พอวนดูหยุนจงหลันกรุ๊ปแล้วหนึ่งรอบ หลี่โม่อยากพากู้หยุนหลันไปทำความรู้จักกับคนรับผิดชอบ แต่กู้หยุนหลันขวางไว้ก่อน
กู้หยุนหลันอยากจะเจอผู้รับผิดชอบตอนที่ขึ้นรับหน้าที่
เพราะกู้หยุนหลันอยากเตรียมตัวมากหน่อย จะให้เห็นแต่ด้านดีของหยุนจงหลันกรุ๊ป โดยไม่คุยเรื่องพัฒนาบริษัทเลยไม่ได้
ในเมื่อจะคุยเรื่องการพัฒนา กฏระเบียบการพัฒนา ทิศทางการพัฒนาก็ต้องเตรียมการบ้านมาก่อน
นี่เป็นบริษัทที่หลี่โม่ให้เธอเป็นของขวัญ เป็นสินทรัพย์ที่มีค่านับสิบล้าน กู้หยุนหลันย่อมต้องเตรียมตัว
คางเหวินซิงขับรถมาอยู่ด้านล่างของบ้านกู้หยุนหลัน ในตอนที่หลี่โม่จะลงจากรถ พูดว่า“อาจารย์ครับ ทุ่มนึงผมมารับนะครับ คืนนี้ยังต้องสอนผมเรื่องรถอีก”
“กลางคืนมาถึงแล้วโทรบอกแล้วกัน”
หลี่โม่ทำท่าOKให้คางเหวินซิง
คางเหวินซิงมองพวกหลี่โม่เข้าไปข้างในก่อน จึงขับเบนซ์จากไป
หลี่โม่สามคนเดินกลับถึงบ้าน เดินเข้าไปในห้องโถง เห็นกู้เจี้ยนหมินกำลังนั่งหน้าเคร่งบนโซฟา
“หยุนหลัน บัญชีพ่อได้รับเงินล้านนึง เกิดอะไรขึ้น”
กู้เจี้ยนหมินจ้องกู้หยุนหลันถาม
“ค่ะ หนูขายหุ้นบ้านเราทิ้งหมดให้กับคุณลุง”
กู้หยุนหลันก้มหน้า ราวกับเด็กน้อยที่ทำผิด
“บังอาจ!ใครให้แกขาย!”
กู้เจี้ยนหมินคำรามเดือดดาล ราวกับราชสีห์
กู้หยุนหลันตกใจตัวสั่น เกือบจะร้องไห้ออกมา
หลี่โม่คิ้วกระตุก เดินขึ้นหน้าปกป้องกู้หยุนหลัน“พ่อครับ อย่าโทษหยุนหลันเลย”
“ไม่โทษมันงั้นเหรอ มันขายหุ้นพ่อทิ้งหมดนี่นะ!แกว่ามา พ่อจะมีหน้าไปเจอลูกหลานตระกูลกู้ยังไง!”
“พ่อครับ ลุงกับอาสามเป็นไงใช่ว่าพ่อไม่รู้ หุ้นที่พวกเรามีในมือ สุดท้ายก็รักษาไว้ไม่ได้อยู่ดี”หลี่โม่พูดตรงๆ
กู้หยุนหลันดึงแขนหลี่โม่ พูดเสียงเบา“อย่าพูดตรงแบบนั้น พ่อจะช๊อคได้”
กู้หยุนหลันกลัวกู้เจี้ยนหมินจะรับไม่ได้ เกิดโมโหเกินเลย เป็นอะไรไป งั้นยุ่งเลย
กู้เจี้ยนหมินเงียบ หยิบกล่องบุหรี่ออกมามือสั่น หยิบบุหรี่มวนหนึ่งคาบไว้
จุดไฟแช็ค เพราะมือกู้เจี้ยนหมินสั่นเทา จึงจุดไฟไม่ติด
หลี่โม่เดินขึ้นหน้า หยิบไฟแช็คในกระเป๋าออกมา จุดให้กู้เจี้ยนหมิน
“พ่อครับ คุณปู่ยังอยู่ พวกคุณลุงอาจจะไว้หน้า แต่ว่าถ้าคุณปู่สิ้นบุญไปแล้ว รอจนเวลานั้น อาจจะทะเลาะกันจนมองหน้ากันไม่ติดก็ได้นะครับ”
กู้เจี้ยนหมินกลอกตาใส่หลี่โม่ อยากจะตำหนิสักคำสองคำ แต่ก็ไม่รู้จะตำหนิอะไร
แม้หลี่โม่พูดจาไม่น่าฟัง แต่ก็เป็นเรื่องจริง
“เฮ้อ!”
กู้เจี้ยนหมินถอนใจออกมาอย่างแรง ก้มหน้าดูดบุหรี่
เห็นกู้เจี้ยนหมินเจ็บปวด กู้หยุนหลันก็ลำบากใจ รีบมานั่งข้างกู้เจี้ยนหมิน จับแขนกู้เจี้ยนหมิน
“พ่อคะ อย่าเสียใจไปเลย ได้หุ้น สุดท้ายก็ต้องทะเลาะกัน เจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว เจ็บแต่จบ”
“พ่อเข้าใจ แต่นั่นหุ้นสกุลกู้ของเรา!พ่อเป็นลูกหลานสกุลกู้ พวกเขาถือสิทธิอะไรมาแย่งหุ้นพ่อไป!ไม่มีหุ้นแล้ว แกก็คงไม่ได้ทำงานในบริษัทแล้วด้วยสินะ แล้วต่อไปบ้านเราจะเอาอะไรกิน เอาอะไรใช้ ซีซีจะไปโรงเรียนยังไง!”
