สองสามวันมานี้ถังฮันเจี๋ยภูมิใจมาก
และก็หดหู่มาก
สิ่งที่ภูมิใจก็คือเขาได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำหลังจากที่ถังเหนียนหู่สละตำแหน่ง กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของตระกูลถัง ด้วยเหตุนี้เขายังได้สร้างสถิติใหม่ กลายเป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในเก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตูในช่วงห้าสิบปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ หลินรั่วหวีเป็นผู้รักษาไว้
สำหรับถังฮันเจี๋ยแล้ว ความภูมิใจที่ไม่มีความสงสัยนี้ ก็ทำให้เขารับความสนใจมากขึ้น ทำให้เขาล้ำหน้าไปกว่าคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกว่ามาก
สิ่งที่หดหู่ก็คือ เขาที่เป็นผู้นำคนใหม่ กลับไม่มีอำนาจที่แท้จริงของตัวเอง
เพราะตอนที่ถังเหนียนหู่สละตำแหน่ง ได้รับคำสั่งให้มอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับเขา
คำสั่งนี้ เป็นไปตามคำสั่งของถังเฉา นำทรัพยากรทางธุรกิจทั้งหมดของตระกูลถัง ไปสนับสนุนตระกูลซ่ง ตระกูลซุน ตระกูลต่งซึ่งเป็นตระกูลที่มาจากต่างจังหวัด
ตระกูลประเภทนี้ถังฮันเจี๋ยไม่เห็นมันอยู่ในสายตาเลย หากมาอยู่ในเยี่ยนจิง แม้แต่ตระกูลแถวสองยังเทียบไม่ได้เลย มีสิทธิ์อะไรมาใช้ทรัพยากรของตระกูลถัง?
ดังนั้น ในก้นบึ้งหัวใจ ถังฮันเจี๋ยไม่อยากจะเอาทรัพยากรของตระกูลถังไปให้ตระกูลเหล่านี้เลย แต่ถ้าไม่ทำตาม คุณปู่ของตัวเองก็จะจะลิดรอนสิทธิ์การเป็นผู้นำตระกูลของเขา
ไม่มีวิธีอื่น ทำได้เพียงทำตาม
สุดท้ายแล้ว มันคือการแสดงออกอย่างหนึ่งของตระกูลถังที่มีต่อคนในทีม
ระหว่างราชวงศ์ต้าเซี่ยกับตระกูลถัง ตระกูลถังเลือกตระกูลถัง
แต่ว่าถังฮันเจี๋ยไม่คิดเช่นนี้ เขาไม่คิดว่าถังเฉาที่อาศัยเพียงแค่พลังของตัวเองแล้วจะสามารถสู้กับราชวงศ์ต้าเซี่ยได้
ไร้สาระสิ้นดี!
แต่เมื่อเห็นท่าทีของตระกูลเหล่าที่ปฏิบัติต่อถังเฉาแล้ว ความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย
คนพวกนี้ แท้จริงแล้วเคยประจักษ์กับการเจริญเติบโตของถังเฉา
ประจักษ์กับที่ถังเฉาจากคนที่ซึ่งเคยหายตัวไปห้าปี เป็นบุคคลที่หายตัวไปแล้วก็กลับเข้ามาในเมืองอย่างกะทันหัน ค่อยๆก้าวเดินมาจนวันนี้บัดนี้แม้แต่ราชวงศ์ต้าเซี่ยยังเกรงกลัวเขา
ในก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่มาจากตระกูลที่มีเงินและอิทธิพลในเมืองหมิงจู และเมืองเจียงเฉิง
แต่ตอนนี้ ยอมสวามิภักดิ์ต่อถังเฉาโดยไม่มีข้อยกเว้น
เห็นได้ชัด พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าถังเฉาก็คือเจ้ามังกรแดนเหนือ ก็สามารถทำให้พวกเขายอมสวามิภักดิ์ วิธีการคงพูดไม่ได้ว่าไม่โหดเหี้ยม
ถังฮันเจี๋ยมีภาพลวงตาในใจ ตระกูลถังในวันนี้ คงเหมือนตระกูลซ่ง ตระกูลซุนในเมื่อวาน
ยอมก็รอด ต่อต้านก็ตาย
ง่ายแค่นี้เอง
ดังนั้น การโค้งคำนับนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แค่เพียงฐานะเจ้ามังกรของถังเฉา ก็คู่ควรให้เขาคำนับแล้ว
ถังเฉาก็ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความคิดที่อยู่ในใจของถังฮันเจี๋ย เขาก็ถูกภาพตรงหน้าทำให้ตกตะลึงไปแล้ว
ครู่ใหญ่ เขาก็ยิ้มแล้วพูด “พวกคุณทำอะไร เพื่อนเก่ากันทั้งนั้น ยังจะมาทำแบบนี้อีก”
โดยที่ไม่คิดว่าหูอีซานจะส่ายหัวอย่างเคร่งขรึมและกล่าว “จะขาดพิธีไม่ได้ เราไม่กล้าทำตัวเท่าเทียมกับคุณถัง หากไม่มีคุณถัง ก็ไม่มีพวกเราในตอนนี้”
“ใช่”
ต่งวี่ซู่กล่าวเสริม “เป็นคุณถังที่ให้โอกาสผมเดินมาถึงวันนี้ สามารถพูดได้ว่า คุณถังเป็นผู้มีคุณที่ช่วยชีวิตของผมต่งวี่ซู่ ถ้าไม่มีคุณถังคาดว่าตอนนี้ผมคงทำร้ายตายไปแล้ว”
การต่อสู้ระหว่างครอบครัวนั้นโหดร้ายมาก เพียงแค่คุณประมาท ก็จะถูกทำร้ายจนตาย
ในการต่อสู้ระหว่างตู่วี่ซู่กับพี่ชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)อย่างต่งอี้สิง เขานั้นเป็นผู้เสียเปรียบ
เดิมทีถังเฉาไม่ต้องการแทรกแซงการต่อสู้ภายในของตระกูลต่ง น่าเสียดายที่ต่งอี้สิง เป็นคนที่ทำให้ถังเฉาขุ่นเคืองก่อน ต่งอี้สิงตายไป ถึงจะสามารถสนับสนุนต่งวี่ซู่ขึ้นตำแหน่งได้
ซุนยู่เฟิงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย จากตระกูลแถวสองในเมืองหมิงจู ค่อยๆก้าวเดินมาทีละก้าวจนถึงตำแหน่งในวันนี้
เขาจำได้เลือนรางว่า ตระกูลซุนของพวกเขา เริ่มแรกก็เป็นศัตรูกับถังเฉา
ลูกสาวของเขาซุนเสวี่ย ก็ยังถูกถังเฉาทำให้เสียโสม
อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าความสามารถที่แข็งแกร่ง เขาทำได้เพียงปล่อยวางความแค้น
โอกาสก็เข้ามาอย่างกะทันหัน ที่โชคดีคือ ตระกูลซุนได้คว้าโอกาสครั้งนี้เอาไว้
ถังไม่ได้พูด แต่ได้มองไปทางถังฮันเจี๋ย ยิ้มเล็กน้อย “ยังคงเป็นคุณชายถังที่ละเอียด รู้จักเข้าหาเหล่าตระกูลที่มีศักยภาพ”
ถังฮันเจี๋ยปาดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วตอบซ้ำๆ “สมควรแล้ว สมควรแล้ว”
“มา คุณถัง ผมดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว”
หูอีซานเข้ามาดื่มให้กับเขา
“ผมก็ขอดื่มให้กับคุณถังหนึ่งแก้ว”
เซี่ยสิงจู๋ก็ลุกขึ้นมาดื่มให้เขา
“ยังมีตระกูลต่งของผม”
“ผมก่อน”
“คุณดื่มไปแล้ว”
“อย่าแซงคิว!”
ผู้นำแต่ละตระกูล ตื่นเต้นจนทะเลาะกันแล้ว
“เห่อๆ”
จ้าวเย็นหรานยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ผู้นำทุกท่านเถียงกันไปก่อนนะ ฉันขอดื่มให้ก่อนแล้ว”
หลังจากพูดจบ ก็เดินชม้อยชม้ายมาถึงตรงหน้าของถังเฉา ยิ้มพร้อมกับพูด “คุณถัง ฉันขอดื่มให้กับคุณค่ะ”
ถังเฉารับมือไม่ไหวแล้ว รีบดื่มไปหมดแก้ว
จากนั้นจึงพูดขึ้น “มีโอกาสทุกคน ผมดื่มหมดแก้วแสดงความเคารพ”
พูดจบ ก็ดื่มหมดแก้ว
ทุกคนต่างปรบมือดีใจ
“คุณถังคอแข็งมาก!”
ระหว่างที่พวกเขากำลังดื่มให้กันและกัน ถังฮันเจี๋ยตะลึงไปแล้ว พวกเขาประจบประแจงถังเฉามากขนาดไหนเนี่ย?
ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงคำเตือนสามข้อของถังเหนียนหู่ “ฮันเจี๋ย แกจงจำไว้ ตระกูลถังของเราเคยล่วงเกินถังเฉาไปแล้วครั้งหนึ่ง ห้ามล่วงเกินครั้งที่สองเป็นอันขาด ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร ก็ต้องเป็นดาบที่คมที่สุดของคุณถัง”
ตอนนี้ เขาเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
ตอนนี้ยังมีจุดหนึ่งที่เขายังไม่มั่นใจ นั่นก็คือจะมีพลังที่จะสู้กับราชวงศ์เซี่ยได้
หลังจากที่ดื่มกันพอประมาณ ทุกคนเริ่มเมาเล็กน้อย มีแต่ถังเฉา ยังคงไม่เมา
เซี่ยสิงจู๋จับมือถังเฉาอย่างตื่นเต้น ครึ่งเมาครึ่งตื่นแล้วพูดว่า “คุณถัง บุญคุณอันใหญ่หลวงที่มิอาจกล่าวเป็นคำพูด เมื่อก่อนการเคลื่อนย้ายเข้ามาในเยี่ยนจิง เป็นสิ่งที่ผมไม่กล้าคิดเลย คุณเป็นคนให้ความหวังกับผม “
“ตระกูลต่งของผมก็เหมือนกัน”
“……”
ตระกูลอื่นๆก็พูดในแบบเดียวกัน
ถังเฉาไม่ได้พูด แต่ว่าใบหน้าก็ได้ปรากฏขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่จางๆ
เงยหน้ามองไปนอกหน้าต่าง พระจันทร์สว่างไสวลอยอยู่ท้องฟ้า
การติดตามของตระกูลที่มากมายนี้ ไม่ได้เกินความหมายของเขา
อย่างไรก็ตาม เขามีความหดหู่เล็กน้อย เมื่อห้าปีก่อนหนุ่มน้อยที่ไม่ประสาคนนั้นที่มีใจอยากที่จะมอบความสุขให้กับหญิงสาวที่เขาเคยทำร้ายอย่างหนัก ค่อยๆเติบโตจนมีอำนาจล้นฟ้า ถึงขั้นอยู่ใต้คนนับหมื่น
มีอำนาจล้นฟ้า คนติดตามนับหมื่น มีเงินทองที่นับไม่ถ้วน
เขาปลดประจำการนานแล้ว แต่ในกองกำลังทหารยังคงเชื่อว่าเขาเป็นเทพ
เขาไม่ใช่คนในโลกธุรกิจ ไม่ใช่คนในโลกของศิลปะการต่อสู้ แต่เขากลับมีบริวารที่เป็นนักธุรกิจ บริวารที่มีทักษะศิลปะการต่อสู้มาเป็นผู้ติดตาม
เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีเงินมากแค่ไหน เพราะเงินสำหรับเขา มันเป็นเพียงแค่ตัวเลข
เขาออกจากยุทธภพที่วุ่นวายนานแล้ว แต่ในยุทธภพยังคงเล่าขานตำนานของเขาอยู่
วิ่วๆๆๆ!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงไซเรนดังอยู่ข้างนอก เสียงดังมากจนห้องวีไอพียังได้ยิน
ถังฮันเจี๋ยยิ้มๆ “น่าจะที่ไหนสักแห่งในเยี่ยนจิงมีเกิดเรื่องมั้ง สองสามวันนี้เยี่ยนจิงไม่ค่อยจะสงบ”
แล้วหันหน้าไปพูดกับคนที่กำลังสนุกสนาน “พวกคุณไม่ต้องหยุด สนุกกันต่อเลย”
วิ่วๆๆๆ!
แต่แล้ว เสียงไซเรนยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้
ถังเฉาที่คีบกับทานอย่างสบายอกสบายใจ ยิ้มๆ “ดูแล้วน่าจะมาที่สโมสรเก้ามังกร”
“คุณถังพูดเล่นแล้ว”
ถังฮันเจี๋ยกล่าว
ป้าง!
แต่แล้ว เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด ประตูห้องวีไอพีก็ถูกถีบออก
“ใครคือถังเฉา?”
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าสายตาเย็นชา ก็เข้ามาประกบอยู่ที่ข้างกายถังเฉา ไม่พูดไม่จา ก็หยิบกุญแจมือออกมา คล้องไปที่แขนของถังเฉา
ทันใดนั้นสีหน้าของถังฮันเจี๋ยก็มืดมนอย่างมาก คำรามเสียงดัง “หวางเจี๋ย คุณทำอะไร? คุณรู้หรือเปล่าว่าคนที่คุณจับเป็นใคร?”
เห็นได้ชัดว่าถังเจี๋ยนั้นรู้จักเขา และก็รู้ฐานะของเขา
หัวหน้าใหญ่ของสถานีตำรวจตระเวนเมือง
การคำรามนี้ ทันใดนั้นก็ได้ทำให้คนที่เมาสร่างเมาไปไม่น้อย
หูอีซาน ต่งวี่ซู่และคนอื่นเมื่อเห็นเข้า ก็โมโหทันที
“พวกแกใจกล้ามากเลยนะ กล้ามาจับคุณถัง!”
“ยังไม่รีบปล่อยคุณถังอีก!”
และแล้วหวางเจี๋ยกลับตะโกนด้วยสีหน้าที่ดุร้าย “แม่งเอ๊ยหุบปากให้หมดเลย!”
เขาใช้สายตาที่ดุร้ายกวาดมองโดยรอบ แล้วพูดขึ้น “ไอ้หมอนี่ทำผิดข้อหาร้ายแรง แม้แต่นายใหญ่ข้างบนยังตื่นตระหนก ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก พวกคุณหากมีใครกล้าขัดขวาง หรือมีความคิดที่จะช่วยเขา ก็จะมีโทษเหมือนกับเขา รอติดคุกตลอดชีวิตได้เลย!”
โครม!
คำพูดนี้ราวกับเสียงฟ้าร้อง ทำให้ทุกตกใจจนพูดไม่ออก
ท่าทีของถังฮันเจี๋ยก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ก่อนอื่นให้ตัดเรื่องที่มีคนเจตนากลั่นแกล้งถังเฉาออกไปได้เลย ไม่ว่าจะกลั่นแกล้งกันยังไง ก็เป็นแค่เรื่องทะเลาะเล็กๆน้อยๆ เมื่อก่อนเขาเองก็เคยให้หวางเจี๋ยไปจัดการคนที่ล่วงเกินเขา มากสุดก็ติดคุกสิบวันหรือครึ่งเดือน ก็ปล่อยตัวแล้ว มีที่ไหนกันที่ทำให้นายใหญ่ตื่นตระหนก?
มีเพียงเรื่องใหญ่เท่านั้น เบื้องบนถึงได้จับตาดูด้วยตัวเอง
ขณะนี้ ถังฮันเจี๋ยก็ตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องนี้แล้ว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เดินไปตรงหน้าของหวางเจี๋ย อดทนยิ้มแล้วกล่าว “หัวหน้าใหญ่หวางคุณจะจับคนน่ะได้ แต่ก็ควรบอกก่อนว่าเขาทำผิดข้อหาอะไร มีที่ไหนที่ไม่บอกไม่กล่าวก็มาจับคน?”
และแล้ว ครั้งนี้หวางเจี๋ยไม่ได้ไว้หน้าเขาเลย เพียงแค่กล่าวอย่างเย็นชา
“ไม่อาจบอกได้”
“……”
ใบหน้าที่หล่อเหลาของถังฮันเจี๋ยปรากฏขึ้นด้วยไฟโกรธ
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงผู้นำของตระกูลถัง ไอ้หวางเจี๋ยคนนี้ กลับไม่ให้เกียรติเขาเลย
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะกลัวว่าจะเป็นการเปิดเผยฐานะของถังเฉา เขาอยากที่จะบอกกับหวางเจี๋ยคนที่คุณจะจับคือเจ้ามังกร
ลูกน้องของหวางเจี๋ยคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับถังฮันเจี๋ยได้กระซิบบอกเขา “ผู้นำถัง คุณอยากถามเลย คดีนี้เบื้องบนมีคำสั่ง ห้ามรั่วไหลแม้แต่คำเดียว แม้แต่เรื่องที่เขาทำผิดก็ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เช่นนั้นมันจะทำให้เกิดหวาดกลัวไปทั้งเมือง…….”
“หวาดกลัวไปทั้งเมือง?”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ถังฮันเจี๋ยก็ตกใจจนร่างกายของเขาก็เย็นโดยไม่มีเหตุผล
ต้องทำผิดรุนแรงขนาดไหนนะ ถึงทำให้มีผลกระทบที่ใหญ่ขนาดนี้?!
ถังฮันเจี๋ยเดินออกไปดูข้างนอก เมื่อเห็นแล้ว ถึงกับตกใจมากจนต้องรีบสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ
รถ
จอดเต็มไปด้วยรถตำรวจ
สโมสรเก้ามังกร ถูกล้อมรอบไปด้วยรถตำรวจ!!!
แม้แต่การกวาดล้างจับกุมวงการมาเฟียขนาดใหญ่ ยังไม่ใหญ่เท่าการจับกุมของคืนนี้เลยมั้ง?
ตรงประตูของสโมสรเก้ามังกร ยังยืนอยู่ด้วยชายวัยกลางคนหลายคนที่เต็มไปด้วยพละกำลัง
เมื่อถังฮันเจี๋ยมองอย่างละเอียดแล้ว เขาก็สั่นไปทั้งตัว
ผู้กำกับของหลายเมือง ต่างก็มาแล้ว!
เพียงแค่มาจับถังเฉาคนเดียว?
หูอีซาน ต่งวี่ซู่และคนอื่นๆก็ตกตะลึงกันไปแล้ว ได้แต่ยืนมองดูถังเฉาถูกนำตัวไป
อย่างไรก็ตามถังเฉากลับไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว ห้องลงทัณฑ์ของกองทัพปราณมังกรเขายังเข้าออกเป็นว่าเล่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับนี้ มันไม่ได้ต่างไปจากการเดินเข้าไปในสวนหลังบ้านของตัวเอง
“ขึ้นรถ”
หวางเจี๋ยกล่าวอย่างเย็นชา
ถังเฉาไม่ได้ต่อต้าน ขึ้นไปบนรถตำรวจ
หวางเจี๋ยนั่งอยู่ตรงข้ามเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยไอเย็น
ถังเฉากลับยิ้มๆ “ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว สามารถบอกได้แล้วมั้งว่าทำผิดอะไร?
รูม่านตาของหวางเจี๋ยเปล่งไปด้วยแสงอันเยือกเย็น ถามอย่างน่ากลัว “คุณหนูของตระกูลเย่ คุณเย่หรูอี้ ถูกนายทำให้ด่างพร้อยใช่มั้ย?”
……
ในเวลาเดียวกัน ที่เยี่ยนจิงในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง
ถังหลินกำลังเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ราวกับว่ากำลังรออะไรอยู่
กริ๊งๆ!
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยโทรเข้ามา
ถังหลินรีบรับมันอย่างดีใจ ได้ยินเสียงที่ไม่แยแสของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย
“ปลาติดเบ็ดแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หน้าที่บูดเบี้ยวของถังหลินก็ยิ้มขึ้นมาทันที
“ถังเฉา เกมจะมังกรนี้ ฉันจะดูว่านายจะเอาตัวรอดได้ยังไง!”
“เห่อๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ…………”
ในความมืด ดังขึ้นมาด้วยเสียงที่น่าสะพรึงกลัว