บทที่184 ฉันจะแต่งงานแล้ว
นอกช่องหน้าต่าง ท้องฟ้าสีฟ้าอ่อนลอยละล่อง ทะเลเมฆโอบล้อม
เที่ยวบินติดต่อกันกว่าสิบชั่วโมง ค่อยๆลงจอดบนพื้นที่ส่วนตัวในสนามบินนานาชาติซิดนีย์ อาคารที่อยู่บนพื้นดินเริ่มปรากฏให้เห็นแล้วรางๆ ลี่เฉินซีคาดเข็มขัดนิรภัย เก็บไฟล์เอกสารที่อยู่ในมือ เอนหลังบนเก้าอี้เพื่อพักผ่อน
เที่ยวบินมาถึงโดยสวัสดิภาพ ออกจากด่านศุลกากร หวางอี้ดันรถเข็นกระเป๋า ผู้ดูแลของสำนักงานสาขาที่อยู่ที่นี่มารออยู่นานแล้ว รถที่อยู่ด้านนอก ก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว
สนามบินใหญ่มาก หากจะเดินออกไป ก็จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่บ้าง
ขณะเดิน ทันใดนั้น ก็พบกับเงาหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก ลอยเข้ามาในสายตาของเขา ดูแล้วคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ไม่จำเป็นต้องหันกลับมา เขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร เพียงแค่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเท่านั้น ว่าทำเวลาแบบนี้เธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ?
ไม่รอให้ลี่เฉินซีแยกแยะ อีกฝ่ายเองก็หยุดเท้าลง ก้มตัวลงราวกับจะจัดเชือกรองเท้าผ้าใบให้เป็นระเบียบ และลี่เฉินซีก็เดินไปใกล้เธอเข้าพอดี
หานฉ่ายหลิงมองไปที่รองเท้าหนังผู้ชายสวยหรูคู่หนึ่งอยู่ใกล้ๆ พอมองตามขากางเกงสูทตัวยาวนั้นขึ้นไป ก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาของลี่เฉินซี
เธอดีอกดีใจขึ้นมาทันที รีบลุกขึ้นมา “เฉินซี ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ?”
“ประโยคนี้ฉันควรถามเธอมากกว่ามั้ง ?” ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว การมาดูงานที่ออสเตรเลียในครั้งนี้ เขาเพิ่งวางกำหนดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
หานฉ่ายหลิงเป็นเพราะว่าโครงการCCUเลยต้องติดต่อกับทางบริษัทลี่ซือกรุ๊ป จะรู้เรื่องการดูงานในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ทำไมถึง”บังเอิญ”มาเจอกันที่นี่ได้ ?
“ถูกคุณเดาออกจนได้!” หานฉ่ายหลิงก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร ยิ้มอย่างขี้เล่น แล้วคล้องแขนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ เดินไปด้านนอกพลางพูดไปด้วยว่า “บังเอิญว่าที่บริษัทของฉันก็มีงานต้องมาทำที่นี่เหมือนกัน และรู้ว่าคุณก็มา เลยเตรียมตัวมาก่อน!”
ลี่เฉินซีถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยหน่าย ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเธอจงใจ แต่ในเมื่อก็มาแล้ว จะทำอย่างไรได้อีก ?
แต่หานฉ่ายหลิงกลับเกาะแขนเขาเอาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าวินาทีต่อมาเขาจะหนีไป ปากยังพูดอีกว่า “นั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว เฉินซี คุณหิวไหม ?”
