เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 301 คุณแคร์เธอมากเลยนะ

บทที่ 301 คุณแคร์เธอมากเลยนะ

“อ่าซ์ เบาๆหน่อยสิคะคุณ!”

“อ๊ะอ๊าาาซ์…..”

หญิงสาวร้องเสียงหวานอย่างเย้ายวนไม่หยุดหย่อน เสียงครางกระเส่าดังระงมไปทั่วห้อง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น หยาดเหงื่อได้ไหลลงตามขมับอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เห็นถึงใบหน้าอันเซ็กซี่ที่ชวนให้หลงใหล

ซูหยวนมองชายหนุ่มที่ทาบทับอยู่บนเรือนร่างของตัวเอง ด้วยรอยยิ้มที่หวานหยาดเยิ้ม เธอลูบไล้เบาๆตรงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นมัดๆของชายหนุ่ม ผู้ชายที่เธอปรารถนาต้องเป็นแบบนี้

แม้ว่าเรื่องราวในตอนนั้น จะลิขิตให้เธอกับลี่เฉินซีอาจไม่มีวาสนาต่อกันอีก แต่ยังโชคดีที่สวรรค์ไม่ทอดทิ้งเธอ ยังเมตตาและเห็นใจเธอ ให้เธอพบกับเจี่ยงหลินขณะที่อยู่ต่างบ้านต่างเมือง

ชายหนุ่มคนนี้ ไม่ว่าจะด้านไหนๆก็ไม่แพ้ให้กับลี่เฉินซี สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือ การพิชิตหัวใจของชายหนุ่มคนนี้ เพื่อให้เขาขอเธอแต่งงาน ให้เธอได้กลายเป็นคุณหญิงเจี่ยง จากนั้นค่อยหาวิธีช่วยมารดาให้ออกมาจากเรือนจำ จะได้ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงอีก

ความคิดกำลังโลดแล่น แต่กลับต้านการกระทำที่ป่าเถื่อนของชายหนุ่มไม่ไหว เธอจึงร้องดังครางเสียงแหลมขึ้นเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหลก็ยิ่งทำให้บ้าคลั่ง

แต่ใจเจ้ากรรม ดันมีเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนนี้

เป็นโทรศัพท์ของเธอ

ซูหยวนชะงัก เป็นใครกันนะที่โทรมาหาเธอในเวลานี้

เจี่ยงหลินกลับไม่ได้สนใจ ยังคงปฏิบัติภารกิจของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และดื่มด่ำอยู่กับความสุขที่ยากจะสลัดทิ้งไปได้

โทรศัพท์ดังอยู่สักพัก แล้วก็หยุดลง จากนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เสียงดังช่างกวนใจจริงๆ ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นถึงความลนลานของซูหยวน เขาจึงลุกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วไปคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงโยนให้เธอ จากนั้นก็เอนตัวลงปฏิบัติภารกิจเมื่อสักครู่ต่อย่างดุเดือด

ซูหยวนมองหมายเลขบนหน้าจอที่ไม่ได้บันทึกชื่อ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วปัดหน้าจอรับสายขึ้น

“ซูหยวน เธอจ้างคนอะไรมา ไหนเธอบอกว่าจะจัดการแค่ซูย้าวคนเดียวไง แต่ทำไมถึงพ่วงเฉินซีไปด้วย”

หานฉ่ายหลิงกังวลจนลนลาน น้ำเสียงจึงดุดัน พูดอย่างรวดเร็วกระแทกผ่านลำโพงดังลอยออกมา

เพราะว่าเจี่ยงหลินอยู่ข้างกายเธอ ร่างทั้งสองยังแทบจะแนบชิดติดกัน คำพูดที่ดังลอยจากโทรศัพท์ จึงตกกระทบเข้าใบหูของเขาอย่างชัดเจน

ซูหยวนจึงรีบเอามือปิดโทรศัพท์ จากนั้นลดระดับเสียงลง แล้วถึงพูดขึ้น “เธอพูดพล่ามอะไรกัน ทำไมฉันฟังไม่รู้เรื่อง หานฉ่ายหลิง เธออย่ามาหาเรื่องนะ!”

เมื่อพูดจบ ก็วางสายโทรศัพท์ลง

เธอมองเขาด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก จึงรีบอธิบายขึ้น “หานฉ่ายหลิงคนนี้ไม่รู้เป็นอะไรไป จู่ๆก็โทรมาหา! หนำซ้ำยังพูดจาไม่รู้เรื่อง…..”

