ตอนที่ 456 คนที่จะเป็นสามีต้องอย่างนี้
“ข้าไม่ควรพาเจ้ามาเซิ่งจิง ที่นี่อันตรายเกินไป”
ซูจิ่วซือถอนหายใจ นางกับฟู่เฉินหรงรู้ว่าเส้นทางนี้อันตรายมาก และตระเตรียมไว้แล้ว แต่กู้หลียวนต่างออกไป เดิมทีเขาห่างไกลจากเรื่องเหล่านี้ นางเป็นคนพากู้หลียวนมาที่ศูนย์กลางความขัดแย้ง
กู้หลียวนสั่นหัว “ข้าอยากมาเอง ข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากบอกลากู้หลียวนผู้ไร้ความสามารถในอดีตจิ่วซือ เรื่องนี้ ข้ายังสู้เจ้าซึ่งเป็นผู้หญิงไม่ได้ คิดแล้วก็ละอายใจ ข้ารู้แล้วว่าตัวเองอยากทำอะไร ข้ามีเพื่อนในวงการนักเลงมากมาย ข้าจะเลี้ยงคนกลุ่มหนึ่ง”
ซูจิ่วซือพยักหน้า “อยากทำอะไรก็ลงมือทำเลย เราจะต้องชนะในที่สุด”
พอประสานสายตากับซูจิ่วซือ กู้หลียวนเหมือนได้รับความรู้สึกนี้ด้วย เวลานี้แม้ไม่รู้ว่าจะแพ้หรือชนะ แต่เขารู้สึกเสมอว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะก็คือฟู่เฉินหรงกับซูจิ่วซือ
ทั้งสองเป็นคนแบบเดียวกัน
กู้หลียวนไม่ใส่ใจกับอำนาจ เขาเพียงแต่อยากให้เผยปิงปิงมีที่พึ่ง ให้นางมอบชีวิตให้เขาอย่างวางใจ
“ข้าเพียงแต่อยากปกป้องปิงปิง วันหลังข้าจะเป็นคนปกป้องนางเอง”
คำพูดนี้หนักแน่น เหมือนคำมั่นสัญญาที่จริงจัง
ซูจิ่วซือยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกชื่นชม ความรู้สึกนี้เหมือนเห็นลูกชายเติบโต เป็นผู้ชายอย่างแท้จริง เมื่อก่อนนางเป็นห่วงกู้หลียวน เวลานี้สามารถวางใจได้
ซูจิ่วซืออดหัวเราะไม่ได้ “คนที่จะเป็นสามีต้องอย่างนี้”
“ข้าเอาอย่างเฉินหรงของเจ้า ข้ากลับก่อนละ ปิงปิงอยู่ที่นี่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น บอกข้าด้วย”
“ได้”
ซูจิ่วซือพยักหน้า กู้หลียวนออกไปจากห้องของซูจิ่วซือ
รุ่งเช้า ซูจิ่วซือขึ้นรถม้า ติดตามฮูหยินมู่ไปไหว้พระที่วัดเหยียนหัว นางสวมชุดสีกลีบบัวแต่งตัวเรียบร้อย ฮูหยินมู่นั่งตรงกันข้ามกับซูจิ่วซือ ยิงมองยิ่งรู้สึกว่าลูกสาวสวยขึ้น
“ซือซือ วัดเหยียนหัวมีโรงเจทำอาหารอร่อย ตอนบ่ายเรากินมื้อกลางวันที่นั่นแล้วค่อยกลับ”
ซูจิ่วซือพยักหน้า “เจ้าค่ะ แล้วแต่ท่านแม่”
“ใช่สิ ซือซือ พี่รองของเจ้าเอาใจใส่แม่นางเผยมาก เขาชอบแม่นางเผยใช่หรือไม่ แม่นางคนนี้คล่องแคล่ว ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กดีน่ารัก
เจ้ากับแม่นางเผยสนิทกัน ลองถามแทนพี่รอง ถ้าแม่นางเผยมีใจให้ ก็จัดการหมั้นหมาย เมื่อก่อนเขาไม่อยากแต่งงาน สองวันข้ากับพ่อเจ้ายังปรึกษากันเรื่องนี้”
จิ่วซือรู้ว่าเผยปิงปิงแต่งงานกับมู่หยางก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ตระกูลมู่มีกิจการใหญ่โต และไม่มีความแตกแยกกัน ครอบครัวสามัคคีกันดี เผยปิงปิงแต่งงานกับตระกูลมู่ไม่ลำบากใจแน่ ฮูหยินมู่กับมู่อวิ๋นชางเป็นคนที่น่าใกล้ชิดมาก
แต่นางรู้ดี เผยปิงปิงไม่ได้รักมู่หยางอย่างหนุ่มสาว นางจึงไม่อยากก้าวก่ายเรื่องนี้ ไม่ว่าสุดท้ายเผยปิงปิงจะเลือกใคร นางก็สนับสนุน
“ท่านแม่ เรื่องของความรักปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เวลานี้แม่นางเผยไม่ได้คิดกับพี่รองในทางรักใคร่”
“งั้นก็ให้แม่นางเผยอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ถ้านางไม่ชอบพี่รองของเจ้า เราก็ไม่บังคับ”
ฮูหยินมู่ช่างเข้าใจจิตใจของคนเหลือเกิน ยิ่งใกล้ชิด ซูจิ่วซือก็ยิ่งชอบฮูหยินมู่ นางยิ้มให้ฮูหยินมู่
พอไปถึงวัดเหยียนหัว ฮูหยินมู่กับซูจิ่วซือทยอยลงจากรถม้า
หลังจากกราบพระแล้ว ซูจิ่วซือก็ออกมาจากวิหารใหญ่ ฮูหยินมู่ยังคงฟังเทศน์ และไม่ได้ห้ามซูจิ่วซือ
วัดเหยียนหัวเป็นวัดหลวง ตีนเขามีทหารรักษาการณ์ ชาวบ้านทั่วไปและคนที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงได้แต่กำชับนางอีกสักครู่ให้ไปกินอาหารที่วิหารข้าง
ตอนที่ 457 หนี้เลือดต้องชำระด้วยเลือด
ซูจิ่วซือพาปิงซินไปที่ภูเขาด้านหลังของวัดเหยียนหัว ที่นั่นมีห้องเก็บฟืนที่ทิ้งร้าง ปิงอวิ๋นรอนางอยู่ที่นั่น
ประตูห้องเก็บฟืนปิดแง้มไว้ ปิงอวิ๋นผลักเข้าไป ในนั้นมืดสลัว พอประตูเปิดจึงมีแสงสว่างลอดเข้ามา
ปิงอวิ๋นรอซูจิ่วซืออยู่ในนั้น พอเห็นซูจิ่วซือเข้าไป ก็คารวะซูจิ่วซือ “คุณหนูซู ผู้น้อยพาคนมาแล้ว”
ซูจิ่วซือเห็นจูอวี้ซิ่วนอนที่พื้น มือเท้าถูกมัด ยังสลบอยู่
ซูจิ่วซือพยักหน้า “ขอบใจแม่นางปิงอวิ๋น”
“เป็นเรื่องที่ผู้น้อยสมควรทำ แม่นางซูไม่ต้องเกรงใจ ข้าพานางออกมาจากวิหารข้าง เดี๋ยวคงมีคนรู้ว่านางหายไป พอถึงตอนนั้นคงจะตามหาจนทั่ว คุณหนูซู ถ้าจะทำอะไร ก็รีบทำ ผู้น้อยจะเฝ้าที่หน้าประตู
ซูจิ่วซือเข้าใจความหมายของปิงอวิ๋น นางใช้เวลาไม่นาน นางเพียงแต่อยากแก้แค้นให้เผยปิงปิง ในเมื่อเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลก จะมีเรื่องมากหรือมีเรื่องน้อยก็ไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับโอกาสเท่านั้น
ซูจิ่วซือคุกเข่าลงกับพื้น จูอวี้ซิ่วตัดเอ็นมือของเผยปิงปิง ถ้างั้นก็ต้องชดใช้เป็นสิบเท่า
นางพยักหน้าให้ปิงซิน ปิงซินยื่นมีดสั้นที่เตรียมไว้ให้ซูจิ่วซือ แล้วไปยืนอยู่ข้างหลังซูจิ่วซืออย่างนอบน้อม
ปิงอวิ๋นหยิบกรวดก้อนหนึ่ง ดีดใส่จุดของจูอวี้ซิ่ว จูอวี้ซิ่วฟื้นขึ้นมาทันที
พอลืมตา ก็เห็นซูจิ่วซือคุกเข่าอยู่ข้างหน้า ตนถูกมัดมือมัดเท้า จูอวี้ซิ่วหน้าซีดทันที “เจ้า…ซูจิ่วซือ บังอาจจริงๆ นี่เป็นวัดเหยียนหัว ไม่ใช่จวนตระกูลมู่ เจ้ากล้าลบหลู่ข้าหรือ”
“เรื่องลบหลู่เอาไว้ทีหลัง ชายาทำไมรีบร้อน” ซูจิ่วซือสงบมาก “ความจริงแล้วชายาสามารถเป็นชายาจวนซิ่นอ๋องอย่างสงบ แต่กลับมาทำให้เพื่อนข้าเดือดร้อน น้องสาวสามีของเจ้าฉลาดกว่าเจ้ามาก”
ไม่รู้ทำไม จูอวี้ซิ่วเริ่มกลัวซูจิ่วซือ โดยเฉพาะเวลานี้ มือของซูจิ่วซือถือมีดอยู่ แสดงว่ามีเจตนาร้าย
ซูจิ่วซือหัวเราะ “เจ้าว่าข้าจะทำอะไร? จูอวี้ซิ่ว หนี้เลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด เจ้าทำกับเพื่อนข้า ข้าก็ต้องให้เจ้าชดใช้”
“บังอาจ…” จูอวี้ซิ่วถลึงตา “ข้าเป็นชายา เจ้าเป็นแค่ผู้หญิงชาวบ้านกระจ้อยร่อย ขืนบังอาจทำร้ายข้า เจ้าก็หนีความตายไม่พ้น”
“ใครบอกว่าข้าจะทำร้ายเจ้า? แม้เจ้าเป็นชายา แต่ก็ต้องใช้หลักฐานมาพิสูจน์ สำหรับปิงปิงแล้ว มือขวาสำคัญมาก สำหรับชายาไม่รู้ว่าอะไรสำคัญที่สุด?”
น้ำเสียงของซูจิ่วซือสงบ เหมือนกับพูดคุยเรื่องทั่วไปกับจูอวี้ซิ่ว จูอวี้ซิ่วกลับรู้สึกเครียดขึ้นเรื่อยๆ นางรับรู้ถึงความโกรธแค้นในตัวซูจิ่วซือ ยิ่งซูจิ่วซือสงบ นางก็ยิ่งเครียด ไม่รู้ว่าซูจิ่วซือจะทำอะไร
“ชายาเป็นคนใส่ใจรูปโฉม คิดว่าสำหรับชายาแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือรูปโฉม” พูดจบก็เอามีดสั้นจ่อที่ใบหน้าของจูอวี้ซิ่ว หากออกแรงเพิ่ม ใบหน้าของจูอวี้ซิ่วก็จะเป็นแผล
จูอวี้ซิ่วซึ่งปกติเป็นคนใจกล้ากลัวขึ้นมาจริงๆ ถ้าใบหน้าเสียโฉม วันหลังจากจะมีที่ยืนในจวนซิ่นอ๋องได้อย่างไร ฟู่อี้หานคงหย่านางแน่
เวลานี้ฟู่อี้หานเริ่มเบื่อนาง หากเกิดเรื่องขึ้น นางไม่รู้ว่าฟู่อี้หานจะทำอย่างไรกับนาง รู้แต่ว่าชีวิตนี้หมดสิ้นแล้ว ในอนาคตนางต้องเป็นฮองเฮา จะปล่อยให้ซูจิ่วซือทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างไร
“ซูจิ่วซือ ถ้าเจ้าบังอาจทำอะไรข้า ข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆ ”
จูอวี้ซิ่วแค้นจนกัดฟัดกรอด เริ่มด่าอย่างรุนแรง แม้จะหวาดกลัวเพียงไร นางก็ไม่มีวันขอร้องซูจิ่วซือ ถ้าทำอย่างนี้นางก็ยังดูแคลนตัวเอง