เมื่อพูดถึงเรื่องรถ จิตวิญญาณของพี่คางก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง จากที่ตกใจกลัวจนตัวสั่นเมื่อครู่นี้หายไปทันที
หลงเทานิ่งไปชั่วครู่ เกาหัวแล้วพูดว่า“รถของผมยังไม่เคยดัดแปลงเลย นี่คือรถนำเข้าที่เพิ่งมาถือมือของฉันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”
“อะไรนะ?”
ดวงตากลมโตของพี่คางจ้องมองอย่างเบิกกว้าง ราวกับลูกตาจะกระเด็นออกไปกลายเป็นอาวุธฆ่าหลงเทาได้ในเสี้ยววินาที
“นายอย่างฉันแบบนั้นสิ ถ้าพวกนายไม่อยากนั่งรถฉันก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันตามไปเอง”
หลงเทาพึมพำ แล้วเปิดประตูแล้วเข้าไปในที่นั่งคนขับ
เมื่อพี่คางได้สติ รีบวิ่งเข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับทันที ปากก็พูดต่อว่า“เป็นไปไม่ได้ที่รถคันนี้ยังไม่เคยดัดแปลง ถ้าไม่ได้ดัดแปลงเป็นเครื่องยนต์10.0Tมา เครื่องยนต์เดิมของรถคันนี้คงวิ่งตามรถBugatti ของฉันไม่ได้”
“พวกเราต่างเป็นคนชอบเล่นรถ ไม่ต้องมาหลอกลวงกันหรอก ยังไงนายก็ปิดบังฉันไม่ได้อยู่แล้ว ประเดี๋ยวกลับไปแล้ว ให้ฉันดูหน่อยว่ากระปุกเกียร์เครื่องยนต์ของนายดัดแปลงมายังไง ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน”
หลงเทามองพี่คางอย่างหมดคำพูด เขาสตาร์เครื่องแล้วเหยียบคันเร่งรถ
ขณะที่เครื่องยนต์ติด รถก็เกิดการสั่นอย่างรุนแรงถึงสองครั้งพร้อมเสียงระเบิดดังขึ้น จากนั้นเครื่องยนต์ก็ดับไป และมีควันสีขาวลอยออกมาจากด้านหน้ารถ
“บ้าเอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ”
หลงเทามองควันสีขาวที่ลอยขึ้นมาอย่างงุนงง
“เชี่ย! นี่เครื่องยนต์มันระเบิดไปแล้ว ฉันเข้าใจแล้วที่เขาพูดว่าขับจนพังไปแล้วหมายถึงอะไร อาจเป็นเพราะเมื่อกี้เครื่องยนต์วิ่งเกินพิกัดอยู่ตลอดเวลา หลังจากหยุดพักแล้วคิดอยากจะสตาร์ทอีกครั้งเครื่องก็เลยระเบิด รีบลงรถไปเปิดกระโปรงรถเร็ว!“
พี่คางพูดจบก็รีบลงรถไป แล้วให้หลงเทาที่อึ้งอยู่ด้านข้างติดต่อรถคันอื่นมา
หลงเทาก็เดินลงรถ แล้วเปิดฝากระโปรงรถอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นเครื่องยนต์ที่ไหม้เกรียมแล้ว หลงเทาก็ขมวดคิ้ว
“นี่เป็นรถคันใหม่ของฉันเลยนะ ยังไม่ถึงปีก็กลายเป็นแค่เศษขยะแล้วหรือ?”
พี่คางเดินเข้าไปดูเครื่องยนต์ แล้วพูดอย่างประหลาดใจว่า“เชี่ย นี่ยังไม่เคยดัดแปลงมาจริงๆด้วย! แล้วคนที่ขับรถมาเมื่อกี้นั้นเขาเป็นเทวดามาจากไหนกันแน่?”
“เขาคือคุณหลี่ ส่วนคุณหลี่นั้นเขาเป็นเทวดามาจากไหนฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันนี่ก็ถูกคุณหลี่ตีจนแพ้มาเหมือนกัน”
หลงเทาพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าโศก
“ฮิฮิ นี่ก็หมายความว่าถ้าไม่มีเรื่องกันก็ไม่ได้รู้จักกัน ฉันก็อยากจะทำความรู้จักกับคุณหลี่เหมือนกัน หรือไม่เดี๋ยวฉันให้คุณหลี่ตีฉันสักทีสองที?”
