บทที่192ขึ้นเงินเดือน
จู่ๆเถ้าแก่มาตรวจงาน เป็นพนักงานต้องทำอย่างไรดี
พนักงานต้อนรับต่างคิดถึงปัญหานี้พร้อมกัน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่ตัวเองได้แสดงฝีมือ แล้ว
ถ้าแสดงออกถึงไมตรีจิตของตัวเองได้ดีพอ ทำให้ตัวเองเข้าตาเถ้าแก่ ก็เท่ากับเป็นการสร้างโอกาส
ขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเอง
พนักงานต้อนรับสบตากัน แววตาเป็นประกาย ในหัวเริ่มมีพลัง เตรียมพร้อมที่จะประจบสอพลอ
หลี่โม่เดินอาดๆไปที่ประตูร้าน พนักงานสองคนโค้งต้อนรับอย่างกุลีกุจอ พูดขึ้นพร้อมกัน“สวัสดีค่ะเถ้าแก่”
“เถ้าแก่ไม่ได้มานานเลยนะคะ พวกเราคิดถึงเถ้าแก่แทบแย่ คิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่จะมาวันนี้”
“เชิญเถ้าแก่เข้ามาก่อนค่ะ ฉันจะไปเรียกผู้จัดการฉินให้เดี๋ยวนี้ จะเชิญให้เถ้าแก่ให้โอวาทพวกเราสักหน่อย พวกเราอยากฟังโอวาทของเถ้าแก่จังค่ะ”
หลี่โม่ยิ้มมุมปาก ย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่ตนโดนดูถูกที่นี่ ช่างแตกต่างกับตอนนี้ราวฟ้ากับเหว
“อืม พวกเธอทำงานต่อไปเถอะนะ ฉันแค่เข้าไปดูหน่อย”
หลี่โม่โบกมือให้สาวเฝ้าประตูสองคนนั้น เข้าเดินเข้าไปลำพัง
สาวๆหน้าประตูแสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย รู้สึกว่าการแสดงออกเมื่อครู่ล้มเหลว ไม่ได้เข้าตาหลี่โม่ เลยแม้แต่น้อย
หลี่โม่เดินเข้าไปในสถาบันเสริมความงาม พนักงานทุกคนทำความเคารพพินอบพิเทา ต่างเข้ามาประจบเอาใจ
หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อยพร้อมพยักหน้า ทักทายพอเป็นพิธี แล้วค่อยๆเดินไปที่ห้องผู้จัดการ
ตรวจบัญชี!
ดูการบริหารกิจการหน่อยซิว่าเป็นไงบ้าง เป็นเรื่องที่เถ้าแก่ควรทำ
หลี่โม่เพิ่งเดินเข้าไปในเขตผู้บริหาร ก็เห็นประตูห้องผู้จัดการถูกเปิดออก หญิงสาวที่สวมชุดพนักงานออฟฟิศ ฉินเย่หญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองเดินออกมาจากห้องทำงาน
ฉินเย่ผู้มีท่าทีราวกับคุณนาย ในตอนที่สวมชุดสูท จะดูยั่วยวนเป็นพิเศษ ผู้ชายทั่วไปยามเห็นต้องทน ต่อความยั่วยุไม่ไหวต่อสง่าราศีของฉินเย่
ฉินเย่ผู้ที่หลี่โม่แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการร้าน พอเห็นหลี่โม่ก็ตกตะลึง เจ้าหล่อนยินดีปรีดา เฉิดฉายประกายความงามแห่งตนออกมาเต็มที่
“เถ้าแก่มาแล้วหรือคะ รีบเข้ามาสิคะ เถ้าแก่ไม่ได้มานานแล้ว ฉันกำลังคิดจะรายงานการทำงานพอดีเลย”
ฉินเย่ดีใจเป็นพิเศษเวลาที่เห็นหลี่โม่ สำหรับหล่อนแล้ว หลี่โม่เป็นผู้อุปถัมภ์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต ถ้าไม่มีหลี่โม่ ฉินเย่ไม่มีทางได้เป็นแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แน่นอน
ใจที่เต็มไปด้วยความสำนึกขอบคุณ ฉินเย่นำทางหลี่โม่เข้าไปในห้องทำงาน หล่อนกุลีกุจอเทน้ำชา ใช้มือขาวเนียนคู่นี้ประคองถ้วยน้ำชาไปไว้ตรงหน้าหลี่โม่
“ขอบใจ”
หลี่โม่รับแก้วน้ำมา นิ้วมือไปปะทะสัมผัสกับนิ้วมือของฉินเย่
ฉินเย่ใจสั่นระริก หัวใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ
เธอมองหลี่โม่อย่างเหม่อลอย ฉินเย่รีบสลัดความคิดที่เป็นไปไม่ได้ออกจากหัว ราวกับกระต่ายน้อยที่ได้รับความตกใจก็ไม่ปาน เธอตะลีตะลานหาสมุดบัญชีออกมา วางไว้ตรงหน้าหลี่โม่
“เถ้าแก่คะ นี่คือบัญชีร้าน เชิญเถ้าแก่พิจารณา”
หลี่โม่พลิกดูบัญชีไปเรื่อย ฉินเย่คอยยืนรายงานอยู่ด้านข้าง
“ระยะนี้ลูกค้าเติมเงินสมาชิกค่อนข้างบ่อย และพวกเราเองก็ได้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ ลูกค้าใหม่ที่วอร์คอินเข้ามาก็เพิ่มจำนวนขึ้น กำไรช่วงนี้เลยเพิ่มขึ้นค่ะ……”
ฟังฉินเย่รายงาน พลางดูรายละเอียดของบัญชี ในใจของหลี่โม่จึงรู้สึกปรีดา
บริหารร้านได้ดี หมายความว่าหลี่โม่ดูคนไม่ผิด และแสดงว่าฉินเย่เองก็เป็นคนมีความสามารถคน หนึ่ง
“ไม่เลว ระยะนี้ต้องลำบากเธอแล้ว”
“เป็นสิ่งที่ฉันควรทำค่ะ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากเถ้าแก่ ฉันเองก็คงไม่มีวันนี้”
ฉินเย่พูดพลางกระพริบตาปริบๆ คิดในใจว่าถ้าหลี่โม่ยังไม่แต่งงานก็ดี
หลี่โม่ปิดสมุดบัญชี ใช้นิ้วเคาะโต๊ะ“บริหารร้านได้ดี เพราะทุกคนให้ความร่วมมือ เดือนนี้เป็นต้นไป เพิ่มเงินเดือนให้ทุกคนสิบเปอร์เซนต์ เธอไปประกาศแล้วกัน ขอแค่ทุกคนตั้งใจทำงาน ฉันไม่ให้ทุกคนลำบากหรอกนะ”
ฉินเย่น้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจ
ฉินเย่ผู้ที่ทำงานมาไม่น้อย และก็เคยผ่านเจ้านายมาไม่น้อย แต่ไม่เคยเห็นเถ้าแก่คนไหนใจกว้าง เอื้อ เฟื้อแบบหลี่โม่มาก่อน
เถ้าแก่พวกนั้นมีแต่กดขี่พนักงาน เรื่องดีๆก็มีแต่เข้าตัวเถ้าแก่ พนักงานไม่ได้มีส่วนเอี่ยวด้วยเลยแม้แต่น้อย เพื่อที่จะฉลองแล้วเพิ่มเงินให้คนละสามร้อยห้าสิบหยวน ก็นับว่าเป็นเถ้าแก่ที่ใจกว้างมากแล้ว
แต่ว่าหลี่โม่เพิ่มให้เดือนให้เป็นสิบเปอร์เซ็นต์ นี่เป็นการขึ้นเงินเดือนอย่างแท้จริง ดีกว่าโบนัสอื่นๆเป็นไหนๆ
“นี่เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ ฉันคิดว่าทุกคนคงดีใจ ฉันจะไปเรียกรวมคนนะคะ ข่าวดีแบบนี้ ต้องให้ ท่านเป็นคนประกาศเอง”
ฉินเย่ไม่รอให้หลี่โม่ตอบกลับใดๆ ก็ผลุนผลันออกไปด้วยความตื่นเต้น
ไม่นานนักหลี่โม่ได้ยินเสียงโห่ร้องดังก้องอยู่ด้านนอก ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของฉินเย่เดินเข้ามา
“เถ้าแก่คะ ทุกคนมารวมตัวกันแล้วค่ะ เชิญเถ้าแก่ให้วาจา”
หลี่โม่พยักหน้า และเข้าใจความหมายของฉินเย่ จึงลุกขึ้นตามฉินเย่ออกไปด้านนอก
ในห้องโถง พนักงานทุกคนเข้าแถวเรียงกัน เนื่องจากเป็นสถาบันเสริมความงาม พนักงานทุกคนจึงเป็นหญิง มีเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยเท่านั้นที่เป็นชาย
เมื่อเห็นหลี่โม่เดินออกมา พนักงานทุกคนโค้งทำความเคารพ พูดพร้อมกันเสียงดัง“สวัสดีค่ะเถ้าแก่”
“ดีๆ สวัสดีทุกคน”
หลี่โม่ยิ้มโบกมือ ในใจภูมิใจไม่น้อย
“ผู้จัดการฉินได้รายงานการทำงานให้ผมฟัง ทุกคนทำงานได้ไม่เลวเลยทีเดียว ยอดขายเพิ่ม เป็นเพราะทุกคนตั้งใจทำงาน ดังนั้นเพื่อที่จะตอบแทนทุกคน ผมจึงจะขึ้นเงินเดือนให้ทุกคนสิบเปอร์เซนต์”
แปะๆๆๆๆๆ!
พนักงานทุกคนปรบมือเสียงกึกก้อง นี่เป็นรางวัลที่ให้กับทุกคนอย่างแท้จริง ดีกว่าการชมเพียงคำสองคำ แล้วให้ของขวัญเป็นไหนๆ
“ขอบคุณเถ้าแก่ค่ะ ฉันจะตั้งใจทำงานแน่นอน”
“เถ้าแก่วางใจได้ค่ะ ขอเพียงแต่เถ้าแก่ไม่เลิก พวกเราก็จะไม่ทิ้งเถ้าแก่เช่นกัน จะทำงานให้เถ้าแก่ต่อไป”
“คุณเป็นเท่าแก่ที่ดีที่สุดเลยค่ะ จนฉันอยากจะมีลูกให้เถ้าแก่”
พวกพนักงานต่างโห่ร้องอย่างดีใจ หลี่โม่เองก็ดีใจเช่นกัน
“เอาล่ะ ขอแค่ทุกคนตั้งใจทำงาน ผมจะมีเวทีที่ใหญ่ขึ้นให้ทุกคนได้แสดงฝีมือแน่นอน ขอแค่บริหารร้านนี้ให้ดี ต่อไปก็ขยายสาขาได้ ทุกคนก็จะมีโอกาสเลื่อนตำแหน่ง เหมือนกับผู้จัดการฉิน ทุกคนก็มีโอกาสเป็นผู้จัดการเหมือนกัน จึงต้องมีความมั่นใจ”
คำพูดของหลี่โม่ ทำให้พนักงานมีความหวัง ทุกคนต่างกระตือรือร้น และสร้างฝันให้กับอนาคตเต็มที่
“เถ้าแก่พูดจริงหรือเปล่าคะ งั้นพวกเราจะทำงานให้เถ้าแก่แบบเอาเป็นเอาตายเลย เถ้าแก่คอยดูผลงานเรานะคะ!”
“ขอเพียงทุกคนตั้งใจ ผมก็จะให้เวทีที่กว้างใหญ่กับทุกคนได้”