เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ – ตอนที่ 77 สามีของคุณรู้ไหม

บทที่ 77 สามีของคุณรู้ไหม

ไหนๆ ก็คิดจะรักษาคอแล้ว อยากจะทำให้เสียงกลับมาเป็นปกติ เช่นนั้นซูย้าวก็ต้องให้ความร่วมมือในการรักษาของหลินโม่ป่าย

ดังนั้นช่วงเช้า หลังจากที่เธอได้จัดการกับเจิ้งเอ๋อให้เรียบร้อย ก็หาข้ออ้างไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นก็ออกจากบ้านตระกูลลี่

ตอนถึงโรงพยาบาล หลินโม่ป่ายก็ยังคงตรวจคนไข้คนอื่นก่อน ทว่าพอเห็นซูย้าวมา ก็ยื่นส่งสายตาให้เธอ เพื่อที่จะสื่อให้เธอรอสักพัก

ผ่านไปสักพัก หลังจากรอจนกว่าผู้ป่วยที่อยู่ตรงหน้าเขาจากไปจนหมด เขาถึงจะหาเวลาว่างออกมา แล้วมองซูย้าวก็พูดขึ้น “ผมคิดว่าเมื่อคืนมันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบของคุณ นึกไม่ถึงว่าคุณจริงจัง? “

เธอคลายยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้า

ก็ถือว่าเพื่อแม่ เธอก็ต้องรักษาเสียงให้หาย

เธอรวบรวมกำลัง และแบกรับภาระมาหลายปีแบบนี้ นี่ก็ได้เวลามาทวงคืนทุกอย่างแล้ว!

“แค่คุณจริงจัง งั้นก็ทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น ถ้าผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา ต่อให้หมอจะมีฝีมือมากขนาดไหน ก็คงไม่มีประโยชน์! ” หลินโม่ป่ายยิ้มอย่างน่าสนใจ แล้วพาเธอขึ้นไปชั้นบน

ตลอดทางก็ยังพูดว่า “คุณรู้ไหม เรื่องการรักษาคอ ไม่ใช่ด้านที่ผมชำนาญ รุ่นพี่ของผมชำนาญในด้านนี้ ผมจะให้เขาดูอาการให้คุณ วางใจเถอะ! ฝีมือการแพทย์ของเขาก็เยี่ยมมาก”

ซูย้าวยิ้มพลางพยักหน้า ตั้งแต่เด็กจนโต หลินโม่ป่ายทำอะไร เธอก็วางใจมาโดยตลอด

ในออฟฟิศของแผนกหู คอ จมูกตรงชั้นบน มีชายหนุ่มที่อายุประมาณสามสิบกว่า เหมือนทำงานกะดึกมาหนึ่งคืน แล้วกำลังงีบหลับด้วยความเหนื่อยล้า

หลินโม่ป่ายเคาะประตูเข้ามา ก็บอกว่า “นี่ก็ทำงานกะดึกมาหนึ่งคืนแล้ว ทำไมยังไม่กลับอีก? “

“เดี๋ยวยังมีผ่าตัดอีกเคสอีก! รอให้เสร็จแล้วค่อยกลับ”

พูดจบ ผู้ชายจึงมองซูย้าวที่อยู่ข้างๆ หลินโม่ป่าย แล้วนิ่งงันไปเล็กน้อย จากนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ “คุณผู้หญิงท่านนี้คือคนที่แกเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ใช่ไหม? คอมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถเปล่งเสียงคนนั้นหรอ? “

หลินโม่ป่ายพยักหน้า จากนั้นก็จับมือของซูย้าวไว้ แล้วแนะนำตัวขึ้นอีกครั้ง “เธอชื่อซูย้าว เป็นคนที่……”

เขาเกือบจะพูดว่า “เป็นคนที่รักที่สุด” ยังดีที่ยังไม่เผลอพูดออกไป ปลายลิ้นจึงได้เปลี่ยนคำพูดทันที แล้วกลืนคำพูดเข้าไป

เขาเปลี่ยนคำพูดอีกครั้ง “เพื่อนสนิทของฉัน โตมาด้วยกัน ดังนั้นโอวหยาง ขอร้องเถอะ! “

ผู้ชายพยักหน้าไม่หยุด ใบหน้าแสดงท่าทีว่ารับเรื่องแล้ว แล้วก็ใช้สายตาแสดงให้หลินโม่ป่ายเห็น ไม่จำเป็นต้องพูด ภายในใจก็รู้แล้ว!