คำพูดแบบนั้น ราวกับย้อนเวลากลับไปสมัยเรียน
เธอในตอนนั้น ยังใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ละวันในสมองก็มีแค่เรื่องทบทวนบทเรียน ไปโรงเรียน ไปเดท ทานข้าว
ใสซื่อจนเหมือนคนซื่อบื้อ ถึงแม้จะไปเดท ก็แค่จับมือเขา ไปดูหนัง ทานข้าว จากนั้นก็รีบกลับบ้านไปทบทวนบทเรียน
ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ความรักในตอนนั้น มันช่างเรียบง่าย และสวยงาม
ส่วนวันนี้ หานฉ่ายหลิงไม่เหมือนกับวันวานที่ผ่านมา ไม่ได้แต่งหน้าเข้ม และไม่ได้แต่งตัวหรูหรา แค่แต่งหน้าธรรมดาๆ ผมยาวผูกเป็นหางม้า ปล่อยไว้ด้านหลัง ชุดกีฬาสีอ่อนมาพร้อมกับรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย แต่งตัวเหมือนนักศึกษาวิทยาลัยอายุยี่สิบปี
เดิมทีเธอก็สวยงามอยู่แล้ว ถึงจะไม่แต่งอะไรมาก ก็ยังคงสวยสดงดงาม ในเวลานี้ ยิ่งดูราวกับดอกชบาบนผิวน้ำ งดงามหมดจด
ลี่เฉินซีมองดูเธอ และความทรงจำก็ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน สมัยที่พวกเขากำลังเรียนมหาวิทยาลัย มองดูหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ถึงแม้ในจิตใจจะต่อต้านอย่างไร แต่อารมณ์กลับทำให้เขาเผลอกุมมือหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเอาไว้แน่น
“ไปทานข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม ? ฉันหิวมากเลย!” หานฉ่ายหลิงมุ่ยปากเล็กๆทำท่าทางออดอ้อนเขา ดูราวกับแมวน้อยที่หิวโซมากจริงๆ
พี่เฉินซีถอนหายใจออกมา แล้วพยักหน้าอย่างหน่ายใจ
ไม่ได้กลับยังโรงแรมที่จองไว้ก่อน แต่ตรงไปยังร้านอาหารตะวันตกที่อยู่ใจกลางเมือง ทั้งสองคนเข้าไปทานอาหารด้วยกัน
ขณะทานข้าว หานฉ่ายหลิงดูเหมือนจะหิวมากจริงๆ กินอย่างตะกละตะกลาม สเต๊กไม่หั่นเป็นชิ้นเล็กก่อน ก็รีบยัดเข้าไปในปากทันที
ท่าทางแบบนั้น ก็ทำให้คนรักใคร่ได้เหมือนกัน พี่เฉินซีมองดู ค่อยๆหั่นสเต๊กที่อยู่ในจานของตัวเอง แล้วยื่นให้เธอ แล้วเปลี่ยนจานของเธอมาทานเอง
หานฉ่ายหลิงทานเร็วมาก จนเขาต้องขอให้บริกรนำน้ำผลไม้มาเสิร์ฟหนึ่งแก้ว ยื่นให้เธอดื่ม “ค่อยๆกิน ทำไมถึงได้หิวขนาดนั้น ?”
เธอดื่มน้ำผลไม้เข้าไปกว่าครึ่งแก้ว ถึงไม่ปล่อยให้ตัวเองสำลัก ถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนจะมีเวลาว่างพูด “ฉันนั่งที่นั่งชั้นประหยัดมา อีกอย่างคุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ ว่าอาหารบนเครื่องบิน ฉันไม่ชอบทาน!”
ดังนั้น เธอก็เลยหิวมากว่าสิบชั่วโมงแล้ว จะไม่ให้หิวมากได้อย่างไร
ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว “ทำไมถึงนั่งที่นั่งชั้นประหยัด ?”
“ก็ไม่มีที่น่ะสิ! แล้วฉันก็รีบด้วย มีที่นั่งชั้นประหยัดก็ไม่เลวแล้ว !” เธอก้มหน้าลงอีกครั้ง แล้วกินอาหารอย่างจริงจัง
ผู้หญิงสวยนั้น ไม่ว่าในเวลาไหน ก็ดึงดูดสายตาทั้งนั้น
และผู้หญิงที่สวยงามและมีเล่ห์เหลี่ยม กลับเหมือนเถาวัลย์พิษ แม้ดอกไม้ที่อยู่ด้านบนจะดูสวย แต่เถาวัลย์กลับทำให้ผู้คนไม่อยากสัมผัส
ผู้หญิงที่สวยงามและไร้สมอง ก็เหมือนกับดอกไม้ดอกเล็กๆที่พบเห็นได้ทั่วไป สวยแต่ไร้ประโยชน์ ทำให้ผู้คนอยากเล่นด้วย แล้วค่อยโยนทิ้งขว้าง
เวลาได้หมดลงแล้ว หานฉ่ายหลิงยังไม่เข้าใจสิ่งนี้อีกหรือ ?
“เธอรีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ ?” ลี่เฉินซีรินไวน์ใส่แก้ว แววตาจับจ้องเธออย่างลึกซึ้ง
เธอทานอย่างเอร็ดอร่อย จนแทบไม่มีเวลาว่างสนทนา แต่ก็ยังพูดว่า “จะไม่รีบได้ยังไง ? ฉันก็มีเหตุผลของตัวเองเหมือนกันนะ!”
“เหตุผลอะไร ?” เขาถาม
พอพูดถึงคำถามนี้ มีดกับซ้อมที่หานฉ่ายหลิงถืออยู่ก็หยุดลงทันที แล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณอยากรู้จริงๆเหรอ ?”