อธิบายยังไม่ทันจบ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนที่โทรมาคือหานฉ่ายหลิง

ซูย้าวจึงรีบปิดเสียงลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ปิดเครื่องทันที

แต่ตอนนี้ดูเหมือนเจี่ยงหลินก็ไม่มีอารมณ์อีกต่อไป ร่างกายที่ยังไม่ถึงจุดสุขสม ได้ลุกขึ้นแล้วยืนอยู่ข้างเตียง ค่อยๆสวมใส่เสื้อผ้าทีละชิ้นๆ ทำการติดกระดุมด้วยใบหน้าที่เย็นชา

บรรยากาศเงียบสนิทจนน่ากลัว เงียบเป็นเป่าสาก

กลัวที่สุดก็คือความเงียบที่เกิดขึ้นฉับพลัน ซูหยวนจึงห่อตัวอยู่ในผ้าห่ม แล้วกระเถิบตัวไปที่ข้างเตียง เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไร้เดียงสา “หลิน คุณเป็นอะไรไปคะ”

เมื่อไม่ได้คำตอบจากชายหนุ่ม ซูหยวนจึงลนลาน ยกมือขึ้นเพื่อจะคว้าแขนของชายหนุ่ม แต่กลับถูกชายหนุ่มสลัดทิ้งอย่างไม่ไยดี

เจี่ยงหลินหันหน้ามา ใบหน้านั้นเย็นชาและหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “เมื่อตอนกลางวัน ได้ยินพนักงานทางรีสอร์ตบอกว่าซูย้าวหายตัวไป ไม่ได้อยู่ในห้อง ที่ชายหาดก็ไม่มี ตอนนั้นผมคิดว่าเธอคงจะออกไปข้างนอก แต่ตอนนี้ดูแล้ว ไม่ได้เป็นแบบนั้น!”

“……”

ซูหยวนมองเขาด้วยความตกใจ ฉับพลันก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี

เจี่ยงหลินที่รูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ข้างเตียง และใช้มือข้างหนึ่งบีบเข้าที่คางของเธออย่างแรง ซูหยวนรู้สึกเจ็บปวดจึงขมวดคิ้วขึ้น “หลิน ทำไมคุณต้องอารมณ์เสียขนาดนี้”

“อารมณ์เสียเหรอ” เจี่ยงหลินพูดย้ำด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ แล้วก็นึกขำ ริมฝีปากบางขยับยิ้มเยาะขึ้น แฝงด้วยความเหยียดหยาม เย็นชา รวมไปถึงสายตาที่ลุ่มลึกที่ทำให้เธอยากจะคาดเดาได้

“นี่คุณกล้าลงมือกับซูย้าวลับหลังผมอย่างนั้นเหรอ ซูหยวนคุณเก่งนักนะ” เจี่ยงหลินรวบรวมพลังขึ้นแล้วสะบัดหญิงสาวทิ้งลงไปข้างๆ

ร่างบอบบางของซูหยวนจะอดทนต่อแรงมหาศาลเช่นนี้ได้อย่างไร เธอถูกเขาสะบัดทิ้งจนศีรษะไปกระแทกเข้ากับหัวเตียง แล้วก็โตขึ้นในทันใด เธอเจ็บจนขมวดคิ้วขึ้น “

“ใครอนุญาตให้คุณทำเช่นนั้น!”

เสียงทุ้มต่ำเย็นชาของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังได้ถามขึ้น สายตาดุดัน ที่แม้นไม่พูดก็รู้สึกได้

ตอนแรกซูหยวนยังไม่เข้าใจ แต่ว่าตอนนี้ เหมือนเธอจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว

จึงหันหน้ามา แล้วกุมหน้าผากที่ถูกกระแทกไว้ จากนั้นถามกลับด้วยสีหน้าที่เสียใจ “หลิน คุณไม่ได้เป็นแฟนฉันหรอกเหรอ ก่อนหน้านั้นฉันเคยบอกกับคุณแล้วว่าฉันมีความแค้นกับซูย้าว! ฉันแทบอยากจะฆ่าเธอให้ตายเสียตอนนี้ด้วยซ้ำ! คุณก็เคยรับปากกับฉัน ว่าจะให้เธอได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมาน! แต่แล้วทำไม เมื่อคุณเจอเธอ ทุกอย่างถึงได้เปลี่ยนไป…..”

จู่ๆซูหยวนรู้สึกขำ ทั้งๆที่เขาเป็นชายหนุ่มที่ตัวเองคบหามาเป็นแฟนกว่าครึ่งปี ทั้งๆที่เขาเคยพูดรับปากว่าจะช่วยเหลือเธอ แต่หลังจากที่เขาเจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

เป็นเพราะคำพูดของผู้ชายเชื่อถือไม่ได้ หรือว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นมีชั้นเชิงเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเกินไป

ซูหยวนต้องการอยากทำความเข้าใจ แต่ที่ยิ่งต้องการก็คือการทำให้ซูย้าวตายๆไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ดวงตาของเธอก็ผุดความโกรธแค้นที่ทนมานานหลายปี ดวงตาแดงก่ำด้วยความโมโห ราวกับนางมารร้ายที่บ้าคลั่ง นั่งคร่ำครวญอยู่ตรงนั้น “ฉันอยากจะฆ่าเธอให้ตาย! หลิน คุณควรจะอยู่ข้างฉันไม่ใช่หรือ คนที่คุณควรจะแคร์คือฉันไม่ใช่หรือ ทำไมต้องไปใส่ใจผู้หญิงคนนั้นด้วย ทำไมเมื่อได้ยินว่าเธอเกิดเรื่อง สีหน้าท่าทางถึงได้เปลี่ยนไปทันที”

“นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ!”

