ตอนที่ 282 เจ้าไม่เคยรักใครเลย
เผยไป๋ชวนรู้นิสัยของซูหลิ่วดี รู้ว่าตนไม่อาจเตือนซูหลิ่วได้ จึงไม่ได้พูดอะไรอีก และไม่คิดจะบอกเรื่องราวในอดีตระหว่างเขากับซิ่นอ๋องให้ซูจิ่วซือรู้
เขารู้ว่าการจากกันคราวนี้คงไม่ได้พบกันอีก การมาล่ำลาครั้งนี้เขาเพียงแต่อยากมองดูซูจิ่วซือให้เต็มตา
บ่ายวันนี้เขาขังตัวเองในห้องหนังสือ ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดเขาก็เลือกคนตระกูลเผย
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อาจทอดทิ้งคนตระกูลเผยเพื่อกู้เฉินหรงคนเดียว แต่เขาไม่อยากให้กู้เฉินหรงตายที่หมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน จึงบอกว่าจะปล่อยพวกเขาไป
ในใจของเขายังกลัวว่าซูจิ่วซือจะโทษเขา
“ดึกแล้ว เจ้าหินเผย รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
เผยไป๋ชวนพยักหน้า ในใจรู้สึกหนึกอึ้ง ถ้าซูจิ่วซือรู้ความจริง คงแค้นเขาแน่ แต่เขาไม่มีทางเลือก
“ซูหลิ่ว ข้าขอกอดเจ้าได้หรือไม่”
ขณะหันตัวไป จู่ๆ เผยไป๋ชวนก็พูดขึ้น
จู่ๆ ภาพของเผยไป๋ชวนเบื้องหน้าก็ทับซ้อนกับเผยไป๋ชวนเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เผยไป๋ชวนเมื่อยี่สิบปีก่อนเคยขอร้องอย่างนี้ แต่ซูหลิ่วปฏิเสธ คราวนี้ก็เช่นกัน ซูจิ่วซือยังคงปฏิเสธ ตอบอย่างเย็นชา “ซูหลิ่วตายไปแล้ว คนที่มีชีวิตอยู่เวลานี้คือซูจิ่วซือ”
เผยไป๋ชวนไม่ได้ฝืนใจซูจิ่วซือ เขาออกไปจากห้องทันที หายไปท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน
ซูจิ่วซือไม่ง่วงอยู่แล้ว พอถึงตอนนี้ยิ่งนอนไม่หลับ นางนอนบนเตียง ลืมตามองมุ้งเหนือศีรษะ ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไร นางก็ไม่มีวันกลัว แต่ไหนแต่ไรนางไม่เคยกลัวอันตรายใดๆ
สำหรับกู้เฉินหรง นางยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาเสมอ นางมั่นใจได้เรื่องหนึ่ง เขาไม่มีวันทำร้ายนาง
รุ่งขึ้นพอฟ้าเริ่มสาง เผยปิงปิงก็นำทางพวกเขาออกไปจากหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน
เมื่อคืนตอนที่เผยไป๋ชวนจากไปได้แวะคลายจุดให้เผยปิงปิง เผยปิงปิงอารมณ์ไม่ดีเลย ตลอดทางนางไม่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วอย่างคราวก่อน ใบหน้าบึ้งตึง
“แม่นางปิงปิง ใครแหย่ให้เจ้าโกรธหรือ”
พอเห็นเผยปิงปิงสีหน้าบึ้งตึง แล้วนึกถึงถุงเครื่องหอม กู้หลียวนจึงรู้ว่าถุงเครื่องหอมเป็นของที่เผยปิงปิงมอบให้ แต่เขาไม่ได้พูดออกมา
“เจ้า”
กู้หลียวนสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว “ข้าหรือจะกล้าแหย่เจ้า”
“ข้าได้ยินว่ามีผู้หญิงมากมายติดเจ้า”
“แล้วจะเป็นอย่างไร”
“เจ้าไม่เคยรักใครเลยใช่หรือไม่”
