3 วันถัดมา
มาร์วินยืนอยู่ริมหน้าต่างและกำลังมองผู้คนเดินผ่านไปมาอยู่บนถนนในช่วงเย็น มีหญิงสาวคนหนึ่งส่งสายตายั่วยวนมาจากซอยละแวกเดียวกัน
นี่คือห้องที่ดีที่สุดของโรงแรมฟิวส์ฮอส จากที่นี่คุณสามารถมองเห็นพื้นที่สำคัญของเมืองริเวอร์ชอร์อย่างนาฬิกาทรายสีเงินซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของวิหารสีเงิน
ไม่ไกลมากนัก มีเด็กหนุ่มกำลังขโมยกระเป๋าเงินของคนรวย การเคลื่อนไหวของเขาคล่องแคล่วมาก อย่างน้อยเขาต้องมีระดับ 3 ในคลาสโจร
ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับโลกแห่งความเป็นจริง
มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างกันคือ ตัวของมาร์วินเอง
“หน้าต่างสถานะ” เขาพูดในความคิด ชุดข้อมูลปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา
ชื่อ: มาร์วิน
เผ่าพันธุ์: มนุษย์/?
ค่าสถานะ:
ความแข็งแกร่ง -11
ความว่องไว – 16
ร่างกาย – 9
ปัญญา – 14
ความฉลาด -14
ความสามารถพิเศษ – 13(+1)
คลาส: ขุนนางระดับ 3 (150/200)
คลาสนักผจญภัย: ไม่มี
พลังชีวิต: 10/26 (เป็นไข้)
[บทลงโทษ: ค่าสถานะลดลง 70%]
Exp (ค่าประสบการณ์): 40 (ขุนนาง) [ไม่ได้ใช้งาน]
SP (แต้มสกิล) : ไม่มี
AP (แต้มสถานะ) : ไม่มี
สกิลประจำคลาส
การปกครอง – 25
การบริหาร – 31
ความรับรู้ – 16
การเจรจา – 19
การคำนวณ – 28
การขี่ม้า – 30
….
นอกเหนือจากข้อมูลเหล่านี้ซึ่งเหมือนกับในวีดีโอเกมจากชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา โลกที่มาร์วินตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้ต่างไปจากโลกแห่งความเป็นจริงเลย
เขาค่อนข้างมึนงงและสับสน แต่หลังจากผ่านไป 3 วันในการถามและปรับตัว เขายืนยันได้ 3 สิ่ง
อันดับแรก เขาได้ข้ามมาอีกโลกหนึ่งและเข้ามาในเกมที่เขาหลงใหลบนโลกก่อนหน้า “Feinan Continent”
อันดับที่ 2 นอกจากไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงมองเห็นอินเตอร์เฟสเดียวกันในเกม นี่เป็นโลกจริง! ทุกคนมีชีวิตอยู่จริงๆและยิ่งไปกว่านั้น เขาคุ้นเคยกับบางคนเป็นอย่างมาก
อันดับที่ 3 เขามีปัญหาแล้ว ปัญหาที่ใหญ่มากด้วย
ถ้าความทรงจำของเขาไม่ผิดพลาด เขาถูกส่งมาในช่วงก่อนจะเกิด ‘ภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่’ ในเร็วๆนี้ ความสงบสุขตรงหน้าเขาจะเปลี่ยนไปทำให้ทั่วโลกสั่นสะเทือน ยุคที่ปกครองโดยราชวงศ์ที่ 4 ของจอมเวทย์ในเฝยหนานจะถึงคราวสิ้นสุด เทพเจ้าทั้งหมดจะร่วมมือกันทำลายบ่อน้ำเวทมนตร์จักรวาลและใช้ประโยชน์จากดินแดนที่อุดมสมบูรณ์เหล่านี้
สำหรับสิ่งนั้น….
“แผ่นจารึกโชคชะตาที่ 4 โอ้ พระเจ้า……” มาร์วินนำมือมานวดขมับของเขาและพยายามจัดเรียงความคิด
ในความเป็นจริง เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดในอีกครึ่งปีถัดมา ตามด้วยยุคแห่งความโกลาหล แต่เขายังพอมีเวลา
ในฐานะที่เป็นผู้เล่นระดับตำนานซึ่งคุ้นเคยกับสถานการณ์ต่างๆบนโลกใบนี้ดี แม้ว่าครึ่งปีจะเป็นเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิด แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขามีพลังพอที่จะสามารถปกป้องตนเองได้
ปัญหาสำคัญที่สุดตอนนี้ คือ สถานการณ์ปัจจุบันของเขา
เขามีไข้ขึ้นสูงรวมไปถึงร่างกายที่อ่อนแอ นั่นหมายความว่า เขาสามารถตายได้ทุกเมื่อ เพียงเพราะแค่ เขาเป็นหวัด
นั่นทำให้มาร์วินพูดไม่ออก ในขณะที่เขาใช้เวลา 3 วันในการรับรู้ความทรงจำของเด็กชายอายุ 14 ปี มาร์วินเสียใจที่พบว่าร่างกายของเขาไม่ใช่ปัญหาเดียว เขาตกอยู่ในความซึมเศร้าเพราะว่าเขาเพิ่งสูญเสียดินแดนของเขาไปไม่นานมานี้ หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ กลุ่มโนลส์ได้โจมตีดินแดนของเขาและได้ยึดครองปราสาทและเหมืองแร่ของเขา ทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากพึ่งพาลอร์ดของเมืองริเวอร์ชอร์ เขาหวังว่าลอร์ดของเมืองจะส่งกองทัพของเขาไปเก็บกวาดโนลส์กลุ่มนั้น
ในขณะที่หลบหนีออกมาจากดินแดนของเขาไปสู่เมืองริเวอร์ชอร์ เด็กที่น่าสงสารคนนี้เป็นไข้และถึงแก่ความตาย ทำให้มาร์วินถูกย้ายเข้ามาในร่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ ความทรงจำของเด็กหนุ่มที่เขาเข้าร่างมานั้นมีชื่อ มาร์วินเช่นเดียวกัน
การถือกำเนิดใหม่ของวิญญาณนั้นทุกข์ทรมานมาก มาร์วินต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการชักจูงให้เศษวิญญาณที่เหลืออยู่ออกไปและมันมีราคาค่างวด เขาต้องสัญญาว่าจะปกป้องสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนี้ต้องการปกป้อง นั่นคือ
ดินแดนของเขา , น้องชายของเขาและหญิงสาวคนหนึ่ง
นี่เป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนี้หวงแหนมากที่สุดและยอมปกป้องด้วยชีวิตของเขา ความทรงจำของทั้งสองได้ผสานกัน รวมถึงความรู้สึกต่างๆ แม้ว่ามาร์วินจะต้องการยกเลิกสัญญา แต่เขาก็ไม่อาจทำได้
ดังนั้น แม้ว่าภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่จะน่ากลัวขนาดไหน แต่อันดับแรกมาร์วินต้องให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูดินแดนของเขาในเวลา 1 เดือน
มิเช่นนั้น เศษวิญญาณที่เหลืออยู่ของเด็กหนุ่มจะสาปแช่งเขาและทำให้ค่าสถานะของเขาอ่อนแอลงไปอีก นี่เป็นสิ่งที่มาร์วินไม่ต้องการ
ในเกมก่อนหน้านี้ ตัวละครโจรของเขาได้ก้าวขึ้นไปสู่ระดับ [จ้าวแห่งรัตติกาล] ค่าสถานะพื้นฐานของเขารวมกันเกินกว่า 100
ความว่องไวของเขามากกว่า 20!
นี่หมายความว่า เมื่อเขาเป็นโจรระดับ 1 เขาจะได้ครอบครองสกิลติดตัวพิเศษ [ก้าวไร้แรงโน้มถ่วง]
[ก้าวไร้แรงโน้มถ่วง] : สกิลพิเศษที่ได้รับเป็นรางวัลจากค่าความว่องไวเพิ่มขึ้นมาเกินขีดจำกัดภายในระยะเวลาสั้นๆ คุณสามารถเดินไปบนกำแพงโดยไม่ต้องสนใจแรงโน้มถ่วง แต่ต้องไม่เกิน 6 เมตร
เป็นเพราะสกิลติดตัวพิเศษจึงทำให้เขากลายเป็น [จ้าวแห่งรัตติกาล] ในช่วงที่มาร์วินถูกส่งเข้ามา มีผู้เล่นทั้งหมด 11 คนประสบความสำเร็จและกลายเป็นเทพเจ้า และมาร์วินเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่ตอนนี้ ร่างกายนี้…..
มาร์วินไม่สามารถทนดูได้ ลืมเรื่องเกี่ยวกับโนลส์ไปเถอะ แม้แต่ก็อบลินยังสามารถฆ่าเขาได้เลย !
เขาจะสามารถต่อสู้เพียงลำพังได้อย่างไร? เขาเป็นเพียงขยะที่ต้องการคนคอยปรนนิบัติ เขามีคนคอยถอดชุดให้ คอยป้อนอาหารให้ นอกจากการเจรจาและขี่ม้าที่ดูมีประโยชน์เล็กน้อย สกิลที่เหลือนั้นไม่มีประโยชน์ในเส้นทางการผจญภัยของเขาเลย!
อย่างไรก็ตาม มาร์วินยังโล่งใจที่เด็กหนุ่มคนนี้ยังไม่ได้สุ่มเลือกคลาสไป ถ้าเขาข้ามมาในโลกใบนี้และพบว่าตัวเขาเองกลายเป็นจอมเวทย์ขยะ มันจะยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบ่อเวทมนตร์จักรวาลที่จะถูกทำลายในอีกครึ่งปีข้างหน้า นอกจากคนระดับตำนาน จอมเวทย์ทุกคนจะถูกลดระดับลงมาคนละ 1 ขั้น( 5 ระดับ) กฎของจอมเวทย์ในเฝยหนานจะสิ้นสุดลง คลาสอื่นๆจะเริ่มถือกำเนิดขึ้น เหล่าเทพเจ้าจะเริ่มเผยแพร่ลัทธิของตน ลัทธิเหล่านั้นจะแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ไฟสงครามจะถูกจุดขึ้น ทุกชีวิตต้องทุกข์ทรมาน
และจอมเวทย์จะเป็นกลุ่มที่น่าสงสารที่สุด พวกเขาจะเสียคุณสมบัติของพวกเขา ก่อนที่สงครามจะเริ่มต้นขึ้น
………
ก็อก ก๊อก ก็อก!
“เข้ามา” มาร์วินเดินกลับไปยังเตียงของเขา
เด็กสาวที่มีผมสีน้ำตาลเดินเข้ามา เธอดูราวๆอายุ 20 ปี ดูเหนื่อยล้าและชุดเกราะหนังที่ถูกทำความสะอาดแล้วของเธอลายดาบอยู่ หูของเธอค่อนข้างแหลม แต่ไม่มากพอจะชี้ให้เห็นว่าเธอเป็นเอลฟ์สาวบริสุทธิ์
นี่คือพ่อบ้านและคนคุ้มกันของมาร์วินและเป็นคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเขา เขายังจำได้ในคืนที่ไฟไหม้โรงนา ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง เธอวิ่งเข้ามาดึงเขาออกจากกองไฟที่กำลังจะคร่าชีวิตของเขา ช่วยชีวิตเขาจากน้ำมือของพวกโนลส์ เธอหนีมาจากหุบเขาริเวอร์ไวท์เดินทางมายังเมืองริเวอร์ชอร์ ซึ่งมีระยะทางกว่า 5 กิโลเมตรในขณะที่แบกเขาไว้บนหลัง
ชื่อของเธอคือ แอนนาและเธอเป็นลูกครึ่งเอลฟ์ ด้วยข้อจำกัดของเขา มาร์วินไม่สามารถมองเห็นค่าสถานะของเธอได้ แต่อย่างไรก็ตาม จากที่สังเกตการณ์มา 3 วัน แอนนาเป็นนักผจญภัยคลาส 1 มีระดับ 4-5 เธออาจจะเป็นได้ทั้งนักสู้หรือนักธนู แต่นั่นเป็นเรื่องในอดีต อย่างน้อยในความทรงจำของเขา แอนนาไม่ค่อยใช้ธนูและลูกธนูหรือกับดัก
อาวุธของเธอคือดาบและดูเหมือนว่าชุดเกราะหนังของเธอจะเก่ามาก มันไม่ได้รับการบำรุงรักษามาเป็นเวลานาน
“นายน้อย วันนี้ข้าไปที่จวนเจ้าเมืองและถามมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่กลับให้คำตอบแบบเดิม…..”
แอนนาถือดาบไว้ด้านข้าง ใบหน้าของเธอเหนื่อยล้า
“แต่โชคดีที่วันนี้ข้าได้รับเงินมา 20 เหรียญเงิน อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวค่าเช่าในอาทิตย์หน้าและท่านจะได้กินซุปในตอนกลางคืนอีกด้วย”
“พี่สาวแอนนา พวกเรามีเงินทั้งหมดเท่าไหร่?”
มาร์วินเอ่ยถามขึ้น
ใบหน้าของแอนนาเต็มไปด้วยความแปลกใจ นับตั้งแต่ที่มาร์วินตื่นจากอาการไข้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับเธอ
เธอไม่ได้คิดและตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “29 เหรียญเงินค่ะ”
“29 เหรียญเงินไม่พอหรอก” มาร์วินพึมพำขณะที่กำลังขมวดคิ้ว “แม่ของข้าทิ้งกล่องเครื่องเพชรไว้ใช่หรือไม่?”
แอนนาตกใจก่อนที่จะเริ่มโกรธ “นายน้อยมาร์วิน!!! ท่านต้องการที่จะขายของที่ระลึกของแม่ท่านอย่างนั้นรึ?!”
มาร์วินพยักหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง
“ข้าจำได้ว่ามันมีสร้อยคออยู่ในนั้น มันต้องมีมูลค่ามากแน่นอน”
แอนนามองไปยังมาร์วินด้วยสายตาเหลือเชื่อ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง “อย่าบอกนะว่าท่านต้องการไปคาสิโน?”
มาร์วินนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้ต้องการให้แอนนาเข้าใจผิด เขากำลังค้นหาความทรงจำของเขาอีกครั้งและพบว่าเจ้าของร่างนี้มาถึงเมืองริเวอร์ชอร์นี้พร้อมกับเงินบางส่วน แต่ ‘เพื่อน’ ได้หลอกให้เขาไปที่คาสิโน
ผลลัพธ์คือเขาสูญเสียเงินจำนวนมาก นับตั้งแต่นั้นมาสุขภาพของเขาเริ่มแย่ลง อาการเจ็บป่วยเริ่มหนักขึ้น
เห็นได้ชัดว่าคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนเป็นหน้าม้าของคาสิโน เขาหลอกคนอย่างมาร์วินที่มีเงินน้อยและไม่มีผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
“ข้าไม่สามารถมอบให้ท่านได้ นายน้อยมาร์วิน ถ้าท่านต้องการเงิน ข้าจะให้ท่าน” แอนนาตะโกนใส่ “แต่ข้าไม่ยอมให้ท่านทำแบบนี้ ท่านควรรู้ว่านายน้อยเวย์นติดหนี้ค่าเล่าเรียนของสมาคมจอมเวทย์อยู่ 2 เดือน ถ้าพวกเราไม่จ่ายค่าเล่าเรียน นายน้อยจะถูกบังคับให้ออกจากแมกอร์”
“พวกเราเหลือเงินไม่มากแล้วและพวกเราไม่สามารถนำเงินไปทิ้งได้อีก!”
มาร์วินไม่ได้พูดอะไร ได้แต่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดแบบนุ่มๆว่า “พี่สาวแอนนา ข้าถามหาสร้อยคอไม่ใช่ว่าจะเอาไปพนัน แต่ข้าจะใช้มันรักษาตัวข้า”
“รักษา?” สายตาของแอนนาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง
“ร่างกายของข้ายังไม่ดีขึ้นและข้าไม่สามารถออกเดินทางในสภาพนี้ได้ ข้ารู้จักนักบวชแห่งวิหารสีเงิน ตราบใดที่พวกเรามีเงินจ่ายให้เขา เขาจะร่ายเวทย์ [กำจัดเชื้อโรค] และเวทย์ [รักษาบาดแผล] ให้กับข้า ด้วยเหตุนี้ร่างกายของข้าจะกลับไปเป็นปกติ”
มาร์วินอธิบาย “ข้าจะไม่ต้องเป็นขุนนางที่อ่อนแออีกต่อไป”
“ข้าต้องฝึกฝนการต่อสู้เพื่อที่ข้าจะสามารถยึดครองดินแดงของพวกเราคืนมา ข้าต้องการปกป้องทุกคนที่ข้ารัก”
เขายืนขึ้นจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้า และมองออกไปอย่างแน่วแน่
“เชื่อใจข้าเถอะ พี่สาวแอนนา” เขามองไปที่ลูกครึ่งเอลฟ์
แอนนากัดฟัน แต่สุดท้ายเธอยกเอากล่องเครื่องเพชรออกมาจากกระเป๋า ตามที่คิดไว้ มีสร้อยคอไข่มุกอยู่ด้านใน
“ข้าจะไปกับท่าน เพื่อหยุดท่านไม่ให้ถูกหลอกอีกครั้ง…..”
“ไม่จำเป็น” มาร์วินหยิบกล่องเครื่องเพชร พร้อมด้วยสีหน้าจริงจัง
“แอนนา เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เจ้าควรพักผ่อนอยู่ที่นี่ คืนนี้ข้าอาจจะไม่กลับมา เจ้าต้องระมัดระวังตัวด้วย ข้าได้ยินอันธพาล 2 คน ในซอยนี้พูดถึงเจ้า”
“ข้าไม่คิดว่าพวกมันจะมีเจตนาดี แม้ว่าเจ้าจะเป็นนักผจญภัยระดับ 1 แต่พวกมันมีเป็นกลุ่มและแข็งแกร่งยิ่งนัก พวกเราควรระวังตัวให้ดี”
จนกระทั่งมาร์วินออกไปจากห้อง แอนนายังคงนั่งอยู่และจ้องมองไปบนพื้นที่ว่างเปล่า
แปลก!! วันนี้ มาร์วินดูเปลี่ยนไปมาก ที่ผ่านมาเขาเป็นเด็กอ่อนแอ แต่ตอนนี้เขาดูเหมือน…..มีอำนาจ เหมือนกับพ่อของเขา มีความสง่างามไม่เหมือนกับขุนนางใดๆ
ด้านนอกประตู มาร์วินมองไปที่บันทึกระบบและเขาส่ายศีรษะไปมา
“ข้ารู้สึกผิดที่ต้องใช้สกิลกับแอนนา….แต่อย่างไรก็ตาม มันคงเป็นครั้งสุดท้าย”
[เข้าสู่ระบบ]
[การปกครอง(25) เปิดใช้งาน…]
[ความฉลาด ตรวจสอบ…..]
[สกิลเปิดใช้งานสำเร็จ]