กู้เจี้ยนเจียงมองไปที่กู้เจี้ยนกั๋วด้วยใบหน้าชราที่ขมขื่น “พี่ใหญ่พี่ได้ยินแล้วใช่มั้ย? คุณหวาง บอกว่าหยุนหลันได้เป็นประธานของหยุนจงหลันกรุ๊ปแล้ว และพิธีตัดริบบิ้นของพวกเขาจะถ่ายทอดสดออกอากาศทางโทรทัศน์เร็วๆนี้”
กู้เจี้ยนกั๋วขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกย้อนถึงโทรศัพท์ที่กู้เจี้ยนหมินโทรหาตัวเองเมื่อไม่นานมานี้
ถือว่ากู้เจี้ยนเจียงอวดดีเป็นอย่างมาก บอกว่ากู้หยุนหลันได้เป็นประธานของหยุนจงหลันกรุ๊ปแล้ว
เมื่อคิดถึงท่าทีที่หัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง กู้เจี้ยนกั๋วรู้สึกว่าแก้มปวดแสบปวดร้อน เหมือนราวกับว่าถูกคนตบหน้า
“เป็นไปไม่ได้! เธอกู้หยุนหลันมีสิทธิ์อะไร? เธอก็แค่เด็กผู้หญิงที่ยังไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีสิทธิ์อะไรเป็นประธานของหยุนจงหลันกรุ๊ป!”
จนถึงขณะนี้กู้เจี้ยนกั๋วยังคงไม่เชื่อ รู้สึกว่าคุณหวาง คงจะต้องสมรู้ร่วมคิดกับกู้เจี้ยนหมิน เพื่อที่จะทำให้ตัวเองโมโห
“นี่ คุณหวาง พูดได้เหมือนจริงขนาดนั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องโกหกนะ? ไม่งั้นพวกเราเปิดโทรทัศน์ดูสักหน่อย?”
กู้เจี้ยนเจียงกลอกตาแล้วพูด
เมื่อเห็นว่าการจัดการบริหารกิจการของตระกูลกู้เริ่มจะเสื่อมถอย และกู้เจี้ยนกั๋วก็ไม่มีแผนการคิดที่ดี ดังนั้นกู้เจี้ยนเจียงจึงเกิดความคิด
ถ้าหากกิจการของตระกูลกู้กำลังจะตกอยู่ในสภาพที่ลำบากจริงๆ เลี่ยงไม่ได้ต้องมุ่งหน้าไปพึ่งพาอาศัยกู้หยุนหลัน
กู้เจี้ยนกั๋วหยิบบุหรี่ม้วนหนึ่งออกมาคาบไว้ที่ปาก หยิบรีโมตคอนโทรลบนโต๊ะขึ้นมาแล้วกดอย่างรุนแรง
หน้าจอโทรทัศน์แอลซีดีที่แขวนอยู่บนผนังสว่างขึ้น และบนหน้าจอก็ฉายผู้คนออกมา
เมื่อเปลี่ยนไปช่วงสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น กู้เจี้ยนกั๋วดูดบุหรี่อย่างหนักหนึ่งคำ และดูเนื้อที่ถ่ายทอดสดในโทรทัศน์ด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง
ในขณะนี้ข่าวท้องถิ่นยังคงออกอากาศอยู่ แต่ไม่นานพิธีกรข่าวก็เริ่มพูดคุยขึ้นมา เกี่ยวกับเรื่องของหยุนจงหลันกรุ๊ป
“หยุนจงหลันกรุ๊ปที่ลงทุนในการก่อสร้างสองพันล้าน จะเปิดป้ายอย่างยิ่งใหญ่ นี่เป็นสัญญาลักษณ์ชัยชนะครั้งสำคัญที่ดึงดูดให้ผู้คนมาส่งเสริมการลงทุนในเมืองฮ่าน…..”
รูปภาพบนหน้าจอถูกเปลี่ยนเป็นหยุนจงหลันกรุ๊ป มองดูสิ่งปลูกสร้างที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของเทคโนโลยีในหยุนจงหลันกรุ๊ป กู้เจี้ยนกั๋วรู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างฉับพลัน
ถ้าหาก ถ้าหากกู้หยุนหลันไปเป็นประธานของหยุนจงหลันกรุ๊ปจริงๆ ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็จะเสียหน้าชราเป็นอย่างมากไม่ใช่เหรอ!
กู้เจี้ยนเจียงผิวปาก และพูดด้วยความอิจฉาว่า “นี่ถึงจะเป็นความกล้าหาญของบริษัทขนาดใหญ่นะ มองดูสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเทคโนโลยี สัมผัสได้ถึงลักษณะของยุคสมัย ไม่พอใจไม่ได้จริงๆ”
“หุบปากซะ!”
กู้เจี้ยนกั๋วตวาด เบิกตากว้างพูดว่า “อิจฉาคนอื่นจะมีประโยชน์อะไร! คิดให้มันมากๆ วางแผนจัดการบริหารกิจการของครอบครัวตัวเองให้ดี!”
“ฮ่าๆ พี่ใหญ่พูดถูก งั้นพี่ใหญ่พี่ก็ต้องคิดให้มันมากๆ ตอนนี้สถานการณ์ของกิจการในบริษัทยิ่งอยู่ยิ่งเลวร้ายไปทุกที ทางด้านนั้นยังคงสร้างโครงการใหม่ๆ แต่พวกเราชักหน้าไม่ถึงหลัง”
กู้เจี้ยนเจียงอดไม่ได้ที่จะพูดกลับตาลปัตร เมื่อการวางแผนจัดการบริหารโดยรวมตกต่ำ ชื่อเสียงของกู้เจี้ยนกั๋วเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว
“ฉันไม่ได้ใช้ความคิดเหรอ? ฉันทุ่มเทความพยายามไปมากเท่าไหร่แล้ว! แต่ว่า…..พวกสารเลวนี้ ก็แมร่งไม่ศรัทธาเลื่อมใส แกจะให้ฉันทำอย่างไรได้!”
กู้เจี้ยนกั๋วตะโกนด้วยความโกรธ รู้สึกว่าอารมณ์ยิ่งไม่ดีมากขึ้น
“พี่ใหญ่ ฉันพูดน่าเกลียดหน่อย ตอนที่กู้หยุนหลันจัดการบริหารไม่ใช่แบบนี้ เธอออกไปแล้วไม่กี่วัน การสั่งซื้อสินค้าของพวกเราก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เกรงว่าอีกไม่กี่วัน การสั่งซื้อสินค้าก็ไม่มีแล้ว”
กู้เจี้ยนเจียงพูดในสิ่งที่ตัวเองเก็บไว้ในใจมาหลายวันแล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมางานของบริษัทลดลงอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่ผู้ซื้อบางรายก็ยังยกเลิกสัญญาการสั่งซื้อสินค้าอย่างไม่เสียดาย ทำให้กู้เจี้ยนเจียงรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ
ในใจของกู้เจี้ยนกั๋วขมขื่น สิ่งผิดปกติในนั้นเขาก็รู้ แต่ไม่สามารถหยุดพลังมหาศาลที่กู้เจี้ยนกั๋วขุดออกมาใช้ ผู้ซื้อเหล่านั้นต่างก็เป็นคนมีทิฐิสูง ให้ตายก็ไม่ยอมที่จะซื้อต่อไป
“ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้นเอง ความพ่ายแพ้เล็กน้อย พวกเราต้องมีความมั่นใจที่จะฝ่าฟันความยากลำบาก! ไม่มีเธอกู้หยุนหลัน บริษัทของพวกเราก็จะล้มละลายเหรอ? เมื่อก่อนก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยประสบปัญหามาก่อน!”
กู้เจี้ยนกั๋วตบโต๊ะอย่างรุนแรง และพูดเสียงดัง คิดว่าตราบใดที่ให้เวลากับตัวเองเล็กน้อย คงจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ที่ลำบากที่กำลังเผชิญหน้าได้อย่างแน่นอน
กู้เจี้ยนเจียงเบะปาก พูดอย่างหงุดหงิดไม่พอใจว่า “ความยากลำบากของครั้งก่อนก็เป็นเพราะกู้หยุนหลันถึงผ่านไปได้ พี่ใหญ่ พี่อย่าลืมนะ”
ผลัวะ!
หมัดของกู้เจี้ยนกั๋วต่อยลงไปที่บนโต๊ะอย่างรุนแรง “แกหมายความว่ายังไง?”
“ฉันแค่พูดความจริง สถานการณ์ในขณะนี้หนีไม่พ้นเกี่ยวข้องกับกู้หยุนหลัน ผู้ซื้อส่วนใหญ่เหล่านั้นกู้หยุนหลันก็เป็นคนหามา พี่ใหญ่ พี่คำนวณให้ดีๆนะ”
กู้เจี้ยนกั๋วเงียบสนิท นั่งเอนลงที่พนักพิงหลังของเก้าอี้อย่างอ่อนแรง รู้สึกว่าคนทั้งคนค่อนข้างไม่ดีแล้ว
กู้เจี้ยนกั๋วที่คิดมาก่อนแล้วทุกอย่าง ก็ย่อมเข้าใจการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าของผู้ซื้อเหล่านั้นเป็นธรรมดา คงจะจะเกี่ยวข้องกับการลาออกของกู้หยุนหลัน
แต่กู้หยุนหลันถูกไล่ออกไปแล้ว และหุ้นในมือบ้านพี่รองถูกซื้อด้วยราคาที่ต่ำ ตอนนี้ต่อให้เสียใจ ต่อให้อยากจะเชิญกู้หยุนหลันกลับมาก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงโทษกู้เจี้ยนกั๋วที่ทำเรื่องราวได้แย่มาก!
รูปภาพบนโทรศัพท์ถูกเปลี่ยนเป็นหน้าประตูของหยุนจงหลันกรุ๊ป และพิธีตัดริบบิ้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
กู้หยุนหลันและหลี่โม่ยืนอยู่ในตำแหน่งC เจ้าขุนมูลนายทุกคนของเมืองฮ่าน และรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายในเมืองฮ่าน กำลังยืนอยู่ในทีมที่เข้าร่วมในการตัดริบบิ้น
“พิธีตัดริบบิ้นของหยุนจงหลันกรุ๊ปกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว คุณกู้หยุนหลันที่ยืนอยู่ตรงกลางเป็นประธานกรรมการตำแหน่งสูงสุดของหยุนจงหลันกรุ๊ป…..”
เมื่อได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากโทรทัศน์ กู้เจี้ยนกั๋วรู้สึกว่าเจ็บปวดหน้าอกอย่างฉับพลัน ใช้มือทั้งสองกุมหน้าอกไว้แน่น
สายตาอิจฉาริษยาเกลียดชังของกู้เจี้ยนเจียงก็มองไปที่กู้หยุนหลันที่ยืนอยู่ในตำแหน่งC จินตนาการว่าถ้าหากตำแหน่งนั้นเป็นของตัวเองจะดีมากแค่ไหน
ควบคุมบริษัทใหญ่ที่ลงทุนนับพันล้าน ความรู้สึกแบบนั้นจินตนาการไม่ได้จริงๆ
“แหวะ!”
ในช่วงเวลาที่กู้เจี้ยนเจียงกำลังอิจฉาอย่างยิ่ง กู้เจี้ยนกั๋วกลับโกรธจนกระอักเลือดออกมา
เลือดนั้นก็กระเด็นออกไปไกล กระเด็นไปบนหน้าจอโทรทัศน์ ทำให้เลือดปรากฏบนหน้าจอเล็กน้อย
“พี่ พี่ใหญ่ พี่เป็นอะไร? ทำไมจู่ๆก็กระอักเลือด!”
กู้เจี้ยนเจียงมองดูกู้เจี้ยนกั๋วอย่างมือไม้อ่อนไปหมด
กู้เจี้ยนกั๋วเช็ดเลือดจากมุมปาก รู้สึกว่าหลังจากที่กระอักเลือดออกมา คนทั้งคนก็ดีขึ้นมาก
“ฉันไม่เป็นไร! คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ! ในเมื่อเธอกู้หยุนหลันมีอำนาจในหยุนจงหลันกรุ๊ป งั้นก็ต้องให้ผลประโยชน์กับตระกูลกู้ของพวกเราบ้าง!”
ดวงตาของกู้เจี้ยนเจียงเป็นประกาย พยักหน้ารัวๆพูดว่า “ความคิดนี้ของพี่ใหญ่ดีมาก หยุนจงหลันกรุ๊ปแค่ให้การสั่งซื้อสินค้าเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะทำให้โรงงานของเราผลิตได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว!”
“แต่ว่า…..”
กู้เจี้ยนเจียงพูดเสียงสูง พูดอย่างค่อนข้างกังวลใจว่า “แต่ว่าก่อนหน้านี้พวกเราทำมากเกินไปหน่อย ถ้าหากกู้หยุนหลันผูกใจเจ็บ เธอคงจะไม่ช่วยพวกเราอย่างแน่นอน”
“เหอะ! บนตัวของเธอมีเลือดของตระกูลกู้ของพวกเรา มีสิทธิ์อะไรกล้าที่จะไม่ช่วยพวกเรา! ให้คุณปู่ออกหน้าพูด!”