เขาพยักหน้า แล้วโยกแก้วทรงสูงในมือเบาๆ ของเหลวสีแดงเข้มในแก้วเคลื่อนที่ไปมา
พอเป็นแบบนั้น หานฉ่ายหลิงก็ทานสเต๊กชิ้นสุดท้ายในจานของตัวเองหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากกลืนลงไปแล้ว ก็วางมีดซ้อมลง หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วพูดว่า “เฉินซี ฉันเข้าใจความหมายของคุณ คุณอยากอยู่กับซูย้าวอย่างราบรื่น อยากเป็นสามีที่ดี พ่อที่ดี ใช้ชีวิตธรรมดาที่แสนเรียบง่าย”
นั่นอาจจะเป็นทางเลือกของคนมากมาย
ลี่เฉินซีไม่ใช่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีอีกต่อไปแล้ว เขาอายุสามสิบปีแล้ว มีภรรยา มีลูก ไม่ว่าอย่างไร ทางเลือกสุดท้าย ก็คือคนคนเดียว ที่่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า
ไม่ว่าคนเคียงหมอนจะเป็นซูย้าว หรือว่าคนอื่น จุดนี้ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน
ดังนั้น เขาเลิกที่จะดิ้นรน เลิกที่จะเลือก เพียงแค่ยึดติดกับสภาพที่เป็นอยู่ ก็ดีเหมือนกัน
หานฉ่ายหลิงกลับพูดว่า “ฉันก็ไม่เด็กแล้ว ก็เข้าใจทางเลือกของคุณ และเข้าใจความลำบากของคุณ ฉันไม่อยากคอยตามตื๊อคุณอีกแล้ว เฉินซี ครั้งนี้หลังจากกลับประเทศแล้ว ฉันก็จะฟังคำพูดของคุณพ่อ แต่งงานกับคนอื่น มีลูก และใช้ชีวิต”
ลี่เฉินซีนั่งฟัง สีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ใดๆ แต่หลังจากเงียบอยู่ครู่ใหญ่ ก็พูดขึ้นว่า “ก็ดี”
“อืม ฉันก็รู้ว่าดีแล้ว แต่ว่า……” เธอเปลี่ยนเรื่องคุยทันที แววตาที่มองเขา เผยความอ่อนโยนที่ไม่เคยมีมาก่อน เอ้อล้นออกมาอย่างไม่มีขีดจำกัด ในขณะเดียวกัน เธอก็กุมมือของเขาเอาไว้
“ฉันอยากจะสร้างจุดจบที่สวยงามกับคุณ เพื่อความรักของพวกเราในตอนนั้น วาดจุดจบที่สมบูรณ์ ฉันรับรอง ว่าหลังจากครั้งนี้แล้ว ต่อไปจะไม่ตอแยคุณอีก!” เธอพูด
ลี่เฉินซีครุ่นคิด แล้วคิ้วก็ขมวดแน่นขึ้น
“ตอนที่อยู่ออสเตรเลียนี่ อย่างมากก็แค่สิบกว่าวัน รอกลับประเทศแล้ว ฉันก็อาจจะแต่งงานกับคนอื่นแล้ว ต่อไปหากเจอหน้ากัน ฉันกับคุณก็จะเป็นแค่เพื่อนธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก” เธอพูดย้ำอีกครั้ง
ในหัวเขามีภาพความรักต่างๆระหว่างพวกเขาในสมัยก่อนแวบเข้ามา เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงหลังจากที่เลิกกันแล้วด้วย
พอลองคิดดูอย่างละเอียดแล้ว หลังจากเลิกกันไป ก็แทบไม่มีความทรงจำดีๆอะไรเลยจริงๆ
มีเพียงคำพูดประโยคเดียวของเธอ พูดว่าเลิกกันผ่านสายโทรศัพท์ พอเข้าไปหาเธอเพื่อพูดคุยกันให้ชัดเจน เธอก็นั่งเครื่องบินไปที่อื่นแล้ว
ไม่ว่าเขาจะพยายามติดต่ออย่างไร ก็ดูเหมือนว่าเธอจะจงใจหลบเลี่ยง ไม่มาพบเจอกับเขาอีก
ไม่ว่าตอนแรกใครจะผิดต่อใคร แต่สำหรับรักแรกแล้ว ก็ไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่
“ถือว่าเป็นการตอบรับฉันเป็นครั้งสุดท้าย ได้ไหม ?” สายตาของเธอจริงจัง มองดูเขาด้วยความจริงใจ
ไม่มีผู้ชายคนใดสามารถต้านทานต่อคำขอของผู้หญิงได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ยังเป็นรักแรกของเขาอีกด้วย ผู้หญิงที่รักที่สุด
ความมีเหตุผลของลี่เฉินซี ค่อยๆสั่นคลอน
“วางใจเถอะ ขอแค่คุณหาเวลาออกมาเป็นเพื่อนฉัน ทานข้าว ดูหนัง ช้อปปิ้ง ก็พอแล้ว ฉันจะไม่ฝืนบังคับให้คุณทำอย่างอื่น ยิ่งไม่มีทางให้คุณต้องทำเรื่องที่ผิดต่อซูย้าว เฉินซี ได้ไหม ?”
หานฉ่ายหลิงพูดถึงขนาดนี้แล้ว เจายังจะพูดอะไรได้อีก ? ลี่เฉินซีสูดหายใจเข้าอย่างอ่อนแรง แววตาที่มองไปที่เธอ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูก