ตอนที่ 560 เงื่อนไขประหลาดของเจ้าแม่
คงเป็นเจ้าแม่แน่ สวยกว่าที่ซูจิ่วซือคิด
“เจ้าแม่” อาหลานทักทายเจ้าแม่
พอเห็นอาหลาน เจ้าแม่ก็มองดูซูจิ่วซือ รู้ว่าซูจิ่วซือไม่ใช่คนวงการนักเลง เจ้าแม่เผยรอยยิ้มที่มุมปาก “แม่นางคนนี้เป็นคุณหนูตระกูลไหน พวกเจ้าถึงรอบล้อมนาง ประหลาดจริงๆ”
“นี่คุณหนูตระกูลมู่ เจ้าแม่ เจ้าแม่ปลูกผลเซียนหลิงหลายต้น ขอข้าสักผลได้หรือไม่?”
เจ้าแม่เป็นผู้อาวุโสของจงโม่เจียง วงการนักเลงให้ความสำคัญต่อการจัดลำดับอาวุโส เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าแม่ จงโม่เจียงจึงพูดจานอบน้อม ถือนางเป็นผู้อาวุโส
เจ้าแม่ปรายตามองจงโม่เจียงแวบหนึ่ง “ข้าปลูกไว้หลายต้น แต่เหลือผลเซียนหลิงเพียงลูกเดียว เป็นของดีบำรุงความงาม จะยกให้ใครง่ายๆ ได้หรือ”
“เจ้าแม่สวยอยู่แล้ว เป็นคนสวยอันดับหนึ่งในวงการนักเลง” จงโม่เจียงยกยอ
“จงโม่เจียง เจ้าช่างปากหวานจริงๆ แม่นางคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับเจ้า จึงทำให้เจ้ามาถึงนี่ ถ้าเจ้ายินดีอยู่กับข้า ข้าอาจจะพิจารณายกผลเซียนหลิงให้”
ดวงตาเจ้าแม่ฉายแววหื่นกระหาย ยิ้มเหมือนไม่ยิ้มจ้องหน้าจงโม่เจียง รอให้จงโม่เจียงรับปาก
นางชอบจงโม่เจียงอยู่ก่อนแล้ว แต่จงโม่เจียงไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าเขาไม่ยินยอม นางก็ไม่อาจบงการเขาได้ เมื่อโอกาสมาถึง นางต้องลองสักครั้ง ดูว่าจะสมปรารถนาหรือไม่
จงโม่เจียงย่อมไม่ยอมแน่ เขากระแอมเบาๆ “เจ้าแม่ ข้าเตรียมคนไว้แล้ว เอาคนมาแลกผลเซียนหลิงได้หรือไม่?”
“ใคร?”
“เฟิงเยว่ อีกสองวันจะพาเขามาส่ง”
เจ้าแม่ตะลึง ถามขึ้น “คุณชายใหญ่แห่งจวนแม่ทัพสยบปฐพีใช่หรือไม่?”
“ใช่”
พอได้ยินว่าเป็นเฟิงเยว่ เจ้าแม่ก็ส่ายหน้าอย่างรังเกียจ “คนอย่างนั้นจะใช้ได้หรือ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องโลกภายนอกหรือ ใต้หล้าใครๆ ก็รู้ว่าเขาร่างกายบกพร่องนานแล้ว ข้ารับเขาไว้มีประโยชน์อะไร ข้าไม่เลี้ยงคนไว้เปล่าประโยชน์แน่”
“เจ้าแม่ เฟิงเยว่กำเนิดในจวนแม่ทัพ ตัวสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลา เทียบกับพวกข้าคนหยาบคายไม่รู้หนังสือ เขามีความสามารถทั้งบู๊และบุ๋น ชาติกำเนิดดีเยี่ยม เจ้าแม่ไม่เคยแตะต้องคนอย่างนี้แน่ ทำไมไม่ลองรับคุณชายสูงศักดิ์ไว้
ร่างกายเขาไม่ได้บกพร่องตั้งแต่เกิด ข้าได้ยินว่าเป็นเพราะได้รับบาดเจ็บ เจ้าแม่น่าจะมีวิธีรักษาเขา ให้คนอย่างนี้อยู่ใกล้ชิดเจ้าแม่ไม่ดีหรือ”
เจ้าแม่ไตร่ตรองคำพูดของจงโม่เจียง ไม่พูดไม่จา
ซูจิ่วซือนิ่งเงียบมาตลอด เจ้าแม่ตั้งเงื่อนไขประหลาดจริงๆ คำพูดอย่างนี้นางพูดออกมาไม่ได้
ในฐานะคุณหนูตระกูลใหญ่ นางไม่ทำตัวเหลวไหลอย่างนั้นแน่ ต้องรักษาแบบแผนอย่างเคร่งครัด การกระทำของเจ้าแม่ นางไม่เข้าใจนัก แต่ไม่ได้ซักถาม
เจ้าแม่ไม่เคยเห็นเฟิงเยว่มาก่อน และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับลูกหลานตระกูลใหญ่ พอได้ยินคำพูดของจงโม่เจียง ก็สนใจทันที นางพยักหน้า “งั้นรอเฟิงเยว่มาถึงก่อนค่อยว่า ถ้าคุ้มข้าก็จะแลก ถ้าไม่คุ้มพวกเจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ข้าไม่ยอมขาดทุนแน่”
“เฟิงเยว่ต้องทำให้เจ้าพอใจแน่”
จงโม่เจียงสนับสนุนเฟิงเยว่ต่อ รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นพ่อเล้า
“พวกเจ้าตามข้ามา”
เจ้าแม่หันตัวเดินนำหน้า นางกับจงโม่เจียงเดินคุยกันไป ดูออกว่าทั้งสองใกล้ชิดสนิทสนมกัน ซูจิ่วซือกับอาหลานเดินตามหลัง
“เจ้าแม่สวยจริงๆ”
เดินไปไกลระยะหนึ่ง จู่ๆ ซูจิ่วซือก็พูดขึ้น
“ใช่สวยมาก เจ้าแม่มีวิธีบำรุงความงามตั้งมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะผมหงอก เจ้าแม่คงจะดูสาวกว่านี้”
อาหลานพูดเบาๆ โชคดีที่เจ้าแม่ไม่ได้ทำให้พวกเขาลำบากใจ
ตอนที่ 561 เจ้ายินดีอยู่กับข้าหรือไม่
ถ้าไม่ใช่เพราะมีจงโม่เจียงอยู่ด้วย พวกเขาคงไม่ได้เจอเจ้าแม่ ผลเซียนหลิงไม่เหมือนอย่างอื่น พอเด็ดแล้วต้องกินทันที ไม่เช่นนั้นมันจะตาย ซูจิ่วซือจึงต้องมารับด้วยตัวเอง
เดินตามทางระยะหนึ่ง ข้างหน้าก็ปรากฏมีสวนล้อมด้วยกิ่งไม้แห้ง ในนั้นปลูกดอกไม้หลากหลาย สีสันต่างๆ นานาสลับกัน ได้กลิ่นหอมฟุ้งแต่ไกล
เวลานี้เป็นฤดูหนาว โดยทั่วไปจะไม่มีดอกไม้แล้ว เหลือแต่ดอกเหมย แต่สวนของเจ้าแม่เหมือนฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น ดอกไม้หลากสีแย้มบาน ประกวดประชันกัน น่าอัศจรรย์ทันทีที่เห็น นี่ไม่ใช่ดอกไม้ธรรมดาแน่
ด้านหลังของดอกไม้มีบ้านไม้
ผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งรออยู่ พอเห็นเจ้าแม่เข้ามา ก็ร้องทักอย่างนอบน้อม
“ป้าอวิ๋น มีแขกมา ช่วยดูแลหน่อย ตอนบ่ายทำกับข้าวเพิ่มสองสามอย่าง”
“เจ้าค่ะ เจ้าแม่ เดี๋ยวข้าไปเตรียมห้อง”
ป้าโจวพยักหน้า รีบถอยไป
จงโม่เจียงกวาดตามองต้นไม้ในสวนของเจ้าแม่ พลางพูดคุยกับเจ้าแม่อย่างสนิทสนม “หนาวอย่างนี้ดอกไม้ยังบานเต็มสวน เจ้าแม่ช่างมีความสุขจริงๆ”
“ที่นี่อากาศเหมือนกันทั้งปี เจ้ายินดีอยู่กับข้าหรือไม่?”
เจ้าแม่พูดจบก็เตรียมจะคล้องแขนจงโม่เจียง แต่จงโม่เจียงเบี่ยงตัวหลบ ใบหน้าที่เย็นชาเผยความรู้สึกอึดอัด “ข้ามีแม่นางที่ข้ารักแล้ว”
“แม่นางคนนั้นสู้ข้าได้หรือไม่?”
“เทียบเจ้าแม่ไม่ได้แน่ แต่ข้าก็รัก”
เจ้าแม่ไม่ได้ฝืนใจงโม่เจียง ได้แต่ส่ายหน้า “น่าเบื่อจริงๆ”
พูดจบนางก็เดินไปหาซูจิ่วซือ “เจ้าคือลูกสาวตระกูลมู่ที่เพิ่งกลับมาใช่หรือไม่?”
“ข้าชื่อมู่ซือซือ มารบกวนเจ้าแม่” ซูจิ่วซือท่าทางอ่อนน้อม
เจ้าแม่หัวเราะ “ได้ยินชื่อเสียงของเจ้านานแล้ว ได้ข่าวว่าเมื่อก่อนเจ้าเป็นเจ้าหญิงอันผิงแคว้นเว่ย แม่หนูไม่ธรรมดาจริงๆ จากแคว้นเว่ยมาแคว้นเจียง ทำได้ดีเสียด้วย แล้วยังชนะใจเจ้าปีศาจนักฆ่าคนนี้ ข้าอยู่มาตั้งหกสิบปี ยังเก่งสู้เจ้าไม่ได้”
“เจ้าแม่ชมเกินไป ข้าหรือจะเทียบกับเจ้าแม่ได้” ไม่ว่าเจ้าแม่จะเย้ยหยันหรือชมจริงๆ ซูจิ่วซือก็ยังสีหน้าสงบ พูดตอบเจ้าแม่
“อายุเท่าไร?”
“สิบเจ็ดปี”
“อายุกำลังดี เพิ่งสิบเจ็ดปี” เจ้าแม่ถอนหายใจพลางเดินเข้าห้อง “ข้าแก่แล้ว สู้สาวๆ อย่างเจ้าไม่ได้ ได้ยินว่าเจ้ากับรัชทายาทแคว้นเจียงสนิทสนมกัน ข้าชื่นชมเขามาก ถ้าเจ้าให้เขามาอยู่กับข้าระยะหนึ่ง ข้าจะเอาผลเซียนหลิงให้เจ้าทันที”
เป็นไปได้อย่างไร นางยอมตาย ไม่มีวันตกลงแน่
ซูจิ่วซือเกือบพูดออกมาอย่างนี้ แต่ก็สะกดใจไว้ เวลานี้นางไม่อยากขัดแย้งกับเจ้าแม่ ฟู่เฉินหรงเองก็ไม่รู้เรื่องนี้ นางไม่บอกฟู่เฉินหรงแน่
เจ้าแม่แววตาเว้าวอน “ตัดใจไม่ได้?”
“เจ้าแม่ องค์รัชทายาทเป็นเจ้า เจ้ากับขุนนางแบ่งแยกกัน เรื่องของรัชทายาทข้าไม่อาจเกี่ยวข้อง”
เจ้าแม่หัวเราะร่า “เพราะเขาเป็นรัชทายาทข้าจึงสนใจ ได้ยินว่าหน้าตาหล่อเหลาไม่มีใครเทียบ ถ้าได้ผู้ชายอย่างเขา ชาตินี้ข้าตายก็ไม่เสียดาย”
พูดจบเจ้าแม่ก็เดินนำหน้าเข้าห้องไป ซูจิ่วซือขมวดคิ้ว สีหน้าวิตก “จงโม่เจียง นางจะส่งข่าวไปให้เฉินหรงหรือไม่?”