ตอนที่ 246 ต่างก็สิ้นหวัง
ซูจิ่วซือพูดจบก็บอกลา หลี่ซั่วพุ่งหมัดชกต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เปลือกไม้หยาบครูดหลังมือหลี่ซั่วเป็นแผล มีเลือดซึมออกมา แต่เขาไม่รู้สึกรู้สา
เวลานี้เขาห่วงแต่ว่าจะมีคนล่วงรู้เรื่องของเขากับพระสนมโหรว หากเรื่องนี้กระจายออกไป สำหรับพระสนมโหรวหมายถึงหายนะ
เขาไม่ใช่คนฉลาดอย่างพระสนมโหรว และไม่มีเล่ห์กลอะไรมาก เขาคิดไม่ออกว่าจะมีวิธีใดกำจัดซูจิ่วซือ ยกเว้นฆ่าโดยตรง พอคิดได้อย่างนี้ เขาก็หันหลังกลับเข้าไปที่ห้องหนังสือ เตรียมเขียนจดหมายถึงพระสนมโหรว
พอออกจากจวนสกุลหลี่ ขึ้นรถม้าแล้ว จื่อหลานยังรู้สึกสงสัยไม่หาย “คุณหนู เมื่อครู่นี้อันตรายจริงๆ ”
“ไม่มีอะไร”
“คุณหนูพูดกับผู้บัญชาการหลี่ตรงๆ อย่างนี้ พระสนมโหรวก็จะรู้ทันทีว่าคุณหนูรู้เรื่องนี้ พอถึงตอนนั้นสองคนนี้คงจะทำร้ายคุณหนู”
ซูจิ่วซือเอนตัวพิงรถม้า หลับตา “ข้ามีวิธีรับมือกับเขา”
เรื่องนี้นางคิดไว้ก่อนแล้ว พอพูดเรื่องนี้ออกไป พระสนมโหรวต้องจัดการนางแน่ แต่นางไม่กลัวพระสนมโหรว ในเมื่อกำความลับนี้ไว้ในมือ พระสนมโหรวก็คงไม่กล้า เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งกลัว นางจึงจะรักษาชีวิตไว้ได้
“คุณหนูยุ่งทั้งวันแล้ว กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่เถิดเจ้าค่ะ”
ซูจิ่วซือพยักหน้า นางเหนื่อยจริงๆ คดีนี้มีโทษถึงประหาร การจะพลิกคดีมีความเป็นไปได้น้อยมาก เว้นแต่ว่าฝ่าบาทจะปล่อยซูเหิง ถ้าฝ่าบาททรงยืนยันที่จะดำเนินการตามกฎหมาย ก็ไม่มีวันพลิกคดีได้
เวลานี้นางติดต่อหลี่ซั่วก่อน ให้ซูเหิงถูกทรมานในคุกให้น้อยที่สุด สองวันนี้นางคิดหาวิธี ถ้าไม่มีทางจริงๆ ก็ต้องใช้ป้ายเว้นโทษประหาร ไม่ว่าอย่างไรต้องไม่ให้ซูเหิงตาย
รุ่งขึ้น ซูจิ่วซือเข้าวังไปสอน ต่อหน้าทุกคนนางปกติทุกอย่าง ดูไม่ออกแม้แต่น้อย ราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของซูเหิง และไม่ได้พูดถึงซูเหิง
หลังจากจบการบรรยาย ซูจิ่วซือเตรียมจะไปเข้าเฝ้าเสิ่นไทเฮาที่วังหย่งโซ่ว ระหว่างทางพบพระสนมโหรวเข้า
พระสนมโหรวตั้งใจรอพบนางระหว่างทาง พอเห็นซูจิ่วซือเข้ามา ก็รีบเดินมาหา
ซูจิ่วซือรู้ว่าพระสนมโหรวมาหา นางคารวะพระสนมโหรวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ถวายบังคมพระสนมโหรว”
“องค์หญิงคงเหนื่อยมาก ซูเหิงเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไทเฮายังให้องค์หญิงเข้าวังมาบรรยาย เดินด้วยกันดีหรือไม่”
น้ำเสียงของพระสนมโหรวยังคงอ่อนหวาน แช่มช้อย
“เรื่องของซูเหิงปล่อยให้กฎหมายบ้านเมืองจัดการ ข้าควรทำอะไรก็ยังต้องทำต่อไป ข้างนอกแดดร้อนจัด พระสนมโหรวจะเดินเล่นจริงหรือ”
“ข้างหน้ามีศาลาพักร้อน เข้าไปนั่งพักกัน”
“แล้วแต่พระสนมโหรว”
ซูจิ่วซือรับคำ ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปในศาลา ขณะที่กำลังนั่งลง สาวใช้ก็ยกผลไม้มาให้ทันที
ศาลาพักร้อนหันหน้าเข้าหาทะเลสาบ ข้างๆ มีต้นไหวขนาดใหญ่บังแดด ข้างในศาลาเย็นสบาย
พระสนมโหรวโบกมือ ทำท่าให้สาวใช้ในศาลาออกไป พอเหลือเพียงสองคนนางจึงเอ่ยปากพูด แม้สีหน้ายังยิ้มแย้ม แต่แววตาเย็นชา “องค์หญิงเก่งจริงๆ ”
“คำนี้ข้าควรจะเป็นคนพูด พระสนมต่างหากที่เก่งจริงๆ กล้านัดพบผู้ชายอื่นใต้พระเนตรของฝ่าบาท แล้วยังตั้งครรภ์ พระสนมไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริงๆ ”
ซูจิ่วซือไม่กลัวพระสนมโหรว นางเย้ยหยัน “พระสนมไม่จำเป็นต้องขู่ข้า หากเกิดอะไรขึ้นกับข้าแม้แต่น้อย เรื่องของพระสนมกับผู้บัญชาการหลี่ย่อมล่วงไปถึงฝ่าบาทแน่”
“เพราะอย่างนี้องค์หญิงจึงเอาเรื่องนี้มาบีบข้างั้นหรือ”
——
ตอนที่ 247 ความจริงเกี่ยวกับการจากไปของกู้เฉินหรง
“ข้ามิบังอาจ ข้ากับพระสนมโหรวไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ไม่อยากสร้างความแค้นให้ใครอย่างไร้เหตุผล ถ้าพระสนมไม่ทำข้า ข้าย่อมไม่ทำพระสนม ข้ารู้ว่าพระสนมไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ไม่มีอำนาจ ข้าไม่ได้เจตนาจะเป็นศัตรูกับพระสนม แต่เวลานี้ข้ามีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจ อยากให้พระสนมโปรดอธิบาย”
ซูจิ่วซือมีเรื่องที่อยากถามพระสนมโหรวจริงๆ เกี่ยวกับกู้เฉินหรง เมื่อก่อนนางไม่ถามเพราะรู้ว่าพระสนมโหรวคงไม่บอกนางแน่ เวลานี้เมื่อกุมความลับในมือ หากถาม นางไม่เชื่อว่าพระสนมโหรวจะไม่บอก
พระสนมโหรวนึกไม่ถึงว่าซูจิ่วซือจะรู้ความลับนี้ นางไม่รู้จะทำอย่างไรกับซูจิ่วซือจริงๆ นางกับซูจิ่วซือเคยรู้จักกัน รู้ว่าซูจิ่วซือมีเล่ห์เหลี่ยมและโหดเ**้ยม ซูจิ่วซือใส่ใจคนใกล้ชิด นางเองก็มีคนที่นางใส่ใจ ด้วยเหตุนี้ นางกับซูจิ่วซือจึงเสมอกัน
“องค์หญิงอยากรู้อะไร”
พระสนมโหรวหยิบแตงโมขึ้นมา เคี้ยวอย่างช้าๆ ท่าทางชวนมอง
“ข้าอยากรู้ว่าตอนที่กู้เฉินหรงช่วยข้า พระสนมทำอะไรเขา”
พระสนมโหรวกลืนแตงโม หัวเราะขึ้น “ที่แท้เจ้ายังนึกถึงเรื่องนี้อยู่ ดูแล้วที่กู้เฉินหรงทำเพื่อเจ้านับว่าสมควร เขารักเจ้าจริงๆ ยินดีสละทุกอย่างเพื่อเจ้า เอาชีวิตแลกชีวิต”
สีหน้าของซูจิ่วซือเครียดขึ้นมาทันที “เจ้าว่าอย่างไรนะ เอาชีวิตแลกชีวิตอะไรกัน”
“เดิมทีเขาไม่ให้ข้าบอกเจ้า ข้ารับปากเขาไว้ แต่เมื่อเจ้าซักถามถึงขั้นนี้ ข้าก็จะบอกให้เจ้ารู้ไว้ เจ้านายต้องการชีวิตของเขา เขากินยาตัดดวงจิต เวลานี้ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าทำใจให้สบายเถอะ!”
