บทที่ 75 จะยกโทษพวกเขาไหม
ซูย้าวเงยหน้าขึ้น แล้วมองนัยน์ตาที่มืดมัวเหมือนดั่งหมึกดำของผู้ชาย ที่เป็นนัยน์ตาที่แอบซ่อนความลุ่มลึก ทันใดนั้น หัวใจของเธอเหมือนถูกอะไรบางอย่างชักจูงขึ้นมาทันที!
เธอไม่ใช่กลัวว่าฐานะของตัวเองจะถูกเปิดเผย และก็ไม่ใช่ว่ากลัวว่าคนทั้งหมดจะรู้ คนที่วิจัยและริเริ่มเนื้อหาสำคัญของโปรเจคGKคือตัวเธอเอง เพียงแค่ว่าการพัฒนาโครงการนี้มีผลกระทบมากมายต่อเธอ ความคาดหวังสำหรับโครงการนี้ซึ่งเป็นต่อรองเพื่อช่วยแม่ของเธอออกจากคุก
ถ้าหากความลับภายในใจลึกๆ ถูกเปิดโปงออกมาทีละชั้น ความเย็นยะเยือกนั้นเย็นเข้าไปถึงไขกระดูก
ซูย้าวมองเขาอย่างนิ่งงัน ทันใดนั้น กระแสเลือดทั้งเรือนร่างจึงหยุดไหลเวียนในเวลานี้
เพ้ยส้าวหลี่กลับยิ้มอย่างร่าเริง มือใหญ่ที่เห็นข้อต่อกระดูกอย่างชัดเจน ลูบจับหน้าของเธอเบาๆ น้ำเสียงยิ่งต่ำกว่าเดิม และมีเสน่ห์กว่าเดิม “คุณคิดว่าคุณSท่านนี้คือใคร? ซูย้าว”
เขาตั้งใจเรียกเธอ ตอนที่ซูย้าวสองคำนี้ออกจากปากของเขา น้ำเสียงขึ้นสูงเล็กน้อย ราวกับปลายลิ้นกำลังอ่อนตัวลง กิริยาค่อนข้างไม่เรียบร้อย ทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
ตอนแรกที่ตั้งชื่อว่าS ก็เพราะว่าชื่อย่อขึ้นต้นของเธอคือชื่อนี้ เพราะว่ามันเร่งรีบเกินไป ก็นึกไม่ถึงว่าอย่างอื่น กลับไม่เคยคิดว่าจะถูกเพ้ยส้าวหลี่ล่วงรู้อย่างสิ้นเชิงแบบนี้
แม้แต่เขาก็รู้แล้ว ถ้างั้นคนอื่น……
มองออกว่านัยน์ตาของซูย้าวดูกระวนกระวายเล็กน้อย เพ้ยส้าวหลี่พูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งเฉย แค่พูดว่า “คนที่อยู่ในวงการนี้ ทุกคนที่ก็สนใจแต่โปรเจคGK สำหรับผู้ที่เป็นคนสำคัญในการริเริ่มเนื้อหาสำคัญ ไม่มีใครจะสังเกตเห็น……”
เขาลากเสียงยาว ทันใดนั้น นัยน์ตาอันลุ่มลึกก็มองไปที่เธอ “ทว่า ผมกับคนอื่นๆ มีจุดสนใจไม่เหมือนกัน ผมแปลกใจในคุณSผู้ลึกลับและเล่นกลคนนี้”
นิ้วมือของเพ้ยส้าวหลี่จับคางของเธอเบาๆ แล้วทำท่าทางที่ใจเย็น “คุณว่า คุณSท่านนี้คือใคร? “
ซูย้าวมองเขา แล้วหรี่ตาคู่สวยลง จากนั้นก็รีบถอยหลังไปสองกาว เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการเข้ามาพัวพันของผู้ชาย
เขายังสามารถรู้คุณSคือผู้หญิง แล้วจะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณSคือใครได้ยังไง?
แม้กระทั่งผู้ที่ซื้อโปรเจคGKด้วยราคาสูงลิ่วก็คือท่านประธานของบริษัทKที่มีชื่อว่าไซม่อน ยังไม่รู้ว่าคุณSคือผู้ชายหรือผู้หญิง คือชาวเอเชีย หรือคือชาวยุโรปและชาวอเมริกัน เพ้ยส้าวหลี่ก็ตัดสินว่าเป็นผู้หญิง นี่ไม่ได้กลายเป็นเรื่องที่อยากปกปิดซ่อนเร้น กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้หรอ?
ซูย้าวก็ไม่อยากจะพูดจาอ้อมค้อมกับเขาอีกต่อไป จึงใช้มือสื่อสาร “ประธานเพ้ย คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่? ก็พูดว่าตรงๆ เถอะ! “
สำหรับผู้ชายคนนี้ที่จู่ๆ ที่สามารถเดาตัวตนของตนเองออก ทันใดนั้น ซูย้าวกลับรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
เพ้ยส้าวหลี่เดินขึ้นหน้าไปอย่างช้าๆ แล้วก็มัวลงอีกครั้ง จากนั้นก็กระซิบข้างหูเธอ “ผมรู้สึกชื่นชมในความสามารถของคุณS ถ้าเป็นไปได้ หวังหนิงจิ่นจะมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณSเป็นการส่วนตัวนะครับ”
จากนั้น ไม่รอให้ซูย้าวหลบเลี่ยง เขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง “คุณรู้เบอร์ของผม หวังหนิงจิ่นคุณซูจะช่วยผมติดต่อคุณS ผมอยากจะทำให้ความปรารถนานี้เป็นจริง”
อากาศในฤดูร้อน ซูย้าวกลับสั่นงันงกอย่างน่าแปลก จากนั้นก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ สำหรับเพ้ยส้าวหลี่ที่จากไปยังไง เธอยังไม่ได้สังเกตเห็น
รอให้ตอนที่ซูย้าวยังสติกลับมาแล้ว ตรงระเบียงนี้ ก็มีคนโผล่มาบ้าง และมีเสียงโวยวายบ้าง เธอจึงสาวเท้าออกจากที่นี่
และตอนที่เธอกลับไปถึงห้องโถงที่จัดงาน ทีแรกเธอก็คิดอยากจะถามลี่เฉินซี ตนเองกลับบ้านก่อนได้ไหม ทว่ายังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้เขา ก็ได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง
ผู้หญิงก็คือลูกครึ่ง มีรูปร่างที่สูงเรียว และไว้ผมลอนใหญ่สีดำยาว ระหว่างที่จะเจอะเจอกัน ในมือของซูย้าวจับแชมเปญไว้ แล้วก็สาดไปบนเรือนร่างของผู้หญิง
“โอ้มายก๊อต! ” ผู้หญิงกรีดร้องขึ้นเสียงดัง
บังเอิญที่เธอใส่ชุดกระโปรงยาวสีขาวหิมะ พอแชมเปญสาดลงไป ทำให้ชุดกระโปรงสีขาวเปรอะเปื้อนด้วยน้ำ แล้วทำให้เห็นถึงเสื้อชั้นในที่อยู่ข้างในอยู่ยังไงได้อย่างชัดเจน
รอบทิศมีคนไม่ชอบอยู่ร่วมกัน ผู้ชายมากมายต่างก็จับจ้องมาที่ผู้หญิง นัยน์ตาเคล้าด้วยความคลุมเครือและความซับซ้อน และก็ได้ยินเสียงซุบซิบกันเกิดขึ้น และซุบซิบกันไม่หยุด
ทันใดนั้นผู้หญิงก็คงสีหน้าที่ดีไม่ได้อีกต่อไป แล้วมองซูย้าวด้วยความโมโห ถึงแม้เธอจะก้มหน้ายอมรับผิดไม่หยุด แม้กระทั่งยังอยากจะช่วยผู้หญิงคนนี้จัดการกับชุดกระโปรงที่แปดเปื้อนนี้ กลับถูกผู้หญิงผลักออกด้วยความโมโห
อาจจะเป็นเพราะว่ากำลังโมโหอยู่ จึงทำให้แรงบนมือไม่แน่นอน แรงที่ผลักออกนั้นใหญ่มาก ทำให้ซูย้าวที่ใส่ส้นสูง ข้างหลังไม่มีคน ร่างกายของเธอจึงโน้มไปข้างหลัง จากนั้นก็ล้มลงบนพื้นเลยทีเดียว
พอเกิดแบบนี้ขึ้น คลื่นลมเล็กๆ ที่ใหญ่มากขึ้น และคนที่มามุมดูก็ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ
ซูย้าวพยายามลุกขึ้นจากบนพื้น ผู้หญิงก็พูดขึ้นว่า “ฉันผลักเธอคือความผิดของฉัน ฉันขอโทษแล้ว ทว่าคุณมาชนฉัน แล้วทำให้กระโปรงของฉันสกปรก แล้วคุณไม่ควรขอโทษหน่อยหรือไง? “
ได้ยินแบบนี้ ซูย้าวจึงส่ายหัวไม่หยุด จากนั้นก็รีบพยักหน้าขึ้น ระหว่างที่เธอกำลังกระวนกระวาย ก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง
“นี่คุณกำลังจะท่าทีอะไร? ทำไมไม่พูด? ” ผู้หญิงไม่ได้ยินคำขอโทษ กลับแค่มองเห็นนัยน์ตาคู่สวยของซูย้าวกำลังจับจ้องตนเองอยู่ ทันใดนั้นก็ยิ่งโมโหกว่าเดิม
คนที่อยู่ข้างๆ ก็กอดอกดูอะไรสนุกๆ ไม่มีใครมาอธิบายแทนเลย แค่มุมดูว่าซุบซิบ
ชุดกระโปรงของผู้หญิงเป็นชุดอกลึก พอตรงหน้าอกถูกทำให้เปียก ทำให้เห็นหน้าอกอย่างชัดเจน จนไม่เอามือไปปิดไม่ได้ ใบหน้าที่อับอายแดงก่ำขึ้นมา ความโมโหภายในใจลึกๆ นั้นลุกโชนกว่าเดิม
“คุณนี่มันหน้าไม่อายจริงๆ! “
ผู้หญิงพูดไป ก็ยกมือขึ้นแล้วกำลังจะตบหน้าซูย้าว
ตอนที่เห็นฝ่ามือใกล้จะลงสู้หน้า ก็มีเสียงอันใจร้อนของผู้ชายดังขึ้น จากนั้นก็เดินมา
“Christine stop”
ทุกคนต่างก็มองไปยังทิศทางที่เสียงส่งมา ส่วนผู้หญิง ในขณะที่เสียงของผู้ชายหยุดลง มือที่ยกขึ้นสูง ก็หยุดอยู่กลางอากาศ
ไซม่อนสาวเท้าเดินทะลุผ่านคนมากมาย แล้วเดินมาตรงหน้าผู้หญิง
ข้างหลังของเขา ยังมีลี่เฉินซีที่มีเรือนร่างที่เย็นชา แล้วก็ได้เดินผ่านกลุ่มคน จากนั้นก็ค่อยๆ เดินมาอย่างช้าๆ
ไซม่อนดึงข้อมือที่ยกขึ้นสูงของผู้หญิง ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นถึงตรงหน้าอกของเธอมีคราบเปื้อนน้ำ จึงสามารถคาดเดาถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคร่าวๆ จากนั้นก็กดเสียงต่ำลง “นี่ต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่นอน คุณใจเย็นหน่อย! “
ผู้หญิงกลับพูด “ยังต้องใจเย็นอะไรอีก? เธอชนฉัน แล้วยังทำให้เสื้อของฉันสกปรก ไม่ขอโทษ นี่มันหมายความว่าอะไร? “
ไซม่อนนิ่งงันไป แล้วมองไปยังซูย้าว
เธอไม่รู้จะอธิบายยังไงง จากนั้นก็มีแรงที่มาจากข้างๆ กลับจับข้อมือของเธอไว้ ไม่รอให้เธอตอบสนอง เธอก็ถูกลี่เฉินซีดึงเข้าไปในอ้อมกอด ท่าทีแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการปกป้องเธออย่างใกล้ชิด จากนั้น สายตาที่เย็นชาก็มองไปยังสองคนที่อยู่ตรงข้าม
“คุณคริสตินอยากจะฟังคำขอโทษ ผมจะพูดแทนเธอเอง ทว่า……”
คำพูดของลี่เฉินหยุดชะงักไป สีหน้าของใบหน้าอันหล่อเหลาดูเลือดเย็นเหมือนดั่งน้ำแข็งที่หนาเก้าฟุตทันที นัยน์ตาที่เลือดเย็นนั้นเคล้าด้วยความเย็นยะเยือก “บีบบังคับคนอื่นไปแบบนี้ แล้วยังคิดจะลงไม้ลงมือกับผู้อื่น นี่เป็นนิสัยของคุณคริสตินใช่ไหม? “
“ฉัน……”
คริสตินถึงกับพูดไม่ออก จากนั้นก็ใช้แรงดึงไซม่อน เพื่อแสดงให้เขาพูดจาแทนตัวเอง
และตอนนี้ คนที่มุมดูข้างๆ ก็เห็นว่าลี่เฉินซีออกหน้าออกตา และต่างก็เริ่มเข้าข้างฝั่งซูย้าว
มีคนบอกว่า “ภรรยาของคุณลี่พูดไม่ได้ เป็นใบ้! จะให้เธอขอโทษยังไง? “
“นี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้คนอื่นลำบากใจหรอ? “
คริสตินนิ่งงันไป และดูกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย สีหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวก็ขาวซีด ทำให้เธอยิ่งรู้สึกอับอาย
ไซม่อนก็รู้อย่างกระจ่างแจ้งทันที แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดขึ้น “ประธานลี่ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมเสียมารยาทกับว่าที่ภรรยาของคุณแล้ว! แล้วทำให้คุณผู้หญิงลี่ต้องถูกรบกวน พวกผมเองที่ทำไม่ถูก! “
พูดจบ นัยน์ตาอันเย็นชาของลี่เฉินซีก็มองผู้หญิงตรงกลางอ้อมกอดอีกครั้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและช้า “คุณรู้สึกว่ายังไง? จะอภัยให้พวกเข้าไหม? “
ซูย้าวนิ่งงันไปทันที เขากำลังถามความเห็นของเธอหรอ?!
วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เป็นฝ่ายพาเธอมาร่วมงานเลี้ยงธุรกิจ แล้วยังเป็นฝ่ายถามความเห็นของเธอ
วันนี้ลี่เฉินซีทำให้เธอรู้สึกว่า ทำไมพระอาทิตย์เหมือนจะขึ้นจากทิศตะวันตกล่ะ?