ตอนที่ 416 โง่ก็ต้องจ่ายค่าโง่
ฟู่เยว่อี้ไม่พอใจที่จูอวี้ซิ่วพูด ใครบอกว่านางเดา
แต่นางไม่อยากเถียงกับจูอวี้ซิ่ว ได้แต่ยิ้มอย่างร่าเริง “พี่สะใภ้พูดถูก ข้าแค่เดา นึกไม่ถึงว่าจะเดาถูก ในเมื่อส่งบัตรเชิญมา พอถึงเวลาเราก็ไปอวยพรจวนตระกูลมู่ก็แล้วกัน”
“วันนั้นตอนอยู่ที่ร้านเหล้าเทียนหยา ซูจิ่วซือไม่ไว้หน้าพี่ใหญ่เจ้าสักนิด
เยว่อี้ เราควรจะสั่งสอนนางสักหน่อย ไปอยู่กับตระกูลมู่แล้วอย่างไร จะกบฏหรือ ไม่ใส่ใจแม้แต่พี่ใหญ่เจ้า ผู้หญิงโอหังอย่างนี้สมควรสั่งสอนบ้าง ไม่งั้นจะนึกว่าตัวเองเก่งกาจ”
เรื่องวันนั้นจูอวี้ซิ่วยังแค้นใจไม่หาย โดยเฉพาะแม่นางชุดแดงคนนั้น กล้าดีอย่างไรมาเยาะเย้ยว่านางอ้วน
แคว้นเจียงนิยมกันว่าผู้หญิงสวยต้องบอบบาง หลังคลอดลูก นางก็ยังอวบอยู่ ทำทุกวิถีทางก็ยังไม่ผอมลง แม้แต่ฟู่อี้หานก็ยังบ่น เรื่องนี้จึงเป็นปมในใจของนาง
“เรื่องนี้พี่สะใภ้ไปจัดการเลย ข้าเห็นด้วยกับพี่สะใภ้ ซูจิ่วซือโอหังจริงๆ ต้องสั่งสอนเสียบ้าง”
“ใช่ พี่ชายเจ้าก็คิดอย่างนี้ ข้าจะถือโอกาสในงานเลี้ยง สั่งสอนซูจิ่วซือ เยว่อี้ ข้ายังมีงาน ขอตัวก่อน!”
ฟู่เยว่อี้ลุกขึ้น ไปส่งจูอวี้ซิ่วถึงหน้าประตู พอจูอวี้ซิ่วไปแล้วจึงกลับมาที่ห้อง เหม่ยพ่านสาวใช้ใกล้ชิดรินน้ำให้ แล้วพูดขึ้น “องค์หญิง ชายาพูดจาเกินไปแล้ว องค์หญิงจะเดาสุ่มได้อย่างไร”
“พี่สะใภ้ก็เป็นอย่างนี้แหละ ถ้าข้าชิงดีชิงเด่นกับนาง นางคงไม่พอใจ เป็นศัตรูกับข้า คงไม่เป็นผลดีต่อข้า นางอยากทำตัวเด่นก็ให้ทำไป นางเป็นชายา เวลานี้จวนซิ่นอ๋องนางเป็นคนดูแลอยู่ สุดท้ายข้าต้องแต่งงานออกไป ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันให้เสียความรู้สึก”
“องค์หญิงพูดถูก เพียงแต่บ่าวฟังคำพูดนั่นแล้วรู้สึกไม่พอใจ ชายาสติปัญญาความสามารถสู้องค์หญิงไม่ได้ แต่กลับข่มองค์หญิงทุกอย่าง ไม่รู้จักดูตัวเองเลย”
เหม่ยพ่านรับใช้ฟู่เยว่อี้มานาน จึงกล้าพูดทุกอย่างต่อหน้าฟู่เยว่อี้ นางไม่พอใจจูอวี้ซิ่วมาตลอด
ความจริงแล้วฟู่เยว่อี้ก็ไม่ชอบพี่สะใภ้คนนี้ แต่ไม่อยากโต้แย้งอย่างเปิดเผย ได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามมาตลอด
พอได้ยินเหม่ยพานพูดแววตาของฟู่เยว่อี้สว่างวาบ “โง่ก็ต้องจ่ายค่าโง่ แต่อย่าให้พัวพันถึงข้า ไม่เช่นนั้นจะกระทบความเป็นพี่น้อง ต้องให้ใครสักคนสั่งสอนนาง แล้วข้าจะปลอบใจนางเอง”
เหม่ยพานจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมฟู่เยว่อี้จึงไม่ห้ามจูอวี้ซิ่วที่จะไปจัดการซูจิ่วซือ แสดงว่าอยากให้ซูจิ่วซือสั่งสอนพี่สะใภ้เสียบ้าง จะทำสำเร็จหรือไม่นางไม่เสียหายอะไร อย่างนี้ก็ดี นางอยากเห็นชายาพลาดท่า
ไม่รู้ว่างานเลี้ยงตระกูลมู่จะมีอะไรสนุกๆ บ้าง นางอยากเห็นจริงๆ
พรุ่งนี้ก็จะจัดงานเลี้ยงของตระกูลมู่ เผยปิงปิงมาที่จวนตระกูลมู่ล่วงหน้าหนึ่งวัน เวลานี้กำลังชื่นชมเครื่องประดับ อยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งของซูจิ่วซือ
พอเห็นเครื่องประดับมากมายเต็มไปหมด เผยปิงปิงก็อดประหลาดใจไม่ได้ “โห ตระกูลมู่มั่งคั่งจริงๆ เตรียมเครื่องประดับชั้นเยี่ยมให้เจ้า มีทั้งหยกมุกอัญมณีต่างๆ หลายรูปแบบ ดูก็รู้ว่าเป็นของดี”
“ชอบอันไหน เลือกเอาไปได้เลย”
“ดีจริงๆ งั้นข้าไม่เกรงใจละ ข้าก็เคยเห็นของดีมาไม่น้อย แต่สู้ที่นี่ไม่ได้เลย”
ตอนที่ 417 เกลียดคนจวนซิ่นอ๋อง
เผยปิงปิงก้มหน้าเลือกเครื่องประดับสองสามชิ้น “หลายวันมานี้กิจการของร้านดีมาก ข้ารับคนวงการนักเลงมาหลายคน เอามาฝึกก่อน วันหลังคุ้มกันร้านเหล้าได้ไม่มีปัญหา”
“ปิงปิง ลำบากเจ้าแล้ว”
“ข้าเป็นคนอยู่นิ่งไม่เป็น ต้องมีอะไรทำ เมื่อก่อนข้าเบื่อมาก ถึงได้แต่งตัวเป็นผีหลอกคน” เผยปิงปิงหัวเราะร่า “งานเลี้ยงพรุ่งนี้เจ้ามีแผนอะไร คงไม่ธรรมดาแน่!”
“เจ้าคิดว่าคืนพรุ่งนี้จะเกิดเรื่องหรือ”
ซูจิ่วซือไม่ตอบ แต่กลับย้อนถาม
เผยปิงปิงคิดครู่หนึ่ง “งานเลี้ยงพรุ่งนี้มีการเชิญคนชั้นสูงตระกูลใหญ่ทั้งตูเฉิง พอถึงตอนนั้นเฟิงชิงสุ่ยกับคนจวนซิ่นอ๋องต้องมาแน่ วันก่อนเราทำให้คนจวนซิ่นอ๋องไม่พอใจ พวกเขาจะมาหาเรื่องหรือไม่”
“เป็นไปได้มาก เฟิงชิงสุ่ยเวลานี้คงไม่ทำอะไร ยังไม่ใช่เวลาลงมือ ฟู่อี้หานกับชายาก็ไม่แน่ พวกเขาอยากอาละวาดตั้งแต่วันนั้นแล้ว เรารอดูต่อไป เตรียมรับมือก็แล้วกัน”
“สองคนนี้น่าเกลียดจริงๆ ถ้าจะให้ข้าช่วยอะไรก็บอก รับมือกับคนจวนซิ่นอ๋อง ข้าไม่ออมมือแน่ ข้าเกลียดคนจวนซิ่นอ๋อง”
ซูจิ่วซือยิ้ม “ถ้าต้องการให้เจ้าช่วย ข้าไม่เกรงใจแน่”
ซูจิ่วซือพูดยังไม่ทันจบ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงมู่หยางดังเข้ามา “น้องสาว ข้าได้ยินว่าแม่นางผิงมาที่นี่ จริงหรือไม่”
“พี่รอง เข้ามาสิ! แม่นางเผยอยู่ในห้องข้า”
ได้ยินเสียงเอี๊ยด มู่หยางผลักประตูเข้ามา พอเห็นเผยปิงปิง เขาก็ยิ้มให้อย่างร่าเริง “แม่นางเผย คราวก่อนบอกไว้ว่าจะพาเจ้ามาเดินเล่นที่ตูเฉิง แต่ไม่มีโอกาส เจ้ามาจวนตระกูลมู่ ข้าจะทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างเต็มที่”
“คุณชายมู่พูดอย่างนี้เกรงใจเกินไป ข้าไม่ใช่นานทีมาครั้ง วันหลังจะมาบ่อยๆ ข้ากับจิ่วซือเป็นเพื่อนสนิทกันเคยเสี่ยงตายมาด้วยกัน”
“ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ อยากเดินเล่นที่จวนตระกูลมู่หรือไม่ ข้าจะแนะนำให้เจ้าฟัง”
มู่หยางกระตือรือร้นเป็นพิเศษ เขาชอบเผยปิงปิงจริงๆ เห็นเผยปิงปิงครั้งแรกก็ประทับใจนางมาก รู้สึกว่านางไม่เหมือนผู้หญิงอื่นที่เขาเคยพบ มีชีวิตชีวา ร่าเริงเปิดเผย ดึงดูดใจเขามาก
“ดีจริง งั้นก็รบกวนคุณชายมู่ละ”
เผยปิงปิงก็อยากดูจวนตระกูลมู่ให้เต็มที่ จึงรับคำทันที
“แม่นางเผยไม่ต้องเกรงใจอย่างนี้ วันหลังเรียกข้าว่ามู่หยางก็พอ คุณชายมู่ฟังแล้วเหมือนห่างเหินมาก ในเมื่อเจ้าเป็นเพื่อนสนิทกับน้องสาวข้า ต่อไปเจ้าก็เป็นน้องสาวข้าด้วย”
เผยปิงปิงหัวเราะร่า “ข้ามีพี่ชายสองคน ไม่ขาดพี่ชาย ไปเถอะ! จิ่วซือคงเหนื่อยแล้ว ไม่รบกวนเวลาพักกลางวันของนาง”
ทั้งสองพูดคุยหัวเราะออกไปจากห้อง เผยปิงปิงเป็นคนไม่เคร่งครัดแบบแผน เป็นแม่นางที่คบหาได้ง่าย ซูจิ่วซือมองตามหลังเผยปิงปิง แล้วถอนหายใจเบาๆ ถ้ากู้หลียวนไม่รีบคิดให้ดี ลูกสะใภ้นางอาจจะกลายเป็นพี่สะใภ้
ถึงตอนนั้นกู้หลียวนเสียดายอย่างไรก็ช่วยอะไรไม่ได้
รุ่งขึ้น ซูจิ่วซือลุกขึ้นมาแต่งตัวแต่เช้า เย็นนี้นางต้องออกมาต้อนรับแขก ต้องแต่งตัวให้เต็มที่ นางนั่งหน้ากระจกสัมฤทธิ์ สาวใช้สองคนช่วยแต่งตัว นางสวมชุดผ้าไหมปักลายชั้นดี สีฟ้าดูสง่า เหมาะกับนางมาก
ซูจิ่วซือนั่งหน้าหระจกสัมฤทธิ์ มองใบหน้างดงามในกระจก ใบหน้านั้นผัดแป้งดูเหมาะเจาะ โดดเด่น นางไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยสะดุดตาในแวบแรกที่เห็น แต่ดูได้นาน ยิ่งดูยิ่งสวย