เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย – ตอนที่ 215 ถูกแอบถ่ายอีกแล้ว

เธอคิดถึงเขาแล้วรู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่ก็รีบปรับอารมณ์ให้กลับมากระปรี้กระเปร่าอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ คุณน่าจะถูกปากอาหารฝีมือฉันมากกว่า” 

 

 

เอ่ยจบแล้วลงมือเก็บจานเปล่า จากนั้นยกจานเปล่ากลับเข้าไปในห้องครัว 

 

 

เธอหมุนตัวพลันเห็นคริสเดินถือจานเปล่าที่เหลือเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเธอแล้ว เธอตกใจสะดุ้งโหยงอีกระลอก ผู้ชายคนนี้นี่อย่างไรกัน ตัวใหญ่โตขนาดนี้แต่กลับเดินไม่มีเสียง นี่เขาเกิดปีแมวหรืออย่างไร? 

 

 

“ขอโทษที่ทำให้คุณตกใจ” คริสทำหน้ารู้สึกผิดเล็กน้อย 

 

 

เธอสงบจิตสงบใจชั่วครู่ “ไม่เป็นไรค่ะ” เอ่ยพลางเบี่ยงกายเพื่อให้เขาวางจานลงในอ่างล้างจาน 

 

 

“ไม่มีเครื่องล้างจานอัตโนมัติเหรอครับ?” เขามุ่นหัวคิ้วถาม 

 

 

“เครื่องล้างจานอัตโนมัติ? ไม่มีค่ะ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นของเจ้าของบ้านทั้งหมด ฉันเองก็ยังไม่มีเวลาไปซื้อ” ความจริงเธอไม่มีเงินซื้อต่างหากล่ะ เครื่องล้างจานอัตโนมัติเป็นสิ่งที่พบบ่อยที่นี่ แต่สำหรับครอบครัวคนจีนนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบนี้จะมีหรือไม่มีก็ไม่แตกต่างอะไร เธอเองก็เช่นกัน 

 

 

แต่ท่าทางเขาประหลาดใจมาก “เกิดล้างจานจนมือด้านจะทำยังไง?” 

 

 

“อะไรนะคะ?” เธอรู้สึกตลกกับคำพูดของเขามาก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนจีนอย่างเราใช้มือล้างจานกันทั้งนั้น ไม่ค่อยใช้เครื่องล้างจานอัตโนมัติหรอกค่ะ” 

 

 

เขาฟังเหตุผลของเธอแล้วไม่ได้เอ่ยอะไรอีก แต่กลับชักหัวคิ้วชนกันแน่น 

 

 

ทั้งสองนั่งลงดื่มน้ำชา เขารู้สึกพอใจการต้อนรับในคืนนี้ของเธอเป็นอย่างมาก จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้น “คุณอยากทำงานพิเศษหรือเปล่าครับ?” 

 

 

“อะไรนะคะ?” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยเร็วมากจนเธอตั้งตัวไม่ทัน “งานพิเศษเหรอคะ?” 

 

 

“ใช่” เขาเอ่ย “เวลาทำงานของพวกเราไม่นาน แต่ละวันจึงมีเวลาว่างเยอะมาก คุณเคยคิดเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า?” 

 

 

“เป็น… งานพิเศษอะไรคะ?” เธอเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนัก แม้ตอนนี้เธอค่อนข้างจะอัตคัต แต่เธอก็ต้องทำทุกอย่างอย่างรอบคอบ 

 

 

เขากระแอมเบาๆ เธอเห็นความลำบากใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน เธอชักสังหรณ์ใจไม่ดีเสียแล้วสิ และเป็นอย่างที่เธอคิดไม่มีผิด เขาเอ่ยขึ้น “คืนสุดสัปดาห์สองวัน ไปทำงานอาหารเย็นที่บ้านผม” เอ่ยจบแล้วเสนอตัวเลขให้เธอ “เป็นไงครับ?” 

 

 

ก็แค่ทำอาหารเย็นมื้อเดียวเอง และเธอคงต้องเป็นคนเตรียมวัตถุดิบเอง ถ้าเช่นนั้นราคาที่เขาเสนอให้ก็สูงมาก แทบจะใกล้เคียงกับค่าแรงต่อวันของเธออยู่แล้ว ความรู้สึกแรกคือดีใจ จากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความไม่เข้าใจ นี่ฝีมือทำอาหารของเธอดีมากถึงขั้นนั้นเลยหรือ? ไม่ใช่มั้ง? 

 

 

เขาดูออกว่าเธอกำลังสงสัยจึงอธิบายให้กระจ่าง “ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมรู้สึกถูกปากอาหารที่คุณทำมาก ผมคิดแค่นั้นจริงๆ แต่ถ้าคุณไม่ยินดีก็ไม่เป็นไร ถือว่าผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ก็แล้วกัน” 

 

 

“เปล่าค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น” เธอรีบแก้ตัวอย่างเก้อๆ “แต่ถ้าอยู่ดีๆ ฉันไปที่บ้านคุณ ถ้าเกิด…” 

 

 

เธอไม่รู้จักเขาเลยสักนิด อยู่ดีๆ จะให้เดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้านของเขาก็คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ แต่ข้อเสนอของเขาก็ยั่วยวนใจจนทำให้เธอลำบากใจ 

 

 

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว ไม่มีคนอื่นอีก คุณแค่ต้องทำอาหารสำหรับผมคนเดียวก็พอ อ้อ รวมทั้งของคุณด้วย” เขาเข้าใจความหมายของเธอผิดไปจนต้องรีบชิงอธิบายก่อน 

 

 

เธอคิดหนักเพราะรู้สึกกลุ้มใจมาก ทุกอย่างฟังดูดีมาก แต่ถ้าเกิดเขาคิดไม่ดีขึ้นมาล่ะ? 

 

 

ถ้าเธอปฏิเสธจนทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมาล่ะ? เขาเป็นเจ้านายของเธอ มันคงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะไล่เธอออกเพราะความไม่พอใจ 

 

 

ดังนั้น เธอคิดๆ แล้วตัดสินใจใช้แผนขัดตาทัพไปก่อน “ขอโทษนะคะ ฉันขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ?” 

 

 

เขาประหลาดใจเล็กน้อย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะรับปากทันที แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะให้คำตอบแบบนี้ และดูเหมือนเธอไม่ยินดีสักเท่าไหร่ แค่ไม่กล้าเอ่ยออกมาเท่านั้น เขารู้สึกไม่ค่อยมีความสุขนัก ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ “ได้ ผมหวังว่าจะได้คำตอบเร็วนี้ๆ นะครับ” 

 

 

“ค่ะ” เธอตอบยิ้มๆ 

 

 

ทั้งสองใช้เวลาอาหารค่ำมื้อนี้ประมาณสองชั่วโมง และเขายังคงแสดงให้รู้เป็นนัยๆ ด้วยว่าอยากจะให้เธอเอ่ยปากชวนให้เขาอยู่ต่อ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเธอเหมือนเดิม 

 

 

หลังจากต้องพบกับความผิดหวัง เขาพบว่าเขาสนใจเธอมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว 

 

 

เธอเดินไปส่งเขาข้างล่าง ทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นแสงแวบหนึ่งที่ปรากฎขึ้นตรงมุมมืดมุมหนึ่ง 

 

 

วันรุ่งขึ้น เธอต้องตกใจที่เห็นรูปถ่ายของตัวเธอปรากฎอยู่ทุกที่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? 

 

 

เธอเดินเข้าออฟฟิศด้วยความงงงวย สิ่งแรกที่เห็นก็คือสายตาอยากรู้อยากเห็นของเจนนี่ และใบหน้าโกรธจนซีดของเอลลี่ 

 

 

เธอเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรเจนนี่ก็โถมเข้ามาหาเธอด้วยความกระตือรือร้น “เฉียว เธอโกหกฉันจริงๆ ด้วย เธอกำลังคบกับคริสใช่ไหม?” 

 

 

“ไม่ใช่สักหน่อย เราเป็นเพื่อนกันเท่านั้น” เธอพยายามอธิบาย 

 

 

แต่น่าเสียดายที่ความพยายามของเธอต้องเสียแรงเปล่า เจนนี่รีบเปิดหน้าเว็บไซต์ข่าวด้วยความตื่นเต้น “เธอดูสิ รูปถ่ายของเธอกับเขาได้ขึ้นพาดหัวข่าวใหญ่ด้วย ยังจะมาทำไก๋อีก” 

 

 

“แต่ฉันไม่ได้…” เธอยังไม่ทันจะเอ่ยจบก็เห็นรูปถ่ายที่เจนนี่เปิดให้ดู รูปถ่ายที่เห็นตรงหน้าทำให้เธอพูดไม่ออกอีก มันเป็นรูปแอบถ่ายฝีมือช่างกล้องมืออาชีพที่จับมุมภาพได้อย่างพอเหมาะพอเจาะมาก ในรูปถ่าย เธอกำลังแหงนหน้าและยิ้มให้เขา สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนคริสยืนหันข้างเล็กน้อย ท่าทางของเขาเหมือนกำลังพูดอะไรสักอย่างกับเธอ และเหมือนกำลังจะจุมพิตเธอมากกว่า สิ่งแรกที่ปรากฎในภาพนี้คือสองคนนี้ต้องมีอะไรกันแน่ๆ 

 

 

ถึงว่าทำไมเจนนี่ถึงไม่เชื่อคำพูดของเธอ ถ้าเธอไม่ใช่คนที่อยู่ในรูปนี้ เธอเองก็คงไม่เชื่อเหมือนกันว่าคนในรูปถ่ายจะไม่มีความสัมพันธ์กัน 

 

 

แต่เธอถูกใส่ร้ายจริงๆ นี่นา อีกอย่าง ยังมีอีกเรื่องที่เธอไม่เข้าใจ “เจนนี่ ทำไมรูปถ่ายของพวกเราถึงกลายเป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้ล่ะ หรือว่าคริสไม่ใช่คนธรรมดา?” 

 

 

เจนนี่มองเธอราวกับกำลังมองไอ้งั่งคนหนึ่ง เธอเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ “โอ้ พระเจ้า! นี่เธอไม่รู้ได้ยังไงว่าเจ้านายของเราเป็นใคร?” 

 

 

“แล้วเป็นใครเหรอ?” คนโง่เฉียวซือมู่เอ่ยถามอย่างอัตโนมัติ 

 

 

“เขาเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของอิตาลี แถมยังเป็นลูกชายคนโตอีกต่างหาก ได้ข่าวว่าพวกเขายังไปมาหาสู่พวกมาเฟียอย่างลับๆ ด้วยนะ นี่เป็นเรื่องที่รู้กันทุกคน แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?” เจนนี่เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก 

 

 

เฉียวซือมู่ถูจมูกตัวเองเบาๆ อย่างเซ็งๆ “ก็ไม่มีใครบอกฉันนี่ อีกอย่าง ฉันไม่ใช่คนที่นี่สักหน่อย ไม่รู้เรื่องพวกนี้นี่มันแปลกมากเลยเหรอ?” 

 

 

เจนนี่ฟังแล้วได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ “มันก็จริง เธอเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ไม่นาน ฉันก็คิดว่าเธอรู้แล้วก็เลยไม่ได้บอกเธอ” 

 

 

มิน่าเล่า เรื่องนี้ถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ที่แท้ก็เป็นเพราะสถานภาพที่ไม่ธรรมดาของเขานี่เอง  

 

 

เธอแอบคิดในใจ ทันใดนั้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังมาจากห้องทำงานของเจ้านาย ทำเอาพนักงานที่กำลังซุบซิบนินทากันอยู่ตกใจสะดุ้งโหยง ต่างพากันหันมองไปทางเดียวกัน พลันเห็นเอลลี่เดินออกมาจากห้องทำงานของคริสแล้วใช้แรงปิดประตูดังปังใหญ่ 

 

 

ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา สายตาเต็มไปด้วยความหมายที่ต่างรู้กัน 

 

 

เรื่องที่เอลลี่ชอบเจ้านายนั้นเป็นความลับที่เปิดเผยในบริษัท ท่าทางเธอคง… หึงจนหน้ามืดแล้ว 

เเสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

เเสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

เฉียวซือมู่ คุณหนูตระกูลเฉียวดันจับพลัดจับผลูไปเสียครั้งแรกให้กับ จิ้นหยวน หนุ่มนักธุรกิจเพลย์บอยแห่งเขตซีเฉิง ผู้มีสโลแกนประจำตัวว่า ‘รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน’ เธอขอให้เขาลืมเรื่องคืนนั้นไป ทั้งยังเสนอเช็คให้เขาอย่างไม่เจียมตัว แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน ทุกอย่างกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ บ้านของเธอล้มละลาย พ่อพาเมียน้อยหนีไปพร้อมกับทิ้งภาระหนี้สินทั้งหมดให้เธอและแม่ ยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัดถูกแฟนหนุ่มทิ้งไปหาศัตรูหัวใจ ชีวิตของเธอตกต่ำอย่างถึงที่สุด แต่แล้วชายผู้เป็นครั้งแรกของเธอกลับมาเล่นสกปรกปล่อยข่าวฉาวเรื่องคืนนั้น เพียงเพราะเขาถอนเงินจากเช็คไม่ได้! “จะให้ผมปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณต้องยอมรับข้อเสนอของผมข้อหนึ่ง” เฉียวซือมู่เงยหน้าถามว่า “ข้อเสนออะไร” “คบกับผม แล้วผมจะปล่อยคุณไป”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset