ตอนที่ 566 ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ข้ากำราบไม่สำเร็จ
เฟิงชิงสุ่ยคิดทบทวนแล้ว เวลานี้ได้แต่ส่งคนไปสืบหาซูจิ่วซือกับเฟิงเยว่ นางรู้สึกว่าซูจิ่วซือออกไปจากตูเฉิงเกี่ยวข้องกับหนอนไหมพิษของนาง
หนอนไหมพิษที่นางใช้ ไม่ใช่กำจัดพิษได้ง่ายๆ นางจะให้โอกาสซูจิ่วซือได้อย่างไร ซูจิ่วซือไปรักษาที่ไหนก็ไม่ได้ผล
วันรุ่งขึ้น เฟิงเยว่ถูกส่งไปที่เขาเป่าหลิง เจ้าแม่มองเฟิงเยว่เหมือนมองเหยื่อ เขาถูกมัดมือมัดเท้า นั่งบนพื้นขยับตัวไม่ได้
เจ้าแม่เอื้อมมือไปบีบกล้ามเนื้อที่แขนของเฟิงเยว่ เฟิงเยว่สีหน้ารังเกียจ ทำตาขวางใส่เจ้าแม่ หญิงแก่คนนี้มาจากไหน มาลบหลู่เขาอย่างนี้
“โห อารมณ์ร้อนจริงๆ สมกับที่เป็นคุณชายตระกูลใหญ่ กล้ามเนื้อใช้ได้ เหมือนคนเคยผ่านสนามรบ” เจ้าแม่ยังคงมองเฟิงเยว่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “หน้าตาไม่เลว รูปร่างสมส่วน ไม่เสียทีที่เป็นคนจวนแม่ทัพสยบปฐพี”
พอได้ยินเจ้าแม่พูดถึงจวนแม่ทัพสยบปฐพี เฟิงเยว่ก็ทำตาขวางใส่เจ้าแม่ “ในเมื่อรู้ว่าข้าเป็นคนจวนแม่ทัพสยบปฐพี ยังไม่ปล่อยข้าหรือ จวนแม่ทัพสยบปฐพีไม่ใช่เจ้าจะหาเรื่องได้”
“ทำไมข้าจะหาเรื่องไม่ได้ ถึงเจ้าเป็นฮ่องเต้ พอมาถึงเขาเป่าหลิง ก็ต้องเชื่อฟัง”
เจ้าแม่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ พอได้ยินชื่อเขาเป่าหลิง เฟิงเยว่ก็หน้าซีดทันที เขาพอจะรู้เรื่องในวงการนักเลงอยู่บ้าง เคยได้ยินเรื่องราวของคนที่มีชื่อเสียง รวมทั้งเรื่องของเขาเป่าหลิง
เขารู้ว่าเขาเป่าหลิงมีผู้หญิงคนหนึ่งที่แสวงหาผู้ชาย หรือว่านางคือเจ้าแม่ที่ผู้ชายพากันหลีกหนี? นางลงมือกับคนในวงการนักเลงมาตลอด ไม่เคยได้ยินว่านางลงมือกับลูกหลานตระกูลใหญ่ ทำไมนางจึงต้องการตัวเขา ใครๆ ก็รู้ว่าเขาร่างกายบกพร่อง
“เจ้าคือเจ้าแม่?”
เจ้าแม่นั่งลงบนเก้าอี้ “ไม่ถึงกับไม่รู้เรื่องรู้ราว ยังรู้จักชื่อข้า”
“ร่างกายข้าบกพร่อง จับข้ามาไม่มีประโยชน์ ถ้าเจ้าแม่ปล่อยข้า ข้าจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ทำให้เจ้าแม่เดือดร้อน ไม่รู้ว่าเจ้าแม่มีความเห็นอย่างไร?”
เจ้าแม่ลูบมือ เล็บนางยาวมาก ดูน่ากลัว นางยิ้มให้เฟิงเยว่อย่างอ่อนหวาน “เฟิงเยว่ เจ้าอย่ามาเล่นเล่ห์กับข้า
ข้ารู้ว่าร่างกายเจ้าบกพร่อง หลายปีมานี้ข้าเจอคนหลากหลาย แต่ไม่เคยเจอคนอย่างเจ้า ข้าจะรักษาเจ้าให้หาย วันหลังเจ้ารับใช้ข้าให้ดี ว่าไง?”
เฟิงเยว่รู้สึกขยะแขยง คำร่ำลือในวงการนักเลง เจ้าแม่อายุไม่ต่ำกว่าหกสิบปี เขาจะสนใจผู้หญิงอายุคราวย่าได้อย่างไร ในฐานะลูกหลานตระกูลใหญ่ มีความทะนงตน ปกติเขาก็ดูหมิ่นผู้ชายที่เป็นของเล่นผู้หญิงอยู่แล้ว เจ้าแม่ให้เขารับใช้นาง ฝันไปเถอะ
“เจ้าแม่พูดเล่นหรือ ข้ารู้จักแต่ฆ่าคนในสนามรบ ไม่รู้จักรับใช้ใคร การรับใช้เป็นงานของผู้หญิง”
เจ้าแม่หัวร่อร่า “ใครบอกว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่รับใช้ผู้ชาย เฟิงเยว่ มาที่นี่ต้องรู้จักยอมรับชะตากรรม ข้ามีวิธีของข้า ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ข้ากำราบไม่สำเร็จ”
“เจ้า…”
เฟิงเยว่โกรธจนหน้าเขียว เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้ฟู่เยว่อี้เรียกเขาไปหา เขาดื่มชาถ้วยหนึ่งแล้วเป็นลมไป พอลืมตาขึ้น ก็ถูกมัดมือมัดเท้าขังไว้ในรถม้า ตาก็ถูกปิด ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ไหน
เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับฟู่เยว่อี้แน่ เขาไม่เข้าใจว่าฟู่เยว่อี้จึงร่วมมือกับเจ้าแม่ได้อย่างไร นางรู้จักเจ้าแม่ได้อย่างไร
ตอนที่ 567 พิษหนอนไหมพิษกำเริบ
ฟู่เยว่อี้คิดจะแก้แค้นเขาด้วยวิธีนี้ ถ้าเขากลับไป คงไม่ปล่อยนางแน่
พอเห็นเจ้าแม่มีเจตนาแอบแฝงเขาก็เสียใจที่เคยทำกับฟู่เยว่อี้อย่างนั้น ถ้ารู้ว่าจะมีวันนี้เขาคงไม่ทำให้ฟู่เยว่อี้โกรธ ผู้หญิงคนนี้ตอบโต้เขาด้วยวิธีฟันต่อฟัน เขาเคยลบหลู่นาง เวลานี้นางเอาคืนแล้ว
มิน่าเมื่อก่อนเฟิงชิงสุ่ยจึงไม่กล้าดูแคลนฟู่เยว่อี้ พอคิดได้อย่างนี้ เขาก็แค้นจนอยากบีบคอฟู่เยว่อี้ให้ตาย
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออก จงโม่เจียงเข้ามา เอามือไพล่หลังเดินมาหาเจ้าแม่ “เจ้าแม่พอใจเฟิงเยว่หรือไม่?”
“หน้าตาใช้ได้ แต่ไม่คุ้ม ถ้าเอาเขามาแลกผลเซียนหลิง พวกเจ้าพาเขากลับไปเถอะ!”
เจ้าแม่ไม่พอใจเฟิงเยว่ พอได้ยินอย่างนี้ จงโม่เจียงก็เริ่มร้อนใจ เขารู้ว่าเจ้าแม่ไม่ใช่คนที่จะเอาใจได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าแม่จะเอาใจยากปานนี้ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าแม่ดี
เจ้าแม่อาศัยอยู่ตัวคนเดียว ในสวนปลูกต้นไม้ประหลาดมากมาย ไม่รู้ว่าผลเซียนหลิงเป็นต้นไหน อีกทั้งวรยุทธของเจ้าแม่ ถ้าต่อสู้กันจริงๆ คนที่ลำบากก็คือซูจิ่วซือ เขาอาจจะหลบหนีไปได้ แต่ซูจิ่วซือไม่มีวรยุทธคงจะตกอยู่ในกำมือของเจ้าแม่แน่
“เจ้าแม่ โปรดช่วยด้วย! รับเฟิงเยว่ไว้ก่อนเถอะ ข้าจะไปหาคนข้างนอกมาให้อีก พอถึงตอนนั้นค่อยส่งคนมาให้อีกสองสามคน เป็นไง?”
จงโม่เจียงไม่เคยขอร้องใครมาก่อน เพื่อช่วยซูจิ่วซือ เขายอมลดตัวมาขอร้องเจ้าแม่ แต่เจ้าแม่กลับไม่ใจอ่อนเลย
“ข้าบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ยอมขาดทุน เฟิงเยว่นิสัยไม่ดี ไม่รู้จักเชื่อฟังแน่ ทำให้ข้ายังเสียแรง คนอย่างนี้หรือจะคุ้มกับผลเซียนหลิง ยกเว้นว่าเจ้าจะยินดีอยู่กับข้า”
เจ้าแม่เบนความสนใจมาที่จงโม่เจียง จงโม่เจียงสีหน้าเครียด อย่างน้อยเขาก็เป็นเจ้าสำนักวิหคเขียว ถ้าเรื่องนี้เปิดเผยออกไปเขาคงอับอายขายหน้าจนไม่มีอะไรเหลือ
“เจ้าแม่ทำไมต้องทำให้ข้าลำบากใจ?”
“อยู่กับข้าเจ้าลำบากใจหรือ? ไม่ได้ให้เจ้าอยู่ตลอดชีวิต นานเกินไปข้าก็เบื่อ ถ้าเจ้าอยู่กับข้าแค่สามเดือน ข้าจะยกผลเซียนหลิงให้”
ขณะจงโม่เจียงเตรียมจะพูด อาหลานวิ่งเข้ามา “เจ้าแม่ ช่วยคุณหนูของข้าด้วย คุณหนูปวดหัวอีกแล้ว”
พอได้ยินว่าซูจิ่วซือปวดหัว จงโม่เจียงก็ออกไปทันที อาหลานตามไปด้วย
เฟิงเยว่ไม่เคยเห็นจงโม่เจียงกับอาหลาน จึงไม่รู้จักคนทั้งสอง เขาไม่รู้ว่าซูจิ่วซือก็อยู่ที่เขาเป่าหลิง
จงโม่เจียงวิ่งไปที่ห้องของซูจิ่วซือ นางเอามือกุมหัว สีหน้าเจ็บปวด มือทั้งสองจับมุมโต๊ะไว้แน่น แต่ไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อย
จงโม่เจียงพอเห็นซูจิ่วซือกัดริมฝีปาก ก็เป็นห่วงมาก เขาเป็นคนหยาบกระด้าง ไม่รู้จักพูดคำหวาน แต่ไม่อาจทนดูซูจิ่วซือเจ็บปวดอย่างนี้
เขายื่นมือไปกดจุดบนหัวซูจิ่วซือครู่หนึ่ง เพื่อช่วยระงับปวด แต่ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย ซูจิ่วซือยังคงเจ็บปวดแทบทนไม่ไหว จนพูดอะไรไม่ได้ รู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดออกมา
“ทำไมจึงเป็นอย่างนี้?”
พอเห็นว่ากดจุดไม่ได้ผล จงโม่เจียงก็ยิ่งร้อนใจ
อาหลานซึ่งเดินตามหลังเข้ามาพูดอย่างวิตก “เมื่อกี้ข้ากดจุดให้คุณหนูแล้ว เมื่อก่อนเคยได้ผล แต่ครั้งนี้ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าไม่ได้ผลเซียนหลิงเข้าเป็นห่วงคุณหนูจริงๆ”
“ข้าไม่เป็นไร”
ซูจิ่วซือสะกดความรู้สึกเจ็บปวด ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดพูดออกมาอย่างนี้