บทที่ 207 ผมจัดการเรื่องทุกอย่างนี้เอง
ณ ที่บ้าน
กู้หยุนหลันนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟาและเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นออกมา
“เรื่องคุณโอหยางที่บังคับหนูก็แล้วไป เพราะเขาเป็นคนนอกอยู่แล้ว แต่การกระทำของลุงกับอาสามนี่สิ หนูรับไม่ได้จริงๆ พวกเขามองหนูเป็นคนยังไงกันแน่”
กู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางสีหน้าเคร่งเครียดและนัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ทุกคนที่เป็นพ่อแม่เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกของตัวเองจะต้องโกรธอย่างห้ามไม่ได้แน่นอน
“พี่ใหญ่กับน้องสามจะมากไปแล้ว! ทำกับลูกหลานตัวเองแบบนี้ได้ไง! มันจะกลั่นแกล้งเกินเหตุไปแล้ว!”
หวังฟางทุบโต๊ะด้วยความโกรธ
“ทำเกินเหตุจริงๆ เราต้องให้พี่ใหญ่กับน้องสามมาอธิบายให้ชัดเจนก่อนถึงจะถูก เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้”
กู้เจี้ยนหมินได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะยังไง เรื่องนี้ต้องให้กู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงมาชี้แจงให้ชัดเจนและต้องให้ความเป็นธรรมต่อเขา
หลี่โม่ได้แต่ปลอบใจกู้หยุนหลันอย่าเงียบๆ เพราะเรื่องในตระกูลกู้ เขาปล่อยให้กู้เจี้ยนหมินเป็นคนจัดการจะดีกว่า
“ตอนนี้เราไปหาพี่ใหญ่กับน้องสามไม่มีประโยชน์หรอก ฉันว่าเราไปหาคุณปู่กันดีกว่า เรื่องนี้ต้องให้คุณปู่เป็นคนออกหน้า พี่ใหญ่กับน้องสามถึงจะกลัว”
หวังฟางครุ่นคิดสักพักแล้วพูดขึ้นมา
กู้เจี้ยนหมินพยักหน้า ณ เวลานี้เขาต้องไปหาคุณปู่อย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะขอคืนความเป็นธรรมไม่ได้อย่างแน่นอน
“ไปหาคุณปู่กัน ไปตอนนี้เลย”
หลังจากกู้เจี้ยนหมินตัดสินใจ หลี่โม่ก็พยุงกู้หยุนหลันลุกขึ้นแล้วตามกู้เจี้ยนหมินและภรรยาของเขาออกจากบ้านไป
เมื่อพวกเขาไปถึงบ้านของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ ทันทีที่เข้าไปในบ้านก็ต้องประหลาดใจที่เห็นกู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงอยู่ในบ้านด้วย
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก้มหน้าก้มตาและนั่งอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามา สายตาของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็เหลือบมองไปที่กู้เจี้ยนหมินด้วยความโกรธ
กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงต่างสบตากันแล้วแสดงรอยยิ้มที่มืดมน
กู้ซิงเว๋ยก้มศีรษะแล้วจ้องหน้าหลี่โม่อย่างโกรธแค้น ส่วนกู้ชิงหลินก็โกรธจนกำหมัดไว้แน่นๆ และพร้อมที่จะเอาคืนหลี่โม่ทุกเมื่อ
กู้เจี้ยนหมินมองไปรอบๆ และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่กับน้องสามเข้ามาฟ้องร้องเขาก่อนแน่เลย
“คุณพ่อครับ”
กู้เจี้ยนหมินมองไปที่คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้อย่างไม่มั่นใจ
“เหอะ นายจะพาคนทั้งบ้านมาทำไม จะมาดูตระกูลกู้ล้มละลายงั้นใช่ไหม! ลูกสาวนายไม่เชื่อฟังก็แล้วไป แต่ไอ้ลูกเขยไร้ประโยชน์ของนายนับวันมันชักจะเกินไปแล้ว ถึงขั้นกล้าทำร้ายร่างกายคุณโอหยางด้วย!”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้มองกู้เจี้ยนหมินด้วยความโกรธ แม้เขาจะอายุมากแล้ว แต่ความน่าเกรงขามของเขายังเหมือนเดิมและทำให้กู้เจี้ยนหมินรู้สึกตกใจกลัวทันที
กู้เจี้ยนกั๋วพูดด้วยท่าทีแปลกๆ “คุณโอหยางให้ข้อเสนอดีๆ แต่หยุนหลันกลับไม่ให้เกียรติคุณโอหยางเขา คุณโอหยางแค่อยากชวนเธอดื่มเหล้าด้วยกันเท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย”
“แต่ที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นคือหยุนหลันยังเรียกหลี่โม่ไอ้สามีกระจอกของเธอไปด้วย พอมันไปถึงมันเข้าไปทำร้ายคุณโอหยางกับคุณเฉียนทั้งสอง แม้แต่พวกเราที่เข้าไปห้ามยังถูกมันทำร้ายไปด้วย ดูนี่สิ ประวัติหลักฐานที่เราถูกทำร้ายร่างกายก็อยู่ที่นี่แล้ว”
กู้เจี้ยนเจียงโยนหลักฐานที่ถูกทำร้ายลงบนโต๊ะแล้วมองกู้เจี้ยนหมินและครอบครัวของเขาด้วยความโกรธแค้น
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้โกรธจนตัวสั่นและชี้หน้าด่ากู้เจี้ยนหมิน “นายดูสิ ลูกสาวกับลูกเขยนายทำบ้าอะไรกัน! โอหยางจงเฉิงคือใครพวกนายรู้ไหม ยังกล้าทำร้ายคนอื่นเขาอีก!”
“พ่อฟังผมก่อนนะครับ เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย คุณโอหยางอยากให้หยุนหลันไปนอนด้วย แต่หยุนหลันปฏิเสธจึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พวกเขาเข้าข้างคุณโอหยาง พวกเขาอยากให้หยุนหลันไปนอนกับคุณโอหยางครับ!”
กู้เจี้ยนหมินรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว แต่เขารู้สึกว่าคำพูดของเขาในตอนนี้เริ่มไม่มีน้ำหนักแล้ว
“อย่าใส่ร้ายคนอื่น อะไรจะนอนกับหยุนหลัน หยุนหลันเป็นแม่คนแล้ว คุณโอหยางจะชอบเธอได้ไง อีกอย่างคนอย่างคุณโอหยางมีสาวสวยระดับนางแบบมากมายมารายล้อม เรื่องอะไรคนอื่นเขาต้องมาชอบหยุนหลัน”
กู้เจี้ยนกั๋วรีบปฏิเสธทันที
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้พูดอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง “นายได้ยินไหม เจี้ยนกั๋วพูดมีเหตุผลแค่ไหน หยุนหลันเป็นแม่คนแล้ว คุณโอหยางจะชอบเธอได้ไง ผู้ชายด้วยกันจะไม่เข้าใจกันได้ยังไง ต้องชอบสาวๆ อยู่แล้ว”
กู้เจี้ยนหมินยืนอยู่ที่เดิมและไม่รู้จะอธิบายยังไงอีก
“นายไม่รู้สึกผิด ไม่รู้จักสั่งสอนลูกสาวตัวเองให้ดี แล้วยังจะมาฟ้องอะไรที่นี่! อย่าคิดว่าข้าแก่แล้วจะหลอกง่ายนะ!”
“หยุนหลัน แม้เธอจะเคยชินกับปู่ที่คอยเอาอกเอาใจเธอ แต่อยู่ข้างนอกมันต่างกับอยู่ในบ้าน! ยิ่งทำธุรกิจเธอต้องรู้จักการวางตัว ปู่ก็เคยดื่มกับเพื่อนๆ เพื่อคุยธุรกิจจนกระเพาะรั่วมาแล้ว แค่ดื่มเป็นเพื่อนคนอื่นจะเป็นอะไรไป ไม่เข้าใจเลยจริงๆ!”
จากนั้นสายตาของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็หันมองไปที่หลี่โม่ด้วยความรังเกียจ
“ไอ้คนเหลือขอ นายเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้หยาบคายกับคุณโอหยางถึงสองครั้ง! นายรู้ไหมว่าสิ่งที่นายทำวันนี้จำเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลกู้ของเรา!”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ยิ่งพูดยิ่งโกรธ เขาหยิบถ้วยชาบนโต๊ะแล้ว
ขว้างไปที่เท้าของหลี่โม่
“คุณพ่อใจเย็นก่อนครับ โมโหแบบนี้เดี๋ยวเส้นเลือกในสมองแตกก็ยุ่งเลยนะครับ”
กู้เจี้ยนกั๋วแสร้งทำเป็นห้าม แต่ความจริงแล้วเขากำลังเทน้ำมันบนกองไฟ
“ปล่อยข้า ตระกูลกู้ของเราล้มละลายแบบนี้จะให้ข้าไปพบกับบรรพบุรุษยังไง ให้ข้าตีมันให้ตาย จะได้ไม่มีคนทำลายตระกูลกูของเราอีก!”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ตะคอกด้วยความโมโหและหันไปหยิบไม้เท้าที่ข้างโซฟา
ไม้เท้าที่ทำจากต้นแพร์ที่ค่อนข้างหนัก คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้เหวี่ยงสองครั้งก็มีเสียงลมหวีดหวิวดังขึ้น
“ไอ้เหลือขอนายมานี่นะ นายทำลายทุกอย่างที่ข้าสร้างขึ้นมาทั้งชีวิต ดูว่าข้าจะจัดการกับนายยังไง!”
“คุณปู่คะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหลี่โม่เลยนะคะ ถ้าคุณปู่จะตี คุณปู่ตีหนูเลยดีกว่า”
“เธอ เธอจะฆ่าปู่ให้ตายใช่ไหม ถึงเวลานี้แล้วเธอยังจะปกป้องมันอีก!”
กู้เจี้ยนเจียงยิ้มพูด “ตอนนี้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์หรอก สำคัญที่สุดคือต้องทำให้คุณโอหยางหายโกรธ เมื่อไหร่ที่คุณโอหยางออกคำสั่งตัดขาดจากพวกเรา เมื่อนั้นก็คือจุดจบของพวกเราทุกคน”
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ ต่างก็ไม่อยากเห็นตระกูลกู้ต้องล้มละลาย ถ้าตระกูลกู้พินาศพวกเขาก็คงต้องสิ้นหวังอย่างแน่นอน
ดังนั้นพวกเขาจึงวางแผนจะส่งกู้หยุนหลันให้กับคุณโอหยาง ถ้าเธอสามารถปรนนิบัติเขาได้ดี เชื่อว่าปัญหาทั้งหมดก็จะคลี่คลายได้อย่างแน่นอน
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ยืนค้ำไม้เท้าแล้วจ้องไปที่กู้หยุนหลัน “ไหนเธอลองว่ามาสิ ว่าจะทำให้คุณโอหยางหายโกรธยังไง เรื่องนี้ต้องแก้ไขให้ได้!”
กู้หยุนหลันได้แต่เงียบและไม่พูดอะไร
แต่หลี่โม่ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดเสียงดังว่า “ก็แค่โอหยางจงเฉิง ถ้าพวกคุณกังวลขนาดนี้ เดี๋ยวผมจะจัดการทุกอย่างให้เอง”