บทที่ 245 การมาเยือนของคนใหญ่คนโต!
เมื่อเห็นว่ากู้หยุนหลันดูจริงจังมาก หลี่โม่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเตรียมที่จะบอกความจริงกับเธอทุกอย่าง
แต่ทันใดนั้น!
รถโรลส์รอยซ์แฟนทอมก็ขับเข้ามาจอดอยู่ข้างๆ พวกเขา จากนั้นเฉียนฝูก็ผลักประตูรถและลงมาจากรถ
เมื่อเห็นหลี่โม่ เฉียนฝูก็ยิ้มและเดินเข้าไปพวกเขาทั้งสอง “คุณหลี่ครับ ครั้งก่อนที่คุณหลี่เคยช่วยเหลือผมไว้ ซึ่งทำให้ผมรอดพ้นจากหลายสิ่งหลายอย่าง พอดีว่าผมได้ข่าวว่าคุณหลี่มาร่วมงานวันเกิดของคุณปู่หวาง ผมจึงเตรียมการเล็กๆ น้อยให้กับคุณครับ”
กู้หยุนหลันมองไปที่เฉียนฝูด้วยความสงสัย จากนั้นหันกลับไปถามหลี่โม่อย่างประหลาดใจว่า “เตรียมการอะไร?”
“อ๋อ ผมเตรียมของขวัญวันเกิดให้กับคุณปู่หวางครับ อีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่าคุณหลี่มีความประสงค์ยังไง ผมจึงไม่ได้เขียนชื่อจริงของคุณหลี่ไว้ในของขวัญ แต่เขียนนามสกุลไว้เท่านั้นครับ”
“ส่วนฉู่จงเทียน เฉียวเจิ้งหลงแล้วก็อู๋เต้าเหวินเป็นเพื่อนของผม ผมจึงฝากพวกเขาให้ช่วยแสดงน้ำใจด้วย ก็เป็นการสร้างสีสันให้กับงานเลี้ยงครับ ไม่รู้ว่าคุณหลี่พอใจกับสิ่งที่ผมทำไหมครับ”
เฉียนฝูพูดอย่างแนบเนียนจนกู้หยุนหลันแทบจะเชื่อเขา
แต่เมื่อนึกถึงของขวัญวันเกิดอันล้ำค่าของคุณหลี่นั้น กู้หยุนหลันก็ไม่กล้าเชื่อเลย หลี่โม่ต้องทำยังไงถึงจะทำให้เฉียนฝูยอมมอบของขวัญอันล้ำค่าขนาดนั้นออกมาได้
ต่อให้เฉียนฝูจะรวยแค่ไหน แต่เงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ได้มาฟรีๆ อยู่แล้ว ดังนั้นเขาคงไม่ใจดีขนาดนี้หรอก
แต่แล้วหลี่โม่เคยช่วยอะไรเฉียนฝูกันแน่?
ดูๆ แล้วหลี่โม่ไม่น่าจะช่วยอะไรเฉียนฝูได้เลยนะ
เฉียนฝูเป็นคนมีไหวพริบที่ดี เมื่อเห็นสีหน้าของกู้หยุนหลันเขาก็รู้ว่าเธอไม่เชื่อคำพูดของเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงยิ้มพูดกับเธอว่า “คุณหยุนหลันครับ พอดีผมมีธุระมาหาคุณหลี่ ผมขอรบกวนคุยกับคุณหลี่ตามลำพังหน่อยนะครับ”
เมื่อกู้หยุนหลันได้ยินว่าเฉียนฝูต้องการคุยเรื่องส่วนตัวกับหลี่โม่ เธอจึงพยักหน้าแล้วเดินถอยหลังไป
หลี่โม่กับเฉียนฝูขยับไปด้านข้างและทั้งสองก็ยืนคุยอยู่ในมุมอย่างเงียบๆ
“นายครับ ผมเพิ่งได้ข่าวว่าราชินีของสำนักหลงเหมินกำลังจะมาที่เมืองฮ่านครับ รายละเอียดผมยังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่ามีความเป็นได้สูงมากที่เธอจะมาเพราะนายนะครับ”
แสงคมชัดสว่างวาบในดวงตาของหลี่โม่ สีหน้าของเขาเย็นชาลงทันทีและพูดว่า “นางยังกล้ากลับมาเมืองฮ่านอีกเหรอ!”
“ทุกวันนี้เธอมีอิทธิพลอย่างมากในสำนักหลงเหมิน อีกอย่างเธอก็มองว่านายเป็นหนามยอกอกอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นผมว่าเธอไม่ได้มาดีอย่างแน่นอนครับ” เฉียนฝูรู้สึกประหม่าในใจ
ทุกวันนี้เฉียนฝูกับหลี่โม่ก็เหมือนตั๊กแตนที่ยืนอยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหลี่โม่ เฉียนฝูก็ต้องซวยไปด้วย
ส่วนความเป็นปรปักษ์ของราชินีของสำนักหลงเหมินที่มีต่อหลี่โม่นั้นไม่ได้จบกันง่ายๆ และยังต้องจบด้วยการตายไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน
“ผมเข้าใจละ เตรียมการให้พร้อมด้วยนะ ถ้าเธอมาไม่ดี ผมไม่รังเกียจที่จะจัดการเธอให้เด็ดขาดไปเลย”
หลี่โม่พูดอย่างเด็ดขาด ถ้าครั้งนี้สำนักหลงเหมินกับราชินีของสำนักหลงเหมินมาหาเรื่องถึงที่ เขาจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อจัดการกับราชินีของสำนักหลงเหมินและจะไม่ปล่อยให้เธอมาก่อกวนแบบนี้ไปตลอดอย่างแน่นอน
ไม่มีเหตุผลที่จะยืดเยื้ออีกต่อไป ในเมื่อราชินีของสำนักหลงเหมินคิดจะกำจัดหลี่โม่อยู่ตลอด หลี่โม่ก็จะไม่ทนนิ่งเฉยอีก
เฉียนฝูพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “นายไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เรื่องนี้ผมจะจัดการให้ดีที่สุดและจะไม่ให้ปัญหาใดๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ”
“ดี รวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด ทางที่ดีคือให้รู้ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ อีกอย่างผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะมาไม้ไหนกันแน่”
“รับทราบครับ ผมจะรวบรวมข้อมูลของราชินีของสำนักหลงเหมินให้มากที่สุดครับ”
เฉียนฝูทำหน้าที่ผู้ช่วยมาเกือบตลอดชีวิตของเขาแล้ว ซึ่งความรอบคอบก็เป็นประสบการณ์ที่ดีของเขา ดังนั้นขอเพียงได้รับคำสั่งจากหลี่โม่เขาก็จะจัดการอย่างรอบคอบที่สุด
ทั้งสองใช้เวลาสนทนาสั้นๆ ก็ตัดสินเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโชคชะตาของชีวิตแล้ว
ถ้าหากเป็นคนทั่วไปคงต้องตื่นเต้นและต้องใช้เวลาเตรียมการหลายต่อหลายวันถึงจะตัดสินใจได้
“งั้นผมจะกลับไปจัดการนะครับ”
เฉียนฝูเตรียมจากไป แต่เมื่อเหลือบมองไปที่หลี่โม่ก็นึกขึ้นได้ว่าเขากับกู้หยุนหลันไม่ได้ขับรถมาเอง เขาจึงยิ้มพูดอย่างเสียงดัง “คุณหลี่ครับ คุณหยุนหลันครับ ให้ผมแวะส่งพวกคุณกลับบ้านไหมครับ? พอดีผมจะผ่านทางเดียวกันครับ”
หลี่โม่มองไปที่กู้หยุนหลันที่ซึ่งยังสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหลี่โม่กับเฉียนฝูอยู่ เธออยากลองสังเกตใกล้ๆ จึงพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของเฉียนฝู
ในขณะที่เฉียนฝูกับหลี่โม่เดินไปที่รถโรลส์รอยซ์แฟนธอม หลี่โม่ก็รีบเดินนำไปก่อนแล้วเปิดประตูด้วยตนเองเพราะเกรงว่าเฉียนฝูจะลืมตัวแล้วไปเปิดประตูให้เขาและจะทำให้กู้หยุนหลันสงสัยได้
ในขณะที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลันและเฉียนฝูกำลังจะขึ้นรถ
คนในครอบครัวตระกูลหวังต่างก็ตั้งสติได้และเพิ่งรู้ตัวว่าควรออกไปส่งแขกผู้มีเกียรติ ดังนั้นพวกเขาจึงวิ่งตามออกไปนอกบ้าน ส่วนแขกที่เหลือยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรก็ได้วิ่งตามออกไป
เมื่อทุกคนออกจากบ้านก็ได้เห็นหลี่โม่กับกู้หยุนหลันและเฉียนฝูยืนอยู่ข้างรถโรลส์รอยซ์แฟนธอม ส่วนหลี่โม่ก็กำลังเปิดประตูรถให้กับกู้หยุนหลัน
“นี่มันรถโรลส์รอยซ์ไม่ใช่เหรอ? รถหรูนะเนี่ย แต่ทำไมไม่เหมือนรถโรลส์รอยซ์ปกติเลย”
หวางจงเฉิงถามอย่างสงสัย
หวางจงเสวียนหัวเราะเยาะแล้วพูด “เหอะๆ นี่มันโรลส์รอยซ์แฟนธอมนะ ราคาคันละหลายสิบล้าน เทียบกับรถโรลส์รอยซ์ทั่วไปไม่ได้หรอก”
ทุกคนในครอบครัวตระกูลหวังและแขกที่มาร่วมงานต่างก็พากันตกใจ
ให้ตายเถอะ คนที่มีรถโรลส์รอยซ์ก็ถือว่าเป็นคนที่น่าทึ่งอยู่แล้ว แต่นั่นคือโรลส์รอยซ์แฟนธอมเชียวนะ เขาต้องเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอย่างแน่นอน คนรวยปกติจะซื้อรถคันนี้ไม่ได้หรอก
“แล้วคนที่อยู่กับหลี่โม่คือใครกันแน่? ดูหน้าคุ้นมาก แต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นเขาที่ไหน”
หวางจินซานลูบหน้าผากของเขาแล้วพูด
เฉียนฝูก็ถือว่าเป็นเศรษฐีคนหนึ่งที่มักจะเข้าร่วมงานทางธุรกิจและมีรูปถ่ายของเขาตามสื่อต่างๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หวางจินซานเคยเห็นเขา
หวางจินไห่ก็เกาหัวด้วยความสงสัย “ผมก็รู้สึกคุ้นหน้าเหมือนกันนะ แต่จำชื่อเขาไม่ได้”
ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอเฉียนฝูที่ไหน
“เสี่ยวฟาง เธอรู้จักคนที่อยู่กับหลี่โม่ไหม”
คุณปู่หวางขมวดคิ้วถาม
หวังฟางจำเฉียนฝูได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าหลี่โม่จะดูสนิทกับเฉียนฝูขนาดนี้
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของคุณปู่หวาง หวังฟางก็สะดุ้งด้วยความตกใจแล้วพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “หนูรู้จักค่ะ เขา เขาคือ……”
หวังฟางถึงกับปากสั่นจนพูดไม่ชัดเจน
คุณปู่หวางถึงกับกระทืบเท้าอย่างดุเดือดแล้วพูดต่อ “พูดให้ตรงประเด็น!”
“เขาชื่อเฉียนฝู เป็นประธานบริษัทห้านซินกรุ๊ปค่ะ”
หวังฟางรีบตอบอย่างรวดเร็ว
“หา! เป็นถึงประธานบริษัทห้านซินกรุ๊ปเลยเหรอ นั่นคือคนที่รวยที่สุดในฉู่โจวเลยนะ!”
“บริษัทห้านซินกรุ๊ปติดอันดับหนึ่งในร้อยของบริษัทชั้นนำของโลกเลยนะ”
“ให้ตายเถอะ แล้วหลี่โม่ไปรู้จักคนใหญ่คนโตแบบนี้ได้ไง!”