บทที่ 145 ไม่อยากให้ชีวิตมีความรู้สึกเสียดาย
คนพวกนี้ไม่คิดลี่เฉินซีจะมา วินาทีนั้น ทุกคนต่างจ้องกันเงียบ
คุณหลี่ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกเช่นกัน กระแอมคอ แล้วขึ้นไปพูดด้วยความจริงจัง “ท่านประธานลี่ในเมื่อมาถึงแล้ว แสดงว่าอยากจะใช้หนี้แทนคุณหานสินะ?”
หานฉ่ายหลิงตาทอประกาย เมื่ออยากจะพูด กลับรู้สึกถึงแรงบีบที่เอว ลี่เฉินซีปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน แล้วจับมือเธอเอาไว้ แววตาเย็นชาไม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย มองไปยังทุกคนแล้วถามอีกครั้ง “ฉันถามว่าใครผลักเธอ!”
เพียงแค่ประโยคเดียว แต่มีแรงสะเทือนมาก
แรงกดดันมหาศาล ทำให้ทุกคนตกตะลึง ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ใครกล้ายอมรับ ก็แสดงว่ากำลังรนหาที่ตาย
คุณหลี่เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ จึงยิ้ม แล้วพูดขึ้น “ท่านประธานลี่เข้าใจผิดแล้วครับ เมื่อกี้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ใช่ไหม?”
ทุกคนมองหน้ากัน แล้วค่อยๆพยักหน้า “เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน! พวกเราจะผลักคุณหานได้ยังไงกัน? เรื่องคืนเงินเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่การทำร้ายร่างกายมันไม่ถูกต้อง!”
เหตุการณ์วุ่นวายเมื่อสักครู่ ทำให้หานฉ่ายหลิงมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนผลักเธอ แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่ได้บาดเจ็บ เธอจึงไม่อยากเป็นเรื่อง
จึงดึงมือของลี่เฉินซี แล้วกระซิบ “ช่างเถอะ! ฉันไม่เป็นไร อย่าไปกดดันพวกเขาเลย!”
ในเมื่อหานฉ่ายหลิงออกปากพูด ต่อให้ลี่เฉินซีไม่พอใจ ก็ต้องให้เกียรติเธอ
แววตาเย็นเยือกจองเขามองไปยังประธานหาน ฉายแววดุดัน แล้วจึงกล่าว “ใช้หนี้ใช่ไหม ได้! หนี้ทั้งหมดของบริษัทHS พวกเราบริษัทลี่ซื่อจะรับผิดชอบเอง!”
ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนตกตะลึง ได้แต่ยืนอึ้งกัน
หานฉ่ายหลิงก็อึ้งเช่นกัน รีบพูดขึ้นมา “ไม่ได้นะ หนี้ของบริษัทHS ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้บริษัทลี่ซื่อมารับผิดชอบไม่ได้ เฉินซี ฉันรู้ว่าคุณหวังดี แต่ฉันรับมันไว้ไม่ได้จริงๆ”
เขาดึงมือของเธอมา ออกแรงเล็กน้อย หวังให้เธอหยุดพูด
หลังจากนั้น บี่เฉินซีก็มองไปยังทุกคน “ผมพูดได้ทำได้ ทุกคนก็รู้ดี หนี้ที่บริษัทHSติดไว้กับทุกคน จะได้รับคืนไม่ขาดสักบาทเดียว แต่ต้องเตือนก่อนว่า นับจากตอนนี้เป็นต้นไป ห้ามใครมาหาเรื่องบริษัทHSอีก!”
