“โอ้ หมาที่ไหนมาเห่าแถวนี้วะ ถ้าแกยังกล้าเห่า ฉันจะสับแกเป็นชิ้นๆ แล้วให้แมวกิน”
คุณชายสามหลินพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
กู้ชิงหลินมองหลี่โม่ด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็มองฉิงจี้เย่ด้วยแววตาเคียดแค้น
“คุณชายสาม เมื่อกี้ไอ้หมาตัวนี้มันตบฉัน คุณดูหน้าฉันสิ ยังมีรอยที่มันตบอยู่เลย คุณต้องแก้แค้นให้ฉันนะ!”
“สบายใจได้เลย ฉันจะจัดการไอ้หมาตัวนี้เอง แซ่ฉิงแล้วจะคิดว่าตัวเองใหญ่โตเหรอ ตระกูลฉิงของพวกแกไม่อยู่ในสายตาฉันหรอก คุกเข่าร้องขอชีวิตซะเถอะ ถ้าฉันอารมณ์ดีอาจจะไว้ชีวิตหมาอย่างแกก็ได้”
คุณชายสามหลินมองฉิงจี้เย่อย่างดูถูก เขากำลังกดความน่าเกรงขามของฉิงจี้เย่
ฉิงจี้เย่ยกมือขึ้นมาส่งสัญญาณ เหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกลวิ่งเข้ามา
“ฮ่าๆๆๆ”
คุณชายสามหลินหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็เอี้ยวตัวดึงปืนออกมา เขาลั่นไกปืนใส่บอดี้การ์ดที่กำลังวิ่งเข้ามา
ปัง ปัง ปัง!
กระสุนแต่ละนัดของคุณชายสามหลิน ยิงโดนตัวของบอดี้การ์ดจนล้มลง เพียงชั่วพริบตาเหล่าบอดี้การ์ดของฉิงจี้เย่ก็ไม่กล้าเข้ามาแล้ว พวกเขาต่างพากันหาที่หลบ
เขาชูนิ้วขึ้นมา ปืนถูกควงอยู่ที่นิ้วของคุณชายสามหลิน กู้ชิงหลินเขย่งเท้าและเอามือโอบรอบคอของคุณชายสามหลิน เธอหอมคุณชายสามหลิน
“ที่รักสุดยอดเลย คุณแมนมาก คุณคือเจ้าชายขี่ม้าขาวในใจของฉัน”
“ฮ่าๆๆๆ เธอพูดดีขนาดนี้ คืนนี้ฉันต้องมอบความรักให้เธออย่างเต็มที่”
คุณชายสามหลินโอบเอวของกู้ชิงหลินอย่างมีความสุข เขาคิดว่าครั้งนี้ตัวเองอวดดีได้คะแนนเต็ม
เหล่าคุณหนูคุณชายที่อยากรู้อยากเห็นต่างพากันหลบอยู่หลังโซฟา คนจำนวนไม่น้อยตกใจกับเสียงปืนที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขาต่างพากันหน้าซีดเผือด
เมื่อเห็นเหล่าบอดี้การ์ดที่บาดเจ็บอยู่บนพื้น เหล่าคุณหนูคุณชายที่อยากรู้อยากเห็นมองคุณชายสามหลินด้วยแววตาหวาดกลัว
กล้าใช้ปืนในที่สาธารณะแบบนี้ แถมยังยิงบอดี้การ์ดของตระกูลฉิงอีกด้วย คุณชายสามหลินทำเป็นกร่างมาก
“ให้ตายเถอะ คุณชายสามหลินน่ากลัวกว่าที่เคยได้ยินอีกนะ ครั้งนี้ฉิงจี้เย่มันหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ เมื่อกี้มันทำตัวเป็นสุนัขรับใช้ของหลี่โม่ ไม่รู้ตอนนี้มันสำนึกได้ไหม”
“สมัยนี้เป็นสุนัขรับใช้ไม่ง่ายแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเจอกับคนที่น่ากลัว สุนัขรับใช้จะโดนเป็นคนแรก ดูท่าหลี่โม่คงจะไม่ปกป้องฉิงจี้เย่อย่างแน่นอน นี่เขาจะต้องให้ฉิงจี้เย่รับกรรมแน่นอน”
“โหดเหี้ยมมาก นี่คือแผนที่คุณชายสามหลินเตรียมบุกฉู่โจวหรือเปล่า ถ้าคุณชายสามหลินลงมือ กลัวว่าจะมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว ครั้งนี้ตระกูลฉิงซวยแน่ เพราะเป็นศัตรูกับตระกูลหลินโดยตรง”
เหล่าคุณชายต่างพากันถกเถียงขึ้นมาเบาๆ คนจำนวนไม่น้อยต่างพากันคิดที่จะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายสามหลิน ไม่แน่ฉู่โจวอาจจะล้างบางครั้งใหญ่ ต้องดูว่าคุณชายสามหลินจะได้ส่วนแบ่งเท่าไร
คุณชายสามหลินเอียงคอกะพริบตาให้เฉินเสี่ยวถง จากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ “สุดสวย เธอว่าการกระทำเมื่อกี้เท่ไหม”
เฉินเสี่ยวถงทำเป็นหวาดกลัวเล็กน้อย และขยับเก้าอี้ไปนั่งข้างหลังหลี่โม่ เธอพูดกับคุณชายสามหลินเบาๆ ว่า “ฉันไม่ชอบคุณ คุณอย่ามามองฉัน”
กู้หยุนหลันหันไปมองเฉินเสี่ยวถงที่นั่งอยู่หลังหลี่โม่ เธอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะเอามือคล้องแขนหลี่โม่ เหมือนเป็นการประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของ
หลี่โม่ยิ้มแหยๆ เขาไม่เข้าใจว่าเฉินเสี่ยวถงกำลังทำอะไร พ่อบ้านที่อยู่ข้างเธอดูเหมือนคนมีฝีมือ เธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาหลบข้างหลังเขา
ลุงฝูขยับมายืนข้างหลี่โม่ เขาโค้งตัวลงเล็กน้อยและพูดว่า “คุณผู้ชาย รบกวนคุณช่วยดูแลคุณหนูของผมด้วยนะครับ คุณหนูเธอขี้กลัว เดี๋ยวผมจะจัดการพวกเขา ผมกลัวว่าเธอจะกลัวครับ ขอร้องล่ะครับ”
“เอ่อ ให้ภรรยาผมดูแลเธอเถอะ คุณไปสบายเถอะ”
หลี่โม่เลิกคิ้วแล้วพูดขึ้น
ลุงฝูฟังแล้วรู้สึกเศร้าแปลกๆ อะไรคือไปสบายเถอะ พูดเหมือนเขากำลังจะไปตายอย่างไรอย่างนั้น น่าโมโหจริงๆ
กู้หยุนหลันพอใจกับคำตอบของหลี่โม่มาก เธอจับแขนของหลี่โม่เบาๆ เมื่อเห็นหลี่โม่มองมาที่เธอ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว
หลี่โม่หัวเราะอย่างมีความสุข เขาโน้มหน้าเข้ามาเพื่อจะจูบกู้หยุนหลัน แต่ทว่าเธอกลับเบี่ยงหน้าหนี
เมื่อเฉินเสี่ยวถง กู้ชิงหลิน และคุณชายสามหลินเห็นกู้หยุนหลันกับหลี่โม่สวีทกันต่างก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
“กู้หยุนหลัน ยัยคนหน้าไม่อาย ยังไม่รีบมาปรนนิบัติคุณชายสามหลินอีกเหรอ!”