“แค่ชอบก็พอ ทำไมต้องรัก ยุ่งยากเกินไป เจ้าเด็กน้อย ข้าไม่เหมาะกับเจ้า เจ้าอย่าจ้องข้า ชีวิตนี้ ข้าไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น ถ้าเจ้าอยากเป็นคนรู้ใจอยู่ใกล้ชิดข้า ข้าขอคิดดูก่อน”
เผยปิงปิงถลึงตาใส่กู้หลียวน “ฝันไปเถอะ ข้าไม่สนใจหรอก ข้าไม่เชื่อว่าใต้หล้าไม่มีผู้ชายที่รักข้าและข้าก็รักเขา”
“คิดได้อย่างนี้ก็ดีแล้ว”
ก่อนหน้านี้กู้หลียวนไม่ชอบเผยปิงปิง หลังจากได้ใกล้ชิด เขาพบว่าเผยปิงปิงไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้ นางมีความคิดของตนเอง ไม่ใช่คนถ่อมตัว แต่เป็นคนกล้ารักกล้าแค้น กล้าทำกล้ารับผิด เป็นผู้หญิงที่จริงใจ
เขารู้ว่าเผยปิงปิงอยากมีใครสักคนแต่งงานกับนาง เรื่องนี้เขาทำไม่ได้ เขายังไม่อยากทำร้ายเผยปิงปิง
“เดิมทีข้าคิดว่าจะส่งพวกเจ้าแค่ตีนเขา แต่กลับไปแล้วก็ไม่มีธุระอะไร ข้าจะส่งเจ้าอีกระยะหนึ่ง”
กู้หลียวนยิ้ม “เจ้าอาลัยอาวรณ์ข้าใช่หรือไม่!”
“เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่ตามเจ้าไปเมืองหลวงหรอก ข้าอารมณ์ไม่ดี อยากออกไปผ่อนคลายข้างนอก”
พอนึกถึงเรื่องเผยไป๋ชวนกับนางเว่ย เผยปิงปิงอารมณ์ไม่ดีจริงๆ เวลานี้นางไม่อยากกลับหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน ส่งพวกเขาไปอีกระยะหนึ่งดีกว่า จะได้เป็นเพื่อนร่วมทาง
——
ตอนที่ 283 นางแพศยา
พอรู้ว่าซูจิ่วซือกับกู้เฉินหรงเดินทางออกจากหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานอย่างปลอดภัย และเผยปิงปิงยังไปส่งด้วยตัวเอง นางเว่ยก็รู้สึกกระวนกระวายใจ นางไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น รีบเข้าไปหาเผยไป๋ชวนถึงห้องหนังสือ
“ไป๋ชวน เจ้าปล่อยกู้เฉินหรงไปจริงหรือ”
คำพูดนี้ทำให้เผยไป๋ชวนเข้าใจทันที เขาผุดลุกขึ้น เดินไปหานางเว่ย สายตาเย็นชาเจือไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เป็นนางจริงๆ
เขาสงสัยคนใกล้ชิดหลายคน แต่ก็ไม่ได้นึกถึงนางเว่ย
หลายปีมานี้ นางเว่ยตามใจเขามาตลอด ไม่เคยขัดใจเขา เขานึกไม่ถึงว่านางเว่ยจะใจกล้า บังอาจทำเรื่องนี้
ไฟโกรธที่ลุกโหมขึ้นทำให้เผยไป๋ชวนขาดสติ เขาบีบคอนางเว่ยทันที ออกแรงอย่างหนัก “แกนางแพศยา แกรู้ไหมว่าแกทำอะไรลงไป”
นางเว่ยถูกบีบจนหน้าแดง พูดอะไรไม่ออก หากเผยไป๋ชวนออกแรงมากกว่านี้อีก คอของนางคงหักแน่
พ่อบ้านหลูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้องหนังสือ จึงรีบเข้ามาดู เห็นเผยไป๋ชวนกำลังบีบคอนางเว่ย ก็ตกใจรีบคุกเข่าลงกับพื้น โขกหัวครั้งแล้วครั้งเล่า “จ้าวหุบ ท่านทำอะไรลงไป ทำอย่างนี้ไม่ได้”