ขายหุ้นล้านเดียว สำหรับบ้านใหญ่อย่างสกุลกู้ ไม่นับอะไรเลย
คนครอบครัวใหญ่ ต่อให้ประหยัดแค่ไหน เดือนนึงก็ต้องหลายพัน ซีซีก็ไปโรงเรียนแล้ว ไปเรียนพิเศษอีก ค่าใช้จ่ายสูงขนาดนั้น ล้านเดียวอย่างมากก็สามปีห้าปี
“พ่อคะ ไม่ต้องห่วงนะคะ หยุนหลันหางานใหม่ได้แล้ว”
หลี่โม่ยิ้มแล้วพูด
“งานใหม่เหรอ หยุนหลันหางานใหม่อะไรได้”
กู้เจี้ยนหมินมองไปทางกู้หยุนหลันอย่างงงงวย“ตอนนี้งานหายากจะตาย อย่าไปหางานที่มันทำแล้วลำบากตัวเองล่ะ”
“ไม่ลำบากเลยค่ะ มีบริษัทใหญ่เชิญให้หนูไปเป็นผู้บริหาร”
กู้หยุนหลันพูดพลาง จ้องเข้าไปที่แววตาหลี่โม่ลึกๆ
หลี่โม่ยิ้ม รู้สึกเป็นสุขในใจ
“ให้แกไปเป็นผู้บริหารเหรอ อย่ามาล้อพ่อเล่นหน่อยเลย อย่าว่าแต่ผู้บริหารบริษัทใหญ่เลย แค่บริษัทเล็กๆในเมืองฮ่าน ผู้บริหารที่เชิญมีแต่ดอกเตอร์ แกเป็นแค่นักเรียนปริญญาตรี เป็นผู้จัดการก็ดีถมถืด”
กู้เจี้ยนหมินพูดความจริง ตอนนี้ผู้บริหารบริษัทใหญ่ ไม่เพียงแต่ต้องมีความสามารถแต่ต้องมีคอนเนคชั่นด้วย ซึ่งกู้หยุนหลันเป็นไม่ได้ง่ายนักหรอก
“หยุนจงหลันกรุ๊ป พ่อรู้จักมั้ย หนูจะไปเป็นผู้บริหารของหยุนจงหลันกรุ๊ป อีกสองวันก็ไปทำงานแล้ว”
“หยุนจงหลันกรุ๊ปที่มหาเศรษฐีในตำนานเปิดน่ะเหรอ”
กู้เจี้ยนหมินตาเป็นประกาย จากนั้นก็เต็มไปด้วยความสงสัย นึกถึงข่าวก่อนหน้า
“หยุนหลัน แกคงไม่ได้ไปรู้จักเขาหรอกนะ……”
กู้เจี้ยนหมินพูดไม่ทันจบ มองไปที่หลี่โม่ กู้เจี้ยนหมินจึงกลืนน้ำลายลงคอ
“พ่อคะ คิดไรอยู่ หนูจะเป็นคนแบบนั้นได้ไง”
“หึหึ ไม่หรอกๆ ลูกสาวพ่อไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่ใช่แน่นอน”
กู้เจี้ยนหมินยิ้มกระอักกระอ่วน
“งานนี้หลี่โม่แนะนำเอง พ่อไม่ต้องห่วงแล้ว หนูไม่ได้รู้จักเศรษฐีในตำนานอะไรนั่นสักหน่อย”
กู้หยุนหลันอธิบาย พ่อจะได้ไม่ต้องคิดมาก
กู้เจี้ยนหมินเกาหัว แต่ไม่ได้ถามต่อ ได้แต่ยืนยันว่าเป็นจริงก็พอแล้ว
“งั้นก็ดี!แกก็ทำงานดีๆแล้วกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ ให้ลุงกับอาแกเสียใจ”
ในใจกู้เจี้ยนหมินยังชิงชังกู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียง เลยอยากให้กู้หยุนหลันกู้หน้า
“พ่อคะ สบายใจเถอะ หนูจะตั้งใจทำงาน”
กู้หยุนหลันโบกกำปั้น สีหน้ามั่นใจ
กู้เจี้ยนหมินกับกู้หยุนหลันคุยกันต่อสองสามคำ จึงโทรหากู้เจี้ยนกั๋ว
“พี่ใหญ่ ผมเจี้ยนหมิน”
“น้องสอง มีอะไร”
กู้เจี้ยนกั๋วรำคาญ
“ผมมาขอบคุณ ขอบคุณที่รับซื้อหุ้นบ้านผม และให้หยุนหลันออกจากบริษัท”
กู้เจี้ยนกั๋วขมวดคิ้ว รู้สึกราวกู้เจี้ยนหมินประชด
“หึหึ น้องสอง เธอยอมเอง จะโทษพี่ไม่ได้”
“ผมไม่ได้โทษพี่ ที่โทรมาก็โทรมาขอบคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ให้หยุนหลันออก หยุนหลันคงไม่ได้ไปเป็นผู้บริหารของหยุนจงหลันกรุ๊ป ฮ่าๆๆๆ”
กู้เจี้ยนหมินพูดอวด
“แกบ้าไปแล้วหรือไง ผู้บริหารหยุนจงหลันกรุ๊ป วางละนะ”