กู้ชิงหลินตวาดออกมาด้วยความโมโห
คุณชายสามหลินส่งเสียงหึ และมองหลี่โม่ด้วยสายตาเย็นชา “แกคือหลี่โม่ที่เกาะผู้หญิงกินใช่ไหม ไหนลองคลานและเห่าเหมือนหมาดูสิ ไม่แน่ฉันอาจจะไว้ชีวิตแกให้เป็นหมาเฝ้าประตูได้นะ ถ้าแกไม่ยอมทำตามดีๆ ก็คงจะหึหึ”
หลี่โม่ปรายตามองคุณชายสามหลินแล้วส่ายหน้าพูดว่า “แกนี่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรจริงๆ คิดว่าทำเป็นเท่แล้วจะเท่จริงๆ เหรอ ปัญญาอ่อนจริงๆ”
“บ้าไปแล้วเหรอ แกกล้าเรียกฉันว่าปัญญาอ่อนเหรอ เข้าไปจัดการไอ้หมาไร้ค่านี่ให้เละ!”
คุณชายสามหลินพูดอย่างโหดเหี้ยม
เหล่าลูกน้องที่อยู่ข้างหลังคุณชายสามหลินยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น แต่ละคนเดินกำหมัดเข้าไปหาหลี่โม่
ฉิงจี้เย่กัดฟันกรอด เขาเดินเข้าไปขวางลูกน้องของคุณชายสามหลินเอาไว้
“ถ้าจะทำอะไรคุณหลี่ก็ข้ามศพฉันไปก่อน”
ฉิงจี้เย่พูดพลางตั้งท่าพร้อมสู้
“โอ้ คำพูดกระจอกๆ แบบนี้ยังมีคนพูดออกมาด้วย ในเมื่อต้องการให้พวกเราข้ามศพแกไปก่อน งั้นพวกเราก็ไม่เกรงใจแล้วนะ”
“ในเมื่อแกโหยหาความตาย งั้นฉันจะสนองให้แกเอง วันนี้ฉันจะส่งแกไปสู่สุคติ และจะเหยียบศพแกจนเละ!”
“เข้ามาเลย!”
ฉิงจี้เย่ส่งเสียงออกมาและวิ่งเข้าไป เขาปะทะกับสองคนข้างหน้าอย่างสุดชีวิต
สองคนที่ยืนตรงข้ามฉิงจี้เย่ไม่ทันตั้งตัวและโดนจัดการจนล้มลงกับพื้น จากนั้นเหล่าคนที่อยู่รอบๆ จึงรีบพุ่งเข้ามาหาฉิงจี้เย่
ตัวคนเดียวย่อมไม่สามารถสู้คนจำนวนมากได้ ฉิงจี้เย่เสียเปรียบ เขาเป็นฝ่ายที่โดนต่อย
กู้หยุนหลันเห็นดังนั้น จึงอดพูดออกมาเสียงเบา “นายไม่ไปช่วยเขาเหรอ”
“นี่คือสิ่งที่เขาเลือกเอง ผมเลยต้องให้โอกาสให้เขาแสดงฝีมือ ไม่งั้นเขาคงไม่สบายใจ”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฉิงจี้เย่ต้องการให้หลี่โม่เห็น เขาอยากแสดงความจริงใจของตัวเองให้หลี่โม่เห็น
กู้หยุนหลันประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็เข้าใจถึงเหตุผลที่แฝงอยู่ในนั้น
เฉินเสี่ยวถงหูตั้งฟังทั้งบทสนทนาของทั้งสองคน เธอแอบวิเคราะห์ในใจว่าหลี่โม่เป็นคนยังไง
ลุงฝูมองสถานการณ์ของฉิงจี้เย่ในตอนนี้ เขาส่ายหน้าและคิดว่าฉิงจี้เย่น่าจะรับมือไม่ไหว
พลั่ก
มีคนยกขาขึ้นมาเตะข้างหลังฉิงจี้เย่ ฉิงจี้เย่เซไปมาก่อนที่จะล้มหน้าคว่ำลงพื้น
ฉิงจี้เย่ฝืนลุกขึ้นยืนและปาดเลือดใต้หน้าผาก จากนั้นจึงแผดเสียงออกมาว่า “เข้ามาสิ!”