ทุกคนดูอย่างสงสัย รอยเชื่อมของตะกั่วสังกะสีดีบุกนั้นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
โถโบราณที่ราคาแพงนั้น เป็นของปลอมจริงๆด้วย!
“นี่มัน……” เถ้าแก่เหอรอยยิ้มนิ่งค้าง เขาไม่คิดเลยว่า ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้จะเป็นคนเอาจริงอย่างนี้
แต่แบบนี้ ก็เป็นการทำให้เขาอับอายและอึดอัดต่อหน้าผู้คนนะสิ?
ถ้าหากว่าชื่อเสียงได้รับการกระทบ คนที่มาซื้อวัตถุโบราณที่เขา ก็จะลดลงอย่างมาก
“อะแฮ่ม ฉันผิดเองที่เชื่อใจเจ้าเจ็ดจางมากเกิน บวกกับที่ฉันไม่ได้ดูอย่างละเอียด ไอ้น้อง ฉันขอโทษนายด้วย”
“แต่ว่า ฉันรับประกัน สินค้าบนชั้นวางของฉัน ไม่มีของปลอมแน่นอน ถ้าหากว่ามีของปลอม ฉันชดใช้ให้ชิ้นละล้าน!”
เถ้าแก่เหอยังไงซะก็เป็นคนที่เคยผ่านประสบการณ์มามากมาย จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา และเริ่มปกป้องชื่อเสียงของตนเอง
“ประโยคนี้พูดจริง?”
หลี่โม่ทำเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มแล้วเหลือบมองเถ้าแก่เหอ
ในเมื่อมีเงินให้ได้มาฟรีๆ เขาไม่มีทางปล่อยไปอยู่แล้ว
เถ้าแก่เหอเชิดหน้ายืดอก พูดอย่างภูมิใจว่า “แน่นอนอยู่แล้ว เหอโม่วคนนี้ใช้ชื่อเสียงหลายปีมาเป็นประกัน!”
หลี่โม่ชี้ไปที่พวกสิ่งของเป็นประกายและหยกแกะสลักอย่างประณีตบนชั้นวาง “ช่างน่าขำจริงๆ ร้านที่วางของปลอมอยู่เต็มไปหมด ยังกล้าพูดคำพูดแบบนี้ออกมา”
เถ้าแก่เหอยิ้มเยาะและพูดว่า
“หยกแกะสลักพวกนี้ ล้วนใช้หยกเหอเถียนที่บริสุทธิ์ที่สุดทำขึ้น เป็นสิ่งที่ฉันซื้อมาด้วยราคามหาศาลจากด้านนอก นายกล้าพูดคำนี้ออกมาได้ยังไงกัน!”
รอบข้างก็มีลูกค้าพูดว่า “ใช่แล้ว มีคนในเหตุการณ์ไม่น้อยมาเพื่อหยกแกะสลักโดยเฉพาะเลยนะ”
หลี่โม่พูดอย่างมั่นใจว่า “ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าหยกเหอเถียนมีเนื้อที่แข็ง”
แต่พวกนี้…..
ต่อมาเขาดีดนิ้วเบาๆใส่หยกแกะสลักตัวหนึ่ง
ตามมาด้วย หยกแกะสลักแตกกระจาย!
“เหี้ย!”
“ทำไมถึงเป็นได้แก้ว!”
“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นงานฝีมือนี่นา!”
ลูกค้าที่มามุงดูบางคน บางคนถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไป
สิ่งของพวกนั้นที่แตกกระจาย ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเป็นแก้ว
พวกสิ่งของที่ทำด้วยแก้ว ยังกล้าตั้งราคาสูงมากถึงเพียงนี้!
เถ้าแก่เหอมองดูทุกอย่างด้วยความตะลึง ขาดสติไปสักพัก
ส่วนด้านล่าง เต็มไปด้วยความโกลาหล
“ที่แท้คุณชายหลี่ก็พูดจริง!”