ซูจิ่วซือชอบอ่านหนังสือทุกชนิด ย่อมรู้จักยาตัดดวงจิต มันเป็นยาพิษจากหุบเขาราชาพิษ กินแล้วจะเสียสติอย่างช้าๆ เป็นเหมือนซากศพเดินไป สุดท้ายก็ตายเพราะหัวใจล้มเหลว ปกติพิษจะออกฤทธิ์ภายในหนึ่งเดือน
ที่หุบเขาราชาพิษอาจจะมีวิธีแก้พิษนี้ แต่เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนหุบเขาราชาพิษได้หายไปจากวงการนักเลงอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าหุบเขาราชาพิษยังมีอยู่หรือไม่ การจะตามหาไม่ใช่เรื่องง่าย
ซูจิ่วซือรู้จักหุบเขาราชาพิษเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนที่นางยังไม่ได้แต่งงานกับกู้เหยี่ยน นางเคยคบหากับนายน้อยแห่งหุบเขาราชาพิษอย่างลึกซึ้ง เวลานั้นนางไปที่หุบเขาราชาพิษครั้งหนึ่ง
เวลานี้หุบเขาราชาพิษหายสาบสูญไปนานแล้ว ไม่มีร่องรอยหลงเหลืออยู่เลย ไม่ได้อยู่ที่เดิมแล้ว นางไม่รู้ว่าจะไปหากู้เฉินหรงที่ไหน และจะไปหาหุบเขาราชาพิษที่ไหน
พอเห็นซูจิ่วซือสีหน้าวิตกและเจ็บปวด พระสนมโหรวก็รู้สึกพอใจ
“มีผู้ชายที่รักเจ้าอย่างนี้ เจ้าควรจะดีใจ เพื่อเจ้า เขายอมสละแม้กระทั่งชีวิต
เวลานี้ถ้าเจ้าไปตามหาเขา ถึงจะพบเขายังมีชีวิตอยู่ แต่เขากลายเป็นคนเสียสติไปแล้ว ไยต้องเสียเวลาเปล่า
หากเจ้าไม่ถือข้าเป็นศัตรู ข้าจะช่วยทูลฮ่องเต้ให้ปล่อยซูเหิง
แต่ถ้าเจ้ากล้าพูดเรื่องนี้ออกไป พอถึงตอนนั้นคนที่ตายไม่ใช่มีแต่เราสามคน ยังมีน้องชายน้องสาวของเจ้าอีก ข้าสาบานได้ว่า ไม่มีใครหนีรอดไปได้ อยากจะอยู่รอดปลอดภัยหรืออยากตายด้วยกัน องค์หญิงเองคิดให้ดีก็แล้วกัน”
เวลานี้ซูจิ่วซือไม่มีเจตนาจะเป็นศัตรูกับพระสนมโหรว พระสนมโหรวเป็นคนของซิ่นอ๋อง คงมีคนที่อยู่เบื้องหลังอีก ถ้านางจะให้ตายตกตามกัน พอถึงตอนนั้นซูเหิงกับซูเหลียงอินคงไม่ปลอดภัยแน่
ซูจิ่วซือไม่อยากทำอย่างนี้ แต่พอนึกถึงกู้เฉินหรง ในใจนางก็ปวดร้าวขึ้นมาทันที นอกจากปวดร้าวใจแล้วยังรู้สึกละอายใจด้วย
คนโง่ นางถามหลายครั้งก็ไม่บอกความจริงให้นางรู้ มิน่าเขาจึงยอมออกจากเมืองหลวง เป็นเพราะโดนยาพิษร้ายกาจนี่เอง