พี่คางขบคิดว่าจะทำความรู้จักกับคุณหลี่อย่างไรดี เหตุผลเพียงเพราะวิธีและทักษะการขับรถของหลี่โม่นั้นน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก พี่คางยังเกิดความคิดที่จะไหว้หลี่โม่เป็นอาจารย์
หลงเทาที่อยู่ด้านข้างหลังจากได้โทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินมาดูเครื่องยนต์ของรถเบนซ์เช่นกัน
“พี่คาง การที่สามารถใช้เครื่องยนต์Gใหญ่ตัวเดิมได้เทียบเท่ากับLamborghiniได้นั้น แม้แต่เทพเซียนก็ไม่น่าจะทำได้มั่ง รู้สึกว่าคุณหลี่คนนี้ช่างชั่วร้ายนัก”
“อะไรคือชั่วร้าย คุณหลี่จะต้องเข้าใจแก่นแท้ในทักษะของการขับรถอย่างแน่นอน ประเดี๋ยวเจอคุณหลี่ทำตัวให้สุภาพหน่อย อย่าทำให้เรื่องใหญ่ที่ฉันจะกราบไหว้คุณหลี่เป็นอาจารย์นั้นต้องเสียเรื่องละ!”
พี่คางตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า เขาจะไหว้หลี่โม่เป็นอาจารย์ เมื่อเจอผู้ที่มากฝีมือเช่นนี้ก็ไม่ควรปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
“พวกเสี่ยวหลี่จื๋อนี่อยู่ไหนกัน ทำไมยังมาไม่ถึงอีก
บอกพวกเขาให้รีบหน่อยสิ!ไม่งั้นเดี๋ยวจะตามคุณหลี่ไม่ทัน”
“ผมเร่งไปแล้ว อีกสัก2-3นาทีก็น่าจะถึง”
หลงเทาเหลือบมองพี่คาง พลางครุ่นคิดในสิ่งที่พี่คางพูดเมื่อครู่นี้ รู้สึกหลี่โม่เป็นเกราะกำบังที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าคุณชายสามหลิน แต่ไม่รู้ว่าเกราะกำบังนี้จะยอมให้ความช่วยเหลือกับเขาหรือเปล่า
…….
จี๋เสียงขับรถเบนซ์บิสซิเนสวิ่งมาอย่างเร็วตลอดทาง แต่ก็ยังรักษาความเร็วไว้ที่200ไมล์
คุณชายสามหลินเหลือบมองไปทางด้านหลัง พอเห็นว่าไม่มีรถวิ่งตามมา ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก“หลี่โม่ไอ้บัดซบ แม่งเหมือนอย่างกับผี! เฉียนเปิดตานายนี่มันยังไงกันแน่ เมื่อกี้นายพูดเองไม่ใช้เหรอว่าทั่วล้าฟ้าดินก็ไม่มีคู่ต่อสู้ของนาย!”
“คุณสามหลิน นั่นก็เป็นแค่การเปรียบเปรยของฉันเท่านั้น ใครจะไปทำได้ถึงขนาดทั่วล้าฟ้าดินก็หาคู่ต่อสู้ไม่ได้ โบราณกล่าวไว้ว่าชายหนุ่มมักหมัดหนัก ฉันก็เพิ่งประมือกับหลี่โม่มา ถูกหลี่โม่ต่อยเข้าที่แขนแค่หมัดเดียวกระดูกก็แตกหักแล้ว”
เฉียนเปิดตาพูดอย่างเศร้าสร้อย และรู้สึกเจ็บที่แขน
ลุงเป้าถอนหายใจ มีความรู้สึกเหมือนหมดหนทางที่จะเดินต่อ“พวกเรารีบหาที่ซ่อนตัวดีกว่า ใจฉันนี่ยังรู้สึกไม่สู้ดีนัก”
“สถานที่ว่างเปล่าเช่นนี้จะไปซ่อนตัวได้ที่ไหน! ฉันนี่ก็ซวยเสียจริง ทำไมต้องไปยั่วยุคนอย่างไอ้สารเลวหลี่โม่ด้วย!พวกนายรีบคิดหาวิธีสิ ว่าจะจัดการกับไอ้สารเลวนั้นได้อย่างไร!”
เฉียนเปิดตาและลุงเป้าพากันเงียบ พวกเขาไม่มีปัญญาและวิธีที่จะจัดการกับหลี่โม่ได้เลย
เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่พูดอะไร สีหน้าของคุณชายสามหลินก็แปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้“ไอ้พวกไร้ประโยชน์ แล้วฉันจะมีพวกนายไว้เพื่ออะไร!”