เจี่ยงหลินพูดทิ้งประโยค ขี้เกียจจะไปสิ้นเปลืองคำพูดกับเธออีก จึงได้หยิบเสื้อโค้ตและกุญแจรถที่อยู่บนโซฟาแล้วเดินตรงออกไปจากประตู

“หลิน……”

เสียงร้องเรียกอ้อนวอนของหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง ไม่สามารถรั้งการจากไปของเจี่ยงหลินได้ ซูหยวนคลานอยู่ข้างผนังกระจกในห้องบนตึก มองการจากไปของเงารถชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่าง หัวใจทั้งดวงนั้นราวกับแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ

“ซูย้าว ถ้าชาตินี้ไม่สามารถฆ่าเธอให้ตายได้ ฉันจะไม่ขอเป็นคนอีก!” ซูหยวนกัดฟันอย่างรุนแรง

เจี่ยงหลินขับรถมุ่งหน้าไปที่รีสอร์ตที่อยู่ชายหาด ขณะเดียวกันได้ติดต่อเลขาฯและผู้ช่วย ให้พวกเขารีบทำการตรวจสอบ ออกค้นหาตามสถานที่ต่างๆให้ทั่ว

“และไปตรวจสอบว่าช่วงนี้ซูหยวนได้ติดต่อกับใครบ้าง แล้วแอบไปพบกับใครมาบ้าง ถ้าเริ่มตรวจสอบจากตัวเธอ จะต้องเจอเบาะแสบางอย่างอย่างแน่นอน!” เขากำชับผ่านทางโทรศัพท์

“ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!” เลขาฯกล่าว

เมื่อวางสายลง ดวงตาคู่สีดำที่เกรี้ยวกราดของเจี่ยงหลินจ้องมองออกไปยังนอกหน้าต่างรถที่มืดมิดสนิท เขาเหยียบสุดคันเร่ง ความเร็วรถที่เร็วมาก

ในหัวสมองผุดใบหน้าซูหยวนที่ตั้งคำถามกับตัวเองทั้งน้ำตา นั่นสิ ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน มีแฟนอยู่แล้วแท้ๆ ทำไมยังต้องไปสนใจความเป็นความตายของผู้หญิงคนอื่นอีก

บ้าชะมัด!

ไม่รู้ว่าทำไม นับตั้งแต่ที่เจอกับซูย้าว ใบหน้าที่งดงาม รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ แม้แต่กิริยาท่าทางการพูดการจา ทุกความเคลื่อนไหวเหมือนกับว่ามีพลังวิเศษ แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเขาอย่างไม่รู้ตัว ยากที่จะสลัดทิ้งไปได้

เจี่ยงหลินพยายามหยุดความคิดในหัวสมองด้วยความหงุดหงิด หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหมายเลขหนึ่ง กำชับอย่างรีบร้อน “ส่งคนไปเฝ้าซูหยวนไว้ให้ดี ไม่มีคำสั่งของผม อย่าให้เธอออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว!”

สักพัก ก็กำชับขึ้นอีกว่า “ตัดสัญญาณบ้านทิ้งให้หมด อย่าให้เธอติดต่อคนภายนอกได้แม้แต่สักคนเดียว!”

“ครับ!” ผู้ช่วยรับคำสั่ง

ขณะที่จะวางโทรศัพท์นั้นเจี่ยงหลินเหมือนกับฉุกคิดอะไรขึ้นได้ จึงพูดต่ออีกว่า “เพียงแค่ให้เธอไม่ติดกับคนภายนอกและไม่ให้ออกจากบ้านเท่านั้น จับตาเฝ้าไว้ให้ดี อย่าให้เธอคิดทำเรื่องโง่ๆ!”

“ครับ ผมจะส่งคนไปเฝ้าอย่างดีครับ!”

เจี่ยงหลินวางสายโทรศัพท์ลง แล้วก็ทอดถอนใจ

ซูหยวนคนนี้ เป็นผู้หญิงที่งี่เง่าจริงๆ ต่อให้มีความโกรธแค้นมากมายแค่ไหน พวกเขาก็เป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือ เติบโตมาด้วยกันไม่ใช่หรือ ทำไมจึงได้ใจร้าย ลงมือโหดเหี้ยมเช่นนี้

ช่างเป็นผู้หญิงที่จิตใจน่ากลัวจริงๆ…..

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset