บทที่ 205 พวกนั้นอยู่ที่นี่แล้ว
บรรดาคนติดตามของเฉียวเทียนอวี๋พากันขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ท่านจะยิ่งยั่วโมโหคุณชายสามนะขอรับ ถ้าเขารู้ว่าเราอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ข้าเกรงว่าไม่เพียงเขาจะไม่ร่วมมือกับเรา แต่เขาจะหันมาขย้ำเราเสียเองด้วย”
เฉียวเทียนอวี๋เยาะหยัน “เรื่องนั้นจะเกิดก็ต่อเมื่อเขาค้นพบความจริง”
“ขอรับ”
“ไปเสีย”
เฉียวเทียนอวี๋พลันเหลือตัวคนเดียวในห้อง ดวงตาเขาค่อยๆ ถมึงทึง ขอเพียงเฉียวเทียนช่างกลับไปเมืองหลวง เขาก็จะมีหนทางบังคับให้ชายผู้นั้นร่วมมือกับตัวเอง
เขามั่นใจในแผนการของตัวเองยิ่งนัก
ไม่นาน ผู้คนที่ติดตามเฉียวเทียนอวี๋ก็รู้ว่าเฉียวเทียนช่างอาศัยอยู่ที่ไหนหลังจากความลับนี้ถูกเปิดเผย
พวกเขาทิ้งเฉียวเทียนอวี๋ไปยังบ้านของเฉียวเทียนช่างอย่างไม่ลังเล
ขณะมองยังสวนแสนสวยตรงหน้า พวกเขาก็ไม่อยากเชื่อว่าเฉียวเทียนช่างผู้เย็นชาจะแต่งงานแล้ว
ถ้าเฉียวเจิ้งหงรู้เรื่องนี้ เขาจะต้องเดือดดาลถึงขีดสุดแน่นอน เพราะเขายังต้องการจะตักตวงผลประโยชน์จากคุณชายสามแล้วจับเขาแต่งงานเพื่อเพิ่มสถานะให้ตระกูลเฉียว
คนกลุ่มนั้นผลักประตูเปิดแล้วบุกเข้าไปข้างในบ้าน เมื่อเห็นว่ามีคนบุกเข้ามา เฉียวเทียนช่างก็ทำหน้าอึมครึม สีหน้าเขาแสดงความไม่ชอบใจยิ่งกว่าตอนเห็นเฉียวเทียนอวี๋
“นายน้อย โปรดกลับไปที่เมืองหลวงด้วย” ท่าทางพวกเขาจะไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่ดุดันขึ้นมาของเฉียวเทียนช่าง พวกเขาจึงกล่าวต่อไปอย่างนอบน้อม
“ชิงเซวียน เจ้าช่วยไล่พวกเขาออกไปทีได้หรือไม่” เขาไม่อยากอัดคนพวกนี้เพราะจะทำให้มือเขาเปื้อน
“ขอรับ” ชิงเซวียนขานรับ จากนั้นก็เดินไปหากลุ่มคน แล้วเตะพวกเขาออกไปด้วยเท้าเพียงข้างเดียว ไม่ต้องใช้มือแม้แต่น้อย
“คุณชายสาม ได้โปรดกลับไปเมืองหลวงเถอะขอรับ”
เฉียวเทียนช่างไปที่ประตูแล้วมองบรรดาคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เขาเย้ยหยัน “ถ้าพวกเจ้าอยากตาย ก็อยู่ที่นี่ต่อตามสบาย ข้ารู้ว่าเฉียวเจิ้งหงมีจุดมุ่งหมายอะไร แต่เขาคิดผิด ข้า เฉียวเทียนช่าง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชายคนนั้นมานานแล้ว ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทุกคนรู้เรื่องนี้ดีมาตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน อย่ามาทำให้ตัวเองขายขี้หน้าที่นี่เลย ถ้าพวกเจ้ายังกล้าโผล่หน้ามาอีก ต่อไปจะไม่โดนเพียงลูกเตะ” เฉียวเทียนช่างหันหลังแล้วจากไป ไม่แยแสต่อสีหน้าหม่นหมองของคนพวกนั้น
