ขบวนรถของท่านแปดหยุดลงอย่างช้า ๆ และเสียงเปิดและปิดประตูที่ดังขึ้น บอดี้การ์ดลงจากรถราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรู จากนั้นก็มองไปที่แนวป้องกันที่เย่จงเทียนและคนอื่น ๆ ตั้งขึ้นด้วยความระมัดระวัง
“แจ้งเตือนภัย!”
หัวหน้าผู้คุ้มการคำราม ผู้คุ้มกันใช้รถเป็นเกราะกำบัง และเล็งปืนไปที่แนวป้องกันของเย่จงเทียน และคนอื่น ๆ
เครื่องยิงจรวดถูกยกขึ้นจากด้านหลังรถ ทำให้เปลือกตาของฉิงจี้เย่กระตุกไม่หยุด
โดยไม่ลังเล ฉิงจี้เย่ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ พยักหน้าและโค้งคำนับแล้วมองไปที่รถเมอร์เซเดส-เบนซ์กันกระสุนที่จอดอยู่ไม่ไกล
รถเมอร์เซเดส-เบนซ์กันกระสุนนั้นถูกดัดแปลงให้สูงและกว้างขึ้น ใหญ่กว่ารถปกติมาก มองดูแล้วเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย
“ทุกคนอย่ายิง อย่าวิกตกกังวล ผมขอคุยกับท่านแปดได้ไหม? ผมมาพูดแทนคุณหลี่ พวกเรามีเรื่องอะไรก็ค่อย ๆคุยกัน ถ้าสู้กันขึ้นมา คนที่ตายหรือบาดเจ็บก็คือพี่น้องของพวกเราเอง”
ฉิงจี้เย่พูดเข้าเรื่องอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าขาทั้งสองจะสั่นไม่หยุด แต่ว่าฝีปากของเขาก็ลื่นไหล
การเผชิญหน้ากับท่านแปด โดยเฉพาะท่านแปดที่ไม่ได้ลงจากรถ ทำให้ฉิงจี้เย่ไม่รู้สึกกลัวมากนัก เมื่อเทียบกับการเผชิญหน้ากับหลี่โม่มันน่ากลัวกว่ามาก
หน้าต่างของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ถูกเลื่อนลงมาเป็นช่องเล็กน้อย ท่านแปดมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างระมัดระวัง กังวลว่าอาจจะมีนักแม่นปืนหรือแม้แต่มือปืน จึงไม่กล้าเปิดหน้าต่างจนสุด
หัวหน้าคุ้มกันเดินไปที่ประตูรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ แล้วพูดผ่านช่องว่า “ท่านแปด คุณคิดว่าพวกเราจะบุกเข้าไปดีไหม? พวกเรามีเครื่องยิงจรวด คาดว่าไม่ช้าแนวป้องกันนี้จะราบเป็นหน้ากลอง เพราะคนของเย่จงเทียนไม่มีอาวุธหนัก”
“ยังไม่รีบ ฟังซิว่าคนแซ่ฉิงจะพูดอะไร”
หัวหน้าผู้คุ้มกันพยักหน้า เดินไปหาฉิงจี้เย่อย่างรวดเร็ว หยิบปืนสั้นออกมาแล้วเล็งไปที่หน้าผากของฉิงจี้เย่
“ไปกันเถอะ จะพาคุณไปพบท่านแปด”
ฉิงจี้เย่ยกมือสูงขึ้นอีก แล้วเดินตามหัวหน้าผู้คุ้มกันไปที่หน้าต่างรถของท่านแปด
ท่านแปดมองฉิงจี้เย่ผ่านหน้าต่างรถ หรี่ตาและกล่าวว่า “คุณเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเคอรี่ไอแก่ในประเทศจีน? คุณคงรู้ใช่ไหมว่าพวกเขาเป็นศัตรูกับของสำนักหลงเหมินของพวกเรา”
“ผมรู้ สิ่งที่ผมทำก็แค่ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเท่านั้นเอง ผมไปเจอพวกเขาตอนที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมก็เลยจำเป็นต้องเดินในเส้นทางที่มืดเส้นนี้ แต่ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับสำนักหลงเหมินน่ะครับ”
ฉิงจี้เย่รู้สึกสับสน ไม่คิดว่าท่านแปดจะรู้ตื้นลึกหนาบางของตนเอง
