซ์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทางตั้งแต่ยังอยู่ไกล รอบๆ ทางเข้าโรงเรียนอนุบาลมีคณบดีกับครูหลายคนและพ่อบ้านยืนอยู่ตรงนั้น ล้อมรอบผู้ชายตัวสูงใหญ่คนหนึ่งด้วยสีหน้าวิตกกังวล เหมือนกำลังพูดอะไรสักอย่างอยู่
ซูย้าวจอดรถไว้ข้างทางให้รวดเร็วที่สุด ลงรถเดินไปอย่างเร่งรีบ
เพิ่งเดินได้ไม่กี่ก้าว ในฝูงคนก็มีเงาตัวเล็กๆ คนหนึ่งวิ่งมาหาเธอให้เร็วที่สุด วิ่งไปด้วยร้องไปด้วย “คุณน้า…”
ซูย้าวตะลึงเล็กน้อย พอก้มหน้าดู เตียงเตียวเดินเข้ามาใกล้เธอ พุ่งเข้ามากอดขาของเธอ ปล่อยโฮร้องไห้ออกมา
“คุณน้า หนูทำน้องสาวหายแล้ว!”
ประโยคเดียว สั่นสะเทือนจนแก้วหูของซูย้าวเจ็บ
เธออึ้งอย่างกะทันหัน โน้มตัวลงไปต่อหน้าลูก เสียงขาดๆ หายๆ ไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ “เตียวเตียว หนูพูดว่าอะไรนะ ซีซีเธอ…เธอเป็นอะไรแล้ว”
“ซีซี…” เตียวเตียวร้องไห้จนเหนื่อยหอบ พยายามสูบจมูกไว้ คำพูดเบลอๆ ไม่ชัดเจน
สิ่งที่มาแทนคือไม่ให้เด็กพูดต่อไป ลี่เฉินซีก้าวขึ้นไปข้างหน้า ก้มตัวลงไปอุ้มเตียวเตียวที่ร้องไห้จนเป็นเจ้าน้ำตาน้อย จากนั้นพูดว่า “พ่อบ้านโทรหาผม ตอนที่ผมมาก็ได้เจอเตียวเตียวตรงข้างทางที่อยู่ไม่ไกล”
“เขากับซีซีถูกคนพาไปด้วยกัน แต่อีกฝ่ายทิ้งเตียวเตียวลงตรงทางโค้งแล้ว พาไปแค่ซีซีคนเดียว”
พูดจบ เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้า เป็นอย่างที่เขาคิดเลยจริงๆ สีหน้าของซูย้าวไม่มีสีเลือดเลย ตัวอยู่ไม่นิ่งจนหมุนตัวล้มลงไปข้างๆ ยังดีที่แขนยาวของลี่เฉินซีโอบเอวของเธอทัน กอดคนเข้ามาในอ้อมแขน
อีกฝั่งเขาก้มตัววางเตียวเตียวลงมา ส่งให้ครูและพ่อบ้านช่วยดูแล จากนั้นถึงหันข้างกอดซูย้าวไว้แน่นๆ แขนที่ปลอบโยนตบไหล่ของเธอเบาๆ “ไม่เป็นไรนะ ผมให้คนไปตามหาและแจ้งความแล้วด้วย ซีซีน่าจะไม่เป็นอะไร คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
บอกให้อย่าใจร้อน แต่เป็นไปได้เหรอที่จะไม่ใจร้อน
นั่นคือลูกสาวของเธอนะ!
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซีซีถูกคนลักพาตัวไปแล้ว ครั้งก่อนเกิดขึ้นที่ต่างประเทศ หลังจากครั้งนั้นมา ซีซีไม่พูดไม่จามาตั้งหลายปี ถ้าครั้งนี้…
ซูย้าวไม่กล้าคิดต่อแล้ว ในหัววุ่นวายไม่หยุด แต่ละชั้นที่ปรากฏออกมามีแต่สัญญาณความถี่ที่น่ากลัวอันตราย เธอไม่สามารถใจเย็นต่อแล้ว “พวกเขาพาไปแค่ซีซีคนเดียวเหรอ”
เธอไม่จำเป็นต้องเดาเลย ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นชอลพุซแน่นอน
ซูย้าวยกมือขึ้นมาดูเวลาบนนาฬิกาอีกครั้ง ห้าโมงเย็นกว่าๆ แล้ว เลยเวลาที่ชอลพุซให้เธอไปพิจารณาแล้ว!
เพราะว่ารอคำตอบของเธอไม่ได้สักที อีกฝ่ายถึงจงใจมาลักพาตัวซีซีไปเหรอ
แล้วทำไมไม่พาเตียวเตียวไปเลย
ในหัวเธอมีคำถามมากมาย ความคิดก็วุ่นวายมากเช่นกัน สงบลงทันทีไม่ได้เลย คิดไปคิดมา ก็ยิ่งยุ่งยากกว่าเดิมแล้ว “ซีซีขี้ขลาดตั้งแต่เด็ก พวกเขา…”
ซูย้าวพูดต่อไปไม่ได้แล้ว รู้สึกทรมานทุกวิทุกนาที ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าลูกสาวอยู่กับคนแปลกหน้าจะเป็นสถานการณ์ยังไง!
ลี่เฉินซีดูอารมณ์วุ่นวายสับสนเต็มหน้าที่เธอแสดงออกมา ใบหน้าเย็นชาขมวดคิ้วขึ้นมา กอดเธอไว้ปลอบใจเบาๆ ว่า “คุณอย่าใจร้อน คนพวกนี้ต้องเตรียมตัวก่อนที่จะมาแน่นอน ซูย้าว คุณใจเย็นๆ คุยกับผมก่อน”