เผยไป๋ชวนนึกถึงลูกชายสองคนกับลูกสาวอีกหนึ่งคน แล้วนึกถึงนางเว่ยที่อยู่กับเขามาหลายปี จึงคลายมือออกทันที พอไม่มีแรงบีบ นางเว่ยก็ล้มลงกับพื้น อ้าปากพะงาบหายใจ
ในใจของนางขมขื่น ถ้าพ่อบ้านหลูไม่มา ไม่รู้ว่าเผยไป๋ชวนจะบีบคอนางตายจริงหรือไม่
พ่อบ้านหลูยังคงคุกเข่าที่พื้น เผยไป๋ชวนเริ่มได้สติ ท่าทางเหมือนสงบลง แต่แววตายังดุดัน “ทำไมทำอย่างนี้”
“ทำไมรึ ไป๋ชวน เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ” นางเว่ยฝืนลุกขึ้นยืน ยิ้มอย่างขมขื่น “พอกู้เฉินหรงตาย ซูจิ่วซือก็จะแค้นเจ้า เจ้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะแต่งงานกับซูจิ่วซือ เดิมทีเขาก็ต้องการเอาชีวิตกู้เฉินหรงมาบีบซูจิ่วซือไม่ใช่หรือ
ไป๋ชวน เจ้ากับข้าเป็นผัวเมียกันยี่สิบกว่าปีแล้ว ยี่สิบกว่าปีมานี้ ข้ามีลูกเลี้ยงลูกให้เจ้า ดูแลเจ้าอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดูแลการงานของหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน ขยันขันแข็ง ไม่เคยนึกถึงตัวเอง
แม้รู้ว่าในใจเจ้าไม่มีข้า ขอเพียงแต่อยู่อย่างสงบเรียบง่ายอย่างนี้ ข้าก็พอใจแล้ว
แต่เจ้าทำร้ายจิตใจข้าเกินไป เจ้าต้องการหย่ากับข้าเพื่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เพียงเพราะเด็กคนนั้นเป็นหลานของซูหลิ่ว เจ้าเคยนึกถึงความรู้สึกของข้าหรือไม่ เจ้าทำอย่างนี้ การทุ่มเทของข้ายี่สิบกว่าปีมีความหมายอะไร
ใช่ หลายปีมานี้ ข้าตามใจเจ้าทุกอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าข้ายอมทุกอย่าง แม้แต่ชุดแต่งงานนั่นเจ้าก็ไม่ให้ข้าใส่ และยังเก็บให้เด็กนั่น เจ้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าทำอย่างนี้ หัวใจข้ากำลังหลั่งเลือด”
นางเว่ยคร่ำครวญ พอพูดถึงตอนสุดท้ายก็หยิบผ้ามาเช็ดน้ำตา นางเองก็ไม่อยากทำอย่างนี้ แต่ก็จนใจ มีแต่ทำอย่างนี้จึงจะห้ามเผยไป๋ชวนได้
“เจ้านึกถึงแต่ความต้องการของตัวเองไม่ใส่ใจความปลอดภัยของคนตระกูลเผยทั้งหมด รู้หรือไม่ว่าจดหมายของเจ้าฉบับนี้ทำร้ายคนกี่คน
ข้าทุ่มเทความคิดอย่างเต็มที่ปิดบังชื่อสกุล หลีกห่างจากทุกสิ่งทุกอย่างในอดีต ส่วนเจ้ากลับเอาหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานและสกุลเผยไปเปิดเผยให้ซิ่นอ๋องรู้ ไม่ใส่ใจแม้แต่ความปลอดภัยของลูกสาว ใช่หรือไม่!”
นางเว่ยย่อมใส่ใจ ไม่เช่นนั้นคงไม่รีบมาที่นี่ นางจ้องมองเผยไป๋ชวนด้วยความหวาดหวั่น “คนที่ทอดทิ้งคนตระกูลเผยก็คือเจ้า! เผยไป๋ชวน เจ้ารู้อยู่แล้วว่าการปล่อยตัวกู้เฉินหรงต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างไร เจ้าก็ยังปล่อยพวกเขาไป
ซูจิ่วซือไม่ใช่ซูหลิ่ว เจ้ายอมสละคนตระกูลเผยทั้งหมดเพื่อนางจริงหรือ”