บทที่ 227 ครั้งนี้พอใจแล้วยัง
“ประธานลี่ พวกเรายังหาคุณหานไม่เจอ…”
หวางอี้พาคนควานหาทุกที่ แต่ยังคงไม่มีข่าวคราว จึงทำได้แค่กลับมารายงาน
ลี่เฉินซีมองเขา “งั้นหาเจอมั้ยถูกจับตัวที่ไหน”
หวางอี้พยักหน้า ถือเอกสาร ข้างในเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด “พวกเราไปตามหาที่คุณหานน่าจะไปแล้ว ต่างบอกว่าไม่เห็นคุณหาน ในที่สุด มีคนเห็นคุณหานที่โรงแรมอิงกือหลานเอ๋อ นี่เป็นภาพกล้องที่ลานจอดรถใต้ดิน กล้องสี่ตัวเสียไปสาม กล้องหนึ่งซ่อนในที่มืด ถ่ายเห็นแค่ด้านหลังกับด้านข้าง แต่ก็ดูออกแน่นอน คุณหานถูกผู้ชายสามคนจับไปครับ”
หยุดนิดหนึ่ง หวางอี้พูดต่อ “จากจุดที่จับตัวไป ถึงกล้องที่เสียหายก็ดูออก พวกเขาเตรียมการมาก่อน อาจตามแกะรอย คุณหานมานานแล้ว รอจนได้จังหวะลงมือ”
พ่อหานที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน ยิ่งเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว รีบเดินเข้ามาถาม “ว่ายังไง มันเป็นใคร ถึงต้องทำจงใจหาเรื่องตระกูลหานให้ได้!”
ลี่เฉินซีหรี่ตา เงยหน้าสั่งหวางอี้ “พยายามสุดความสามารถ ต้องหาเธอให้เจอ! และต้องรับประกันฉ่ายหลิงปลอดภัยกลับมา!”
หลังจากสั่งเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมาปลอบใจพ่อหานสั้นๆ ค่อยเดินออกไปข้างนอก ขึ้นรถตัวเอง ขับรถตระเวนตามถนนในเขตเมือง หานฉ่ายหลิงจู่ๆ ก็ถูกจับตัวไป แปลกเหลือเกิน ใครกันแน่ ทำไมต้องจับเธอไปนะ
ในสถานการณ์ปกติ คนที่จับตัวเรียกค่าไถ่ รู้เวลาพักผ่อนของหานฉ่ายหลิง นอกจากตามรอยสืบมานานแล้ว ยิ่งกว่านั้น อาจจะว่าจ้างคนร้ายให้ทำอย่างนี้
เช่นนั้น คนที่อยู่เบื้องหลังคือใครกัน
ใครมีความแค้นกับหานฉ่ายหลิงหนักหนาขนาดนี้ ถ้าแค่ความแค้น เรียกค่าไถ่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร
เขาคิดไม่ตก เร่งความเร็วรถ มุ่งหน้าไปทาง โรงแรมอิงกือหลานเอ๋อ ต้องไปดูสถานที่จริงถึงจะได้…
ที่มุมหนึ่งของเมือง ราตรีเข้าปกคลุม ความมืดมิดนอกหน้าต่าง แสงไฟของเมืองระยิบระยับ กลิ่นอาหารหอมลอยมากลางอากาศ หอมแตะจมูก หานฉ่ายหลิงขยับตัวนิดหนึ่ง ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงเก่าคร่ำคร่า
ห้องเล็กๆ ว่างเปล่า
นอกจากเตียงเล็กๆ ก็ไม่มีอะไรอย่างอื่น
ทันใดนั้นประตูห้องมีเสียงคนเคาะประตู ชายหนุ่มสองคนยิ้มเจ้าเล่ห์เดินเข้ามา มือถือเครื่องอัดวีดีโอ วางใกล้ๆ ที่เธออยู่ แล้วเปิดเครื่อง
หานฉ่ายหลิงมองอย่างตกตะลึง “พวกแก…ต้อง ต้องการทำอะไร”
“ทำอะไรเหรอ” ผู้ชายคนหนึ่งถอดเสื้อ โยนลงพื้นทางหนึ่ง รอยยิ้มชั่วร้ายเผยให้เห็นร่องรอยความหยาบช้า เดินเข้ามาหาเธอทีละก้าว คุกเข่าข้างหนึ่งบนเตียง มือหยาบกระด้างบีบคางเธอ “ใช่แล้ว เธอว่าพวกเราจะทำอะไรล่ะ”
ชายอีกคนหนึ่งเดินมาทางอีกฝั่งหนึ่ง ดึงมือของหานฉ่ายหลิง ตัดเชือกขาด ผลักเธอเต็มแรง “นอกจากทำเธอ แล้วจะทำอะไรได้อีก ฮะ”
หานฉ่ายหลิงตกตะลึง ใบหน้าที่สวยงามหงายหลังทันที สายตาหวาดหวั่นกวาดตามอง “พวกแก…”
“ไม่ต้องกลัว แค่เธอให้ความร่วมมือ พวกพี่ไม่ทำร้ายเธอหรอก! เด็กดีหน่อย จะได้ไม่ลำบาก!”
ผู้ชายมองท่าทางตกใจหานฉ่ายหลิง ก็หัวเราะลั่น โฉบเข้าไป ไซ้จูบซอกคอของเธอ หานฉ่ายหลิงรู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ ดิ้นรนหนีสุดแรง ยกมือขึ้นตบหน้าผู้ชายคนนั้นสองฉาด
ผู้ชายที่ถูกตกตะลึง ไม่นึกว่าหานฉ่ายหลิงจะกล้าทำอย่างนี้ จากอับอายกลายเป็นโมโห ยกมือขึ้นมัดมือสองข้างของเธอ
แรงของผู้ชายเยอะอยู่แล้ว หลังจากตบ เลือดสดๆ กลบริมฝีปากของเธอ ใบหน้าขาวซีด รอยเลือดแดงฉาน น่าตกใจ
ผู้ชายอีกคนหนึ่งกระชากเสื้อของเธอเต็มแรง ได้ยินเสียงดังแควก เสื้อทั้งตัวถูกฉีกขาดครึ่ง ชุดชั้นในสีขาวเข้ามาในสายตา สายตาผู้ชายทั้งสองคนเป็นประกาย ยื่นมือไปจับชอบอกชอบใจ
“เอาเถอะ! สนุกไม่กี่ครั้ง ไม่เป็นไรหรอก!”
“ถึงอย่างไงเธอก็เป็นผู้หญิง ผู้หญิงก็มีหน้าที่นี้อยู่แล้ว จะเป็นอะไรไปล่ะ”
ผู้ชายสองคนเจ้าเล่ห์ คำพูดหยาบคายทุกคำ หานฉ่ายหลิงอับอายแทบแทรกแผ่นดิน กัดริมฝีปากล่างเจ็บปวด ร่างกายและแขนสองข้างที่ดิ้นรนถูกผู้ชายยึดไว้เต็มแรง เหมือนปลาที่ถูกจับวางบนเขียง ได้แต่มองดูตัวเอง ถูกพวกมันข่มเหง…
กล้องที่อยู่ข้างๆ บันทึกภาพตลอด บันทึกทุกรายละเอียด ไม่ตกหล่นสักนิดเดียว
“ไสหัวไป! พวกแกสัตว์ป่า! ปล่อยฉัน…”
“กรี๊ด! ปล่อยฉัน! ขนาดหมายังดีกว่าพวกแก ฉันจะต้องฆ่าพวกแกให้ได้…”
หานฉ่ายหลิงร้องกรี๊ดไม่หยุด ตอนนี้เอง มีคนหนึ่งเดินเข้ามา ดึงกล้องไป หันกล้องมาทางตัวเอง
คนผู้นี้สวมหน้ากาก หน้าตาอัปลักษณ์ดุร้าย ถึงกับรู้สึกน่ากลัว วางกล้องเรียบร้อย เขาก็นั่งลงบนโซฟา นั่งไขว่ห้างท่าทางสง่า มองกล้องพูด “ได้ยินแล้วยัง ผู้หญิงคนนี้เป็นของเกรดเอ! ในที่สุดก็ได้รู้ทำไมประธานลี่ถึงได้ติดใจเธอขนาดนี้…”
“ประธานลี่ ผมไม่ทำให้คุณลำบากใจ สามร้อยล้าน พรุ่งนี้สองทุ่มสิบห้า ส่งมาที่คอนเทนเนอร์หมายเลข 120ที่ท่าเรือตะวันออก ตรงเวลา คุณหาน ฉันจะส่งกลับไปให้อย่างปลอดภัย!”
กดปุ่มหยุดบันทึก จากนั้น ปิดเครื่องอัดวีดีโอ ดึงเมมโมรี่การ์ดออกมา ผู้ชายที่สวมหน้ากากใส่ลงในซองจดหมาย แล้วเงยหน้ามองทางฉากหื่นนั้น พูดสั้นๆ “เสร็จแล้ว!”
พอได้ยินอย่างนั้น ผู้ชายสองคนก็เหมือนเครื่องจักรถูกกดปิดเครื่อง หยุดการกระทำทันที ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย จัดเสื้อผ้าลงจากเตียง
หานฉ่ายหลิงดิ้นนิดหนึ่ง สลัดเชือกที่มือออก แล้วลุกขึ้นนั่ง
เธอยืนขึ้น กวาดตามองผู้ชายสองคน ยิ้มเย็น สะบัดมือตบพวกเขาแต่ละคนสองฉาดใหญ่!
“ไอ้เลว! เมื่อกี้กล้าตบฉันเหรอ”
ผู้ชายสองคนตกใจสะดุ้งโหยง รีบลนลานอธิบาย “พวกเรา..แค่เล่นไปตามบทบาท! คุณหานอย่าเพิ่งโกรธ อย่าโกรธ…”
“พวกแกเป็นใครถึงกล้า!”
หานฉ่ายหลิงโกรธยกมือขึ้นอีก ก็ได้ยินเสียงของผู้ชายใส่หน้ากากดังขึ้น——
“พอแล้ว! พวกมันแค่แสดงให้สมจริงหน่อย อย่าลืมสิ คุณเป็นคนออกความคิดนี้เองนะ ไม่แสดงให้ดีหน่อย จะทำให้ลี่เฉินซีเชื่อได้ไง”
ขณะพูด ผู้ชายก็ถอดหน้ากากออก รูปร่างผอมบาง รอยย่นบนใบหน้า สายตาแหลมคมเป็นประกาย
หานฉ่ายหลิงยกมือขึ้นปาดเลือดที่ริมฝีปาก ถอนหายใจ “เอาเถอะ! ครั้งนี้ไว้ชีวิตพวกแก ถ้าครั้งนี้สำเร็จ ฉันพูดคำไหนคำนั้น ค่าจ้างเพิ่มเท่านึง วางใจได้!”
ผู้ชายสองคนละล่ำละลักขอบคุณ ชายแก่โยนซองจดหมายที่ใส่เมมโมรี่การ์ดเรียบร้อยให้พวกเขา กำชับ “รีบส่งไปที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป อย่าลืมล่ะ อย่าทิ้งร่องรอยอะไรทั้งนั้น!”
“ครับ!”
ชั่วครู่ ชายแก่มองหานฉ่ายหลิง “อย่างนี้พอใจแล้วยัง หลานสาว”
หานฉ่ายหลิงคิดถึงสีหน้าหลังจากลี่เฉินซีได้รับคลิปวีดีโอ รอยยิ้มที่ริมฝีปากยิ่งพอใจ และยิ่งโหดร้าย เหมือนท่าทางของผู้ชนะ “แน่นอนอาหลง ออกโรงเอง ฉันจะไม่พอใจได้ยังไงคะ”
เวลานี้ที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เลขาได้รับจดหมายที่มีคนส่งมา รู้สึกว่าสำคัญมาก จึงติดต่อหวางอี้
หวางอี้กังวลว่าจะเกี่ยวกับเรื่องจับตัวเรียกค่าไถ่ จึงไม่กล้าเอ้อระเหย รีบติดต่อลี่เฉินซี
เขารีบกลับบริษัทอย่างเร็วที่สุด หยิบเมมโมรี่การ์ดออกมา เสียบเข้าไปแล้วเปิดดู มองหน้าจอใหญ่ที่หานฉ่ายหลิง ถูกกดตัว สายตาหวาดกลัว ตัวสั่นเทิ้ม และน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
ราวกับน้ำตาแต่ละหยดทำให้อยากจะทำลายทุกอย่าง ลี่เฉินซีสีหน้าเคร่งเครียดมาก กัดฟันกรอด ปิดคลิปนั้น แล้วสั่งหวางอี้ “ส่งคนของบริษัทลี่ซื่อทุกคน ต้องหาตัวหานฉ่ายหลิงให้เจอ แล้วก็จับพวกเรียกค่าไถ่มาให้ได้!”
“จำเป็น!” เขาสั่งเป็นพิเศษ
หวางอี้พยักหน้า “ครับ ผมจะรีบไปจัดการครับ”