“จะทำอย่างไรดีขอรับ หัวหน้า” ทั้งกลุ่มมองเฉียวเทียนช่างปิดประตูแล้วพากันถามอย่างร้อนใจ
“นายน้อยห่วงภรรยาของเขามากไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็ลักพาตัวนางดีหรือไม่ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าถ้าภรรยาเขาอยู่ที่เมืองหลวง แล้วนายน้อยจะไม่ตามมา” หัวหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้มแสยะ
พวกเขามาที่นี่วันนี้เพื่อแจ้งข่าวกับเฉียวเทียนช่าง ไม่ใช่เพื่อขอความเห็น
“แต่หัวหน้า ทำให้คุณชายสามกับข้ารับใช้นามชิงเซวียนโกรธดูจะไม่เป็นการดีนะขอรับ” คนพวกนั้นกังวล ฝีมือวรยุทธ์ของชิงเซวียนเหนือกว่าพวกตน ถ้าจับคู่กับคุณชายสามด้วยแล้ว พวกเขายิ่งไม่มีทางเอาชนะได้
หัวหน้ากลุ่มฟาดหัวคนที่พูดเช่นนั้น แล้วพูดอย่างรำคาญใจ “เจ้าโง่หรือไร” คิดไม่ออกหรือว่าพวกเขาก็แค่จับสองคนนั้นแยกออกจากกันก็พอแล้ว
ถ้าทั้งสองคนนั้นแยกกัน ที่เหลือก็ไม่ใช่ปัญหา ที่พวกเขาต้องทำคือล่อเฉียวเทียนช่างกับชิงเซวียนออกไป แต่พวกเขาก็ต้องการแผน
“กลับกันก่อนเถอะ”
เฉียวเทียนช่างกลับไปที่สวนแล้วกอดหนิงเมิ่งเหยา “เหยาเหยา จากวันนี้ไป เจ้าต้องพาชิงเซวียนไปกับเจ้าด้วยทุกที่นะ เจ้ารับปากข้าได้หรือไม่” เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของหนิงเมิ่งเหยายิ่งนัก
“ไม่ต้องห่วง ข้าเข้าใจแล้ว”
หนิงเมิ่งเหยาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ด้วยตาตัวเอง คนพวกนั้นมีท่าทีให้ความเคารพต่อเฉียวเทียนช่างอย่างมาก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเพียงใส่หน้ากาก พวกเขาไม่มองเฉียวเทียนช่างอย่างจริงจังเลย
วันนี้พวกเขาต้องขายขี้หน้า ดังนั้นพวกเขาอาจจะกลับมาลักพาตัวนางก็เป็นได้
เขาจึงเป็นกังวลยิ่งนัก
เฉียวเทียนช่างเอื้อมมือออกไปแล้วกอดหนิงเมิ่งเหยาไว้ในอ้อมแขนแน่น “ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครทำร้ายเจ้าเด็ดขาด ชิงเซวียน นับจากวันนี้ไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าห่างจากตัวเหยาเหยาเด็ดขาด”
“ขอรับ นายน้อย” พวกเขาไม่ใช่คนโง่ จึงรู้ดีว่าเฉียวเทียนช่างหมายถึงอะไร
ชิงเซวียนกะพริบตาปริบๆ แล้วครุ่นคิดพักใหญ่ก่อนจะไปที่ห้องตัวเอง สักพักให้หลัง เขาก็ออกมาพร้อมขวดและกระป๋องจำนวนมาก
“คุณหนู พกของพวกนี้ติดตัวท่านไว้ตลอดเผื่อเกิดเหตุร้ายนะขอรับ”
บทที่ 206 โจมตี
ต่อให้ชิงเซวียนและคนอื่นจะจับตามองคุณหนูของพวกเขาได้ทั้งวัน แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นตอนนางอยู่ตามลำพัง เรื่องก็จะยุ่งยาก จึงต้องให้นางเตรียมตัวเผื่อไว้สำหรับเหตุการณ์นั้น
หนิงเมิ่งเหยาไม่มีทางเลือกนอกจากพกของพวกนั้นติดตัวไปด้วย “มีของพวกนี้อยู่ด้วย ข้าก็ไม่สามารถไปได้ทุกที่แล้วสิ ”
“คุณหนู ไม่ต้องห่วงขอรับ ข้าเตรียมสำหรับเรื่องนั้นไว้แล้ว” ชิงเซวียนกล่าวพลางหยิบเอาบางอย่างออกมาอีก ชิ้นนี้เป็นเครื่องประดับ แต่ตรงกลางว่างเปล่า
ชิงเซวียนย้ายผงในขวดเข้าไปในเครื่องประดับแทน แล้วอธิบายวิธีใช้ผงให้หนิงเมิ่งเหยาฟัง ขณะเดียวกัน เขาก็เตรียมยาแก้และยารักษาบาดแผลให้หนิงเมิ่งเหยาไปด้วย
เมื่อเห็นว่าชิงเซวียนเตรียมพร้อมมาอย่างละเอียดรอบคอบเพียงใด เฉียวเทียนช่างก็โล่งใจ ต่อให้นางโดนลักพาตัว เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าชีวิตนางจะตกอยู่ในอันตราย “เหยาเหยา เจ้าต้องพกของพวกนี้ไว้กับเจ้าตลอดเวลานะ”
“ข้ารู้แล้ว” โชคยังดีที่ของพวกนี้ไม่หนักนัก หนิงเมิ่งเหยาจึงไม่ปฏิเสธ
เฉียวเทียนช่างกอดหนิงเมิ่งเหยาแน่น “อย่าทำให้ข้าเป็นห่วงนัก”
“อย่าห่วงเลย ข้าจะพกติดตัวไปทุกหนแห่งที่ข้าไป”
“ดีมาก”
คนพวกนั้นที่บุกเข้ามาในบ้านของเฉียวเทียนช่างก่อนหน้านี้พากันยกโขยงจากไป ต่างรีบกลับไปหาเฉียวเทียนอวี๋ เฉียวโม่มองเขาอย่างไม่มีความเกรงใจแล้วออกคำสั่ง “หาทางล่อนายน้อยออกมาเสีย”
เฉียวเทียนอวี๋กะพริบตาปริบๆ มองเขา จากนั้นก็ผงกศีรษะลง “ข้ารู้ว่าต้องทำเช่นไร”
เฉียวโม่ผงกศีรษะด้วยความพอใจ “ดี ถ้าเช่นนั้น ข้าจะรอฟังข่าวจากเจ้า”
“ขอรับ”
ขณะเฉียวเทียนอวี๋ออกไปคิดแผน เฉียวโม่ก็เตรียมการของตัวเอง ตราบเท่าที่เฉียวเทียนช่างโดนล่อออกมาได้สำเร็จ คนของพวกเขาจะล่อชิงเซวียนออกไปด้วยทางใดสักทาง เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็จะมีโอกาสลักพาตัวหนิงเมิ่งเหยาแล้วนำตัวนางไปยังเมืองหลวง
เฉียวเทียนอวี๋ยิ้มเย้ย พวกนั้นวางแผนไว้แบบนี้นี่เอง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนางผู้นั้น แล้วเฉียวเทียนช่างอยากล้างแค้น ชายหนุ่มย่อมไม่คิดว่าเป็นความผิดเขา แต่เฉียวเทียนอวี๋ไม่รู้ว่าเจตจำนงสวรรค์อยู่เหนือผู้คนเสมอ
เฉียวเทียนอวี๋ไปตามหาเฉียวเทียนช่าง แล้วแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ามีกลุ่มคนบุกไปบ้านของเขา
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่อีก” เฉียวเทียนช่างหมดความอดทนกับเฉียวเทียนอวี๋แล้ว
“ข้าอยากร่วมมือกับท่าน” เฉียวเทียนอวี๋ไม่ลดละ
เฉียวเทียนช่างหรี่ตามองเฉียวเทียนอวี๋ เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกไป
“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าไม่สนใจจะร่วมมือกับเจ้า เจ้าไม่ต้องมาหาข้าอีกแล้ว” จากนั้นเขาก็หันหลังกลับไปที่บ้าน
ขณะที่เฉียวเทียนช่างหันหลังให้ เฉียวเทียนอวี๋ก็เหวี่ยงหมัดใส่เขา
เฉียวเทียนช่างสัมผัสได้ถึงอันตรายจากข้างหลัง เขาหันมาก่อนจะทันคิดแล้วปัดกำปั้นให้พ้นตัว แล้วต่อยเฉียวเทียนอวี๋เสียเอง
ความเจ็บปวดแผ่ไปทั่วบริเวณคอของเฉียวเทียนอวี๋ ตาเขาเห็นดาว เขาจะล้างแค้นสำหรับหมัดนี้สักวัน
เฉียวเทียนอวี๋ดิ้นรนพยายามจะต่อยเฉียวเทียนช่าง การเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งและสีหน้าของเขาช่างน่าขายหน้านัก
“ถ้าจะเป็นเช่นนี้ วันนี้ท่านก็ตายเสียเถอะ ฆ่าเขา!” เฉียวเทียนอวี๋สั่งคนรอบตัว
บรรดาคนรอบตัวเขาล้วนเป็นผู้ติดตามของเขาเอง และคนพวกนั้นฟังคำสั่งเขาเสมอ เมื่อเขาสั่ง ทุกคนก็พุ่งเข้าใส่เฉียวเทียนช่าง
สองกำปั้นยากจะสู้กับคนสี่คน แม้เฉียวเทียนช่างจะเปี่ยมวรยุทธ์ แต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ข้างในบ้าน ชิงเซวียนได้ยินเสียงคนต่อสู้จากข้างนอก เขาขมวดคิ้ว สีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อเขากำลังจะออกไปข้างนอก เขาก็ชะงักไป ถ้าคนพวกนั้นตั้งใจล่อเขาออกไปให้ห่างจากหนิงเมิ่งเหยาเล่า
“ชิงเซวียน ออกไปช่วยเทียนช่าง ข้าอยู่ในนี้ได้” หนิงเมิ่งเหยาได้ยินเสียงต่อสู้ข้างนอกเช่นกัน นางเป็นกังวลว่าเฉียวเทียนช่างจะจัดการด้วยตัวคนเดียวไม่ไหว
ชิงเซวียนมองหนิงเมิ่งเหยาอย่างอับจนหนทาง “คุณหนู…”
“ไม่ต้องห่วงข้า ไปเสียเถอะ ข้าอยู่ข้างในบ้านแบบนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นได้” หนิงเมิ่งเหยายิ้ม นางรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจ
ชิงเซวียนคิดว่านางพูดถูก จึงออกไปช่วยเฉียวเทียนช่าง ในเวลานั้นเอง มีกลุ่มคนแต่งกายสีดำปรากฏตัวอย่างไร้สุ้มเสียง และหมายเล่นงานเฉียวเทียนช่างอย่างดุดันเสมือนว่าต้องการปลิดชีพเขา
เฉียวเทียนช่างและชิงเซวียนหันหลังชนกันแล้วมองยังผู้คนที่ตีวงล้อมอย่างเย็นชา
“กลุ่มใหญ่อะไรขนาดนี้ คิดจะเอาชีวิตข้าหรือ ถ้าเขาทำได้น่ะนะ” เฉียวเทียนช่างพ่นเสียงเยาะ
ทั้งสองเข้าโจมตีพร้อมกัน มีบางคนถูกฆ่าตายเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งรวมถึงเฉียวเทียนช่างและชิงเซวียนเองด้วย