บทที่ 104 จะเป็นหลี่โม่ได้ยังไง
นี่ก็คือหวังฟาง ที่เอะอะก็ขอเงิน
เป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายที่สุด
จนทำให้หลี่โม่ ไม่รู้จะพูดยังไงดี แล้วจึงมองไปที่กู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันเดินมา แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “แม่ แม่ทำอะไร ถึงแม้ว่าหลี่โม่จะรับเงินมาแล้ว ก็ให้แม่ไม่ได้ นี่เป็นเงินที่ใช้รักษาซีซี”
กู้หยุนหลันรู้จักนิสัยของหลี่โม่ดี เพื่อที่จะรับมือหวังฟางเขาจึงพูดออกไปว่าสองแสน
แต่เขาไม่คาดคิดว่า แม่ของตนเองจะขอเงินโดยตรง
เมื่อหวังฟางได้ยินประโยคนี้ หน้าถอดสีทันที แล้วลุกขึ้นเอะอะโวยวายว่า “แม่ไม่ได้พูดสักหน่อยว่าจะไม่ให้เงินรักษาซีซี เงินนี้แค่ฝากไว้ที่แม่ก่อน พวกเธอต้องการใช้เงินเมื่อไหร่ก็บอกแม่ได้? ”
กู่หยุนหลันรู้สึกโมโหมาก เงินนี้จะยังไงก็ให้เธอไม่ได้
เพราะในใจของหวังฟาง ไม่มีซีซีอยู่เลย
เงินนี้หากตกอยู่ในมือเธอ โอกาสได้คืนนั้นไม่ใช่ง่าย ๆ เลย
เมื่อเห็นว่ากู้หยุนหลันไม่ยอม หวังฟางหันหน้าไปมองหลี่โม่ ถามอย่างหยิ่งผยอง “หลี่โม่ แม่จะถามนายว่า เงินนี้จะให้แม่เป็นคนเก็บไว้ไหม? ”
นี่เป็นการบังคับกันนี่
หลี่โม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงหยิบการ์ดที่เตรียมไว้ก่อนหน้านั้นออกมาอย่างเงียบ ๆ
ตั้งแต่เกิดเรื่องที่ธนาคารเมื่อครั้งที่แล้ว หลี่โม่ก็ได้เตรียมการ์ดไว้หลายใบ ข้างในมีเงินอยู่ประมาณแสนเก้าถึงสองแสน
พรึบ!
ตาและมือของหวังฟางไวมาก ถือโอกาสที่กู้หยุนหลันยังไม่ลงมือ เธอจึงรีบแย่งการ์ดมา เหลือบมองเขาอย่างเหยียดๆแวบหนึ่ง “นี่ค่อยยังดีหน่อย”
หลังจากนั้น เธอถือการ์ดอย่างมีความสุข จนวางไม่ลง หันไปรอบ ๆ และบิดตูดที่อ้วนเดินเข้าไปในห้องนอน ใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะออกมา
หลังจากออกมา หลี่โม่กับกู้หยุนหลันก็ไม่อยู่แล้ว
“พวกเขาสองคนล่ะ” หวังฟางถามด้วยใบหน้าเย็นชาและสงสัย
กู้เจี้ยนหมินถอนหายใจและกล่าวอย่างจำใจ “ก็ถูกคุณทำให้โกรธจนเข้าห้องไปแล้ว”
หวังฟางเบะปากแล้วพึมพำว่า “ก็แค่เอาเงินของพวกเขาแค่สองแสน ทำไมเหรอ เงินนี้ฉันไม่สามารถเก็บไว้ได้เหรอ ที่ทำแบบนี้ก็เพราะหวังดีต่อพวกเขา หากเงินนี้อยู่ในมือหลี่โม่ เขานำไปผลาญหมดแน่เลย”
หวังฟางดูถูกหลี่โม่ จึงไม่ให้หลี่โม่เป็นคนเก็บเงินไว้
“ไม่ได้ คุณตรวจเช็ดดูว่า บริษัทของเฉียนฝูอยู่ที่ไหนของเมืองฮ่าน? พรุ่งนี้ฉันจะไปที่นั่น นี่ให้มาแค่สองแสน เขาออกจะร่ำรวย จะยังไงก็ต้องให้หนึ่งล้าน” หวังฟางกล่าว ในใจของเขามีแผนอยู่แล้ว
บ่อเงินบ่อทองนี้ ต้องไม่ปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้
“ถ้าจะตรวจเช็ดคุณก็ตรวจเช็ดเอง ผมไม่มีเวลาไปทำเรื่องวุ่นวายกับคุณ” กู้เจี้ยนหมินรู้สึกปวดหัว ถอดแว่นสายตา แล้วก็เดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนทันที
“กู้เจี้ยนหมิน คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเหรอวุ่นวาย? ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อครอบครัวของเรา! ถ้าหากคุณสามารถควบคุมลูกสาวของคุณได้ ก็บอกให้เธอหย่ากับหลี่โม่เสีย”
หวังฟางเอะอะโวยวาย ดุด่าและชวนทะเลาะ
ในห้องนอน กู้หยุนหลันนั่งอยู่บนหัวเตียง เธอยังคงโกรธอยู่ เรื่องที่แม่ทำเมื่อสักครู่ ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้า
“หลี่โม่ คุณอย่าโทษแม่ฉันเลย เธอก็เป็นคนแบบนี้” กู้หยุนหลันกล่าว แล้วถามต่อว่า “ยังมีอีกอย่าง การ์ดใบนั้นประธานเฉียนเป็นคนให้คุณจริง ๆ เหรอ?”
