แต่ปกติหลี่โม่ก็ไม่ได้แสดงออกถึงอะไรที่พิเศษ ปกติก็ไม่เห็นเขาอ่านหนังสือเรียนรู้อะไร วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลแล้ว กู้หยุนหลันคิดว่าหลี่โม่ไม่น่าจะเข้าใจความรู้ที่ลึกซึ้งของคณะเศรษฐศาสตร์
แต่ว่าตอนนี้หลี่โม่กลับแสดงออกว่ามีความรู้เข้าใจถึงเศรษฐศาสตร์ นี่ทำเอากู้หยุนหลันอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
สายตาของจูเจียนเฉียงกวาดมองหลี่โม่และกู้หยุนหลัน จากนั้นก็ยื่นมือออกมาจัดระเบียบเสื้อผ้าอย่างเคร่งขรึม
เอาความกระตือรือร้นที่เข้าร่วมการตอบคำถามออกมา จูเจียนเฉียงพูดเสียงดังว่า “นายก็เพียงแค่สามารถพูดชื่อเต็มของซูเปอร์ไซเคิลออกมาก็เท่านั้น ฉันไม่รู้ว่านายมีอะไรให้ภูมิใจ ถ้าหากว่านายมีการวิจัยเกี่ยวกับซูเปอร์ไซเคิล พวกเราสามารถมาหารือกันได้ หารือเชิงวิทยาล้วนๆ!”
“ไม่มีปัญหา สามารถพูดคุยหารือเชิงวิทยากับนายได้ ให้ฉันดูสิว่าด็อกเตอร์อย่างนายนั้นเป็นพวกเข้าทางลัดรึเปล่า ได้ยินว่าคนเก่งที่กลับมาจากเมืองนอก ต่างก็อ่อนทั้งนั้น เอาประกาศนียบัตรปลอมแปลงมานั้นยิ่งเยอะ ฉันต้องเช็คให้ดีเพื่อหยุนหลันของฉัน จะได้ไม่รับคนเก่งจอมปลอมกลับไป”
ผู้จัดการแอบชื่นชมความรู้ลึกซึ้งของหลี่โม่ แต่เมื่อคิดถึงเปป้าหมายที่ตัวเองมา ผู้จัดการก็หน้าด้านแทรกบทสนทนาของหลี่โม่และจูเจียนเฉียง
“แค่กๆ ขออนุญาตขัดหน่อยครับ การหารืออภิปรายกันนั้นเสียพลังสมองและพลังงานเป็นอย่างมาก จะต้องมีเครื่องดื่มและอาหารว่างมาเติมเต็ม คุณหลี่โม่ครับ เชิญคุณเลือกเครื่องดื่มและอาหารว่างที่ต้องการหน่อยครับ”
ผู้จัดการยื่นเมนูอิเล็กทรอนิกส์ให้กับหลี่โม่ แล้วพูดแนะนำอย่างใส่ใจว่า “ชาและกาแฟล้วนเป็นของชั้นสูงทั้งนั้น แน่นอนว่ายังมีเครื่องดื่มผลไม้คั้นสด สิ่งนี้คุณผู้หญิงมักจะชอบมากกว่าครับ อาหารว่างมีแบบสไตล์จีนและตะวันตก ขนสไตล์จีนทำมาจากเชฟห้องเครื่องสำหรับขนมโดยเฉพาะ ขนมสไตล์ตะวันตกทางเราเชิญเชฟขนมที่มีชื่อเสียงมาจากฝรั่งเศส เคยทำงานที่ร้านอาหารมิชลินสามดาวมาก่อน เป็นขนมรสชาติดีที่สุดในวงการขนมแน่นอนครับ และแน่นอนว่า ถ้าหากว่าคุณหลี่โม่ต้องการ ผมสามารถขนย้ายอุปกรณ์ทำขนมมา ให้เชฟจีนและตะวันตกทั้งสอง ทำการแสดงการอบขนมต่อหน้าคุณ นั่นก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากครับ พวกนี้ล้วนเตรียมไว้ให้คุณโดยเฉพาะเลยครับ”
จูเจียนเฉียงฟังอยู่จนอยากจะคว่ำโต๊ะ ตัวเขาเป็นถึงศิษย์ของผู้ได้รับรางวัลโนเบล ยังไม่ได้รับการต้อนรับแบบนี้ หลี่โม่มันมีสิทธิ์อะไร มีสิทธิ์อะไร!
จิตใจรู้สึกไม่เป็นธรรมสุดๆ ทำให้จูเจียนเฉียงอิจฉา ที่อิจฉาเพราะว่าเกิดความโกรธเกลียดต่อหลี่โม่ จึงยิ่งอยากจะเหยียบย่ำหลี่โม่ลงแทบเท้ามากกว่าเดิม
กู้หยุนหลันขยับไปข้างกายหลี่โม่ ห่างจากใบหน้าของหลี่โม่เพียงนิดเดียว
เกือบจะชิดติดกันแล้ว ในตอนที่ทั้งสองหายใจ ก็สามารถได้กลิ่นลมหายใจของอีกฝ่าย
จูเจียนเฉียงที่มีความอิจฉาอยู่ในใจ เห็นหลี่โม่และกู้หยุนหลันที่พลอดรักกัน รู้สึกว่าในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายความรักไปในทันที
ที่สำคัยคือหลี่โม่ที่ทำเอาจูเจียนเฉียงโมโหแทบตาย และรักแรกพบของจูเจียนเฉียงอย่างกู้หยุนหลัน ทำให้เกิดกลิ่นอายแบบนี้ขึ้นมาด้วยกัน นี่ทำให้จูเจียนเฉียงไม่สามารถรับได้
หลับตาลง พิงลงไปที่โซฟาอย่างหนัก จูเจียนเฉียงตัดสินใจว่าไม่ดูดีกว่า และทำการนึกคิดถึงความสำคัญของความรู้ก่อน เดี๋ยวค่อยทำการจัดการทิ้ง แล้วใช้น้ำลายทำให้หลี่โม่จมลงไปซะ
“เธออยากดื่มอะไร? ฉันเห็นว่าเธอไม่ค่อยชอบดื่มชาและกาแฟ ไม่ก็เอาน้ำผลไม้แล้วกัน ส้มกับแก้วมังกรและอโวคาโดปั่น เป็นยังไง?” หลี่โม่ถามเสียงเบา
ใบหน้ากู้หยุนหลันมีรอยยิ้มอย่างเขินอาย แล้วพยักหน้าเบาๆ “ได้สิ นายก็ดื่มอันนี้แล้วกัน พวกเราดื่มแบบเดียวกัน”
อาจจะเพราะคู่รักต่างก็คาดหวังให้ตัวเองและคนรัก กินดื่มใช้ของแบบเดียวกัน ตอนนี้กู้หยุนหลันเองก็คิดแบบนี้
“โอเค งั้นก็เอาอันนี้ละกัน ส่วนขนมที่จะกิน ก็ให้เชฟทั้งสองเลือกทำที่ถนัดที่สุดมาแล้วกัน ฉันเชื่อฝีมือของพวกเขา ส่วนคนตรงข้าม ให้น้ำเปล่ากับเขาก็พอแล้ว ขนมก็ยิ่งไม่ต้องการเลย เดี๋ยวเขาก็จะไปแล้ว สั่งไปก็เปลือง”
จูเจียนเฉียงฟังแล้วโมโหขึ้นมาในทันที
แบบนี้มันมากเกินไปแล้ว พวกนายดื่มน้ำผลไม้กินขนม พลอดรักกัน แล้วให้น้ำเปล่ากับฉัน นี่มันอยากจะให้ฉันจูเจียนเฉียงหมดแรงใจ หงุดหงิด แล้วไม่สามารถหารืออภิปรายกับนายใช่มั้ย
“ทำไมของฉันถึงเป็นน้ำเปล่า แล้วทำไมไม่ให้ของว่างกับฉัน”
จูเจียนเฉียงไม่มีราศีที่ควรมีแล้ว แต่กลับเหมือนเป็นเด็กที่แย่งของเล่น “เอากาแฟบลูเมาท์เทนมาให้ฉันแก้วหนึ่ง ต้องเป็นของแท้ ที่ไม่แท้แค่คำเดียวฉันก็รู้แล้ว ส่วนอาหารฉันจะเอาเหมือนกับของพวกเขา”
“คุณจูครับ กาแฟบลูเมาท์เทนสามารถให้ได้ ขนมที่ให้กับคุณหลี่ ไม่สามารถให้กับคุณได้เหมือนกันครับ สามารถให้คุณเพียงแค่ขนมที่เชฟทั่วไปทำขึ้นครับ” ผู้จัดการพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมีมารยาท
“แม่งเอ้ย คนอารมณ์ร้อนอย่างฉัน อยากจะทุบที่นี่ของพวกนายให้เละเลยจริงๆ!” จูเจียนเฉียงปลดเน็กไทออก พยายามให้ตัวเองใจเย็นลง “ไม่ต้องการขนมที่เชฟหมาแมวนั่นทำ เอาเพียงแค่รูปแบบเหมือนของพวกเขา แบบนี้น่าจะได้แล้วมั้ง!”
“อย่างนั้นได้แน่นอนครับ ทุกท่านรอสักครู่ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ อีกไม่นานจะมาเสิร์ฟครับ” ผู้จัดการพูดจบก็โค้งคำนับเล็กน้อย แล้วออกไปจากห้อง
ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง หญิงสาวอ้วนหุ่นอวบอิ่ม ที่แต่งหน้าหนาเตอะสมัยราชวงศ์ถังยกถาดเดินเข้ามา
แป้งขาวทาหน้า ถุงใต้ตาที่เข้มข้น ปัดแก้มไว้ ริมฝีปากก็ยิ่งทาเป็นสีแดงสด ดูยังไงก็ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
หญิงอวบอิ่มวางถาดลงตรงหน้าของจูเจียนเฉียงอย่างหนัก จูเจียนเฉียงตกใจจนหดตัวไปที่ปลายมุมของโซฟา
เหลือบไปมองกู้หยุนหลัน แล้วจูเจียนเฉียงก็ส่งเสียงหึออกมา พยายามไม่ให้ตัวเองแสดงออกถึงความหวาดกลัว
“คุณจูคะ นี่คือกาแฟลาเต้และขนมของคุณค่ะ ผู้จัดการของเราบอกมาแล้วว่า คุณผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ ดังนั้นจึงให้ฉันบริการคุณชิมรสชาติกาแฟ ถ้าหากว่าคุณรู้สึกว่ารสชาติไม่ถูก สามารถบอกกับฉันได้ทันที ฉันจะไปเปลี่ยนแก้วใหม่ให้คุณค่ะ”
หญิงสาวอวบอิ่มพูดจบแล้วก็ยกแก้วกาแฟขึ้น แล้วก็ยื่นไปที่ริมฝีปากของจูเจียนเฉียง
จูเจียนเฉียงตกใจจนยกสองมือกอดตัวเองไว้ แล้วส่งเสียงกรีดร้องเหมือนหมูถูกเชือด “อย่าเข้ามา ไม่ต้องให้เธอบริการให้ฉันดื่มกาแฟ กาแฟของพวกคุณดีมาก ไม่จำเป็นต้องชิมฉันก็ดมออกแล้วว่าเป็นกาแฟบลูเมาท์เทนของแท้ เธอวางไว้ก็พอแล้ว”
กู้หยุนหลันและหลี่โม่ต่างก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แล้วหัวเราะกอดกันกลม
กู้หยุนหลันที่อยู่ในอ้อมแขนของหลี่โม่หัวเราะจนหยุดไม่ได้ สองมือตบเข้าที่ขาของหลี่โม่ ส่วนหลี่โม่ก็กอดเข้าที่ไหล่ของกู้หยุนหลัน
หญิงสาวอวบอิ่มมองจูเจียนเฉียงอย่างไม่พอใจ แล้ววางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ “งั้นถ้าหากคุณจูมีอะไรต้องการอีกก็เรียกฉันได้เลยนะคะ ฉันเป็นพนักงานบริการสำหรับคุณในวันนี้ค่ะ”
พูดจบ หญิงสาวอวบอิ่มถอยไปอยู่ด้านข้าง ยืนอยู่ด้านหลังโซฟาที่จูเจียนเฉียงนั่ง
จูเจียนเฉียงยังตกใจไม่หาย กุมหัวใจที่เต้นแรงไว้ บ่นเสียงเบาว่า “แก้แค้น นี่ต้องเป็นการแก้แค้นใส่ฉันแน่ๆ ฉันเป็นคนที่เข้มแข็ง ฉันไม่มีทางล้มเพราะการแก้แค้นของแกแน่นอน ฉันจะพยายามแสดงความสามารถของตัวเองให้กู้หยุนหลันเห็น!”