แค่ใช้เงินช่วยหานฉ่านำลิงก็แค่นั้น แค่จำนวนมันมากไปเสียหน่อย จนน่าตกใจ
หานฉ่ายหลิงรู้สึกแย่เล็กน้อย ต้องการจะพูดก็ถูกลี่เฉินซีห้ามไว้
เมื่อเขาพูดจบ มองทุกคนด้วยสายตาเย็นชา เมื่อจะพูดขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าเย็นชาที่แสนจะหล่อเหลานั้นราวกับวีรบุรุษ กล่าวว่า “แต่หนี้ของพวกคุณทุกคน ต้องผ่านการตรวจสอบจากฝ่ายการเงินของพวกเราเสียก่อน จึงจะจ่ายให้ เมื่อถึงเวลาก็จะแจ้งเอง!”
เมื่อได้ยินคำพูดของลี่เฉินซี คนเหล่านี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อ
คุณหลี่พูดขึ้น “ในเมื่อท่านประธานลี่พูดเช่นนี้แล้ว มีบริษัทลี่ซื่ออยู่ พวกเราไม่กลัวว่าจะไม่คืนหนี้แล้ว แค่นี้ก็เพียงพอ พวกเรากลับกันเถอะ! ไม่รบกวนเวลาทำงานคุณหานแล้ว!”
ทุกคนเตรียมตัวจะแยกย้าย ก่อนคุณหลี่จะกลับ ยังพูดเสริม “คุณหาน เมื่อกี้ต้องขอโทษคุณด้วย เป็นคนค้าขายกันทั้งนั้น ต่างก็ลำบาก อยากให้เข้าใจกันหน่อย!”
เมื่อพูดเช่นนั้น หานฉ่ายหลิงจะทำอย่างไรได้?
เพียงแต่คลื่นพายุลูกเมื่อกี้ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแจ้งสื่อ บนทางเดินมีนักข่าวรวมตัวกันเต็มไปหมด ทั้งสัมภาษณ์และถ่ายภาพ แสงแฟลชสาดมาไม่หยุด จนกระทั่งลี่เฉินซีมาถึง จึงทำให้ทุกคนตกใจและแยกย้ายกันไป
คิดว่าพรุ่งนี้น่าจะขึ้นพาดหัวข่าว ต้องเป็นข่าวที่เกี่ยวกับบริษัทHSแน่นอน แล้วข่าวของเธอและลี่เฉินซี ก็คงจะถูก…
เมื่อทุกคนไปหมดแล้ว โต๊ะที่ถูกรื้อจนเละ ร่องรอยเต็มพื้น หานฉ่ายหลิงเห็นของพวกนี้ ก็เหนื่อยใจมาก เธอถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ย่อลงกับพื้น แล้วค่อยๆเก็บเอกสารเหล่านั้นขึ้นมา
เดิมทีเรื่องเหล่านี้ต้องให้เลขาและผู้ช่วยเป็นคนจัดการ แต่ช่วงนี้บริษัทHSมีแต่คนลาออก เลขาและผู้ช่วยก็ลาออกเช่นกัน
ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าบริษัทHSจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน…
เอกสารหล่นกระจายบนพื้น ยังมีแก้วชา ปากกา น้ำหมึก ของทั้งหมดกระจัดกระจาย ไม่รู้ว่าจะเริ่มเก็บจากตรงไหนก่อนดี
ลี่เฉินซียืนอยู่ข้างเธอ ก้มลงไปจับมือของเธอเอาไว้ จับเธอลุกขึ้นมา ไม่ได้พูดอะไร แค่อ้าแขน แล้วดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้
หานฉ่ายหลิงก็ไม่ปฏิเสธ เธอน้ำตาไหลพรากเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา ได้ปลดปล่อยความเจ็บปวดออกมาทั้งหมด
ในช่วงเวลานี้ เธอรู้สึกกดดันมาก เมื่อก่อนแค่รู้สึกว่าต้องสืบทอดกิจการของพ่อ ดูแลบริษัทแค่นั้น ไม่ต้องการบริษัทที่ใหญ่โต แค่ต้องการให้มั่นคงแค่นั้น
แต่ตอนนี้คงจะยาก ยากมาก
ซบอยู่ในอกของเขา เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ไม่หยุด รู้สึกแย่ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพูดออกมา “คุณว่า ฉันไม่มีพรสวรรค์ที่จะค้าขายใช่ไหม หรือฉันควรใช้โอกาสนี้ ในการส่งต่อบริษัท?” ลี่เฉินซีกอดเธอ กระซิบถามที่ข้างหูเธอ “คุณอยากไหมล่ะ?”