“ฮึ่ม ๆ เมื่อก่อนคุณอาจจะไม่เคยทำมาก่อน แต่ครั้งนี้อาจไม่เป็นเช่นนั้น เย่จงเทียนและมือสังหารพวกนี้ คุณอย่าพูดว่าพาพวกเขามาเล่นขายของเท่านั้น”
ท่านแปดกล่าวเย้ยหยัน
“ท่านแปด เข้าใจผิดแล้ว เป็นการเข้าใจผิดทั้งหมด ที่ผมพาพวกเขามาแค่มาสังสรรค์กัน เพื่อเตรียมขยายสายงานในอนาคตเท่านั้น”
“ทำไมหลี่โม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เขาไม่น่าจะมีธุระอะไรกับคุณ”
ท่านแปดถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา มีรังสีสังหารปรากฏขึ้นอยู่ในแววตา
“หลี่โม่เข้ามาก่อเรื่องวุ่นวาย ก่อนหน้านั้นผมรับคำสั่งให้ไปลอบสังหารเขา แต่มีบางอย่างผิดพลาด เลยถูกหลี่โม่จัดการ หลี่โม่เลยมาหาผมเพื่อแก้แค้น ปรากฏว่าแต่เขาไม่สามารถเอาชนะลูกน้องไร้ประโยชน์ของผมได้ แต่หลี่โม่กลับล่วงเกินท่านแปด พวกเราไม่ได้ตั้งใจเป็นศัตรูกับท่านแปดอย่างแน่นอน”
ทักษะการแสดงของฉิงจี้เย่นั้นยอดเยี่ยมมาก พูดจนเขาก็เชื่อเรื่องที่ตนเองนั้นพูด และการแสดงออกของเขานั้นหาที่เปรียบมิได้ ดังนั้นจึงทำให้ท่านแปดไม่รู้สึกระแคะระคายอะไร
คำพูดเหล่านี้ถ้าบอกว่าเท็จมันก็เท็จ แต่ถ้าบอกว่าจริงมันก็เป็นเหมือนจริงทั้งหมด ฉิงจี้เย่ยังรู้สึกมึนงงหลังจากพูดเรื่องพวกนี้ และไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมันเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ
“คิดว่าคุณคงไม่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับผม เพราะว่าประเทศจีนเป็นเขตอิทธิพลของสำนักหลงเหมิน อีกสักครู่ผมจะกลับมาคิดบัญชี เรื่องที่คุณกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา บอกมาสิว่าหลี่โม่ให้คุณมาแจ้งอะไร”
“หลี่โม่บอกว่าคุณสามารถพาบอดี้การ์ดเข้าไปได้เพียงสองคน มากว่าคนหนึ่งก็ไม่ได้ ข้างในมีเพียงหลี่โม่คนเดียวเท่านั้น เรื่องนี้ผมกล้าสาบานต่อพระเจ้า”
หลังจากฉิงจี้เย่พูดจบ เขามองไปที่ท่านแปดอย่างระมัดระวัง เพื่อรอคำตอบจากท่านแปด
ท่านแปดหลับตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่ายังไงก็มาแล้ว ถ้าเขาไม่กล้าพบหลี่โม่ในเวลานี้ เขาจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะแน่นอน
“จู่รื่อกับฮั่นซานตามฉันเข้าไป และพวกคุณที่เหลือก็เฝ้าระวังอยู่ข้างนอก”
หัวหน้าผู้คุ้มกันกล่าวอย่างกังวลว่า “ท่านแปด แบบนี้ไม่ดีมั้ง ให้พวกเราบุกเข้าไปข้างในดีกว่า”
“บุกอะไร การต่อสู้เล็ก ๆ เช่นนี้มีอะไรน่ากลัว”
ท่านแปดผลักประตูรถ มีจู่รื่อกับฮั่นซานปกป้องคุ้มครองอยู่ทั้งสองด้านของท่านแปด ทั้งสองคนมีรูปร่างที่สูงใหญ่กำยำ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายเหมือนเสือที่ดุร้าย
“ผมจะเดินนำทาง”
ฉิงจี้เย่เป็นเหมือนคนรับใช้ตัวเล็ก ๆ โค้งคำนับเล็กน้อยและเดินไปข้างหน้า เพื่อนำทางให้ท่านแปด
ท่านแปดเดินผ่านแนวป้องกันของเย่จงเทียนและคนอื่น ๆ โดยไม่เกรงกลัว แล้วเดินเข้าไปในโรงงานร้าง
ที่ประตูโรงงาน ฉิงจี้เย่หยุดฝีเท้าลง “ท่านแปด หลี่โม่อยู่ข้างหลัง คุณอยู่ที่นี่ก็สามารถมองเห็นเขาได้ ผมไม่สะดวกที่จะเข้าไปข้างใน”
“อึ่ม”
ท่านแปดส่งเสียงออกมาประโยคหนึ่ง เดินไปทางที่หลี่โม่อยู่ภายใต้การอารักขาของจู่รื่อกับฮั่นซาน
หลี่โม่เอนหลังพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน และยิ้มเมื่อท่านแปดเดินเข้ามาถึง
ท่านแปดมองดูท่าทางเกียจคร้านของหลี่โม่ และกล่าวอย่างเย็นชา “หึ ลักษณะเช่นนี้ของคุณ ยังอยากรับช่วงต่อสำนักหลงเหมิน มันเป็นแค่ความฝันของคนโง่”
“ผมไม่ต้องการรับช่วงต่อสำนักหลงเหมิน แต่เขาเป็นคนขอให้ผมกลับไปรับช่วงต่อสำนักหลงเหมินเอง”
ท่าทางของท่านแปดดูแข็งทื่อ และกล่าวอย่างดูถูกว่า “ตอนนี้มีราชินีของสำนักหลงเหมินดูแลแทน ไม่จำเป็นต้องมีคนไร้ประโยชน์อย่างคุณ ผมขอแนะนำให้คุณจงรักภักดีต่อราชินีของสำนักหลงเหมิน และเชื่อฟังราชินีของสำนักหลงเหมิน เช่นนี้ต่อไปคุณก็สามารถเสพสุขอย่างไร้กังวล”
“เชื่อฟังราชินีของสำนักหลงเหมิน? เกรงว่าแม้แต่ในความฝันเธอก็อยากจะฆ่าผม คุณคิดว่าเธอเอาความมั่นใจมาจากไหนในการครอบครองสำนักหลงเหมินเอง และใครอยู่เบื้องหลังเธอ อย่าพูดถึงราชามังกรทั้งแปดของพวกคุณเลย พวกคุณมันเป็นแค่แมลงน่าสงสารที่ถูกเธอหลอกใช้” หลี่โม่กล่าวพร้อมกับหลับตา
ท่านแปดขมวดคิ้วจนแน่น คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หัวเราะเยาะเย้ยว่า “คุณคิดได้มากมายน่ะ แต่คุณไม่ได้คิดถึงประเด็นหลัก พวกเราแค่ใช้คนโดยคำนึงถึงความสามารถเท่านั้น ความสามารถและคุณธรรมของคุณไม่คู่ควรในการครอบครองสำนักหลงเหมิน”
“สำหรับราชินีของสำนักหลงเหมิน ไม่จำเป็นต้องให้ใครสนับสนุน ด้วยความสามารถของเธอ ทำให้เธอสามารถปกครองสำนักหลงเหมินได้ สำนักหลงเหมินอยู่ภายใต้การปกครองของเธออย่างน้อยก็จะไม่แตกแยก แต่ถ้าอยู่ภายใต้การปกครองของคุณ สำนักหลงเหมินจะต้องแตกแยกแน่นอน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่อยากจะเห็น”
ราชามังกรทั้งแปดต่างปกครองคนละด้าน พวกเขามีความมั่งคั่งและอำนาจพิเศษอยู่ในมือ มีเพียงผู้ที่มีความสามารถที่น่าทึ่งเท่านั้นที่สามารถระงับความทะเยอทะยานของพวกเขาได้
เมื่อหลี่โม่เข้ารับตำแหน่ง หลี่โม่ไม่สามารถโน้มน้าวฝูงชนได้ ในเวลานั้นกลัวว่าความทะเยอทะยานของราชามังกรทั้งแปดจะเปิดเผยออกมา การแบ่งแยกและการต่อสู้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ราชินีของสำนักหลงเหมินสามารถปรามราชามังกรทั้งแปดได้ ขณะเดียวกันก็สามารถรักษาสมดุลระหว่างราชามังกรทั้งแปดได้ นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับราชามังกรทั้งแปด เพราะตอนนี้พวกเขายังไม่พร้อมที่จะต่อสู้กันเอง
เพราะราชามังกรทั้งแปดล้วนต้องการที่จะเป็นผู้ครอบครองสำนักหลงเหมิน แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะเห็นสำนักหลงเหมินแบ่งแยก เพราะถ้าสำนักหลงเหมินถูกแบ่งแยกแล้วอำนาจก็จะลดลง จะกลายเป็นเป้าหมายของสำนักขนาดใหญ่อื่น ๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงเวลานั้นอาจจะทำให้สำนักหลงเหมินล่มสลายไป