บทที่ 28 ซื้อร้านนี้เสียเลย
พอฟางถิงตะโกน คนรอบๆ ต่างก็พากันซุบซิบนินทา
“อะไรนะ? ไอ้หลี่โม่นั่นทำเรื่องแบบนี้ด้วยหรือนี่?”
“ปกติเห็นเขาเป็นคนเรียบร้อย ไม่คิดว่าจะลามกเช่นนี้ คนแบบนี้สมควรถูกไล่ออก!”
“เมียก็สวยจะตาย ยังจะทำเรื่องแบบนี้อีกหรือนี่?”
คำพูดคนรอบๆ ก็เปลี่ยนมาต่อว่าหลี่โม่อย่างรวดเร็ว
ไม่มีเหตุผลอื่นใด เพราะว่าเขาไม่เอาไหนจริงๆ ใครๆ ก็สามารถต่อว่าได้
ฟางถิงก็เอามือกอดอก สีหน้าเย่อหยิ่งมองไปยังหลี่โม่ หางตาร้ายๆ
ที่แท้หลี่โม่อยู่ที่นี่ก็ไม่ค่อยมีคนชอบสักเท่าไร วันนี้ดูท่าจะต้องถูกไล่ออกแน่ๆ
หลี่โม่ก็รีบอธิบาย “ผมเปล่านะ ผมไม่ได้ทำจริงๆ …”
ผวัะ!
ฟางถิงเดินขึ้นหน้าไปตบหน้าหลี่โม่อีกครั้ง พร้อมด่าว่า “ยังจะแก้ตัวอีก? หรือเพราะฉันใส่ร้ายนายรึไงกัน?”
พอเธอพูดเช่นนั้น ผู้หญิงคนอื่นๆ ต่างก็พากันพูดช่วยว่า “จะไปพูดมากกับมันทำไม ไปแจ้งความเลย เมื่อก่อนฉันก็เคยมาที่นี่ มันยังเคยลงมือกับฉันเลย”
เรื่องนี้มันไม่ใช่การพูดมั่วๆ
แม้แต่พนักงานคนอื่นๆ ก็มาพูดเสริมอย่างสะใจว่า “พวกคุณไม่รู้อะไร เขามีชื่อว่า หลี่โม่ เป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนของตระกูลกู้ เริ่มแรกภรรยาเขาก็มาขอร้องเจ้าของร้านเรา เขาได้ถึงได้เข้ามาทำงาน ไม่คิดว่า จะลามกบ้ากามเช่นนี้”
หลี่โม่มองกลุ่มคนที่กำลังโมโห ราวกับตนเองนั้นได้ทำเรื่องที่มีความผิดใหญ่หลวงมาก
“ผมเปล่านะ!” หลี่โม่อธิบาย แล้วก็กำหมัด
แต่ว่า พอเขาพูดออกมา กลับถูกคนอื่นต่อว่าหนักกว่าเดิม
“ผู้จัดการอยู่ไหน อยู่ไหน?” ฟางถิงชี้หน้าเรียกไม่สนใจใครทั้งนั้น อยากจะทำให้เรื่องมันใหญ่
“ครับครับครับ มาแล้วๆ คุณฟาง เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย ใครทำให้คุณไม่พอใจครับ?”
ครั้งนี้ เป็นชายรูปร่างอ้วนท้วมเดินมา หัวล้านนิดหน่อย หน้ามันๆ เข็มขัดที่เอวแทบจัดคาดไม่อยู่แล้ว
หวังฝู้เสียง เป็นผู้จัดการร้าน เป็นคนขี้เหนียว เจ้าระเบียบกับลูกน้อง เป็นคนขี้ฟ้อง
แต่ว่า ตอนนี้เขาอยู่ต่อหน้าฟางถิง เขาก็ทำหน้าตาประจบสอพลอ
เขารู้จักฟางถิง สองวันก่อนได้ทำบัตรสมาชิกให้เธออยู่ เติมเงินในบัตรไปหนึ่งแสน
คนที่มาเป็นเพื่อนตอนแรก เป็นเจ้านายตัวใหญ่คนหนึ่ง ค่าตัวเป็นสิบล้าน
“เหอะ!”
ฟางถิงส่งเสียงไม่พอใจ สีหน้าท่าทางวางมาด แล้วชี้ไปที่หลี่โม่ ดุด่าว่า “ไอ้คนนี้ ตอนที่นวดฉันเมื่อครู่นี้ ลวนลามฉัน คุณจัดการด้วยแล้วกัน!”
หวังฝู้เสียงได้ยินดังนั้น ก็หันหน้ามามองหลี่โม่ แล้วขมวดคิ้ว สายตาดูถูก แล้วถามว่า “หลี่โม่ ทำไมเป็นแกเนี่ย?”
หวังฝู้เสียงเกลียดหลี่โม่มา3ปีแล้ว พวกไร้ประโยชน์ ก็ไม่รู้ว่าทำไมเจ้านายถึงยังรับมันมาทำงาน
คนแบบนี้ อยู่ด้านนอกก็หน้าอายพอแล้ว ตอนนี้ยังจะเอามันมาแปะเปื้อนเชื่อเสียงของร้านสปาถิงเหม่ย
หวังฝู้เสียงไม่อาจปล่อยเขาไว้ได้
จากนั้น เขาก็รีบตวาดว่า “แกลวนลามลูกค้าหรือ? แกก็รู้กฎของร้านเราไม่ใช่หรือ ยังจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้อีก รีบขอโทษคุณหนูเดี๋ยวนี้เลย แล้วอีกอย่าง ก็ไปเก็บของ แล้วไสหัวออกไปเสีย!”
หวังฝู้เสียงจัดชุดสูทตนเอง แล้วก็ยิ้มแบบสะใจ
ในที่สุดก็มีโอกาสสั่งสอนหลี่โม่แล้ว!
ไม่ว่างอย่างไรก็ตาม ครั้งนี้จะต้องไล่มันออกไปให้ได้
หลี่โม่ก๋รีบอธิบายว่า “ผู้จัดการครับ ผมเปล่านะ เธอใส่ร้ายผม”
“หุบปากไปเลย อยู่ดีๆ คุณฟางจะมาใส่ร้ายสวะอย่างแกได้อย่างไร!” หวังฝู้เสียงตวาด จากนั้นก็หันไปยิ้มให้กับคุณฟาง “คุณฟางครับ วางใจเถอะครับ คนแบบนี้จะต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม”
ฟางถิงพยักหน้าอย่างได้ใจ หางตาสะใจที่ได้ดูถูก แล้วมองไปยังหลี่โม่ “ตอนนี้รู้ผลที่มาหาเรื่องฉันแล้วใช่ไหม? สวะอย่างนาย กล้าอย่างไรมาอยู่ต่อหน้าฉัน”
หวังฝู้เสียงก็ประจบ เห็นฟางถิงกำลังหัวร้อน ก็รีบชี้หน้าด่าหลี่โม่ว่า “หลี่โม่ ไม่รู้หรอกนะว่าแกจะอธิบายอย่างไร แต่ตอนนี้ รีบขอโทษคุณฟางเขาเสีย จากนั้น ก็ไสหัวออกไป!”
หวังฝู้เสียงก็โกรธมาก ไอ้หลี่โม่นี่มันบ้าไปแล้วหรือไง!
กล้ามาลวนลามลูกค้าในร้าย ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ร้านสปาถิงเหม่ยคงต้องจบเห่แน่!
ไอ้สวะนี่ เช้ายันค่ำหาแต่เรื่อง!
“ไอ้แซ่หวัง!อย่ามาทำโหดกับกู กูบอกว่าไม่ได้ทำก็ไม่ได้สิวะ จะไล่กูออกก็ได้ แต่ก่อนที่กูจะไป กูจะต้องบอกให้ชัดเจนว่ากูไม่ได้ทำ แล้วอีกอย่าง มึงก็ถูกกูไล่ออกแล้วด้วย!”
หลี่โม่ก็โมโห
เขาเป็นถึงเจ้านายของสำนักหลงเหมิน มีหรือจะยอมถูกคนพวกนี้มาดูถูกใส่ร้ายได้
ก่อนหน้านี้ เขาอดทนเพื่อนกู้หยุนหลันได้ แต่ตอนนี้ เขาได้ตัดสินใจที่จะสืบทอดสำนักหลงเหมินต่อแล้ว เช่นนี้ เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องอดทนต่อไป!
หวังฝู้เสียงได้ยินดังนั้น ก็แทบจะระเบิด ชี้หน้าด่าหลี่โม่ “เมื่อครู้ว่าไงนะ? บอกว่าอย่ามาโหดใส่กูงั้นหรือ? ไล่กูออกงั้นหรือ? ฮ่าๆ ทุกคนก็เห็น หลี่โม่มึงบ้าแล้วหรือไง ถึงได้พูดโอ้อวดเช่นนี้ได้ กูเป็นผู้จัดการที่นี่ มึงเป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ กูจะเตือนมึงเป็นครั้งสุดท้าย ว่าให้คุกเข่าขอโทษคุณฟางเสีย!”
ฟางถิงก็ยืนข้างๆ ใบหน้ายิ้มเยาะ
หลี่โม่คนนี้ ช่างโง่จริงๆ อะไรก็กล้าพูดมาหมด แต่เป็นคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีความคิดอะไรเอาเสียเลย
กู้หยุนหลันแต่งกับเขา ช่างดูถูกตัวเองจริงๆ
ฟังหวังฝู้เสียงด่าอย่างนั้น หลี่โม่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเฉียนฝู แล้วพูดว่า “ลุงเฉียน ภายในสิบนาทีนี้ ผมจะซื้อร้านสปาถิงเหม่ยนี้เสีย”
เฉียนฝูพูดอย่างเคารพว่า “นายน้อย ไม่มีปัญหาครับ ผมจะรีบไปจัดการ”
วางโทรศัพท์ลง หลี่โม่ก็ค่อยๆ ลุกขึ้น
แต่ว่า การการะทำนั้น ทำให้คนทั้งเหตุการณ์เงียบกริบ!
สายตาของทุกคนก็จ้องมองหลี่โม่อย่างดูถูก
เมื่อครู่นี้เขาว่าอย่างไรนะ?
ซื้อร้านนี้ แล้วยังภายใน10นาทีด้วย
“แม่ง!หลี่โม่มันบ้าไปแล้วหรือเปล่า ถึงได้พูดออกมาเช่นนั้น”
“โง่ดักดานจริงๆ ถึงว่าตระกูลกูถึงทำกับมันอย่างนั้น คนแบบนี้ ไปที่ไหนก็มีแต่คนดูถูก”
เสียงหัวเราะเยอะเย้ยของคนรอบข้างก็มากขึ้น
หวังฝู้เสียงก็หัวเราะชี้หน้าหลี่โม่ “หลี่โม่นะหลี่โม่ กูคิดว่ามึงจะเป็นแค่คนจนธรรมดา ไม่คิดว่า มึงยังจะหน้าด้านด้วย น่าหัวเราะมากเลยวะ คนอย่างมึงเนี่ยนะ ที่คิดจะซื้อร้านนี้? รู้หรอว่าร้านนี้มันราคาเท่าไร? 30ล้าน!”
หวังฝู้เสียงพูดจบ ก็เยาะเย้นหลี่โม่
จากนั้น หลี่โม่ก็ก้มหน้าดูโทรศัพท์ เฉียนฝูส่งข้อความมา ว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
พอเห็นหลี่โม่ไม่สนใจตนเอง หวังฝู้เสียงก็มองหลี่โม่ด้วยสายตาโกรธแค้น พร้อมด่าว่า “ได้เลย แกล้งทำเก่งต่อไป 10นาทีใช่ไหม กูจะรอ10นาทีอะ!”
พูดจบ เขาก็หันไปหัวเราะกับฟางถิง พร้อมพูดว่า “คุณฟางครับ พวกเรารอสัก10นาทีดีไหม รอดูละครกัน?”
ฟางถิงก็สนใจที่จะรอดูหลี่โม่หน้าแตก ก็เลยพยักหน้าเบาๆ
แต่ว่า หลังจากนั้น3นาที ก็มีผู้ชายใส่ชุดสูทวิ่งเข้ามา
พอเห็นชายคนนั้น ใบหน้าของหวังฝู้เสียงก็ยิ้มแฉ่ง “อ้าว เจ้านาย จะมาก็ไม่บอกผมก่อนเลย ผมจะได้ออกไปรับครับ”
เจ้านายร้านสปาถิงเหม่ย โจวเฟิงฮั่ว
โจวเฟิงฮั่วก็มองขวาง “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? วุ่นวายไปหมด เดี๋ยวจะมีเจ้านายคนใหม่มา รีบพากันออกไปต้อนรับหน่อย!”
เดิมทีหวังฝู้เสียงอยากจะบอกเรื่องของหลี่โม่ แต่พอได้ยินดังนั้น ก็ถามอย่างสงสัยว่า “เจ้านายคนใหม่หรือ?”
โจวเฟิงฮั่วพยักหน้า “มีคนจ่าย40ล้านเพื่อซื้อร้านนี้”
40ล้านเลยนะ โจวเฟิงฮั่วไม่มีทางปฏิเสธได้
หวังฝู้เสียงได้ยินดังนั้น ก็รีบหันไปมองหลี่โม่
เป็นไปไม่ได้สิ
อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แม้แต่ฟางถิงและคนอื่นๆ ก็อึ้งไปตามๆ กัน
คงจะไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง?
หวังฝู้เสียงก็ค่อยๆ ถามว่า “เจ้านายครับ เจ้านายคนใหม่คือใคร พวกเรารู้จักไหม?”
โจวเฟิงฮั่วขมวดคิ้วพูดว่า “เจ้านายคนใหม่ผมไม่ค่อยรู้จัก แต่ว่า ได้ยินว่ายังเป็นหนุ่มอยู่เลย เดี๋ยวสักพักต้องระวังหน่อย เพราะเขาเป็นเจ้านายของพวกนายในอนาคต”
พูดจบ เขาก็พาพนักงานหลายสิบคน ออกไปต้อนรับที่หน้าประตู
เรื่องของฟางถิง ก็ต้องหยุดไว้ก่อน เธอเองก็ตามไปด้วย เดิมทีเธอก็เป็นผู้หญิงบ้าเงินอยู่แล้ว ได้เห็นลูกมหาเศรษฐีคนที่ซื้อร้านนี้ด้วยเงิน40ล้าน ก็คงจะดีไม่น้อย
เท่านั้นไม่พอ เธอยังแต่งหน้าเพิ่มอีก เพื่อรอจะจับผู้ชาย
หวังฝู้เสียงก็แหกปากตะโกนว่า “ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม ตั้งสติกันขึ้นมา เจ้านายคนใหม่จะมาแล้ว ทำตัวให้ดี จะได้ขึ้นเงินเดือน!”
พูดจบ เขาก็มองไปยังหลี่โม่ “ส่วนแก ไสหัวออกไป”
หลี่โม่ก็มองขวาง แล้วยิ้มมุมปาก แล้วไปยืนอยู่หน้าประตูใหญ่
โจวเฟิงฮั่วหันไปมอง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ในตอนนั้นเอง รถRolls-Royceสีดำก็ขับเข้ามา แล้วค่อยๆ จอดที่หน้าประตู
เฉียนฝูก็คิด แล้วตัดสินใจมาด้วยตัวเอง ในเมื่อนายน้อยทำแบบนี้ ก็แสดงว่ามีคนดวงตาไร้แววมาหาเรื่องนายน้อยเข้าแล้ว
หวังฝู้เสียงก็ยืนข้างหลังโจวเฟิงฮั่ว ตื่นเต้นจนลูบมือไปมา ใบหน้ามีแต่ความรอคอย
เจ้านายที่นั่งรถRolls-Royce ได้ ก็ไม่ธรรมดานะ ตนเองคงจะต้องแสดงออกดีๆ เสียหน่อย
ในตอนนั้นเอง เขาเห็นหลี่โม่ยืนอยู่ที่ประตู ทำท่าไม่สนใจโลก แล้วตำแหน่งที่ยืนก็ยังขวางทางรถด้วย ก็เลยรีบด่าไปว่า “ไอ้หลี่โม่ ไปทำอะไรตรงนั้น รีบไสหัวออกไปข้างๆ เลย ใครให้มึงไปยืนตรงนั้น?”