ตอนที่ 370 พบจี้หยกรูปผีเสื้อ
“หลียวน ปิงปิง พวกเราก็ไปดูด้วย!”
กู้หลียวนห้ามซูจิ่วซือ “พวกนี้ตั้งใจมาหาเจ้า เจ้าอย่าไปเลย”
“หลี่ฉางกุ้ยไม่รู้จักเรา รออยู่ที่นี่คงไม่ดีแน่ หาโอกาสลงมือดีกว่า” พูดจบซูจิ่วซือก็เดินไปข้างหน้าทันที
“จิ่วซือ รอข้าด้วย ข้าไปกับเจ้า”
เผยปิงปิงตามออกไป
“เฮ้อ พวกเจ้า….” กู้หลียวนจนใจ ได้แต่ตามออกไป ยังไม่ทันถึงเมืองหลวงก็เจอสภาพอย่างนี้ พอจะคาดได้ว่าต่อไปพอถึงเมืองหลวงแล้วจะอันตรายแค่ไหน
เขารู้แต่ว่าวันเวลาที่ไร้ความกังวลในอดีตได้ผ่านไปอย่างสิ้นเชิง
เวลานี้ซิ่วหลานกำลังร้อนใจอยู่ในห้อง นางเขียนจดหมายให้เฟิงชิงสุ่ย เดิมทีคิดแต่ว่าจะให้จงมั่วเจียงกับซูจิ่วซือผิดใจกัน ให้เฟิงชิงสุ่ยมาจัดการซูจิ่วซือ
นึกไม่ถึงว่าเฟิงชิงสุ่ยจะลงมืออย่างเอิกเกริก ส่งคนมามากมายอย่างนี้
ซิ่วหลานไม่ได้คิดว่าจะทำให้จงมั่วเจียงพลอยเดือดร้อนไปด้วย นางจึงละอายใจร้อนใจ และหวาดกลัวด้วย นางกลัวว่าจงมั่วเจียงจะสืบรู้ พอถึงตอนนั้นเขาคงไม่ปล่อยนางแน่
คืนนี้คฤหาสน์จงคงวุ่นวาย นางต้องหาโอกาสหนีไป ไม่อย่างนั้นคงไม่รอดชีวิต แม้นางจะรักจงมั่วเจียง แต่ก็รักตัวกลัวตายมากกว่า
พอคิดได้อย่างนี้ นางก็รีบค้นหาเครื่องประดับของตน ใส่ไว้ในถุง เตรียมหนีออกจากคฤหาสถ์สกุลจง
นางชะเง้อมองตลอดทาง ซูจิ่วซือเห็นเข้าพอดี ทันทีที่เห็นซิ่วหลานท่าทางลับๆ ล่อๆ เผยปิงปิงจึงหยิบหินปาใส่ซิ่วหลาน หินกระแทกเข้าที่อกของซิ่วหลานพอดี
เผยปิงปิงใช้กำลังภายใน จึงรุนแรงมาก ซิ่วหลานเซถลา ล้มลงนั่งกับพื้น เครื่องประดับที่ซ่อนในอกเสื้อหล่นลงมา
“แม่นางซิ่วหลาน เจ้านายเจ้าเพิ่งเกิดเรื่อง เจ้าก็วางแผนจะหอบข้าวของหนีหรือ เจ้าทำอะไรผิดต่อเจ้านายหรือ”
เผยปิงปิงเข้าไปหา ยิ้มหยันอย่างเย็นชา นางรังเกียจคนที่ทรยศต่อเจ้านายที่สุด
ซิ่วหลานสีหน้าเครียด แต่ชั่วพริบตาก็กลับเป็นปกติ “คุณหนูเผยเข้าใจผิดแล้ว เครื่องประดับนี่เป็นของที่ข้าใส่ติดตัวมาตลอด”
“แม่นางซิ่วหลานช่างลำบากจริงๆ แต่ละวันใส่เครื่องประดับมากมายก่ายกอง ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือ”
“ข้าพอใจ แม่นางเผยอย่ามายุ่ง”
ซูจิ่วซือเองก็รู้สึกว่าซิ่วหลานมีอะไรน่าสงสัย พอเห็นเครื่องประดับกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น อาศัยแสงจันทร์ ซูจิ่วซือมองเห็นเลือนรางมีจี้หยกรูปผีเสื้อ นางรีบเข้าไปหา คุกเข่าลงกับพื้น พบจี้หยกรูปผีเสื้อจริงๆ
จี้หยกรูปผีเสื้อนี้เป็นสีขาว ดูออกว่าเป็นของเก่าหลายปีแล้ว
จู่ๆ ก็พบจี้หยกรูปผีเสื้อ ซูจิ่วซือดีใจมาก กำจี้หยกไว้แน่น จี้หยกรูปผีเสื้อแบบนี้มีไม่มาก ไม่แน่อาจจะเป็นจี้หยกที่นางตามหามาตลอด
กู้หลียวนก็เดินเข้ามาหา พอเห็นจี้หยกรูปผีเสื้อ ก็ตะลึง “บังเอิญจริงๆ ”
เผยปิงปิงก็เห็น รีบยื่นมือไปบีบคอซิ่วหลาน “จี้หยกนี่เอามาจากไหน”
“ข้าไม่รู้”
ซิ่วหลานปากแข็ง เบือนหน้าหนี
ซูจิ่วซือไม่ถามอะไรอีก รีบยื่นมือไปเปิดไหล่ซ้ายของซิ่วหลาน ดูว่าไหล่ซ้ายของนางมีไฝรูปผีเสื้อหรือไม่ เสียดายที่ไม่มี
ทำไมนางจึงมีแต่จี้หยกไม่มีไฝ หรือว่าข่าวที่นางได้มาผิดพลาด เรื่องนี้นางรู้มาจากบ้านสกุลเผย ไม่น่าจะผิด
ตอนที่ 371 พบลูกสาวคนโตสกุลมู่
“จิ่วซือ ข้าดูไปแล้ว ที่ตัวนางไม่มีไฝ แต่ข้านึกไม่ถึงว่านางจะมีจี้หยก”
“พวกเจ้าจะทำอะไร ข้าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้น” ซิ่วหลานไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาจึงตามหาจี้หยก นางปกปิดเรื่องนี้ไว้ นึกไม่ถึงว่าวันนี้กลับมาคนมาเจอ ซูจิ่วซือเปิดไหล่นาง ทำให้นางไม่พอใจมาก
“จี้หยกนี้เจ้าได้มาจากไหน”
ซูจิ่วซือจ้องหน้าซิ่วหลาน สายตาเย็นชา ท่าทางไม่อาจอดทนกับซิ่วหลานได้
เผยปิงปิงเห็นซิ่วหลานอึกอัก จึงออกแรงบีบเพิ่มขึ้น ซิ่วหลานรู้สึกหายใจไม่ออกทันที นางหวาดกลัวมาก พยายามพูด “ข้าบอก ข้าบอก คลายมือออกหน่อย”
เผยปิงปิงคลายมือออก ซิ่วหลานนั่งลงกับพื้นอ้าปากหายใจ นางรู้ว่าเผยปิงปิงมีวรยุทธ และรู้ว่าตตนหนีไม่พ้น จึงอยากถือโอกาสที่พวกเขายังไม่รู้เรื่องอื่น ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ซิ่วหลานหายใจสม่ำเสมอแล้วจึงเปิดปากพูด “จี้หยกนี่เพื่อนรักคนหนึ่งมอบให้”
“เจ้ามีเพื่อนรักขนาดนี้หรือ”
“ตายไปแล้ว เราสองคนถูกขายเป็นคนใช้บ้านนี้ด้วยกัน แต่นางสุขภาพไม่ดี อยู่ได้ไม่นานก็ป่วย ก่อนตายนางมอบจี้หยกให้ข้าไว้เป็นที่ระลึก”
ตามที่ซิ่วหลานพูด แม่นางคนนั้นอาจจะเป็นลูกสาวคนโตสกุลมู่ ซูจิ่วซือถามต่อ “เจ้าเคยเห็นไฝบนตัวนางหรือไม่”
“ที่ไหล่ซ้ายของนางมีไฝรูปผีเสื้อจริง ข้าเคยเห็นครั้งหนึ่งตอนที่เปลี่ยนเสื้อให้นาง”
เรื่องนี้ซูจิ่วซือมั่นใจ แม่นางคนที่ตายไปนั้นก็คือลูกสาวคนโตสกุลมู่นั่นเอง เดิมทีนางไม่มีความหวัง นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายกลับเจอร่องรอยของลูกสาวคนโตสกุลมู่
ซูจิ่วซือเก็บจี้หยกไว้ เผยปิงปิงยกเท้าถีบตัวซิ่วหลาน ซิ่วหลานปวดท้องอย่างรุนแรง แต่ไม่กล้าขัดขืน เอามือกุมท้อง ไม่กล้าร้องออกมา
“ตอนที่เจ้าสืบเรื่องนี้ทำไมไม่บอก ซิ่วหลาน เจ้าเล่ห์จริงๆ ข้าจะบอกเจ้านายเจ้า ให้เขารู้ว่าเจ้าเป็นอย่างไร”
เผยปิงปิงโกรธ เรื่องนี้เดิมทีจงมั่วเจียงมอบหมายให้ซิ่วหลานเป็นคนตรวจ ทั้งๆ ที่ซิ่วหลานรู้ดี แต่กลับไม่บอกให้รู้ ปล่อยให้นางเสียเวลาเปล่าถึงสองวัน
“เราไปกันเถอะ!”
ซูจิ่วซือไม่ใส่ใจซิ่วหลาน เรียกเผยปิงปิงออกไป
“แม่นางเผย เป็นผู้หญิงต้องอ่อนโยนหน่อย”
พอเห็นเผยปิงปิงยกเท้าขึ้นถีบอย่างแรง กู้หลียวนซึ่งอ่อนโยนกับผู้หญิงมาตลอดก็นิ่งอึ้ง เผยปิงปิงน่ากลัวจริงๆ ผู้ชายคนไหนแต่งงานกับนาง ชาตินี้ต้องมีนางคนเดียว ไม่งั้นคงไม่รอดชีวิตแน่
“ไม่ใช่ว่าใครก็ได้รับความอ่อนโยนจากข้า” เผยปิงปิงมองหน้ากู้หลียวนยิ้มๆ “ถ้าเจ้ากลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีตอนนี้ ไม่เที่ยวเจ้าชู้ไปทั่ว ข้าจะมอบความอ่อนโยนให้เจ้า”
กู้หลียวนยิ้ม “เจ้าอย่าตัวดีเกินไป!”
“เหตุการณ์คับขัน เจ้าสองคนยังมีใจมาหยอกล้อกันอีก” ซูจิ่วซืออดต่อว่าไม่ได้
กู้หลียวนยิ้ม “เฉินหรงไม่อยู่ ถ้าเขาอยู่ ทำอะไรพลาด เขากับเจ้าก็ทะเลาะกัน จิ่วซือ ข้าแค่เตือนปิงปิง ข้ากับนางไม่ใช่คนรัก ไม่เรียกว่าหยอกล้อ”
“พูดจาเหลวไหล”
เผยปิงปิงถลึงตาใส่กู้หลียวน ผู้ชายไร้ความรู้สึกคนนี้จีบยากจริงๆ ทำไมนางต้องจีบเขาหนอ
ซูจิ่วซือพูดไม่ออก วันหลังลูกชายกับลูกสะใภ้คงจะเป็นคู่รักคู่แค้นกันไปตลอด
ขณะที่จงมั่วเจียงเดินมาที่หน้าประตูคฤหาสน์ พ่อบ้านกำลังเจรจากับหลี่ฉางกุ้ยซึ่งอยู่บนหลังม้า
พอเห็นคนจำนวนมาก พ่อบ้านก็ร้อนใจ