หลี่โม่หัวเราะฮ่า ๆ แล้วพยักหน้าตอบว่า “ อึม คุณวางใจเถอะ ในการ์ดนั้นมีเงินอยู่”
กู้หยุนหลันเบะปากของเธอ มองไปที่หลี่โม่ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ทันใดนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปกอดเขาแล้วร้องไห้ “ฉันนึกว่าคุณจะถูกขังซะแล้ว”
หลี่โม่ผงะ จากนั้นเขาก็ตบหลังกู้หยุนหลันเบา ๆ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เด็กโง่ ผมก็ออกมาแล้วนี่ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว มันเป็นเพียงการเข้าใจผิดเท่านั้น”
กู้หยุนหลันพยักหน้า
ตอนนี้หลี่โม่รู้สึกมีความสุขมาก มันเป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้กอดภรรยาของเขาอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ร่างกายอบอุ่นเหมือนหยกของเธอ ทำให้เขารู้สึกเสียดายหากต้องคลายอ้อมกอดออกจากเธอ
เดิมได้นัดกันไว้แล้วว่าจะไปทานข้าวใต้แสงเทียน แต่น่าเสียดายเพราะเหตุนี้ จึงต้องเลื่อนออกไปก่อน
วันพรุ่งนี้ หลี่โม่ยังต้องไปทำงานที่ร้านด้วย งานทั้งหมดให้ฉินเย่เป็นคนจัดการ เขาเชื่อในความสามารถของฉินเย่
สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็คือ กู้ชิงหลินนัดหลี่โม่ออกมา
ทั้งสองคนนัดเจอกันที่เมืองบันเทิง กู้ชิงหลินได้พาเพื่อนมาด้วยหลายคน
“หลี่โม่ นายทำไมเพิ่งมาตอนนี้”
เมื่อกู้ชิงหลินเห็นหลี่โม่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นเธอดูเย็นชาเล็กน้อย จ้องมองไปที่หลี่โม่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
หลี่โม่ขมวดคิ้ว มองไปรอบ ๆ แล้วถามด้วยความสงสัย “เรียกผมออกมามีธุระอะไร? ”
กู้ชิงหลินหัวเราะฮ่า ๆ แล้วกล่าวว่า “เรียกนายออกมาเที่ยวไง ไป จะพานายไปพบเพื่อนของฉัน”
เป้าหมายของกู้ชิงหลินที่เรียกหลี่โม่ออกมาคราวนี้คือมาเที่ยว มันมีแค่นั้นเหรอ?
มันไม่ใช่แน่นอน
เพื่อนของเธอเห็นหลี่โม่ครั้งแรก ก็รู้สึกรังเกียจเขา สีหน้าแสดงถึงความเย้ยหยัน
“กู้ชิงหลิน คนนี้ก็คือเขยไร้ประโยชน์ของตระกูลกู้เหรอ มีบุคลิกจริง ๆ ตอนนี้เขาฮิตเป็นขอทานกัน?”
“พี่ชิงหลิน คุณไม่ได้แกล้งพวกเราเล่นใช่ไหม ดูก็รู้ว่าเขาเป็นยาจก วันนี้จะสามารถเลี้ยงพวกเรากินเที่ยวได้เหรอ?”
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ พวกเรากลับกันดีกว่า ผิดหวังจริง ๆ ฉันรู้สึกละอาย ที่จะอยู่กับคนแบบนี้”
พวกเขาหลายคน สลับกันพูด ถากถางหลี่โม่ตลอด
แม่งฉิบ ไอ้หมอนี่มันช่างยาจกเสียจริง
ไม่รู้ว่ารองเท้าผ้าใบสกปรกยี่ห้อไหน เสื้อกล้ามสีน้ำเงินที่ซักจนจะกลายเป็นสีขาวแล้ว เมื่อเทียบกับพวกเขา เห็นได้ชัดว่าต่างกันมาก
เมื่อกู้ชิงหลินเห็นทุกคนดูถูกหลี่โม่ เธอเบะปากมองบน แล้วเสแสร้งโต้กลับว่า “พวกเธอไม่รู้อะไร หลี่โม่น่าทึ่งมาก รู้จักกวนเหลินกังไหม ผู้จัดการอู๋เต้าเหวินของที่นั่นยังปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ”
วันนี้ที่เธอพาเพื่อนออกมา ก็เพื่อเจตนาถากถางหลี่โม่ เรื่องที่เกิดขึ้นที่กวนเหลินกัง ทำให้กู้ชิงหลินรู้สึกไม่พอใจตลอดมา
ยังไงซะ วันนี้จะแกล้งมัน
อู๋เต้าเหวิน?
พวกเขาทุกคนสลับกันมองเขา ตามด้วยเสียงหัวเราะอันดังลั่น
“กู้ชิงหลิน สมองของคุณเสื่อมไปแล้วใช่ไหม?”
“คุณรู้ไหมว่าอู๋เต้าเหวินคือใคร? เจ้าทึ่มอย่างเขา จะสามารถรู้จักอู๋เต้าเหวินได้อย่างไร? ”
“ถ้าเขารู้จักอู๋เต้าเหวินจริง ผมจะคุกเข่าแล้วเรียกเขาว่าท่านปูก็ยังได้”
พวกเด็กหนุ่มหลายคนที่แต่งตัวมีสไตล์และทันสมัย แสดงสีหน้าเยาะเย้ยอย่างเยือกเย็น
อู๋เต้าเหวินเหรอ ปกติพวกเขาอยู่ในแวดวงนี้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องรู้จักชื่อเสียงของอู๋เต้าเหวิน หนึ่งในราชาใต้ดินทั้งสี่ของเมืองฮ่าน!
มีธุรกิจในมือเป็นหลายร้อยแห่ง และมีพี่น้องหลายร้อยเช่นเดียวกัน!
อู๋เต้าเหวินเคารพไอ้คนไร้ประโยชน์นี้เหรอ?
มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องตลกน่าขำระหว่างประเทศเลย!
กู้ชิงหลินเสแสร้งทำเป็นกังวล แล้วตะโกนว่า “หลี่โม่ นายรีบบอกพวกเขาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า หรือไม่นายก็โทรหาอู๋เต้าเหวินให้เขามาที่นี่ทันที! ”
แต่ว่า หลี่โม่ส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ต้องขอโทษด้วย ผมไม่รู้จักอู๋เต้าเหวิน”
“ฮ่า ๆ ๆ!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหัวเราะระเบิดออกมา
กู้ชิงหลินยิ้มอย่างเย็นชา หลังจากนั้น ใช้มือตบเบา ๆที่หน้าของหลี่โม่หลายครั้ง แล้วกล่าวว่า “ฮ่า ๆ หลี่โม่ ตอนนี้เสแสร้งทำเป็นไอ้ลูกหมา ครั้งที่แล้วอาศัยบารมีอู๋เต้าเหวิน นายหยิ่งผยองนี่? ทำไม ตอนนี้ความจริงถูกเปิดเผย ไม่กล้าแล้วเหรอ? ”
อย่างไรก็ตาม หลี่โม่ได้คว้ามือของกู้ชิงหลินไว้กลางอากาศ
“กู้ชิงหลิน ผมขอเตือนคุณ อย่ามายั่วโมโหผม ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้ากู้หยุนหลันที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณ ตอนนี้คุณอาจจะไม่สามารถยืนพูดกับผมแบบนี้ คุณรู้ไหม?”
ท่าทีของหลี่โม่เย็นชาในทันที และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชา ความโกรธจาง ๆ พุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
กู้ชิงหลินสะดุ้ง เพราะมือของเธอถูกปัดออกไป เธอจ้องไปที่หลี่โม่ด้วยความกลัวและโกรธ เป็นเวลานานกว่าจะพูดออกมาประโยคหนึ่ง “หลี่โม่ คุณจะต้องเสียใจภายหลัง!”
กล้าดียังไงมาดุจริงเหรอ!
น่ารังเกียจ!
กู้ชิงหลินรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้ถูกหลี่โม่ดุ เธอไม่เคยรู้สึกอับอายแบบนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม หลี่โม่กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “แล้วแต่คุณ แต่ว่าผมขอเตือนคุณ ถ้าหากคุณทำอะไรเกินไป ผลที่ตามมาคุณก็รับผิดชอบเอง!”
