ตอนที่ 262 รู้ฐานะที่แท้จริง
“ไหนๆ ก็มาแล้วต้องทำใจ เจ้าอยู่ที่นี่สักสองสามวันแล้วค่อยตัดสินใจ ข้าแค่แนะนำให้เจ้ารู้จักแม่นางคนหนึ่ง ไม่ได้บังคับให้เจ้าแต่งงานกับนาง ไม่แน่ว่านางจะชอบเจ้า”
“นางไม่ได้ชอบข้าจริงๆ ” พูดจบ กู้หลียวนก็ถามด้วยความอยากรู้ “เจ้าโดนยาพิษอะไร”
“ยาตัดดวงจิต”
กู้หลียวนยื่นมือไปตบไหล่กู้เฉินหรง ขมวดคิ้ว “เผยปิงปิงไร้เดียงสาจริงๆ ข้ามาเตือนนาง ใครกันแน่ที่แค้นเจ้า ถึงกับวางยาพิษร้ายกาจอย่างนี้
ข้าเคยได้ยินชื่อนี้ แต่ไม่เคยเห็นยาตัดดวงจิตจริงๆ ยาตัดดวงจิตหายไปจากวงการนักเลงหลายสิบปีแล้ว เจ้ายัง…”
กู้หลียวนครุ่นคิดอย่างละเอียด แล้วจ้องมองกู้เฉินหรงด้วยความสงสัยทันที “เมื่อก่อนเจ้าบอกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเจ้าเป็นชาวบ้านอยู่หมู่บ้านตระกูลหลิว บอกความจริงมา ฐานะที่แท้จริงของเจ้าเป็นใครกันแน่”
“ราชนัดดาแคว้นเจียง”
เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว กู้เฉินหรงไม่คิดจะปิดบังกู้หลียวนอีกต่อไป ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าจะทำให้กู้หลียวนพลอยเดือดร้อน เวลานี้พวกเขาอยู่ที่เขากุยอวิ๋นซาน ที่นี่ปลอดภัยดี สักวันหนึ่งกู้หลียวนคงจะรู้ ถ้าอย่างนั้นก็บอกก่อนดีกว่า
กู้หลียวนตะลึง แล้วหัวเราะขึ้นทันที “ข้าต่างหากที่เป็นฮ่องเต้แคว้นเจียง”
“หลียวน เฉินหรงพูดความจริง เขาเป็นราชนัดดาแคว้นเจียงจริงๆ เป็นบุตรชายคนเล็กของรัชทายาทตวนฮุ่ย เป็นคนเดียวในจวนรัชทายาทที่ยังมีชีวิตอยู่”
ซูจิ่วซืออยู่ข้างๆ รับรองฐานะของกู้เฉินหรง
กู้หลียวนไม่เชื่อคำพูดของกู้เฉินหรง แต่เชื่อคำพูดของซูจิ่วซือ พอฟังจบ เขาก็มองหน้าทั้งสองด้วยความประหลาดใจ “เป็นราชนัดดาแคว้นเจียงจริงหรือ”
“เช่นนั้นพวกเจ้าตามข้าไปแคว้นเจียงไหม”
กู้หลียวนมองกู้เฉินหรงอีกครั้ง แล้วพูดด้วยความแปลกใจ “เยี่ยมจริงๆ สกุลกู้ของเราเลี้ยงราชนัดดาให้แคว้นเจียง ถ้าท่านแม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเจ้า คงเสียดายที่เคยทำกับเจ้าอย่างนั้น”
พูดจบก็หันไปพูดกับซูจิ่วซือ “จิ่วซือ เจ้าจะดิ้นรนในเมืองหลวงทำไม ตามกู้เฉินหรงไปแคว้นเจียงเลย จะได้มีอำนาจวาสนาทันทีทันใด ถ้าเฉินหรงมีโอกาสได้ครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้ เจ้าได้เป็นฮองเฮาแน่ ใครจะกล้าขัดขวางเจ้า”
“อย่าพูดจาเหลวไหล ข้าอยู่เมืองหลวงมีงานที่อยากทำ ข้าจะเข้าห้องก่อนละ”
ซูจิ่วซือหันไปพยักหน้าให้คนทั้งสองแล้วเข้าไปในห้อง นางอยากไปหาเผยไป๋ชวน แต่ไม่อยากให้กู้เฉินหรงกับกู้หลียวนเห็น นางกลับไปพักที่ห้องครู่หนึ่ง พอมั่นใจว่าข้างนอกไม่มีคน จึงพาจื่อหลานออกไปจากเรือนอย่างเงียบๆ
นางไม่รู้ว่าเผยไป๋ชวนอยู่ที่ไหน อาศัยสาวใช้พาไปที่เรือนของเผยไป๋ชวน ข้างนอกมียามรักษาการณ์อย่างเข้มงวด ยืนตัวตรง ขวางซูจิ่วซือไว้
“รบกวนเจ้าช่วยเข้าไปรายงาน บอกว่าซูหลิ่วคนเคยคบกันมาหา”
ยามรักษาการณ์หน้าประตูเข้าไปรายงาน ซูจิ่วซือรออยู่หน้าประตู จากนั้นก็มีชายกลางคนอายุห้าสิบกว่าออกมา เชิญซูจิ่วซือเข้าไปข้างในอย่างนอบน้อม
เขาพาซูจิ่วซือเดินผ่านทางเดิน มาถึงนอกห้อง รายงานอย่างนอบน้อม “นายท่าน พาคนมาแล้วขอรับ”
“ให้นางเข้ามา!”
มีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังออกมา
ชายกลางคนผลักประตู ซูจิ่วซือยกขาก้าวเข้าไป จื่อหลานก็อยากตามเข้าไปด้วย แต่ถูกชายกลางคนห้ามไว้ จึงได้แต่รออยู่ข้างนอก
ทันทีที่ซูจิ่วซือผ่านเข้าไป ประตูก็ปิด
กู้เฉินหรงยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง ปิงอวิ๋นยืนอยู่ข้างหลังเขา “คุณชาย คุณหนูซูไปหาจ้าวหุบเขาแล้ว”
กู้เฉินหรงขมวดคิ้ว “เด็กโง่เอ๋ย”
กู้เฉินหรงนึกถึงเรื่องหนึ่ง เขาเขียนจดหมายถึงกู้หลียวน เผยไป๋ชวนก็ยอมรับ ไม่เช่นนั้นจดหมายคงส่งไปไม่ได้ นั่นหมายถึงว่า เผยไป๋ชวนเองก็อยากให้กู้หลียวนมาที่เขากุยอวิ๋นซาน
เผยไป๋ชวนมีจุดหมายอะไร แม้ตนไม่เคยเปิดเผยฐานะ แต่กู้เฉินหรงก็รู้สึกว่าความจริงเผยไป๋ชวนรู้ว่าตนมาจากสกุลกู้ในเมืองหลวง
——
ตอนที่ 263 คิดออกทันที
“นายท่าน บริเวณลานบ้านจ้าวหุบเขามีการรักษาการณ์เข้มงวด บ่าวทดลองหลายครั้งก็ยังเข้าใกล้ไม่ได้ ว่ากันว่ามีแต่เผยไป๋ชวนที่รู้จักยาแก้ยาตัดดวงจิต คนอื่นไม่มีใครเคยเห็น เวลานี้จ้าวหุบเขาเผยเสนอให้คุณชายแต่งงานกับแม่นางเผย ถ้าคุณชายดึงดันไม่ยอมแต่งงาน ข้าเกรงว่าจะไม่ได้ยาแก้
จ้าวหุบเขาเผยวรยุทธ์ล้ำลึกสุดหยั่ง บ่าวไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา ร่างกายคุณชายไม่อาจยื้อต่อไปได้ แม้จะมีมุกโลหิตอยู่ในตัว แต่ไม่มีใครรู้ว่ามุกโลหิตจะประคองไปอีกนานเท่าไร คุณชายต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม”
ปิงอวิ๋นเตือนอีกครั้ง หลายวันมานี้ นางคิดหาวิธีต่างๆ นานา แต่ก็ไม่มีวิธีเข้าใกล้เผยไป๋ชวน เว้นแต่ว่าเผยไป๋ชวนจะมอบยาแก้พิษให้เอง ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จนใจ
ยาตัดดวงจิตในตัวของกู้เฉินหรงไม่รู้ว่าจะออกฤทธิ์เมื่อไร ปิงอวิ๋นไม่อาจคาดเดา ถ้ากู้เฉินหรงตายที่เขากุยอวิ๋นซาน แคว้นเจียงคงจะเกิดความวุ่นวายใหญ่โต เวลานี้ฝ่าบาททรงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการมอบบัลลังก์ให้ซิ่นอ๋อง
ซิ่นอ๋องเป็นคนโหดเ**้ยม สังหารพี่น้อง กำจัดคนที่ไม่ใช่พวกเดียวกับตน ถ้าแคว้นเจียงตกอยู่ในมือของเขา ไม่รู้ว่าจะมีคนตายอีกเท่าไร ถึงตอนนั้นแคว้นเจียงคงไม่เป็นอันสงบสุข
แต่ซิ่นอ๋องมีอิทธิพลสูงขึ้นเรื่อยๆ เวลานี้ฝ่าบาทยังไม่อาจหาทางกำจัดซิ่นอ๋องได้ จึงมีพระประสงค์ให้พาตัวกู้เฉินหรงกลับไป กู้เฉินหรงเป็นราชนัดดาที่ถูกต้องตามแบบแผน สามารถเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์
หลายปีมานี้การกระทำทุกอย่างของกู้เฉินหรงที่แคว้นเว่ย ฮ่องเต้แคว้นเจียงทรงรู้ดี พระองค์ทรงรู้สึกว่ากู้เฉินหรงเป็นอัจฉริยะที่สามารถบ่มเพาะได้ เพียงให้การแนะนำบ้าง ก็สามารถแบกรับภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ได้
สำหรับฮ่องเต้แคว้นเจียง กู้เฉินหรงเป็นอนาคตของแคว้นเจียง
ความรู้สึกของพระองค์ต่อกู้เฉินหรง นอกจากทรงรู้สึกผิดแล้ว ยังมีความหวังมากกว่า
กู้เฉินหรงสายตาเย็นชา พอพ้นจากเมืองหลวง ตลอดทางก็พบมือสังหารไม่น้อย มือสังหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนของซิ่นอ๋อง หลังจากมาถึงเขากุยอวิ๋นซานก็ไม่พบมือสังหารอีกเลย เผยไป๋ชวนต้อนรับเขาอย่างดี และยื่นเสนอให้เขาแต่งงานกับเผยปิงปิง จึงจะมอบยาแก้ยาตัดดวงจิตให้
เผยไป๋ชวนปากก็พูดให้กู้เฉินหรงแต่งงานกับเผยปิงปิง แต่ไม่ได้บีบบังคับ ก่อนหน้านี้กู้เฉินหรงยังหาเหตุผลที่ชัดเจนไม่ได้ แต่แล้วจู่ๆ ก็คิดออกทันที
เผยไป๋ชวนเคยผูกพันกับซูหลิ่วอย่างล้ำลึก กู้หลียวนเป็นลูกชายซูหลิ่ว เผยไป๋ชวนจึงให้เขาชักนำกู้หลียวนมา ความจริงก็เพราะซูหลิ่ว
ขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา สีหน้าของกู้เฉินหรงก็ยิ่งเครียด
ถ้าเผยไป๋ชวนรู้ว่าซูจิ่วซือคือซูหลิ่ว ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นยามปกติซูจิ่วซือคงไม่พูดอะไรกับเผยไป๋ชวน แต่เวลานี้ซูจิ่วซือต้องการช่วยเขา นางคงบอกฐานะของตัวเองให้เผยไป๋ชวนรู้แน่
“คุณชาย เป็นอะไรไปหรือ”
พอเห็นกู้เฉินหรงเคร่งเครียด ปิงอวิ๋นก็ถามด้วยสีหน้าวิตก
“เป้าหมายของเผยไป๋ชวนไม่ได้อยู่ที่ข้า แต่เป็นหลียวน เผยไป๋ชวนคิดไว้ก่อนแล้วว่าอยากให้หลียวนมาเป็นเขย ข้าเป็นเพียงคนที่ชักนำหลียวนเข้ามา ถ้าข้าไม่เขียนจดหมายถึงหลียวน เผยไป๋ชวนก็จะบอกหลียวนเอง ทั้งหมดนี้เป็นการเล่นละครตบตาข้า แย่จริงๆ ข้าเพิ่งคิดออกตอนนี้”
กู้เฉินหรงหนักใจขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้เขารู้สึกมีอะไรแปลกๆ แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีอะไรแอบแฝง เวลานี้พอเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมด จู่ๆ เขาก็เข้าใจทันที
ปิงอวิ๋นรู้สึกคาดไม่ถึง “จ้าวหุบเขาเผยทำไมจึงทำอย่างนี้”
“เป็นสาเหตุเดียวกับที่จิ่วซือไปหาเขา ปิงอวิ๋น เจ้าไปกับข้า”
ปิงอวิ๋นไม่ถามต่อ พยักหน้าแล้วตามกู้เฉินหรงออกไปจากเรือน
เวลานี้ซูจิ่วซืออยู่ในห้องของเผยไป๋ชวน เผยไป๋ชวนซึ่งเข้าสู่วัยกลางคนมองหน้าซูจิ่วซือ “เจ้าเป็นหลานของซูหลิ่วหรือ”