บทที่ 70 ใครเป็นคนส่ง
แต่หลินชิงหานเพิกเฉยต่อมือที่ยื่นออกมาของซู๋ไห่เทียน โดยที่เธอมองไปอย่างดูถูกและตอบคำถามของหลี่โม่ “ไม่มีค่ะ”
ซู๋ไห่เทียนคนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำตามอำเภอใจขนาดนี้!
เหยียดหยามคุณหลี่ เท่ากับว่าเหยียดหยาม Vienna Concert Hall และยิ่งเท่ากับว่าเหยียดหยามท่านเฉียวเช่นกัน!
ซู๋ไห่เทียนผงะด้วยสีหน้าที่สงสัย “ผู้จัดการหลินนี่ไม่ใช่กฎของ Vienna Concert Hall ที่มีมาโดยตลอดหรอ จะไม่มีได้ไง? “
กฎของ Vienna Concert Hall ถูกกำหนดโดยท่านเฉียวตั้งแต่แรก!
ในเมืองฮ่านทั้งหมดไม่มีใครกล้าผิดกฎของท่านเฉียว
Vienna Concert Hall รับเฉพาะคนที่มีฐานะและมีตำแหน่งเท่านั้น
“อ๋อ นั่นคือเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว” หลินชิงหานตอบอย่างเย็นชา
อะไร?
ไม่มีแล้ว!
ซู๋ไห่เทียนสะดุ้งอีกครั้ง ในสมองของเขาสับสนไปหมด วันนี้หลินชิงหานกินยาผิดหรือเปล่า?
หลินชิงหานก็เป็นผู้จัดการของ Vienna Concert Hall คิดไม่ถึงว่าเธอจะช่วยไอ้เศษสวะหลี่โม่นี่พูด
“หลินชิงหาน นี่คุณหมายความว่าไง… ” ในขณะนี้ซู๋ไห่เทียนไม่มีอะไรจะพูด จ้องมองไปที่หลี่โม่ด้วยความอิจฉาและรังเกียจ ตะโกนว่า “นายยังยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้? ต้องการให้ผู้จัดการหลินให้คนมาไล่นายไปจริงๆไหม?”
เขารังเกียจท่าทางของหลี่โม่ในตอนนี้มาก เงียบสงบไปครู่หนึ่ง เหมือนมองเป็นเรื่องสนุก
หลินชิงหานขมวดคิ้ว ซู๋ไห่เทียนคนนี้ดูถูกคุณหลี่ขนาดนั้น เหมือนไม่เห็นเธออยู่ในสายตา ในใจเธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
แต่ว่าดูจากความหมายของคุณหลี่ ดูเหมือนว่าต้องการให้จัดการแบบไม่ให้เป็นจุดสนใจ
ดังนั้น หลินชิงหานจึงได้แต่เปิดปากด้วยความไม่พอใจ “คุณซู๋ ในเมื่อคุณมาที่นี่เพื่อขอร้องให้ฉันช่วยทำธุระให้ ถ้างั้นคุณต้องปฏิบัติตามกฎของฉัน ฉันไม่พอใจกับทัศนคติของคุณมาก คนเราไม่ควรแบ่งแยกสูงต่ำหรือจนรวย ยิ่งนับประสาอะไรกับระดับชั้นต่างๆ เมื่อวานท่านเฉียวแจ้งให้พวกเราทราบแล้ว ดังนั้นกฎของ Vienna Concert Hall จึงได้รับการเปลี่ยนแปลง และปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียมกัน “
“ใช่ใช่ใช่ สิ่งที่ผู้จัดการหลินพูดก็ใช่”
ก่อนหน้านี้ซู๋ไห่เทียนยังหยิ่งผยอง เพียงเสี้ยววินาทีก็ทำตัวเหมือนเป็นหลานชายพยักหน้าอย่างเคารพ
แม้ว่าเขาจะเป็นพี่ชายของตระกูลซู๋ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินชิงหานชื่อเสียงของเขาก็ยังคงด้อยกว่าเยอะ
นี่ถือว่าเป็นคนสำคัญของท่านเฉียว ตำแหน่งที่อยู่ในเมืองฮ่าน สูงพอควร
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นผู้จัดการของ Vienna Concert Hall
แค่ Vienna Concert Hall ก็เพียงพอที่จะทำให้คนเห็นความสำคัญแล้ว
แต่ว่า ประโยคต่อไปของหลินชิงหาน ทำให้สีหน้าของซู๋ไห่เทียนดูเคร่งขรึม ราวกับถูกฟ้าผ่า เขาตะลึงทันที!
“คุณซู๋ การแสดงออกของคุณเมื่อสักครู่นี้ ทำให้ฉันไม่พอใจอย่างมาก คุณตั้งใจจะมานัดเวลา เพื่อพบกับผู้อาวุโสจิ่วสืออีร่าง เกรงว่าจะไม่ได้ เพราะฉะนั้นเชิญคุณกลับไปเถอะ” หลินชิงหานพูดอย่างไม่พอใจ
เมื่อซู๋ไห่เทียนได้ยิน เขาก็ตื่นตกใจมาก
จุดประสงค์ของการมาของเขา คือซื้อเวลา 10 นาทีเพื่อพบกับผู้อาวุโสจิ่วสืออีร่างตามลำพังและมอบของขวัญนี้ให้กู้หยุนหลัน
แต่ตอนนี้ หลินชิงหานบอกให้ตัวเองกลับไป
ได้อย่างไรกัน!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ซู๋ไห่เทียนก็จ้องหลี่โม่ที่อยู่ข้างๆเขาอย่างโหดร้าย เป็นเพราะเขา ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้!
ทำอะไรไม่ได้ ซู๋ไห่เทียนจึงต้องลดท่าทีลงและพูดว่า “ผู้จัดการหลิน ผมคิดว่าเรายังสามารถคุยกันได้”
หลินชิงหานไม่ได้พูด แต่สงบนิ่ง
ซู๋ไห่เทียนกระวนกระวายเหมือนมดอยู่บนหม้อไฟ และพูดว่า “คุณหลิน เอาอย่างนี้ไหม คุณต้องการให้ผมทำอะไร ผมก็ยอม ขอร้องแค่งานดนตรีในวันพรุ่งนี้ ผมขอเวลาสิบกว่านาที เพื่อพบกับจิ่วสืออีร่างเป็นการส่วนตัว ผมอยากมอบความประทับใจให้กับผู้หญิงที่ผมรัก ให้เธอประหลาดใจ และหวังว่าผู้จัดการหลินจะช่วยให้ผมสมความปรารถนา เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ผมสามารถเพิ่มได้อีกเท่าตัว”
เมื่อหลี่โม่ได้ยินดังนั้น ก็ชักสีหน้าลง
เขาต้องการมอบให้กู้หยุนหลัน?
หลินชิงหานแสร้งทำเป็นครุ่นคิด จากนั้นก็พยักหน้า
สิ่งนี้ทำให้ซู๋ไห่เทียนมีความสุขมาก และแน่นอนว่าปัญหานั้นอยู่ที่เงิน
“โอเค ขอเพียงแค่คุณซู๋สามารถทำเรื่องต่อไปนี้ได้ พรุ่งนี้ฉันจะให้เวลาคุณสิบนาที” ดวงตาของหลินชิงหานฉายแววเจ้าเล่ห์
“ได้ๆๆ ผมทำได้แน่นอน” ซู๋ไห่เทียนพยักหน้าอย่างแรง
“ขอโทษเขา” หลินชิงหานชี้ไปที่หลี่โม่ที่อยู่ข้างๆ
หืม!
ซู๋ไห่เทียนตกตะลึงในเวลานั้นและตะโกนเหมือนเห็นผี “ผู้จัดการหลิน คุณล้อเล่นหรือเปล่าให้ผมขอโทษเขา? เขาเป็นแค่ไอ้ขยะที่เกาะผู้หญิงกินนะ!”
ฉันจะขอโทษไอ้ทึ่มอย่างหลี่โม่ได้ยังไง!
“ทำไมคุณซู๋ ถึงทำไม่ได้? ” หลินชิงหานหัวเราะเยาะ
“นี่ … ” ซู๋ไห่เทียนลังเล บนใบหน้าของเขาท่าทางสับสนมาก
หลี่โม่กับยิ้มเบาๆ แสร้งทำเป็นปฏิเสธและพูดว่า “นี่ … ไม่ดีมั้ง คนเขาเป็นถึงประธานของบริษัทเชียวนะ ขอโทษขยะอย่างผม จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์มากนะ”
ทันทีที่พูดจบ ซู๋ไห่เทียนก็กัดฟันด้วยความโกรธ!
นายยังรู้ตัวว่าตัวเองเป็นขยะ!
“ไม่ได้!วันนี้ยังไงคุณซู๋ก็ต้องขอโทษคุณ ท่านเฉียวเคยกำชับพวกเราแล้ว อยู่ที่Vienna Concert Hall ไม่ควรหยิ่งยโสดูถูกคนอื่น! ” หลินชิงหานพูดด้วย สีหน้าที่จริงจัง
ซู๋ไห่เทียนคราวนี้ถึงกับตื่นตระหนก ในตอนนี้เหงื่อเท่าเมล็ดถั่วไหลลงบนหน้าผาก เขาเงียบไปเป็นเวลานาน
“ดูเหมือนว่าคุณซู๋จะไม่ยอมน้อยหน้า งั้นฉันก็ไม่บังคับแล้ว ขอเชิญคุณซู๋กลับไปเถิด” หลินชิงหานพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ไม่ไม่ไม่ ผมขอโทษ ผมขอโทษ” ซู๋ไห่เทียนกล่าวอย่างรีบด่วน
จากนั้น เขาก็จ้องไปที่หลี่โม่ด้วยความโกรธ กัดฟันของเขาและรีบพูดว่า “หลี่โม่ ผมขอโทษ”
“อะไรนะ? ผมไม่ได้ยิน” หลี่โม่อ้าปากพูดแล้วหัวเราะ
กิริยาแบบนี้ไม่ผ่าน
“หลี่โม่!” ซู๋ไห่เทียนร้องเรียกชื่อเขาออกมา กัดฟันและพูดด้วยความโกรธ “นายอย่าได้คืบจะเอาศอกนะ!”
“ผู้จัดการหลิน คุณดู … ” หลี่โม่แสร้งพูดเหมือนได้รับความลำบากใจ
หลินชิงหานส่งเสียง หึ อย่างเย็นชา
ซู๋ไห่เทียนตื่นตระหนกตกใจทันที จากนั้นกัดฟันและพูดเสียงดัง “ผมขอโทษ!”
หลี่โม่ส่ายศีรษะและพูดว่า “คุณซู๋ไม่จริงใจเลยนะ”
“นาย!” ซู๋ไห่เทียนแทบจะระเบิดแล้ว รีบควบคุมอารมณ์ตัวเอง หมัดของเขาดังเอี๊ยด
ดี หลี่โม่ ถึงกับรอตัวเองอยู่ที่นี่
อาศัยบารมีของคนอื่นมาอวดเบ่งใช่ไหม ตกลง ให้นายสะใจสักครั้ง ครั้งต่อไปฉันเอานายตายแน่!
หลินชิงหานก็พูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา “คุณซู๋ ในเมื่อคุณฝืนใจขนาดนี้ งั้นก็ช่างมันเถอะ”
ซู๋ไห่เทียนใจเต้น เขารู้ตัวว่าถ้าเขาล่วงเกินหลินชิงหาน ก็เท่ากับล่วงเกิน Vienna Concert Hall
และยังล่วงเกินท่านเฉียวแห่งเมืองฮ่านเช่นกัน!
ปัญหานี้ ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ละ
ดังนั้น คิดหน้าคิดหลัง ซู๋ไห่เทียนจึงโค้งลงและพูดกับหลี่โม่อย่างจริงจัง “ผมขอโทษ”
หลี่โม่ถึงจะสะบัดมือแล้วพูดว่า “ช่างเถอะๆ เรื่องเล็กน้อย ผมค่อนข้างใจกว้างอยู่”
ดังนั้น หลินชิงหานถึงจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาล่ะ คุณซู๋ พวกเราสามารถเจรจากันต่อได้”
หลี่โม่มองไปที่ซู๋ไห่เทียน จากนั้นก็ตรงออกไปจาก Vienna Concert Hall
ซู๋ไห่เทียนมองไปที่ด้านหลังของหลี่โม่ด้วยความสงสัยและรู้สึกอึดอัดใจมาก
ไอ้ขยะนี้ เป็นไปได้ไหมที่จะรู้จักหลินชิงหานมาก่อน?
ไม่น่าเป็นไปไม่ได้มั้ง!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่โม่ซื้อผักจากกลับมาจากที่ตลาด
กู้หยุนหลันก็เพิ่งกลับมาจากบริษัท ในช่วงบ่ายเธอไปที่บริษัทรายงานเรื่องความร่วมมือระหว่าง บริษัทรุงคางให้คุณปู่ฟัง
ภายใต้การเป็นพยานของทุกคนในตระกูลกู้ พวกเขาได้เซ็นชื่อแล้ว ถือเป็นการร่วมมือกับบริษัทรุงคางอย่างเป็นทางการ
ต่อจากนี้ ก็จะเป็นช่วงเวลาที่งานเยอะแล้ว
กู้หยุนหลันเห็นหลี่โม่กลับมา ก็ไม่ได้พูดอะไร เธอนั่งท่าขัดสมาธิบนโซฟา ถือสมุดบันทึกและนั่งเขียนแผนการ
หลี่โม่เดินไปที่ห้องครัว ล้างผลไม้มาหนึ่งจาน วางไว้บนโต๊ะน้ำชาและพูดอย่างอ่อนโยน “เพิ่งล้างนะ”
กู้หยุนหลันสวมชุดนอนโดยมีที่คาดผมของมิกกี้เมาส์อยู่บนหัว และมีปากกาคาบอยู่ในปากของเธอ ช่างน่ารักจริงๆ
หลี่โม่เหลือบแอบมองเธออย่างลับๆและถามว่า “เจอปัญหาหนักใช่ไหม? “
กู้หยุนหลันตอบว่า “มันค่อนข้างยากนะที่จะประกาศและวางแผนกองทุนสำหรับโครงการเหล่านี้”
ขณะที่เธอพูด เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หลี่โม่และบ่นพึมพำ “โอเค คุณไม่ต้องถามแล้ว คุณไปทำอาหารเถอะ พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ”
หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อย และหันหลังเดินเข้าไปในครัว
ในขณะเดียวกันเสียงกริ่งก็ดังขึ้น
หลี่โม่เดินไปเปิดประตู เห็นสูหานจากVienna Concert Hall ยืนอยู่ตรงทางเข้าประตูถือการ์ดเชิญสีทองในมือ
“เฮ้คุณคือ … ” สูหานยิ้มและกรีดร้องด้วยความประหลาดใจ
หลี่โม่รีบใช้นิ้วทำท่าชู่วส์ให้เงียบ ๆ จากนั้นหยิบการ์ดเชิญในมือแล้วพูดว่า “กลับไปเถอะ”
สูหานรู้สึกงุนงงมองประตูที่ปิดลงและพูดพึมพำว่า “คุณหลี่ที่แท้พักอยู่ที่นี่ ทำไมถึงยังสวมผ้ากันเปื้อน? “
ไม่เข้าใจ
“ใครหรอ? ” กู้หยุนหลันถาม
หลี่โม่เดินไป ส่งการ์ดเชิญชมทิวทัศน์ในมือให้กู้หยุนหลันและพูดว่า “ส่งให้คุณ”
กู้หยุนหลันถามหลี่โม่อย่างสงสัย “ให้ฉันหรอ”
หลังจากนั้นเธอก็เปิดการ์ดเชิญออกมาดู ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความตื่นเต้นและตื้นตันใจอย่างรวดเร็ว เธอกระโดดขึ้นมาโอบคอของหลี่โม่ และตะโกนอย่างมีความสุขว่า “ฮ่าฮ่า หลี่โม่ เป็นการ์ดเชิญจาก Vienna Concert Hall วงดนตรีรอบพิเศษของผู้อาวุโสจิ่วสืออีร่าง!”
กู้หยุนหลันตื่นเต้นมาก ถึงขนาดโอบหลี่โม่ไม่ยอมปล่อย
หลังจากที่เธอได้สติ เธอก็หน้าแดงและผลักหลี่โม่ออก
บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่น
หลี่โม่ยิ้มและถามว่า “ดีใจไหม?”
“แน่นอนดีใจมาก นี่คือดนตรีรอบพิเศษของผู้อาวุโสจิ่วสืออีร่าง” ดวงตาของกู้หยุนหลันยิ้มจนดวงตาโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว แต่เธอรีบหยิบการ์ดเชิญอย่างสงสัยและพูดว่า “แต่การ์ดเชิญนี้ใครเป็นคนส่งมาหรอ?”
ขณะที่พูด เธอก็สบตาเข้ากับหลี่โม่ที่กำลังมองเธอด้วยรอยยิ้ม
หลี่โม่?