“ฉัน…ไม่รู้สิ!” หานฉ่ายหลิงในตอนนี้ ทางข้างหน้าดูมืดสนิทมาก อยากจะพัฒนาบริษัทต่อ แต่เธอก็กังวลในความสามารถอันน้อยนิดของตัวเอง จนสุดท้ายต้องมาประสบการณ์ล้มละลายและต้องส่งต่อในที่สุด
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง เธอยอมถอยเสียก่อนดีกว่า ให้เธอได้ตายใจจากตรงนี้ไป
ลี่เฉินซีพูด “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ถามใจตัวเองดีๆ ว่ายอมไหม?”
“ฉัน…”
เธอค่อนข้างสับสน ค่อยๆออกมาจากอ้อมอกเขา แล้วมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา แล้วจึงพูดขึ้น “ฉันไม่ยอม! แต่ฉันกลัวว่าจะทำมันพังอีก ฉันก็เลย…”
“งั้นก็มาพยายามอีกครั้ง! ต่อให้จบแบบเดิม แต่ได้พยายามแล้ว ก็จะไม่เสียดาย ถ้ายังไม่ได้พยายาม คุณก็จะรู้สึกเสียดาย และไม่มีทางหวนกลับทุกอย่างกลับคืนมาได้”
เขาเหมือนคนแก่ ที่สอนเหตุและผลแก่เธอ
หานฉ่ายหลิงเหมือนเด็กที่เพิ่งเข้าสู่โบกความเป็นจริง ค่อยๆพยักหน้า “ที่คุณพูดอาจจะถูก แต่ชีวิตคนเรา ใครจะมั่นใจได้ว่าไม่มีเรื่องเสียดาย”
“นั่นคนอื่น ไม่ใช่คุณ แค่คุณไม่อยาก ก็จะไม่น่าเสียดาย” เขาพูด
หานฉ่ายหลิงแววตาแน่นิ่ง แล้วบ่นอุบอิบ “แค่ฉันไม่อยาก มันก็ไม่น่าเสียแล้วเหรอ?”
“ใช่สิ!” เขาจับมือเธอเอาไว้ แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เพราะผมจะช่วยคุณเอง!”
เขาพูดถึงตรงนี้ หานฉ่ายหลิงก็เพิ่งคิดขึ้นมาได้ จึงรีบพูดขึ้น “ใช่แล้ว เฉินซี ตอนแรกที่ฉันช่วยซูย้าว คุณให้เงินบริษัทHSเยอะมาก ตอนนี้ฉันไม่อยากจะลำบากบริษัทหลี่ซื่ออีก! ยิ่งรับเงินของคุณไว้ไม่ได้!”
คิดไปคิดมา หานฉ่ายหลิงชัดเจนมาก เงินทุนครั้งก่อน ไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากครั้งนี้ยังรับความช่วยเหลือจากเขาอีก เขาจะสู้หน้าต่อคนในบริษัท คนภายนอกจะคิดดูอย่างไร?
เธอพูด “บริษัทHSติดเงินคนนอก ฉันจะหาทางเอาเงินมาคืนเอง ถ้าหากคุณหวังดีกับฉันจริงๆ แค่ช่วยเป็นพยานให้เราก็พอแล้ว ในเรื่องยืดเวลาใช้หนี้ ฉันจะคิดหาเงินมาคืนเอง!”
ลี่เฉินซีมองประกายล้ำลึกในแววตาของเธออยู่นาน แล้วก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก เพียงแค่จูงมือของเธอ แล้วกระซิบเสียงเบา “ผมหิวแล้ว ไปหาของกินกันเถอะ!”