“ฉันต้องการเข้าไป” เจี่ยนอีหลิงพูด ชี้ไปยังบริเวณที่รูดบัตรเข้า
“ก็พูดไปแล้วว่าเธอเข้าไปไม่ได้ เธอต้องดำเนินการตามกระบวนการ ถ้าทุกคนทำเหมือนกับพวกเธอแม่ลูก ทุกสิ่งก็จะยุ่งเหยิง เธอพาแม่เธอกลับไปเร็วๆ ยังไงก็ไม่มีผลลัพธ์อะไรสำหรับพวกเธอในการสร้างปัญหาแบบนี้” รปภ.เกลี้ยกล่อม
“เธอไม่ใช่แม่ฉัน” เจี่ยนอีหลิงอธิบาย
“ไม่ใช่แม่เธอได้ยังไง เธอสองคนมาด้วยกัน ฉันเห็น ไม่เช่นนั้นเธอที่เป็นนักเรียนมัธยมต้นจะที่สถาบันวิจัยของเราทำไม อย่าหลอกฉัน เธอต้องการที่จะถือโอกาสผ่านฉันเข้าไปงั้นเหรอ”
รปภ.ยืนยันว่าพวกเธอมีความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกกันระหว่างเจี่ยนอีหลิงกับผู้หญิงคนนั้น
“ฉันมีนัดกับคนที่อยู่ข้างใน” เจี่ยนอีหลิงมีใบหน้าเรียบเฉย เป็นสภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่บนพื้น
“แล้วถ้าเธอไม่ได้นัดหมายกับคนที่อยู่ข้างในล่ะ เธอจะโกหกไปทำไม”
รปภ.ดูแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไร น้ำเสียงของเขานั้นก็ยิ่งสิ้นหวัง
มีนัดหมายกับคนข้างในนะเหรอ เหตุผลนี้ไร้เหตุผลเกินไป คนในสถาบันจะนัดหมายกับเด็กนักเรียนมัธยมต้นไปได้อย่างไร
หลังจากที่พูดจบ รปภ.ก็มองไปยังผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นอย่างช่วยเหลืออะไรไม่ได้ และคิดในใจว่าถ้าพ่อแม่ไม่สอนลูกให้ดี ลูกสาวก็จะหลงผิดได้
เฮ้อ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ในเวลานั้น คนจากในสถาบันวิจัยก็ส่งข้อความถึงเจี่ยนอีหลิงถามถึงตำแหน่งของเธอว่า
[Dr.FS คุณอยู่ที่ไหน]
เจี่ยนอีหลิงตอบกลับข้อความว่า [ประตู เข้าไม่ได้]
อีกฝ่ายนั้นก็ตอบกลับเจี่ยนอีหลิงในทันที [รอสักครู่ ผมจะไปรับตัวคุณที่ประตู]
หลังจากที่รอไปประมาณห้านาที ประตูของสถาบันก็เปิดออก
ทันทีที่ประตูเปิดออก คนแรกที่มีปฏิกิริยาก็คือผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้น
เธอกระโดดขึ้นและมุ่งตรงไปยังประตู
รปภ.ตอบสนองในทันทีด้วยการคว้าตัวผู้หญิงคนนั้นไว้
ผู้หญิงคนนั้นดิ้นรนอย่างรุนแรง ร้องไห้ และส่งเสียงดัง “ปล่อยฉัน ปล่อย ฉันจะไปคุยกับหัวหน้าของคุณ”
ชายร่างสูงสวมเสื้อกาวน์สีขาวและแว่นตากรอบทองเดินออกมาจากประตู
เขามีรูปร่างผอมบางและมีหน้าตาสุภาพ
ผมของเขาตัดสั้นเกรียน ผิวของเขาซีด บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยู่แต่ในสถาบันวิจัยตลอดปี
“หมอ ช่วยสามีฉัน หมอ ช่วยสามีฉันด้วย”
หญิงคนนั้นแม้ว่าจะถูกรปภ.หยุดไว้แต่เธอก็พยายามที่จะพุ่งเข้าไปหาเฉิงอี้
เหมือนเสือชีต้าห์พุ่งเข้าตะครุบเหยื่อ
เฉิงอี้มองผ่านผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไป และใช้นิ้วชี้ของเขาดันแว่นขอบทองขึ้นด้วยความเคยชิน
“เกิดอะไรขึ้น” เฉิงอี้ถามรปภ.
“คุณผู้หญิงคนนี้พาลูกสาวมาที่นี่และขอยารักษาโรคให้สามีของเธอ เธอกล่าวว่าเธอได้ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของสถาบันไปเรียบร้อยแล้ว” รปภ.อธิบาย
จากนั้นเฉิงอี้ก็อธิบายให้กับผู้หญิงและเจี่ยนอีหลิงว่า “พวกเธอสองคนใจเย็นๆ ถ้าพวกเธอได้ลงทะเบียนไปเรียบร้อยแล้วและก็ยังไม่มีใครติดต่อพวกคุณ นั่นหมายความว่าคนไข้ไม่เข้ากับเงื่อนไขการทดลองทางคลินิคของยาใหม่ของพวกเรา”
ผู้หญิงคนนั้นไม่รับฟังแต่อย่างใด “คุณโกหก คุณพูดว่าคุณไม่คิดเงินแต่จริงๆแล้วคุณแอบรับผลประโยชน์อย่างลับๆ ใช่ไหม คุณให้โควต้ากับคนที่จ่ายเงินให้อย่างลับๆ ใช่ไหม”
เฉิงอี้รู้สึกปวดหัว ดังนั้นเขาจึงได้แต่เพียงบอกกับรปภ.ว่า “ถ้าไม่ได้ผลก็กรุณาเรียกตำรวจ ผมยังคงมีแขกคนสำคัญ”
เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะเรียกตำรวจ ผู้หญิงคนนั้นก็เงียบลงไปมากกว่าเดิม แต่ก็ยังคงยืนอยู่ที่ประตูและปฏิเสธที่จะจากไป
หลังจากที่เฉิงอี้มองไปรอบๆประตู แต่ก็ไม่เห็น Dr.FS ที่กล่าวว่าเขาได้มาถึงประตูแล้ว
เฉิงอี้ถามรปภ. “นอกจากสองแม่ลูกนี้ มีใครคนอื่นมาที่นี่อีกไหม”
รปภ.ส่ายหน้า “วันนี้ นอกจากคนในสถาบันวิจัยของเรา ก็มีเพียงแต่สองแม่ลูกคู่นี้”
“นั่นก็แปลก เห็นได้ชัดเจนว่าเขาส่งข้อความมาถึงฉัน พูดว่าเขาได้มาถึงประตูแล้ว…”
เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 61: สถาบันวิจัย 2
Posted by ? Views, Released on January 1, 2022
, เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ
เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง
ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป
เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น
เรื่อยๆ
อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ
ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ
Recommended Series
Comment
Facebook Comment