บทที่ 58 ยกเลิกสัญญาธุรกิจ
เสียงนี้ ทำให้หลี่โม่ตกใจ รีบเอาโทรศัพท์ซ่อนไว้ แล้วก็พูดยิ้มๆ “ไม่มีอะไร ก็ยังเป็นเรื่องเดิมที่ทางร้านชวนกินข้าว ฉันไม่อยากไป”
กู้หยุนหลันฟังแล้วใบหน้าก็ไม่พอใจทันที “ทำไมถึงไม่ไป?กลัวถูกหัวเราะเยาะ?หรือว่านายจ่ายไม่ไหว พูดมา จะเอาเท่าไหร่”
หลี่โม่ก็แค่หาคำโกหกขึ้นมาเฉยๆ คิดดูสักพักแล้วก็พูด “ห้าร้อย”
จากนั้น ในระยะสายตาของเขา กู้หยุนหลันก็หันหลังไปที่โซฟาแล้วหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมา หยิบห้าร้อยออกมาจากด้านใน จากนั้นก็หยิบแบงก์ออกมาอีกไม่กี่ใบ
เธอเดินมาข้างหน้าหลี่โม่ ยื่นมือที่สวยงามนั้นมา “นี่คือหนึ่งพัน นายไปร่วมกินเลี้ยงเถอะ”
หลี่โม่ตกใจ ไม่คิดว่ากู้หยุนหลันจะให้เงินตัวเองเยอะขนาดนี้ เขาถามอย่างลังเล “ทำไมเธอถึงให้เงินฉันเยอะขนาดนี้?”
กู้หยุนหลันคว่ำปากแกล้งทำเป็นโมโห “ฉันไม่อยากให้นายทำให้ฉันขายหน้า ผู้ชายของกู้หยุนหลัน จะต้องไม่ถูกคนนอกดูถูก ถึงแม้ว่าฉันเองก็มีไม่มาก แต่ว่าแค่นี้ฉันก็ยังมีให้”
พรึ่บ!
พูดแล้วก็เอาเงินวางใส่บนฝ่ามือของหลี่โม่
แต่แล้วก็มีเสียงตำหนิดังมา
“กู้หยุนหลัน แกทำอะไร?ทำไมแกถึงให้เงินเยอะขนาดนี่กับไอ้คนไร้ประโยชน์นี่!”
ในตอนนี้หวังฟางรีบวิ่งมาจากห้องนั่งเล่น แล้วแย่งเงินในมือหลี่โม่ไป แล้วยังจ้องเขาเขม็ง “แกมันขยะ วันๆเอาแต่หลอกเงินลูกสาวฉันใช่มั้ย?แกนี่มันเก่งจริงๆ ลูกเขยบ้านอื่นเขามีแต่หาเงินเข้าบ้าน แต่แกกลับเอาแต่หาเงินออกจากบ้าน!แกพูด แกเอาเงินนี้ไปทำอะไร?”
“แม่ แม่ทำอะไรเนี่ย นี่เป็นเงินที่หนูให้หลี่โม่ไปร่วมงานกินเลี้ยงของร้านอาหารเขา แม่คืนให้เขาเลยนะ”กู้หยุนหลันพูดอย่างร้อนรน
แต่ว่าหวังฟางไปสนใจเรื่องพวกนี้ ใช้นิ้วจิ้มๆไปที่กู้หยุนหลัน “ลูกสาว แกบ้าไปแล้วหรอ?ขยะอย่างมัน จะไปกินทำไม?ไม่ไปก็ได้แล้วนี่ ทำไมต้องมาเปลืองหนึ่งพันนี้ด้วย”
ช่างน่าโมโหเหลือเกิน!
ก็แค่ขยะไร้ประโยชน์ตัวหนึ่ง ยังกล้าคิดที่จะไปกินเลี้ยงอาหารดีๆ ช่างหน้าไม่อายจริงๆ!
หวังฟางหันหน้ามาจ้องไปที่หลี่โม่ แล้วก็ด่า “มีปัญญา แกก็เอาเงินกลับมากี่พันกี่หมื่น ฉันก็จะชื่นชมแกเอง ยังคิดจะกินเลี้ยง แกคิดอะไรอยู่ฮ้ะ?คนอย่างแกเนี่ยนะ เชิดหน้าขึ้นหรอ?อยู่บ้านดีๆนั่นแหละ!”
แม่ยายอารมณ์เสีย หลี่โม่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพียงแค่หัวเราะเหอะๆ แล้วหันไปพูดกับกู้หยุนหลัน “ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ได้กะว่าจะไปแต่แรกอยู่แล้ว ช่างมันเถอะ”
กู้หยุนหลันเงียบ กระทืบเท้าจ้องไปที่หวังฟาง แล้วหันหลังเดินจากไป
หวังฟางเองยังกลอกตาใส่กู้หยุนหลันไปทีหนึ่ง แล้วก็ชี้หน้าหลี่โม่ “ฉันของเตือนแกไว้นะหลี่โม่ เงินของบ้านพวกเรา จะไม่ให้แกใช้สักบาท! และยังมีซีซีที่อยู่ในโรงพยาบาล ก็อย่าหวังจะใช้เงินพวกเราสักบาท! คุณปู่ชอบมันก็เป็นเรื่องของคุณปู่ แต่ว่า ตอนนี้คุณปู่ก็คงไม่ชอบมันแล้วแหละ เพราะงั้น หลี่โม่ แกอย่าคิดจะเอาเงินจากบ้านเราสักบาท ได้ยินมั้ย?!”
หลี่โม่พยักหน้า หวังฟางถึงได้ปล่อยไป หันหลังแล้วเดินออกมา
ภาพตัดไปที่บ้านใหญ่ของตระกูลกู้ ห้องโถงของบ้านใหญ่ตอนนี้คนของบ้านพี่ใหญ่ตระกูลกู้และบ้านน้องสามตระกูลกู้ก็อยู่กันหมด กำลังคุยกันเรื่องการกระทำของกู้หยุนหลันที่อยู่ในห้องประชุมวันนี้
“คุณปู่ กู้หยุนหลันตอนนี้ช่างบังอาจจริงๆ พวกเราต้องห้ามทำตามนั้นเด็ดขาด เธออยากจะแย่งบริษัทวินเซิงไปจากมือท่าน” กู้ซิงเว๋ยพูดอย่างตื่นตระหนก
เขาโกรธมากที่กู้หยุนหลันกล้าทำอย่างนั้น นี่เป็นการไม่วางบ้านตระกูลกู้และคุณปู่ไว้ในสายตาชัดๆ
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้นั่งอยู่บนเก้าอี้ประมุข ใบหน้าเคร่งขรึม กระแทกไม้เท้าในมืออย่างแรง “หึ! บริษัทวินเซิงเป็นของตระกูลกู้เท่านั้น กู้หยุนหลันยังไม่มีสิทธิ์!ฉันไม่ให้หล่อน หล่อนก็จะแย่งไปไม่ได้ สิ่งที่ฉันให้ หล่อนก็ห้ามปฏิเสธ!”
ได้ยินคำนี้ในใจกู้ซิงเว๋ยรู้ดีแล้ว ส่งสายตาให้พ่อของตัวเอง
กู้เจี้ยนกั๋วรีบพูด “คุณพ่อ แม้ว่าตอนนี้ตระกูลกู้จะอยู่ในมือท่าน แต่ถ้ากู้หยุนหลันใช้โอกาสนี้มาบังคับพวกเราจะทำยังไงครับ?พวกเราไม่ป้องกันก่อนไม่ได้นะ อีกอย่าง พวกเรายังต้องทำการเตือนคนที่ออกความคิดเห็นให้กู้หยุนหลันทำแบบนี้ด้วย!”
ได้ยินคำนี้ คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็ขมวดคิ้วแล้วถามกลับ “เจี้ยนกั๋ว นายหมายความว่าไง?หรือว่า นายจะบอกว่าครั้งนี้ที่กู้หยุนหลันทำแบบนี้เพราะว่ามีคนสั่งอย่างนั้นหรอ?”
“ถูกต้องครับ!”
กู้เจี้ยนกั๋วพยักหน้าตอบรับ “พ่อครับ ท่านลองคิดดูดีๆสิครับ กู้หยุนหลันนิสัยยังไง เธอกล้าทำตัวแบบนี้กับท่านในที่ประชุม ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาจริงๆ จากที่ผมดู ครั้งนี้กู้หยุนหลันต้องไปฟังคำพูดไปดีจากใครมาแน่นอนถึงได้กล้าทำตัวแบบนี้”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้สายตาแข็งกร้าว
บางคำพูด ไม่จำเป็นต้องพูดหมด ผู้คนก็สามารถทายได้จากหลายๆอย่าง
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้เองก็เป็นคนอย่างนั้น เพียงแค่ฟังคำพูดจากกู้เจี้ยนกั๋วไม่กี่คำก็สามารถเดาได้ว่าใคร
หึ!
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ออกเสียงหึอย่างเย็นชาไปหนึ่งที “หลี่โม่!”
เพราะว่าในที่ประชุมกู้หยุนหลันก็เจาะจงขอให้พวกเขาไปขอโทษหลี่โม่เช่นกัน
นี่มันเป็นไปไม่ได้
ขยะอย่าหลี่โม่ต้องการให้ขอโทษ?
ไม่จำเป็น!
พูดได้เพียงว่าเขาก็คือคนที่สั่งการอยู่เบื้องหลัง
ได้ยินคุณปู่พูดชื่อนี้ออกมา ในใจกู้ซิงเว๋ยก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง แล้วยุยงเพิ่ม “คุณปู่ หลี่โม่คนนี้ไม่ระวังไม่ได้นะ ครั้งก่อน มันยังกล้าสู้กลับท่าน ก็แสดงได้ว่าขยะอย่างมันนั้นใจโหดเหี้ยมแค่ไหน แผนการมากมาย!ถ้าหากพวกเราไม่ระวังไว้หน่อย ไม่แน่สักวันบริษัทวินเซิงอาจจะตกไปอยู่ในมือของมันก็ได้!”
ตึ่ง!
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ได้ยินคำนี้ ในใจก็ตื่นเต้นขึ้นมา แล้วก็พูดด้วยความเย็นชา “หลี่โม่มันฝันหรอ!บริษัทวินเซิงคือฉันกู้หงไท่เป็นคนสร้างมาเองกับมือ ใครก็เอาไปไม่ได้!ก็แค่สัญญาธุรกิจกับบริษัทรุงคางก็เท่านั้น ตระกูลกู้ของเราไม่มีมันก็จะอยู่ไม่ได้อย่างนั้นหรอ?”
ในตอนนั้นทุกคนก็พูดอย่างเห็นด้วย
“คุณปู่พูดถูก ไม่มีการร่วมธุรกิจกับบริษัทรุงคาง บริษัทวินเซิงของเราก็ยังอยู่ดี”
“กู้หยุนหลันครั้งนี้คิดผิดแล้ว จะใช้สัญญาฉบับนี้มาขู่คุณปู่ ช่างฝันสิ้นดี!”
“ผมคิดว่าควรสั่งสอนกู้หนุนหลันสักหน่อย ให้รู้ซะบ้างว่าตัวเองอยู่ในจุดไหนของบริษัทและในตระกูลกู้”
จากนั้นทุกสายตาก็หันไปมองที่ตัวคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ เพื่อรอเขาพยักหน้าอนุมัติ
คุณปู่คิดสักพักแล้วก็พยักหน้า “เจี้ยนกั๋ว ซิงเว๋ย เรื่องนี้พวกเธอสองคนไปจัดการแล้วกัน ยกเลิกตำแหน่งผู้อำนวยการของกู้หยุนหลัน แล้วให้ย้ายไปทำการตลาดขั้นพื้นฐานแทน อีกอย่าง ยกเลิกเงินรายเดือนของบ้านรองซะ!”
“ได้ครับคุณปู่ ผมจะได้จัดการเดี๋ยวนี้!”กู้ซิงเว๋ยรีบเด้งตัวขึ้น ดีใจเป็นอย่างมาก
ในที่สุดก็ได้จัดการกู้หยุนหลันอย่างเปิดเผยสักที
เขาจะไม่ดีใจได้ยังไง?
แต่ว่าในตอนนี้เอง พ่อบ้านตระกูลกู้ก็วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ แล้วตะโกนว่า “คุณท่านๆ เกิดเรื่องแล้วครับ เกิดเรื่องแล้วครับ!”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้หน้านิ่ง ไม่เคยเจอพ่อบ้านเสียมารยาทขนาดนี้มาก่อน แล้วก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “วุ่นวายอะไร ไร้มารยาท! สรุปว่าเกิดอะไรขึ้น?”
พ่อบ้านคนนั้นวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ตะโกนอย่างกระวนกระวาย “คุณท่านครับ เมื่อกี้โรงงานผลิตยาเทียนเซิ่งส่งหมายแจ้งมาว่าจะยกเลิกสัญญาทำธุรกิจร่วมกันกับทางเราครับ!”