“คุณสามหลิน คุณพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า หลี่โม่นั้นเก่งกาจกว่าที่คิดไว้มาก คุณจะให้พวกเราไปจัดการกับเขายังไง ต่อให้พวกเราเอาทั้งชีวิตไปแลกก็มิอาจทำอะไรเขาได้เลย”
เฉียนเปิดตาพูดตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม
“งั้นจะทำยังไง?เป็นเต่าหดตัวอยู่ในกระดองเหรอ? ครั้งนี้มันเกี่ยวข้องกับยศถาบรรดาศักดิ์ในอนาคตของตระกูลหลินเลยนะ!”
ในขณะที่คุณชายสามหลินโกรธจัด ก็รู้สึกว่าความเร็วของรถก็ถูกเร่งขึ้นอย่างกะทันหัน เนื่องจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นกะทันหันทำให้คุณชายสามหลินหงายหลังเล็กน้อย
“ขับรถประสาอะไรเนี่ย! นี่นายขับรถให้มันดีกว่านี้หน่อยได้ไหม!”
คุณชายสามหลินตะโกนพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“ตาม ตามาแล้ว รถด้านหลังวิ่งเร็วมาก ฉันกลัวจะหนีเขาไม่พ้น!”ความเชื่อมั่นในตัวจี๋เสียงได้หมดสิ้นไป สายตาจับจ้องมองไปที่กระจกมองหลังอยู่ตลอดเวลา
ในกระจกมองหลังมีรถLamborghiniคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง และแซงรถเบนซ์บิสซิเนสไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นรถLamborghiniที่เริ่มลดความเร็วลงเพื่อเป็นการบีบบังคับให้รถเบนซ์บิสซิเนสที่อยู่ด้านหลังหยุดรถ คุณชายสามหลินก็พูดอย่างดุเดือด“ชน! ชนท้ายมัน!”
“อ๋า? ความเร็วสูงขนาดนี้ ถ้าชนเข้าไป รถของเราก็จะเกิดการเสียหลักได้”
“เชี่ยแม่ง นายนี่มันโง่ไปแล้วใช่ไหม!เขาบีบบังคับให้เราลดความเร็วไม่ใช่เหรอ รอจนความเร็วลดเหลือ7-80ไมล์เมื่อไหร่ นายก็เร่งความเร็วขึ้นแล้วชนเข้าไปก็ได้แล้ว!ชนให้หลี่โม่ไอ้ไร้ประโยชน์นั้นตายๆไปซะ!”
ที่ตรงนี้เป็นสถานที่เหมาะสำหรับรถบิสซิเนส หากจะชนรถซูเปอร์คาร์นั้น ก็พอได้เปรียบอยู่
จี้เสียงได้สติทันที พยักหน้าพูดว่า“คุณสามหลินพูดถูก ฉันเออออกับเขาไปก่อน”
รถเบนซ์บิสซิเนสเริ่มชะลอความเร็วตามรถLamborghini จี๋เสียงจ้องมองที่ไมล์วัดความเร็วรถ เมื่อเห็นว่าความเร็วของรถลดเหลือ70ไมล์ เขาก็เหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นและพุ่งเข้าไปที่รถLamborghini
หลี่โม่ดูออกว่ารถเบนซ์บิสซิเนสนั้นมีเจตนาที่ไม่ดี ก่อนที่รถเบนซ์จะพุ่งชนเข้ามา หลี่โม่เหยียบเบรกรถอย่างเต็มที่ จนไมล์รถลดเหลือ2-30ไมล์ เมื่อเห็นว่ารถเบนซ์กำลังจะพุ่งชน หลี่โม่ก็กระโดดออกจากรถLamborghini
หลี่โม่กระโดดห่างออกไป10กว่าเมตร และตกลงไปในพุ่มไม้ริมถนน
ส่วนรถเบนซ์บิสซิเนสนั้นชนเข้ากับรถLamborghiniที่จอดอย่างกะทันหัน เนื่องจากรถเบนซ์วิ่งด้วยความเร็วที่สูงมาก ส่วนรถLamborghiniเป็นรถที่เตี้ยมาก เมื่อรถทั้งสองชนเข้าหากันก็เกิดเป็นสัญลักษณ์กรวยจราจร
หลังจากรถเบนซ์บิสซิเนสชนท้ายรถของรถLamborghiniแล้ว ก็พุ่งขึ้นไปบนหลังคารถของLamborghini จากนั้นรถเบนซ์บิสซิเนสก็เสียหลักหักเฉียงบินลอยออกไป7-8เมตร และตกลงไปที่พื้นอย่างแรง