ซูย้าวมองพวกเขาที่สื่อสารกันทางสีหน้า จึงรู้สึกแปลกพิลึกอย่างชัดเจน ทว่าจากนั้นก็ได้ยินผู้ชายพูดกับเธอ “คุณซู นี่เป็นครั้งแรกที่มารักษาคอหรอครับ? “

เธอพยักหน้า

“ถ้าไม่รังเกียจ คุณสามารถใช้ภาษามือ ผมดูเข้าใจครับ” โอวหยางเช่อพูดขึ้น

ซูย้าวคลายยิ้มบางๆ นึกไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะรอบคอบและเอาใจเก่งขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองทันที

จากนั้นก็ถึงขั้นตอนที่หมอซักถามอาการ หลินโม่ป่ายยังมีผู้ป่วยชั้นล่าง จึงไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเธอนานๆ แล้วกำชับขึ้น หลังจากที่มองเธอด้วยความลุ่มลึก จึงจะหันหลังลงจากตึก

เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่มารักษาคอ ดังนั้นจึงต้องทำการตรวจมากมาย ทว่าเพราะว่าวันนี้โอวหยางเช่อไม่ได้ทำงานกะปกติ จึงมีเวลาที่เหลือเฟือ รวมไปถึงมีหลินโม่ป่ายที่คอยกำชับ เขาต้องดูแลซูย้าวเป็นอย่างดีถึงจะได้

ทั้งขบวนการโอวหยางเช่อจึงได้ไปเป็นเพื่อน และการตรวจทุกรูปแบบก็ได้เสร็จสิ้นลง จากนั้นก็กลับออฟฟิศเพื่อผลตรวจ

ระหว่างนั้นก็รู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย ในห้องที่กว้างใหญ่มีเพียงพวกเขาสองคน ปกติซูย้าวก็ไม่พูด เธอจึงเคยชินกับบรรยากาศที่เงียบสงบแบบนี้ ทว่าโอวหยางเช่อไม่เหมือนกัน เขาจึงรู้สึกใจร้อน แล้วสายตาก็กวาดไปรอบๆ ห้อง

สุดท้าย ก็ค่อยๆ กวาดไปยังซูย้าว แล้วพูดขึ้น “คุณซู แต่งงานแล้วหรอ? “

จู่ๆ คำพูดนี้ก็ส่งเข้าหู ซูย้าวก็ได้เงยหน้าขึ้น จากนั้นพยักหน้ายอมรับ

“คนที่แต่งงานกับลี่เฉินซีคือคุณใช่ไหม? “

คำพูดนี้ออกมา ซูย้าวกลับนิ่งงันไป

นี่หมายความว่าอะไร?

โอวหยางเช่อพูดขึ้นอีก “อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่น แค่ผมกับลี่เฉินซี ตอนที่ไปเรียนต่างประเทศเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน”

“……”

ซูย้าวไม่รู้จะพูดอะไร ทำไมถึงรู้สึกว่าคนรอบตัว คนที่รู้จักเธอ ก็รู้จักลี่เฉินซี

อาจจะบอกว่าเขามีคนรู้จักที่กว้างขวาง หรือว่าวงการรัฐบาลเล็กเกินไป?

“ผมก็เพิ่งกลับประเทศ ได้ยินเขาแต่งงานแล้ว ทว่านึกไม่ถึงว่าวันนี้ก็ได้เจอคุณผู้หญิงลี่แล้ว” จู่ๆ โอวหยางเช่อก็เปลี่ยนเป็นเรียกว่าคุณผู้หญิงลี่กับเธอ ทำให้ซูย้าวไม่เคยชิน

ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่า “ตอนเด็กๆ คุณสามารถพูดได้ใช่ไหม? “

เธอพยักหน้า

“งั้นลี่เฉินซีก็คงรู้ว่าคุณยังเด็กก็สามารถพูดได้ใช่ไหม? ” เขาเอ่ยถามกลับ

ซูย้าวนิ่งงันไปทันที

ถึงแม้ตอนเด็กเธอก็ได้รู้จักกับลี่เฉินซี ทว่า เขามีนิสัยที่เย็นชา โดยปกติก็ไม่ค่อยเข้าใกล้คนแปลกหน้า ตั้งแต่เด็กเขาก็เหมือนเทพบุตรที่เย็นชา มักจะทำให้คนรู้สึกว่าเขาสูงส่งจนไม่สามารถเข้าใกล้ได้ตลอดกาล ดังนั้นซูย้าวไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เธอสามารถพูด แล้วลี่เฉินซีจะสังเกตเห็นเธอไหม

พอเห็นนัยน์ตาของเธอดูงงงวย โอวหยางเช่อก็พูดขึ้นอีก “ทำไมหรอครับ? ไม่แน่ใจใช่ไหม? “

ซูย้าวมองเขา แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย

“ไม่เป็นไร รอให้ผลตรวจออกก่อน ผมดูแล้ว ถ้าไม่มีปัญหาอะไรจะให้คุณทำการรักษา คุณแค่กินยาตามเวลา เชื่อว่าเสียงอขงคุณก็ได้รับการฟื้นฟูอยู่แล้ว! “

พอได้ยินแบบนี้ ภายในใจลึกๆ ของซูย้าวรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ความซับซ้อนที่อธิบายไม่ถูกเกี่ยวพันและเหนียวแน่นกัน ถ้ามันง่ายอย่างที่เขาพูด มันจะดีมาก!

และในเวลานี้ พยายามที่อยู่ข้างนอกก็เคาะประตูแล้วเข้ามา เพื่อที่จะส่งผลตรวจเข้ามา

โอวหยางเช่อเอาแว่น หลังจากที่ใส่แล้วพลิกดูเอกสารอย่างละเอียด หลังจากผ่านไปสักพัก ก็ค่อยเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สีหน้าดูหนักแน่นเล็กน้อย “คุณซู คุณยังจำตอนนั้นว่าเป็นเพราะอะไรไหม ถึงทำให้เสียงของคุณถูกทำลายแล้วไม่สามารถเปล่งเสียงแบบนี้? “

ความรู้สึกลึกๆ ซูย้าวกลับมีความรู้สึกที่ดี

เธอใช้ภาษามือเอ่ยถาม “ทำไมหรอคะ? ผลตรวจไม่เป็นไปอย่างคาดหรอคะ? “

“ครั้งนี้คุณมาทำการรักษาคอ อยากถามว่าสามีของคุณลี่เฉินซีรู้ไหมครับ? ” เขาถามขึ้นอีก

ซูย้าวขมวดคิ้ว แล้วใช้ภาษามือพูดขึ้นอีกครั้ง “คุณหมอโอวหยางหมายความว่ายังไงคะ? “

“อย่าเข้าใจผิดครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่น แค่อยากจะสถานการณ์คร่าวๆ เท่านั้นครับ! ลี่เฉินซีรู้ว่าคุณมารักษาคอในครั้งนี้ไหมครับ? ” เขาถามขึ้นอีกครั้ง

เหมือนลูกบอลสีขาวที่ถูกตีบนโต๊ะบิลเลียด ทำให้หัวใจของเธอถูกโจมตีอย่างรุนแรง

ซูย้าวไม่สามารถแน่นอนว่าตอนนั้นลี่เฉินซีจำเธอตอนเด็กๆ ได้ไหม อีกอย่าง เธอกลายเป็นใบ้เรื่องนี้ ทีแรกก็เป็นความลับอย่างหนึ่งอยู่แล้ว แล้วจะสามารถพูดทุกอย่างกับคนที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือทันทีได้ยังไง!

เธอส่ายหน้า แล้วรีบลุกขึ้นทันที แล้วใช้ภาษามือพูดขึ้น “ถ้าผลตรวจของฉันมีปัญหาอะไร หวังว่าคุณหมอโอวหยางจะสามารถพูดอย่างกระจ่างแจ้ง”

“นี่……” เขาเหมือนไม่ค่อยอยากเชื่อเลยสักนิด แล้วดูผลตรวจฉบับนั้น แล้วขมวดคิ้วขึ้น “ยังไงผมก็หวังว่าจะสามารถคุยกับสามีของคุณก่อน ถ้าคุณซูยินยอม เรา……”

โอวหยางเช่อยังไม่ทันพูดขึ้น ตอนที่เงยหน้าขึ้น กลับสังเกตเห็นออฟฟิศเต็มไปด้วยความว่างเปล่าว ส่วนซูย้าวก็หายไปนานแล้ว

แม้กระทั่งเธอจากไปเมื่อไหร่ เขายังไม่ได้รู้!

โอวหยางเช่อจึงส่ายหัวอย่างอึดอัดใจ จากนั้นก็ดูผลตรวจนั้นอย่าละเอียด แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพึงอยู่ทางโน้น จากนั้นก็เอามือถือออกมา

“จู่ๆ เพื่อนเก่าติดต่อกลับมา สะดุ้งตกใจไหม? ไม่มีเรื่องอื่น แค่ได้ข่าวว่าแกแต่งงานแล้ว ภรรยาของแกคือซูย้าวใช่ไหม? มีเรื่องที่เกี่ยวกับเธออยากจะบอกแกหน่อย……”

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ

เธอเป็นสาวใบ้ เมื่ออายุ19ปีก็ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวบังคับแต่งงานกับเขาโดยการขาย ภายใต้การแต่งงานที่หรูหราได้ซ่อนแผนร้ายอันน่าทึ่งไว้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset