“เย่หรูอี้ ผมมาแล้ว………”
ถังหลินในมือถือไว้ด้วยช่อดอกไม้สด กดออดประตูห้องทำงาน
สำนักงานใหญ่ของหย่วนหยางกรุ๊ปของตระกูลเย่ สำนักงานระดับกลางและระดับสูงทั้งหมด ต่างก็ใช้เทคโนโลยีการจดจำม่านตาของตัวเอง
นั่นก็หมายความว่า จำเป็นต้องสแกนม่านตา ถึงจะเปิดประตูได้
แม้ว่าตรงประตูลิฟต์จะเจอกับถังเฉา ซึ่งเป็นศัตรูหัวใจ ทำให้ถังหลินรู้สึกโกรธมาก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ตามที่เขารู้มา ถังเฉากับเย่หรูอี้ มีเพียงเย่หรูอี้ที่เป็นฝ่ายรักข้างเดียว
ถังเฉาเป็นคนที่มีชาติตระกูล สำหรับเรื่องชายหญิงแล้ว เขาเป็นคนที่เคร่งครัดและระมัดระวังตัวมาโดยตลอด ต่อให้จะไปหาคู่หมั้นของเขา ก็ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น
“หรูอี้………”
ในแววตาของถังหลิน ปรากฏด้วยใบหน้าด้านข้างที่เฉยเมยและหยิ่งผยองของผู้หญิงคนหนึ่ง
โดยเฉพาะดวงตาหงส์คู่นั้น ทำให้คนที่สบตาด้วยรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนราชินี ทำให้คนอยากจะคุกเข่าและเลียฝ่าเท้าให้เธอทันที
แค่คิดถึงว่าผู้หญิงที่สวยสง่าและเย็นชาคนนี้ จะกลายมาเป็นผู้หญิงและภรรยาของตัวเองในไม่ช้า ถังหลินก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุข
ขอเพียงสามารถอยู่กับเย่หรูอี้ ให้เย่หรูอี้มีลูกกับเขา ให้ถังหลินทำอะไรก็ยอม
และแล้ว เขารอไปตั้งนาน เย่หรูอี้ก็ไม่ได้มาเปิดประตูสักที
เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัย เย่หรูอี้ทำอะไรในห้องทำงานกันแน่ ทำไมตั้งนานยังไม่มาเปิดประตู
“น่าจะยุ่งอยู่มั้ง”
ถังหลินคิดในใจ
เมื่อเห็นว่าวันวิวาห์ใกล้เข้ามาแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับเย่หรูอี้ ยังคงไม่คืบหน้าเลย และเธอยังคงเฉยเมยต่อเขาอยู่มาก และไม่แม้แต่จะมองเขาโดยตรง ซึ่งทำให้ถังหลินเป็นกังวลอย่างมาก
เขาพยายามชวนเย่หรูอี้เดทหลายสิบครั้ง คราวนี้ ในที่สุดก็ทำสำเร็จ เย่หรูอี้รับปากที่จะเจอเขา แต่เธอยุ่งมาก สถานที่เจอกันต้องเป็นที่หย่วนหยางกรุ๊ปเท่านั้น
แม้ว่าจะไม่ถือเป็นการเดท แต่ว่ามันก็ทำให้ถังหลินมีความสุขมาก คาดหวังภาพที่จะได้เจอกับเย่หรูอี้
ขณะนี้ ประตูเปิดแล้ว
“หรูอี้ คุณยุ่งเสร็จแล้วเหรอ………”
พรึบ
และแล้ว ถังเฉาที่ยังไม่ทันพูดจบ เสียงพูดเหมือนกับเชือกของว่าวที่ขาดไปเสียอย่างนั้น หยุดชะงักไปทันที
เขายังไม่ทันที่จะส่งยิ้มออกมา แววตาก็ตะลึงงันไปในทันที
ช่อดอกไม้ในมือก็ร่วงหล่นลงบนพื้น กระจายไปทั่ว
“คุณมาแล้วเหรอ?”
หรูอี้ได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดยูนิฟอร์มสีขาวทั้งสุด พูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา
เธอก็ยังคงเหมือนเดิม ยังคงเย็นชา ยังคงสวยงาม แต่ว่า ถังหลินกลับรู้สึกว่าบุคลิกบนตัวเธอนั้นเปลี่ยนไป
แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ละเอียดอ่อนมาก ถ้าคนที่ไม่คุ้นเคยกับเธอมาก่อน ก็จะไม่มีทางรู้เลย
แต่ถังหลินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจน
เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน นอกจากความหยิ่งผยองเย็นชาของเย่หรูอี้แล้ว ก็จะมีท่าทางที่ประจบประแจงเล็กน้อย
กลิ่นหอมจางๆ แทรกซึมเข้าสู่หัวใจ ถังหลินดมแล้ว ก็รู้ว่ามันเป็นกลิ่นของแบรนด์น้ำหอมอะไร
ติดรัก
เป็นน้ำหอมที่ผลิตโดยลี่จิงกรุ๊ป ก่อนที่น้ำหอม angel จะออกสู่ตลาด น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่ขายดีที่สุด
เหตุผลที่ผู้หญิงนิยมใช้น้ำหอมนี้ เพราะว่าน้ำหอมตัวนี้มีตัวเร่งปฏิกิริยา และโดยทั่วไปมักใช้เพื่อเพิ่มความรู้สึกระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง
หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าใบหน้าที่เย็นชาของเย่หรูอี้กลับแฝงไว้ด้วยความแดงเล็กน้อย
ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย เธอหายใจค่อนข้างที่จะหอบ ขาของเธอยังสั่นเหมือนจะยืนไม่อยู่
เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแสร้งทำท่าทางที่เย็นชาเหมือนเมื่อก่อน เธอแสร้งทำได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของถังหลินไปได้
ถังหลินที่แววตาเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง เมื่อได้สติ ก็ถามอย่างลองเชิง หรูอี้ “คุณ……..เป็นไรป่ะ?”
“ไม่เป็นไร”
เย่หรูอี้หันข้างเล็กน้อย เพื่อให้ถังหลินเข้ามา
เมื่อเข้ามาในห้องทำงานของเย่หรูอี้ แววตาของถังหลินก็เหมือนกับสายฟ้า กวาดมองไปโดยรอบ เหมือนกับว่ากำลังมองหาอะไรบางอย่าง
ขณะที่จะมองไปทางโซฟานั้น ทันใดนั้นร่างของเย่หรูอี้ ก็มาขวางอยู่ตรงหน้าเขา
“คุณกำลังมองอะไร?”
เธอโกรธเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
การกระทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้สีหน้าของถังหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากที่เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถาม “ห้องทำงานของคน มีเคยคนเข้ามาหรือเปล่า”
“อย่างเช่น ถังเฉา?”
“ไม่นี่ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ก็มีแต่ฉันคนเดียว”
เย่หรูอี้ตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา มีร่องรอยของความโกรธอยู่ในแววตาของเธอแล้ว
เย่หรูอี้ยิ่งเป็นแบบนี้ ใจของถังหลินยิ่งจมดิ่งลงไป
อาศัยจังหวะที่เย่หรูอี้กำลังอยู่ในระหว่างผ่อนคลาย เขาก็มาที่โซฟาทันที
“คุณทำอะไร?!”
สีหน้าของเย่หรูอี้ดุดันขึ้นมาทันที ดึงตัวเขาเอาไว้ ไม่ให้เขาเดินเข้าไป
แต่ว่าถังหลินที่โกรธจนถึงขีดสุดจะยอมได้อย่างไร?
“หลีกไป!”
เขาตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง ผลักเย่หรูอี้ออก แล้วก็ไปดึงเบาะของโซฟาออกในทันที
โครม!
เห็นของที่ซ่อนอยู่ใต้โซฟา ถังหลินเหมือนถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนได้ซีดขาวไปแล้ว
ชุดกี่เพ้าที่โดนฉีกขาดจนพัง
เป็นตัวที่เย่หรูอี้ชอบใส่เป็นประจำ
ในของมุมโซฟา ยังเห็นรอยเลือดสีแดงจางๆ
แม้จะถูกเช็ดทำความสะอาดแล้ว แต่ว่ายังคงเห็นรอยคราบเลือดที่เช็ดไม่ออกอยู่บ้าง
ขณะนี้ ถังหลินยืนอึ้งอยู่กับที่ ทรุดตัวนั่งลงบนพื้น มองเย่หรูอี้ด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ
“หรูอี้ คุณ…………”
เมื่อเห็นว่าถูกจับได้ ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเย่หรูอี้กลับหายไปแล้ว และสิ่งที่มาแทนที่คือ ความเย็นชาที่เพิ่มมากขึ้น และความเฉยเมยที่ไม่สามารถที่จะเจรจากันได้เลย
“ในเมื่อถูกคุณจับได้แล้ว งั้นฉันก็จะไม่ปิดบังคุณอีก ทั้งหมด ล้วนเป็นเหมือนอย่างที่คุณคิด”
เย่หรูอี้กล่าวอย่างเย็นชา
“ไม่!”
ใบหน้าของถังหลินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แววตาแฝงไปด้วยความโกรธที่ถูกหักหลัง แล้วตะโกนใส่เย่หรูอี้อย่างไม่ยั้ง “ทำไม หรูอี้ผมชอบคุณมากขนาดนี้ ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้?”
เย่หรูอี้ได้รินไวน์ให้กับตัวเองหนึ่งแก้ว จิบมันลงคออย่างช้าๆ จึงได้ยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ฉันทำไมเหรอ? นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน มันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”
“แต่ผมเป็นคู่หมั้นของคุณนะ!”
ถังหลินคำรามอย่างไม่พอใจ
“คู่หมั้น? เห่อๆ……….”
รอยยิ้มของเย่หรูอี้เย้ยหยันมากกว่าเดิม “เราต่างก็ตกเป็นเหยื่อของการเกี่ยวดองของตระกูลใหญ่ คุณคิดว่า เรายังมีความรักที่แท้จริงเหรอ? ฉันก็มีเรื่องส่วนตัวของตัวเอง คุณก็สามารถใช้ชีวิตแบบที่คุณต้องการได้”
“ชีวิตที่ผมต้องการ ก็คืออยู่กับคุณ”
ถังหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าบิดเบี้ยว “เป็นแบบนี้ใช่มั้ย คุณไม่เปิดประตูให้ผมสักที ก็เพราะกำลังจัดการกับร่องรอยพวกนี้?”
“ใช่”
เย่หรูอี้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “เสื้อมันขาด ฉันคงไม่สามารถที่จะใส่เสื้อขาดๆไปเปิดประตูให้คุณ ยังมีคราบเลือดพวกนั้นอีก ฉันก็ต้องเช็ดทำความสะอาด ฉันคิดว่าคุณจะไม่เห็นมัน คิดไม่ถึงก็ถูกคุณจับได้อยู่ดี”
“เพียงแต่ว่า เรื่องที่น่าขายหน้าแบบนี้คุณยังสามารถพูดมันออกมาต่อหน้า มันเท่ากับไม่เหลือหนทางให้เราสองคนแล้ว”
เย่หรูอี้นิ่งไปสักพัก แล้วหัวเราะอย่างเย็นชาอีกครั้ง “หากเป็นฉัน ฉันจะทำเป็นไม่รู้ นี่ถึงเป็นทางเลือกของพวกเราที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยควรทำเมื่อต้องรับมือกับการแต่งงาน! ถังหลิน คุณมันไร้เดียงสาเกินไป! คนอย่างคุณ จะคู่ควรเป็นผู้ชายของเย่หรูอี้ได้อย่างไร?”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้ถังหลินลูกตาเกือบจะถลนออกมาในทันที ร่างกายสั่นไปทั้งตัว
“เลือดนี้เป็นของ………คุณ?”
เขาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
เย่หรูอี้พยักหน้ารับ “ใช่ของฉัน ทำไมเหรอ?”
“เย่หรูอี้!!!”
ถังหลินตะโกนเรียกชื่อของเย่หรูอี้อย่างโกรธจัด ดวงตาแดงก่ำ ราวกับว่าทั้งสองคนเป็นศัตรูที่จะอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันไม่ได้
“ทำไม คุณคงไม่คิดว่าคนที่ฉันควรจะให้ ก็คือคุณมั้ง?”
สายตาของเย่หรูอี้เปลี่ยนไปแล้ว วินาทีต่อมาก็ยิ้มแห้งๆ “อย่าล้อเล่นหน่อยเลย ฉันไม่ชอบคุณ คุณที่อยู่ในสายตาฉัน ก็เป็นเหมือนคนที่น่ารำคาญคนหนึ่ง ที่สลัดยังไงก็สลัดไม่ออก หลินโป๋หลายยังดีกว่าคุณหน่อย”
คำพูดนี้เหมือนดั่งมีด ได้ปักลงตรงกลางใจของถังหลิน ราวกับว่าหัวใจของเขาถูกควักออกไปแล้วหนึ่งชิ้น
หลินโป๋หลายเมื่อก่อนก็ชอบเย่หรูอี้ ทั้งสองเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ
“คือใคร คนคนนั้นคือใคร? ใช่ถังเฉาหรือเปล่า?”
ถังหลินดวงตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยรอยเส้นเลือด คำรามอย่างบ้าคลั่ง
เย่หรูอี้แววตาเฉยเมย “ฉันทำไมต้องบอกคุณ? บอกคุณ แล้วคุณจะทำอะไรได้?”
“เย่หรูอี้……เย่หรูอี้……..”
ถังหลินโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว ความรักความชื่นชมทั้งหมดในอดีต ขณะนี้มันได้สลายหายไปหมดแล้ว
เย่หรูอี้แย่งชุดกี่เพ้าที่ฉีกขาดมาจากในมือของเขา จากนั้นก็โยนมันลงถังขยะเหมือนกับว่าโยนขยะเลย
การกระทำนี้ ยิ่งทำให้หัวใจของถังหลินแหลกสลาย
เขาที่ตาแดงก่ำ พูดกับเย่หรูอี้ด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องเหยียบย่ำตัวเองแบบนี้? หากเรื่องมันถูกเปิดเผย คุณไม่กลัวความสัมพันธ์ของตระกูลถัง ตระกูลเย่จะแตกร้าวเลยเหรอ?”
เรื่องเกี่ยวดองของทั้งสองตระกูล อยู่ในตระกูลถังมันไม่ใช่ความลับ แต่หากเรื่องที่เย่หรูอี้นอกใจก่อนแต่งงาน ถูกแพร่งพรายออกไป มันจะทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวอย่างแน่นอน ถึงขนาดทำให้เกิดศึกสงคราม
เขาพยายามใช้วิธีนี้ทำให้เย่หรูอี้กลับตัวกลับใจ
และแล้ว เย่หรูอี้กลับหัวเราะเยาะ “คุณกำลังขู่ฉันเหรอ? ไม่ต้องเอาตระกูลถังมาขู่ฉัน ผู้นำของตระกูลถังไม่ใช่คุณปู่ของคุณอีกต่อไปแล้ว”
ถังหลินหยุดหายใจไปชั่วขณะ กัดฟันแน่น ราวกับจะกัดฟันให้แหลกละเอียด
“แน่นอน คุณก็จะสามารถเลือกที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป”
เย่หรูอี้พูดด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน และเริ่มแนะนำแผนการให้กับถังหลิน
“ถ้าตระกูลถังรู้ว่าลูกสะใภ้ของพวกเขาไม่สะอาดแล้ว ไม่ว่ายังไงก็จะต้องถอนหมั้น ตระกูลเย่ก็จะพลอยเสียหน้าไปด้วย ปัญหาคือ….. จิตสำนึกของคุณจะยอมให้สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหรือไม่? “
พูดจบ เย่หรูอี้ก็ดื่มไวน์หมดแก้วอย่างใจเย็น มองไปทางถังหลินด้วยท่าทางที่กวนประสาท
“คุณ!”
ด้วยความโกรธ ถังหลินบุกเข้าไปตรงหน้าของเย่หรูอี้ ชูหมัดขึ้นมา อยากจะชกลงไปที่ใบหน้าของเย่หรูอี้
แต่เย่หรูอี้กลับไม่หลบเลย ยังคงมองเขาด้วยใบหน้าที่ประชดประชัน สายตาของเธอ ราวกับเทพธิดาที่อยู่เบื้องบน กำลังก้มมองคนที่ศรัทธาเธออยู่
ด้วยเหตุนี้ กำปั้นของถังหลินก็ลดลงมาในทันที หยุดลงและห่างจากเย่หรูอี้ประมาณหนึ่งเมตร
เขาอยากชกเย่หรูอี้อย่างมาก เธอได้เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นชายของตัวเขาอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะโกรธมากแค่ไหน หมัดนี้เขาก็ชกไม่ลง
“ชกสิ ใช้หมัดชกฉันซิ?”
เย่หรูอี้พูดอย่างท้าทาย ไม่มีความกลัวเลย
ภายใต้สายตาที่โกรธและหวาดกลัวของถังหลิน เธอกลับค่อยๆลุกขึ้นมา
ด้วยรูปร่างที่สูงเพรียว เกือบจะสูงเท่ากับถังหลิน ดวงตาหงส์ที่คมเฉียบ จ้องมองเขาอย่างเย็นชา
“ในเมื่อไม่กล้า ต่อไปก็ยุ่งเรื่องของฉันให้มันน้อยๆหน่อย ไอ้คนไร้ประโยชน์!”
เย่หรูอี้พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“คนไร้ประโยชน์” ทันทีที่คำนี้พูดออกมา ถังหลินก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ราวกับสัตว์ป่าที่คลุ้งคลั่ง ไปจากที่นี่ทันที
หลังจากที่ถังหลินไปแล้ว เย่หรูอี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยกมุมปากขึ้น ราวกับว่าแผนการที่วางไว้ได้สำเร็จแล้ว แล้วยิ้มราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน
ทั้งหมด ล้วนอยู่ในแผนการของเธอ
แกระ!
ประตูห้องทำงานถูกเปิดอีกครั้ง มีผู้หญิงรูปร่างสูงอีกคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับเย่หรูอี้เดินเข้า
ก้มหน้ามองถังหลินที่เดินจากไปอย่างน่าสมเพช แล้วถอนหายใจเบาๆ
“แผนนี้ของเธอโหดใช้ได้เลยนะ ประมาทเพียงเล็กน้อย ตระกูลเย่กับตระกูลถังมีโอกาสที่จะเปิดศึกสู้รบกัน เธอก็จะถูกถังเฉากับหลินชิงเสว่สองคนนี้แก้แค้นในเวลาเดียวกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่หรูอี้ไม่เพียงแต่ไม่กลัว กลับยิ้มอย่างบ้าบิ่น
“ไม่เล่นกับไฟ แล้วจะเกิดใหม่จากเถ้าถ่านได้ยังไง?”