“เสียแรงที่ฉันยังเชื่อใจเขาขนาดนั้น ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงใหญ่โตแบบนี้ ยังดีที่คุณชายหลี่เตือนได้ทัน ไม่อย่างนั้น ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์มากมายขนาดนี้ จะมีคนมากแค่ไหนที่เสียหาย?”
มนุษย์ก็แบบนี้แหละ ถ้าหากว่าผลประโยชน์ของตัวเองถูกละเมิด อีกฝั่งก็จะจับกลุ่มกันต่อว่าไปที่เพียงคนๆเดียว ซึ่งเหมือนกับในตอนนี้!
หลี่โม่ยิ้มเยาะทีหนึ่ง ยืนอยู่ที่ตรงหน้าประตู ยืนมองความโกลาหลครั้งนี้เงียบๆ
ในเวลานี้เถ้าแก่เหออึ้งตะลึงไปแล้ว ในสมองเขามีประโยคหนึ่งโผล่ขึ้นมาไม่หยุดว่า : เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
ในขณะนี้ เขาเองก็ไม่ว่างจะสนใจสถานการณ์ในตอนนี้ รีบโยนเศษกระจกในมือทิ้ง แล้วลงจากแท่นโชว์ตรงไปยังที่วางหยกแกะสลัก
จับไปหลายชิ้น ก็เป็นไปตามที่คิด ต่างก็แตกกระจายเป็นเศษ!
“แม่งเอ้ย ถูกหลอกเข้าแล้ว!”
เถ้าแก่เหอโมโหอย่างมาก นี่เขาถูกหลอกแล้ว ของปลอมพวกนี้ เขาดูไม่ออกจริงๆ
เขาโมโหอย่างมาก สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามกดความโกรธในใจลงไป และพูดกับทุกคนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ทุกท่านครับ ต้องขออภัยจริงๆที่เกิดข้อบกพร่องแบบนี้ เพื่อเป็นการแสดงถึงความรู้สึกผิด ตระกูลเหอของผมจะทำการส่งมอบของขวัญให้กับทุกท่านในภายหลังครับ”
“แต่ว่าความน่าเชื่อถือในตระกูลเหอของผมมีแน่นอนครับ”
เมื่อประโยคนี้พูดออกมา ผู้คนมองตากัน ความคิดแตกต่างกัน แต่ยังดีที่ไม่มีคนคิดจะคัดค้าน ก็เหมือนกับว่ายอมรับไปแล้ว
เห็นอย่างนี้ เถ้าแก่เหอก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง เริ่มทำการออกคำสั่งให้ผู้คนในเหตุการณ์การแยกย้าย
แต่ว่าหลี่โม่ไม่ได้กะว่าจะจบเพียงเท่านี้ เห็นเพียงแค่ว่าเขายืดตัวตรง มองไปยังเถ้าแก่เหอที่เพิ่งจะสบายใจขึ้น และกว่าใบหน้านั้นจะมีรอยยิ้มขึ้นมาได้เล็กน้อย
“ในเมื่อเถ้าแก่เหอใจกว้างขนาดนี้ งั้นก็คืนที่ติดค้างผมไว้ให้ทีเดียวเลยมั้ยครับ?”
คำพูดของเขา ทำเอาผู้คนที่เดิมทีเตรียมจะจากไปแล้วหยุดฝีเท้าลงในทันที
เหมือนว่า…..ยังมีเรื่องสนุกให้ดูอีก?
เมื่อเถ้าแก่เหอได้ยินเสียง สายตาก็หยุดมองไปที่ตัวหลี่โม่ ในดวงตาฉายแววความเกลียดชังและอาฆาตอย่างที่สุด แต่เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้ต้องอดกลั้นไว้
“นายจำอะไรผิดรึเปล่า? ตระกูลเหอของฉันไม่ติดค้างอะไรนาย”
“งั้นหรอครับ?” หลี่โม่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ไม่มีสีหน้าอารมณ์อะไรสักอย่าง เหมือนกับว่าแค่กำลังทำการรายงานเรื่องจริงอะไรบางอย่าง “แต่ก่อนหน้านี้เถ้าแก่เหอพูดเองว่า ถ้าหากว่าผมทำการพิสูจน์ว่าของที่นี่ของคุณเป็นของปลอมคุณจะให้ค่าชดเชยกับผมนะครับ”
ค่าชดเชย ไปตกลงจะให้ค่าชดเชยกับเขาตอนไหนกัน
ฟังคำรายงานของหลี่โม่จบ เถ้าแก่เหอรู้สึกเพียงแต่ว่าเลือดในสมองกำลังพุ่งสูงขึ้นไม่หยุด
กลั่นแกล้งกันมากเกินไปแล้ว!
นึกถึงนี่ เถ้าแก่เหอกำลังเตรียมจะเถียงกลับ หางตาก็เหลือบไปเห็นสายตาหลายคู่ที่กำลังมองมายังตัวเอง คำพูดที่กำลังจะออกจากปากก็ค้างอยู่ที่ลำคอ ในใจรู้เพียงแต่ว่าคนๆนี้ร้ายกาจ
ถ้าหากว่าตอนนี้เขาทำการปฏิเสธ นั่นก็จะทำให้คำพูดไม่น่าเชื่อถือ? แล้วคำพูดเมื่อกี้ที่เขาพูดออกไป ก็จะเป็นการฟาดหน้าเขาในทันที….
ถึงแม้ในใจจะรู้สึกโมโหอย่างมาก แต่ว่าเถ้าแก่เหอก็ทำได้เพียงแค่พูดอย่างเชื่องช้าและชัดเจนว่า “ผมพูดคำไหนคำนั้น เพียงแค่ลืมไปแล้ว หวังว่าคุณชายหลี่จะไม่กล่าวโทษกัน”
คำพูดสั้นๆ แต่กลับทำเอาเขาพูดออกมาอย่างยากลำบาก ยังไงซะเรื่องแบบนี้ที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจงใจหาเรื่องตัวเอง แต่ก็ไม่ยอมรับไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้มันน่าโมโหอย่างที่สุด
“คุณรักษาสัญญาของคุณ ผมก็ไม่มีทางกล่าวโทษคุณอยู่แล้ว”
หลี่โม่ยักไหล่ แสดงออกถึงความจริงใจของตัวเอง
เถ้าแก่เหอพยายามยับยั้งอารมณ์ความรู้สึกอยากทำร้ายคนของตัวเองไว้ เขียนเช็คเงินสดหนึ่งล้านใบหนึ่ง และในขณะที่ยื่นให้กับหลี่โม่ สีหน้าก็ไม่ค่อยดีนัก เพียงแค่หลี่โม่ไม่ถือสาก็เท่านั้น
รับเช็คเงินสดมา หนึ่งล้านก็ไม่ถือว่าน้อยมาก หลี่โม่เหลือบมองหน้าเขาหนึ่งที แล้วพูดว่า “ในเมื่อให้เงินที่ค้างไว้แล้ว งั้นผมก็ไม่รบกวนเถ้าแก่เหอแล้วครับ”
พูดจบ เขาเองก็ไม่รอให้เถ้าแก่เหอตอบรับ ก้าวเดินออกจากประตูใหญ่การประมูลอย่างสงบนิ่งภายใต้สายตาที่จ้องมองมาหลายคู่
ปฏิกิริยาตอบรับของทุกคนที่ผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดนี้แตกต่างกันออกไป แต่ว่าผ่านเรื่องราวนี้ไปแล้ว ในใจทุกคนต่างก็รู้ดีว่า เกียรติของตระกูลเหอในวันนี้ อับอายเสียเกียรติอย่างมากแล้ว
ถึงแม้ว่าจะกู้หน้าในทันที ก็ไม่ได้สูงส่งเหมือนเมื่อก่อน หรือทำให้ผู้คนกลัวมากขนาดนั้นแล้ว
เพราะยังไงซะเบื้องหลังของหลี่โม่ก็ไม่มีอำนาจอะไร แต่กลับทำให้เถ้าแก่เหอเสียหายได้ งั้นก็แสดงได้ว่า….ตระกูลเหอเองก็ไม่ได้ต่างจากบุคคลทั่วไปมากมายแล้ว
เมื่อนึกถึงนี่ ผู้นำตระกูลบางส่วนอดไม่ได้ที่ดวงตาแวววับ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เทพถ้าหากตกลงมาเป็นคนธรรมดา ก็จะทำให้มีผู้คนมากมายอยากจะไปแทนที่…..
ทันใดนั้นก็เหมือนว่าทำให้เกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้น
ส่วนด้านนอกงานประมูลสินค้า กลับเป็นสถานการณ์อีกอย่างหนึ่ง
ระหว่างทางที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลันและคนอื่นๆกำลังเดินกลับ เมื่อเห็นว่างานประมูลสินค้าถูกทิ้งไว้ด้านหลัง ในที่สุดกู้หยุนหลันก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูด
“หลี่โม่ นายนี่มันที่สุดเลย ครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นคนแซ่เหอคนนั้น เสียหายอับอายขนาดนี้”
ไม่ว่าจะเป็นของล้ำค่ากลายเป็นขยะหรือการที่ให้เงินหลี่โม่มาหนึ่งล้าน สำหรับเขาแล้ว ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้สะใจทั้งนั้น
ยังไงซะเริ่มจากตอนแรกที่ตัวเองถูกกดดันจนไม่ถอยไม่ได้ กู้หยุนหลันก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่า เถ้าแก่เหอที่อยู่อย่างสูงส่งจะมีช่วงเวลาที่ตกต่ำอย่างในวันนี้
หลี่โม่เพียงแค่อธิบายอย่างนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ว่า “ในเมื่อเขามองชื่อเสียงให้สำคัญมากขนาดนั้น ก็ไม่มีทางทำลายภาพลักษณ์ตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้นอยู่แล้ว”
ว่าไปแล้ว เขาก็แค่ใช้สายตาของผู้คนมากมายมากดดันให้เถ้าแก่เหอเชื่อฟังก็เท่านั้น แต่ว่าทำอย่างนี้ ตัวเขาเองกับตระกูลเหอ ก็จะมีความแค้นต่อกันแล้ว
“ไม่ว่ายังไง ยังไงซะเห็นเขาสภาพแบบนั้น ในใจฉันนี่มันมีความสุขมากจริงๆเลย”
กู้หยุนหลันลูบคางตัวเองอย่างยิ้มแย้ม ชี้ไปข้างหน้าและพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “พวกเราอย่าเพิ่งกลับร้าน ไปหาสถานที่กินข้าวกัน ฉันเลี้ยงเอง ฉลองสักหน่อย!”
………
ท้องฟ้าสดใส เหมือนกับว่าสามารถรับรู้ได้ว่าช่วงนี้เป็นวันที่ดี ในเมืองไม่ได้แตกต่างอะไรกับที่ผ่านมา ถ้าหากจะให้พูด ก็คงจะเป็นการที่มีคนแปลกหน้าเพิ่มขึ้นมาบ้าง
แต่ว่าตระกูลเหอ กลับไม่สงบสุขเหมือนกับอดีต
ตั้งแต่งานประมูลในครั้งก่อน ก็มักจะได้รับการโจมตีที่มาในรูปแบบการหยั่งเชิง ถึงแม้จะไม่มีการสูญเสียอะไร แต่กลับทำให้รู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก
“พ่อครับ ตระกูลพวกนี้หมายความว่ายังไงครับ? เจรจารวมตัวกันล้อมโจมตีพวกเรางั้นหรอครับ?”
คุณชายเหอรำคาญจนโยนเสื้อผ้าของตัวเองลงบนโซฟา จากนั้นก็หย่อนตัวตามไปด้วยสีหน้าโมโห
เดิมทีเขากะว่าจะออกไปเที่ยวเหมือนอย่างที่ผ่านมา แต่ใครจะรู้ว่าเพิ่งไปเล็งเห็นสาวคนหนึ่งในบาร์ก็ถูกคนอื่นตัดหน้าไปก่อนแล้ว คนที่มาตัดหน้า ก็ยังเป็นคุณชายสักตระกูลที่ตัวเองคุ้นหน้ามากด้วย!