พูดจบ หลี่โม่สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หันหลังแล้วเดินจากไป
เมื่อมองหลังของหลี่โม่ที่เดินจากไป กู้ชิงหลินโกรธจนเกือบคลั่ง กระทืบเท้าอย่างแรง แล้วพูดด้วยความโกรธ ๆ ว่า “หลี่โม่ นายกล้ายั่วโมโหฉัน ฉันจะทำให้นายเสียใจภายหลัง! มันช่างน่าโมโหเสียจริง ๆ! ”
เธอจะต้องสั่งสอนหลี่โม่!
หลังจากที่หลี่โม่ออกมา เขาก็ไปที่ห้านซินกรุ๊ป เพื่อพบเฉียนฝู
“นายน้อย ผมได้เตรียมของขวัญวันเกิดที่นายน้อยต้องการเรียบร้อยแล้ว นายน้อยจะเปิดดูก่อนไหมครับ?”
เฉียนฝูแสดงสีหน้าเคารพ หลังจากนั้นเลขาสาวผมบลอนด์ ถือกล่องผ้าขนาดเท่ากำปั้นไว้ในมือ กล่องผ้ามีความสวยงามละเอียดอ่อนมาก ดูที่กล่องก็สามารถบอกได้ว่าของข้างในนั้นมีค่าไม่น้อย
หลี่โม่รับมาโดยตรง แล้วกล่าวว่า “ไม่จำเป็น แค่มอบให้คนอื่น กล่องนี้ดูเด่นเกินไป เปลี่ยนเป็นกล่องธรรมดา”
เลขาสาวรีบเปลี่ยนเป็นกล่องธรรมดาทันที หลี่โม่ถือไว้ในมือ จากนั้นเขาก็พยักหน้าด้วยความโล่งใจ
“โอเค งั้นผมจะกลับไปก่อน” หลี่โม่ลุกขึ้น เมื่อเดินไปถึงประตู ทันใดนั้นเขาก็หยุด และถามอย่างช้า ๆ “เมื่อไหร่ราชินีของสำนักหลงเหมินจะมาถึงเมืองฮ่าน?”
“ยังไม่แน่ใจ ไม่มีใครรู้แผนการเดินทางของราชินีของสำนักหลงเหมิน” เฉียนฝูตอบ ปรากฏความกังวลขึ้นบนใบหน้าของเขา
หลี่โม่ไม่พูดอะไร ก็จากไป
วันนี้ หวังฟางออกไปตั้งแต่เช้า สวมเสื้อลายหมากรุก ในมือถือซุปไก่กระดูกดำที่ตุ๋นเองกับมือ นั่งแท็กซี่มาที่ห้านซินกรุ๊ป
รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เดินไปเคล้ากับสายลม
หวังฟางมาที่นี่ทำไม?
ซึ่งแน่นอนว่าต้องมาพบเฉียนฝู
เธอคิดอย่างชัดเจน มาเพื่อจะประจบเฉียนฝู หลังจากนั้นก็ขอเงินเขา!
ที่หลี่โม่ช่วยเขาไว้ สองแสนมันน้อยเกินไป
เมื่อหลี่โม่อายไม่กล้าขอเพิ่ม แต่หลี่ฟางไม่อาย เพราะว่าเธอหน้าด้าน
ไม่ขอเยอะ แค่ขอหนึ่งล้าน ถ้าไม่ให้ เธอก็จะอาละวาด
บริษัทใหญ่ขนาดนี้ แล้วยังเป็นมหาเศรษฐีของฉู่โจว ต้องมีเงินเยอะแน่นอน คงไม่ใส่ใจเงินหนึ่งล้านนี้
เมื่อถึงหน้าตึก หวังฟางลงจากรถ เมื่อเดินไปถึงทางเข้า ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา
คือเฉียนฝู!
หวังฟางตาเป็นประกาย รีบวิ่งเข้าไป
แต่ว่า ทันใดนั้นเอง!
หวังฟางหยุดเดิน
คนที่เดินอยู่ข้างกายเฉียนฝูคือหลี่โม่?
ไอ้คนไร้ประโยชน์มาที่นี่ทำไม?
หวังฟางรีบไปหลบอยู่ข้าง ๆ มุ่ยตูดที่อ้วนแล้วยื่นศีรษะออกไปดู พบว่า เฉียนฝูเชิญหลี่โม่ขึ้นไปนั่งรถโรลส์รอยซ์!
ไม่ผิด เป็นการเชิญ!
เธอเห็นอย่างชัดเจนว่า เฉียนฝูปฏิบัติต่อหลี่โม่ ด้วยความเคารพ มีการโค้งคำนับ แล้วก็เปิดประตูให้หลี่โม่ด้วยตัวเอง
นี่……..นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
นี่มันคือหลี่โม่ลูกเขยไร้ประโยชน์ของตนเองจริง ๆ เหรอ?