ชายร่างกำยำโบกไม้โบกมือเพื่อแสดงให้หลงเทากับหลี่โม่รีบเข้าไปในบ้าน เป็นเพราะว่าหลงเทาทำท่าอาเจียนเมื่อครู่ ชายร่างกำยำไม่ทันได้สังเกตหลี่โม่โดยละเอียด
เพราะว่าเฉียนเปิดตาพาลูกสมุนมาด้วยจำนวนหนึ่ง จึงทำให้ชายร่างกำยำพอมีความกล้าอยู่บ้าง คิดว่าหลงเทาคงไม่กล้าเล่นตุกติกอะไร ดังนั้นจึงละเลยขั้นตอนการค้นตัว
หลงเทามองดูลีโม่ด้วยท่าทีร้อนใจ กัดฟันกรอดเดินเข้าไปในบ้าน
ในตอนนี้หากทำตัวลับ ๆล่อ ๆเกรงว่าจะถูกทำร้ายได้ ซึ่งมีทางเลือกอยู่อย่างเดียวคือทำท่าทีสงบนิ่ง แต่ลูกเล่นของหลงเทาล้วนอยู่ในสายตาของหลี่โม่ทั้งหมด
คุณชายสามหลิน นั่งอยู่ตรงเก้าอี้โยก เอียงศีรษะเทน้ำชาให้กับเฉียนเปิดตาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
เฉียนเปิดตาสวมชุดโบราณกังฟูจีน ใบหน้าขาวนวลดูดีมีราศีสง่างาม ดูแล้วไม่เหมือนกับนักมวยกังฟูที่โหดเหี้ยมดุร้าย หากบอกว่า เขาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ยังจะมีคนเชื่อเสียมากกว่า
ด้านหลังของเฉียนเปิดตา มีชายรูปร่างกำยำสวมชุดฝึกกังฟูสีดำยืนอยู่สิบกว่าคน ชายร่างกำยำแต่ละคนใบหน้าดุดัน ดูแล้วโหดเหี้ยมพอควร
ลุงเป้านั่งทอดตัวอยู่บนรถเข็นด้วยท่าทีซังกะตาย ทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลที่บริเวณขา สนทนากับคนทั้งสองในฐานะแขก
“คุณชายสาม ศิษย์น้องเฉียนเปิดตาของผมมีชื่อเสียงโด่งดัง ตราบใดที่เงินถึงมือไม่ว่าเรื่องใดก็สามารถทำได้อย่างเรียบร้อย สำหรับเรื่องในครั้งนี้คุณวางใจได้ ผมมีศิษย์น้องเฉียนเปิดตา และยังมีพี่น้องพวกนี้อีก บุกตะลุยในเมืองฮ่านอย่างไร้คู่ต่อสู้”
เฉียนเปิดตาแย้มยิ้มด้วยท่าทีอ่อนโยน โบกไม้โบกมือพูดว่า “ศิษย์พี่กล่าวยกย่องเกินไปแล้ว ทำเรื่องอะไรชื่อเสียงจำเป็นต้องมี พวกเราเป็นคนฝึกกังฟูไม่สามารถทำในสิ่งที่ผิดคุณธรรมเพื่อเงิน เงินของคน ๆนั้นจะต้องทำลายคนอื่นอย่างแน่นอน”
“ส่วนเรื่องบุกตะลุยเมืองฮ่านจนไร้คู่ต่อสู้นั้นไม่กล้ายืนยัน มีคนกล่าวว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือคนยังมีคนเหนือกว่า คนที่มีความสามารถต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง ผมทำงานในช่วงหลายปีมานี้ยึดถืออยู่สองคำคือ ถ่อมตัว ต่อให้เอาชนะทุกคนจนไร้คู่ต่อสู้ ผมคิดว่าวิชากังฟูของผมยังจำกัด ยังไม่ได้สูงส่งอะไรนักหนา”
เฉียนเปิดตาเปิดตัวก็เริ่มแสร้งปั้นหน้าเก๊กท่าแล้ว ทำให้คุณชายสามหลิน ได้เรียนรู้อะไรไปมากมาย
หลายปีมานี้ ตนเองมักจะแสดงท่าทีข่มเหงคนอื่นมาตลอด ไม่เคยสัมผัสถึงแก่นแท้ของการแสร้งปั้นหน้าเก๊กท่าเลย เฉียนเปิดตา คนที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ เป็นแบบอย่างของยอดฝีมือชั้นสูงจริง ๆ เสแสร้งเสียจนเป็นธรรมชาติมืออาชีพมาก
“ความจริงที่คุณพูดนั้น ดีจริงๆ การถ่อมตัวสองคำนี้ ถึงจะเป็นแก่นแท้ วันนี้ผมได้เรียนรู้จากคุณมากมาย จากนี้ต่อไปผมจะฝึกฝนการถ่อมตัวให้มาก”
คุณชายสามหลิน หัวเราะด้วยความดีใจ
ชายร่างกำยำที่พาตัวหลงเทากับหลี่โม่ เดินตรงเข้ามาข้างกายของคุณชายสามหลินพูดกระซิบว่า “คุณชายสาม หลงเทามาถึงแล้ว”
คุณชายสามหลิน ใช้หางตามองหลงเทากับหลี่โม่ที่ยืนก้มหน้าอยู่ แสดงแววตาเหยียดหยาม ภายในสมองครุ่นคิดการถ่อมตัวควรทำอย่างไร
ลุงเป้าขมวดคิ้วเปลี่ยนอากัปกิริยา รู้สึกว่าจะนั่งท่าไหนล้วนเจ็บปวดเหลือทน นอนนิ่ง ๆจะรู้สึกสบายตัวกว่า แต่น่าเสียดายในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เหมาะที่จะนอนอยู่นิ่ง ๆ
ลุงเป้าที่นอนเจ็บปวดอยู่นั้นก็ไม่ได้ให้ความสนใจหลงเทากับหลี่โม่ เพราะว่ามีเฉียนเปิดตาอยู่ด้านข้าง ลุงเป้ารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องความปลอดภัย ถึงเวลานี้หากใครที่จะมาก่อกวน ก็เหมือนกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
เฉียนเปิดตา กวาดสายตามองดูหลงเทากับหลี่โม่ สังเกตจังหวะก้าวเดินของทั้งสองดูไม่มั่นคงโยกเยกไปมา จึงตัดสินให้ทั้งสองคนอยู่ระดับปลายแถว ไม่ได้ให้ความสำคัญทั้งสองคนมากนัก
“คุณชายสาม ผู้น้อยหลงเทาเดินทางมาพบท่าน หวังว่าจะสามารถเจรจาเรื่องความร่วมมือกันได้”
หลงเทายกมือทั้งสองกุมไว้แสดงความเคารพและโค้งคำนับพูด
“เจรจาความร่วมมือ ได้ คุณพูดมาสิว่าจะคุยกันอย่างไร คิดจะร่วมมือกันด้วยวิธีไหน คุณลองว่ามาสิ”
คุณชายสามหลินพูดออกไปด้วยท่าทีเหม่อลอย ในใจครุ่นคิดว่าทำยังไงถึงจะเก๊กท่าให้ดูถ่อมตัว
ในงานเลี้ยงที่ภัตตาคารเสียหน้าไปมาก ครั้งนี้ต้องแสร้งทำท่าทวงเกียรติของตนกลับมาให้ได้ มิฉะนั้นต่อไปคงไม่มีหน้าที่จะไปพบกับคนอื่นอีกแล้ว
หลงเทาตกใจครู่หนึ่ง รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ถ้าเจรจาเรื่องความร่วมมือ ก็ต้องให้คุณชายสามหลิน เป็นผู้กำหนดวิธีการ จะให้คนเป็นคนกล่าวขึ้นก่อนได้อย่างไร?
หรือว่าครั้งนี้ คุณชายสามมองออกแล้ว?
แต่มันก็ไม่เหมือน หากคุณชายสามหลินมองออกแล้วจริง ๆ ตอนนี้คงต้องถูกลูกน้องของเขาเอาปืนมาจ่อหัวแล้วล่ะ
หรือว่าคุณชายสามหลิน กำลังเตรียมเล่นละคร ค่อย ๆปั่นหัวตนเองกับหลี่โม่?
เชี่ย รอให้แกมาอัดถั่วดำเหรอ ถ้าเป็นอย่างนี้ศักดิ์ศรีความเป็นชายก็คงจะสูญสิ้น
ในใจหลงเทาคิดฟุ่งซ่าน จนลืมตอบคำถามของ คุณชายสามหลิน
หลี่โม่ สะกิดไปที่หลงเทาเบา ๆ กระซิบว่า “อย่ามัวยืนเหม่ออยู่สิ”
หลงเทาดึงสติกลับคืนมา พยักหน้ายิ้มรับพูดว่า “ฟังคุณชายสามพูดออกมาสิ ผมจะพูดต่ออย่างไรดีล่ะ ครอบครัวของท่านทำธุรกิจใหญ่โต ส่วนผมเองนั้นไม่เคยทำธุรกิจใหญ่มาก่อน แน่นอนว่าต้องให้ท่านเป็นคนเสนอความคิดเห็น”
“ครอบครัวของผมทำธุรกิจใหญ่โตที่ไหนกันล่ะ ครอบครัวผมทำธุรกิจเล็ก ๆ ไม่น่าสนใจ เทียบกับพวกคุณไม่ได้เลย คุณเป็นลูกพี่ใหญ่มาจากแดนไกล จะต้องมีวิธีที่ดีแน่นอน ลองเสนอความคิดของคุณมาดูสิ จากนั้นพวกเราค่อยลงรายละเอียดกันอีกครั้ง”
ดูจากท่าทางใจดีเป็นมิตรของคุณชายสามหลิน หลี่โม่ประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกว่าครั้งนี้เรามาพบกับคุณชายสามตัวปลอมหรือเปล่า
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่เย่อหยิ่งยโส ทำไมจู่ ๆเปลี่ยนมาดูอบอุ่นอ่อนโยน หรือคุณชายสามหลินตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว จนทำให้อุปนิสัยใจคอเปลี่ยนไปได้อย่างกะทันหันร้อยแปดสิบองศา
หลงเทายืนอึ้งจ้องมองคุณชายสามหลิน ลังเลอยู่พักใหญ่ สุดท้ายจึงโค้งคำนับและพูดว่า “ผมเองก็คิดเช่นนี้ ผมเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ คิดว่าค่อย ๆซื้อสินค้าจากทางคุณแล้ว ค่อย ๆขยายกิจการไปตามลำดับ”
“แน่นอนว่า หากคุณสนับสนุนผม ให้เครดิตการซื้อสินค้ากับผม ผมกล้ารับประกันได้เลยว่า จะทำให้สินค้าของตระกูลหลินกระจายไปทั่วทั้งมณฑล จนยึดครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในมณฑลได้อย่างแน่นอน”
คุณชายสามหลินได้ยินแล้วพยักหน้าพูดว่า “สิ่งที่คุณพูดมานั้นดีมาก เป็นความคิดที่กล้ามาก ใจกล้ามากจริง ๆ”
“ฮ่าฮ่า คุณชายสามคุณชมเชยเกินไปแล้ว ผมก็แค่วางแผนไว้เท่านั้น จะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องอยู่ที่คุณแล้วล่ะ”
หลงเทาโค้งคำนับตอบรับคำ
“พูดว่าคุณใจกล้า คุณดีใจจนตัวลอยเลยเหรอ? ยังมาขอเครดิตอีก คุณช่างใจกล้ามากเลยนะ ยังกล้าพูดออกมาอย่างนี้อีก!รู้ไหมสินค้าของกูส่งออกไปขายต่างประเทศยังขายกันด้วยเงินสด ต้องการเครดิตสินค้า ฝันไปเถอะ!”
ชั่วพริบตาเดียวสีหน้าของคุณชายสามหลินเปลี่ยนไปในทันที มีท่าทางหยาบคายขึ้นมาเล็กน้อย
หลงเทายืนบื้อไปในทันที รู้สึกว่าคุณชายสามหลินคงจะเป็นคนราศีจอ ใบหน้าของสุนัขจะเปลี่ยนไปรวดเร็วกว่าคนมาก
“ไม่ใช่ ผมก็แค่บอกว่าเป็นแค่แนวคิด ไม่ใช่บอกว่าจะต้องทำอย่างที่ผมพูดออกมา คุณชายสามคุณโปรดเข้าใจด้วย”
หลงเทาพูดไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“ไม่มีกำลัง ก็ไม่ต้องคุยเรื่องความร่วมมือ คิดว่าเส้นสายของคุณชายสามหลินจะให้ใครเข้าร่วมได้ง่าย ๆเหรอ!”
คุณชายสามหลินพูดจบก็มองไปทางเฉียนเปิดตาพูดว่า “ไม่งั้นก็ให้ลูกน้องของคุณออกกำลังกายสักหน่อย ให้ผมได้เปิดหูเปิดตาลักษณะท่าทางของยอดฝีมือของพวกเขา”
“ได้เลย หม่างจือ นายไปจัดการสองคนนี้สิ ให้คุณชายสามได้เห็นความสามารถของพวกเรา พรุ่งนี้ไปจัดการกับไอ้คนแซ่หลี่อะไรนั่น เพื่อให้คุณชายสามมั่นใจ”
เฉียนเปิดตาพูดด้วยท่าทีดุดัน จากนั้นมีชายร่างกำยำคนหนึ่งเดินมาจากด้านหลังเขา
ชายร่างกำยำยิ้มแยกเขี้ยวพูดว่า “พี่ใหญ่ พี่วางใจได้ ก็แค่คนไร้ฝีมือสองคน ผมจะอัดพวกมันให้ล้มไปกองด้วยสองหมัด ให้พวกคุณดูเป็นขวัญตา”