ฉิงจี้เย่กลับมานั่งที่เดิม สายตาของเขายังคงมองไปที่เฉินเสี่ยวถง ตอนนี้เขาเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
หลี่โม่หัวเราะแล้วพูดว่า “ถ้านายชอบก็เข้าไปสารภาพสิ แอบมองอยู่อย่างนี้จะได้อะไร”
“เอ่อ เมื่อกี้ผมเข้าไปแล้ว แต่ แต่……”
ตอนนี้ฉิงจี้เย่ไม่เหลือคราบคุณชายอันน่าเกรงขามของตระกูลฉิงเลย เขาเหมือนหนุ่มน้อยที่เพิ่งมีความรัก พอเห็นผู้หญิงที่ทำให้ใจสั่นก็ทำอะไรไม่ถูก
กู้หยุนหลันหัวเราะ จากนั้นจึงโน้มหน้าเข้าไปใกล้หูหลี่โม่แล้วพูดว่า “นายไม่ใจสั่นสักนิดเลยเหรอ”
“แน่นอน ในใจผมมีแค่คุณ ใส่คนอื่นเข้าไปไม่ได้อีกแล้ว”
หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง
หูตั้งของเฉินเสี่ยวถงได้ยินบทสนทนาของพวกหลี่โม่ เมื่อได้ยินหลี่โม่พูดว่าไม่สามารถใส่คนอื่นเข้ามาในใจได้อีก เธอถึงกับกัดฟัน
ทำเป็นพูดว่าไม่สามารถมีคนอื่นได้อีก คำพูดของผู้ชายหลอกลวงทั้งนั้น ฉันจะทำให้นายมาอยู่ในมือของฉันให้ได้ ดูสิว่าถึงตอนนั้นใจของนายจะมีคนอื่นได้ไหม!
เดิมที เฉินเสี่ยวถงเห็นการยั่วยวนหลี่โม่เป็นเพียงหน้าที่ แต่ตอนนี้เธอเริ่มจะเปลี่ยนใจขึ้นมา ขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง
ลุงฝูยืนก้มหน้าอยู่ข้างหลังเฉินเสี่ยวถง ขอแค่ไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายกับแผนการ เขาก็จะยืนอยู่อย่างสงบต่อไป
หลี่โม่มองลุงฝูที่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เขารู้สึกว่าลุงฝูเป็นคนมีฝีมือ
สวยแถมยังมีคนฝีมือคอยติดตาม หลี่โม่เดาว่าเฉินเสี่ยวถงคงจะไม่ใช่คนธรรมดา แถมเธอยังมานั่งที่มุมไกลจากสายตาของผู้คน หลี่โม่รู้สึกว่าเธออาจจะเข้ามาหาเขา
แต่หลี่โม่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา ชีวิตคนเหมือนละครที่ต้องแสดง ในเมื่อเฉินเสี่ยวถงต้องการแสดง หลี่โม่ก็อยากรู้ว่าเธอจะแสดงอะไรออกมา
“ฉิงจี้เย่ อย่ากลัวขนาดนั้นสิ เมื่อก่อนนายเป็นคนโหดเหี้ยมนิ เอาความใจกล้าของนายเข้าไปสารภาพสิ”
หลี่โม่พูดแล้วหัวเราะออกมา
ฉิงจี้เย่ยิ้มแหยๆ เขาเกาหัวแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงพาลูกน้องมาชิงตัวเธอไปแล้ว แต่เมื่อผมเห็นเธอ ผมกลับไม่มีความคิดไม่ดีแบบนั้นเลย ผมรู้สึกว่าถ้าหยาบคายกับเธอจะเป็นความผิด”
หลี่โม่กับกู้หยุนหลันมองหน้ากันไปมา ต่างรู้สึกว่าฉิงจี้เย่แปลก เขาโดนเฉินเสี่ยวถงตกไปแล้วแน่ๆ
ลูกน้องของคุณชายสามหลินมารวมตัวกัน พร้อมอาวุธครบมือ ดูเต็มไปด้วยความอาฆาต
กู้ชิงหลินส่งเสียงฟึดฟัดอยู่ในอกของคุณชายสาม เธอดึงเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายมาคลุมร่างกายของเธออย่างเขินอาย
“คุณชายสามใจร้ายมาก ให้ฉันใส่เสื้อผ้าเสร็จก่อนแล้วค่อยให้พวกเขาเข้ามาไม่ได้หรือไง”
“ฮ่าๆๆๆ นี่มันยิ่งน่าตื่นเต้นไม่ใช่เหรอ ลูกน้องของฉันเป็นยังไงบ้าง แต่ละคนเป็นชายโหดเหี้ยมกำยำทั้งนั้นเลยนะ ถ้าบอกว่าหนึ่งต่อร้อยก็เกินไป เอาเป็นว่าพวกเขาสามารถสู้หนึ่งต่อสิบได้สบายๆ เดี๋ยวดูหลี่โม่มาคุกเข่าร้องขอชีวิตได้เลย”
“คุณชายสามออกโรงเองแน่นอนว่าเป็นเรื่องง่ายแน่นอน เดี๋ยวฉันจะช่วยคุณชายสามสั่งสอนกู้หยุนหลัน ดูสิว่ามันจะทำเป็นผู้หญิงรักนวลสงวนตัวอีกไหม!”
แววตาของกู้ชิงหลินฉายแววเคียดแค้น
คุณชายสามหลินลุกขึ้นใส่เข็มขัด “ออกไปรอ อีกเดี๋ยวฉันจะพาพวกแกไปสนุก”
พวกลูกน้องต่างแยกย้ายออกไป กู้ชิงหลินใส่เสื้อผ้าด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
หลังจากที่ทั้งสองคนแต่งตัวเสร็จและควงกันเดินออกมา เหล่าลูกน้อง คุณชายสามหลินและกู้ชิงหลินเดินไปหน้าโรงเหล้า
เมื่อคุณชายสามหลินปรากฏตัวขึ้น สร้างความสั่นสะเทือนให้กับเหล่าบรรดาคุณชาย เหล่าคุณชายในเมืองฉู่โจว เมืองฮ่านและเมืองอื่นๆ ต่างพากันมองคุณชายสามหลินด้วยแววตาหวาดกลัว
ถึงแม้ตระกูลหลินที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ได้อยู่ในเมืองนี้ แต่ก็มีเรื่องเล่าของตระกูลหลินอยู่
คนที่เคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลหลิน ต่างก็รู้ถึงความโหดเหี้ยมดี อีกอย่างตระกูลหลินไม่ได้ทำธุรกิจปกติ ดังนั้นเหล่าคุณชายจึงจงใจรักษาระยะห่างกับคุณชายสามหลิน
เมื่อเห็นพวกของคุณชายสามหลินเดินเข้าไปทางหลี่โม่ เหล่าคุณชายรู้เลยว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่
“ให้ตายเหอะ อีกเดี๋ยวจะต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอน ฝั่งหลี่โม่มีสาวสวยระดับต้นๆ ตั้งสองคน สงสัยคุณชายสามหลินอาจจะพาคนไปชิงตัวสาวสวยแน่เลย”
“ผู้หญิงข้างๆ คุณชายสามหลินคือกู้ชิงหลินที่โดนตบเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ กู้ชิงหลินนี่เก่งจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะให้คุณชายสามหลินมาแก้แค้นได้”
“เดี๋ยวหลี่โม่ต้องโดนจัดการจนเละแน่ ถึงจะมีฉิงจี้เย่สักสิบคนก็คงสู้กับคุณชายสามหลินเพียงคนเดียวไม่ได้”
เหล่าคุณชายต่างพากันอยากรู้อยากเห็น แต่พวกเขาไม่กล้าเข้าไปเท่านั้น เพราะพวกลูกน้องของคุณชายสามหลินต่างพกอาวุธมาด้วย ถ้าโดนลูกหลงขึ้นมาซวยแน่
เพื่อนสนิทของกู้ชิงหลินต่างพากันตื่นเต้นขึ้นมา แต่ละคนพากันยิ้มอย่างสดใส
“กู้ชิงหลินสุดยอด คิดไม่ถึงว่าจะจีบคุณชายสามหลินได้ มิน่าล่ะถึงแอบตลอด แถมยังไม่แบ่งพวกเราด้วย”
“ได้ยินว่าคุณชายสามหลินไม่ได้เข้าหาง่ายๆ นะ ชิงหลินคงจะทุ่มสุดตัว แต่ครั้งนี้ชิงหลินจะต้องกู้หน้ากลับมาได้อย่างแน่นอน”
สวีอวิ๋นอวิ๋นนั่งอยู่ตรงมุมเพียงคนเดียว เธอใช้สายตามองกู้หยุนหลันกับหลี่โม่อย่างเคียดแค้น ถึงแม้ทั้งกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ไม่ได้ว่าอะไรเธอ แต่สวีอวิ๋นอวิ๋นกลับรู้สึกเกลียด
เกลียดที่กู้หยุนหลันกับหลี่โม่โดดเด่น เกลียดตัวเองที่ทำตัวไม่เป็นที่พอใจ เกลียดความไม่ยุติธรรมของชีวิต ทำให้จิตใจของเธอไม่สงบ เธออยากให้กู้หยุนหลันกับหลี่โม่เจอปัญหาเร็วๆ
ตอนนี้เห็นกู้ชิงหลินกับคุณชายสามหลินพาคนมาที่นี่ สวีอวิ๋นอวิ๋นตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอกำหมัดแน่นและพูดพึมพำกับตัวเอง
“ดีจริง คุณชายสามหลินมาแล้ว เดี๋ยวพวกเขาต้องจัดการแน่ ดูสิว่าพวกนายจะอวดดีอะไรอีก เมื่อกี้ไม่ไว้หน้าฉัน ตอนนี้ถึงคราวพวกนายต้องอับอายบ้าง”
คุณชายสามหลินเดินไปหาโต๊ะของหลี่โม่ท่ามกลางสายตาของทุกคน
หลังจากที่กวาดตามองกู้หยุนหลัน คุณชายสามหลินเห็นเฉินเสี่ยวถง จู่ๆ น้ำลายของคุณชายสามหลินแทบจะไหลออกมา
“ฮ่าๆๆ ชิงหลินที่รัก เธอช่างเป็นดาวนำโชคของฉันจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้มีแค่กู้หยุนหลัน ยังมีสาวงามที่เหมือนเอลฟ์อยู่ด้วย คืนนี้ฉันจะจัดการไม่พักเลย!”
คุณชายสามหลินหัวเราะออกมา
กู้ชิงหลินมองหลี่โม่กับกู้หยุนหลันอย่างเคียดแค้น เธอซบอกคุณชายสามหลินแล้วพูดว่า “คุณชายสามต้องจัดการหลี่โม่ก่อนนะ ไม่งั้นไอ้สวะนี่จะขัดแข้งขัดขา จะทำให้คุณชายสามทำอะไรไม่เต็มที่”
หลี่โม่ กู้หยุนหลัน เฉินเสี่ยวถงมองคุณชายสามหลินอย่างขยะแขยง ทั้งสามรู้สึกไม่ดีกับคุณชายสามหลิน
ลุงฝูมองคุณชายสามหลินและลูกน้อง จากนั้นเขาก็หลับตาเหมือนพระกำลังเข้าฌาน
ฉิงจี้เย่ดวงตาแดงก่ำและลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกต่อหน้าหลี่โม่หรือเฉินเสี่ยวถง ครั้งนี้ฉิงจี้เย่ต้องแสดงออกอย่างกล้าหาญ
“พูดให้ดีๆ หน่อยคุณชายสามหลิน”