ใบหน้าหมองหม่นของลี่เฉินซีในเวลาอันสั้น เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ลุกขึ้นเดินไปริมหน้าต่าง จุดบุหรี่ขึ้นอีกมวน
ซูย้าวไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อคำโกหกของตัวเองหรือไม่ ถึงอย่างไร ก็ไม่ต้องอธิบายสาเหตุของแผลนี้ ก้มหน้าทำแผลต่อไป
บาดแผลติดเชื้อจริงๆ และยังมีหนองด้วย ไม่ค่อยดีจริงๆ
และตรงที่แผลฉีก ยังต้องเย็บใหม่ด้วย แต่เธอดูในกล่องยา ไม่มียาแก้ปวดหรือยาชา จึงต้องเลิกล้มความคิด
เธอเพียงแต่ล้างแผลง่ายๆ แล้วใส่ยา ทำไปตามมีตามเกิด
ขณะที่เธอทำแผลเกือบจะเสร็จ ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง
“ก๊อกๆๆ” เสียงดังสามครั้ง หวางอี้ก็ผลักประตูเข้ามา วางอาหารลงบนโต๊ะ ขณะเดียวกันสังเกตเห็นผ้าพันแผลเปื้อนเลือดถูกโยนทิ้งในถังขยะ ก็ขมวดคิ้วมองเจ้านาย
เขาเห็นเจ้านายไม่มีปฏิกิริยาอะไร ท่าทางไม่เหมือนบาดเจ็บ ก็โล่งใจ แล้วเดินออกจากห้องไป
ซูย้าวอาบน้ำเสร็จ ตอนที่ออกมา ก็เห็นอาหารบนโต๊ะ ทันใดนั้นก็มีดวงดาวปรากฏบนดวงตา ไม่สนใจความเจ็บปวด รีบวิ่งไปนัก คว้าตะเกียบมาเริ่มกินข้าว
เธอหิวไส้กิ่ว จึงกินเร็วมาก ไม่กลัวอาหารร้อนลวกปาก และยังกินคำใหญ่ด้วย
ลี่เฉินซีไม่ต้องหันมาก็ได้ยินอีกฝ่ายกำลังเร่งรีบเคี้ยว ก็ดูดบุหรี่แรงๆ นิ้วเกร็งขึ้นช้าๆ
ซูย้าวใช้ความเร็วสูงสุด กินข้าวกล่องใหญ่และกับข้าวหมดเกลี้ยง จากนั้นก็กัดตะเกียบ หันไปมองเขาน่าสงสาร กะพริบตาโตเศร้าๆ พึมพำเสียงแผ่วเบา “ฉันอยากกินอีก…”
เธอหิวมาสองวันแล้ว และยังไข้ขึ้นสูงและบาดเจ็บ กินมากหน่อย ร่างกายจะได้ฟื้นเร็วๆ
แต่สีหน้าลี่เฉินซีโกรธจัด ขยี้บุหรี่ในมือ หันมาก้าวเท้ายาวเดินเข้ามา มือข้างหนึ่งดึงเธอขึ้นมาโดยไม่คาดคิด มือข้างเดียวบีบแก้มเธอแรงๆ “คุณคิดว่าผมเป็นแฟนคุณอยู่หรือไง”
และยังทำท่าน่าสงสาร ยังจะกินอีก! เธอกินเยอะขนาดนั้นแล้ว!
ซูย้าวเม้มปากเก้อเขิน “ไม่ใช่แฟน งั้นอย่างน้อยก็สามีภรรยา…ฉันแค่กินข้าวหน่อยเดียว เป็นอะไรไป”
พูดจบเธอดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาหน่อย สมองที่มึนงงตลอดดีขึ้นไม่น้อย พูดขึ้นอีก “เพราะฉันขโมยเงินคุณ ถึงได้โมโหขนาดนี้หรือคะ”
จากนั้น เธอก็หลุบตาลงจนปัญญา ถอนหายใจนิดหนึ่ง “ก็ถูก ฉันติดค้างเงินคุณเยอะขนาดนั้น ไม่ควรจะขอให้คุณซื้ออาหารให้ แต่…แต่ฉันหิวนี่นา คิดว่าให้อาหารสัตว์เลี้ยงละกัน อย่างน้อยก็สั่งอาหารให้หน่อย…”
เธอพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกลี่เฉินซีออกแรง เหวี่ยงเธอลงไปที่โซฟา “สัตว์เลี้ยงหรือ อย่าดูถูกสัตว์เลี้ยง แม้แต่หมาแมวเธอก็ไม่คู่ควร!”
ซูย้าวตะลึง ฝืนทนความเจ็บปวดทั้งตัว ขมวดคิ้ว
ลี่เฉินซีกวาดตามองเธอเย็นชา สูดลมหายใจลึก “ผมพูดแล้วไง นับแต่นี้ไปคุณคือคนใช้ที่นี่ ตอนนี้ออกไปซะ!”
เธอไม่อยากยั่วโมโหเขาอีก แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจทำไมเขาถึงโกรธ เงินน่าจะเป็นเหตุผลใหญ่ เธอได้แต่พยักหน้าตามคำสั่ง ค่อยๆ ลุกขึ้น ขณะที่จะเดินผ่านเขาไป ก็ถูกชายหนุ่มจับแขนอีก
เขาออกแรงกระชาก ดึงเธอมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง “นอนห้องรับแขกจะสบายไป ที่นี่ละกัน นอนพื้น!”
พูดจบ มือก็ออกแรงอีกครั้ง ซูย้าวไม่ได้ป้องกันตัว ล้มลงที่พื้นอีกครั้ง
เธอเจ็บจนขมวดคิ้ว สำคัญที่สุด ก็คือกระเทือนแผลอีกครั้ง เจ็บจนแทบทนไม่ไหว ความโกรธในแววตาฉายขึ้น เงยหน้ามองเขาโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น “ลี่เฉินซี คุณเป็นบ้าอะไร”
“ก็แค่เงินนิดหน่อยไม่ใช่หรือ ก็ได้ ฉันจะคืนให้คุณ ถึงอย่างไรก็เห็นฉันเป็นคนหน่อย! ทำไมต้องรังแกกันขนาดนี้”
เธอไม่อยากจะบอกเขา ถ้าหากปล่อยให้บริษัทสาขาสิบเอ็ดแห่งในต่างประเทศของบริษัทลี่ซื่อ ดำเนินงานต่อไป ความหวาดระแวงของอานเจียเย้นไม่มีทางหมดไปแน่ สองคนเปิดศึกกัน จะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว!
แม้ว่าความสามารถและความแข็งแกร่งของอานเจียเย้นจะทรงพลัง แต่ในที่สุดแล้ว เขาก็เป็นแค่คนหนึ่ง ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย และไม่อ่อนแอ ลี่เฉินซีไหวหรือ
รอบตัวเขายังมีลูกสามคน ถ้าหากสองคนเปิดศึกกันจริง ดูจากนิสัยของอานเจียเย้น ทำได้ทุกอย่าง ถ้าหากลูกเป็นอันตราย ถึงตอนนั้นเขาจะทำยังไง!
ซูย้าวได้แต่อาศัยตอนที่เขายุ่งกับงานแต่งงาน แอบเซ็นชื่อของเขา ขายบริษัทในต่างประเทศสิบเอ็ดแห่ง เพื่อขจัดความกลัวของอานเจียเย้น แล้วขโมยเงินของเขาไปส่วนหนึ่ง เพื่อทำให้เขาสับสน
แต่เรื่องนี้ ซูย้าวไม่มีทางพูดออกไป
ตอนที่เธอตัดสินใจทำอย่างนี้ ก็เท่ากับทรยศอานเจียเย้น และยังทำร้ายลี่เฉินซี ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างมองเธอถมึงทึง ไม่มีใครให้อภัยอีก
ไม่อย่างนั้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอหนีไปครึ่งค่อนโลกเพราะอะไร นอกจากหนีลี่เฉินซี ยังหนีอานเจียเย้นด้วย!
ผู้ชายคนนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ซูย้าวโกรธจนหัวจะระเบิด ตะเกียกตะกายลุกขึ้น สูดลมหายใจลึก กัดฟันพูด “ฟังให้ดีนะ เงินที่เป็นหนี้ ฉันจะหาทางคืนให้เร็วที่สุด ส่วนการแต่งงานระหว่างเรา ก็ทำเรื่องหย่าซะ ฉะนั้น อย่ามายุ่งกับฉันอีก!”
“เงินนั่นเยอะไปหน่อย ฉันจะแบ่งจ่ายคืนให้!”
เธอพูดจบ ก็คิดจะจัดเสื้อผ้าเดินไป แต่ยังไม่ทันเดิน ก็ถูกลี่เฉินซีจับข้อมือแน่น ใบหน้าที่เกือบราบเรียบโมโห พูดเน้นเสียงทีละคำ “เพราะเรื่องเงินเท่านั้นหรือ”
อย่าว่าแต่เงินแปดร้อยล้านนั่น ต่อให้เธอขโมยเงินในบัญชีกับบริษัทของเขาไปทั้งหมดจริงๆ เขาก็ไม่แคร์!
“คุณคิดว่าเพราะเงินอย่างเดียวหรือ” เขาพูดเสียงเย็นแทบจะลอดไรฟัน ใบหน้าที่เย็นชายิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก โกรธจนแค่นยิ้ม “ได้ เพื่อเงินเท่านั้น!”
พูดพลาง มือก็ออกแรง ฉุดกระชากเธอออกไปข้างนอก
ซูย้าวไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ก็ดิ้นไม่หลุด ถูกเขาลากลงไปข้างล่าง จนไปถึงข้างนอก จากนั้นก็ถูกเขาดันเข้ารถ
ชายหนุ่มขับรถเหมือนเหาะ เกือบครึ่งชั่วโมงก็มาถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
ที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาลที่ก่อตั้งและลงทุนในนามบริษัทลี่ซื่อ ขนาดและความสามารถอยู่ในระดับต้นๆ ของเมือง ทีมแพทย์ก็ดีที่สุดในประเทศ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ซูย้าวตกตะลึงถูกเขาลากมาตลอดทางเข้าโรงพยาบาล จากชั้นหนึ่งถึงบันได จนไปถึงห้องผู้ป่วย VVIP ที่นอกประตูห้องหนึ่ง ชายหนุ่มถึงจะหยุดฝีเท้าลง
ลี่เฉินซีบีบคางเธอเงยขึ้น บังคับให้เธอมองผ่านหน้าต่างกระจก “ดูให้ชัด คนที่นอนอยู่ข้างใน คือใคร!”
ซูย้าวมองตามทางที่เขาบังคับ เมื่อเห็นชัดคนที่นอนอยู่ข้างใน ก็ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก
“เด็กคนนี้เพิ่งอายุเท่าไหร่ ตอนที่คุณวางเพลิงเผาบ้าน เพื่อช่วยคุณแล้ว เขาวิ่งเข้าไปไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทำให้สมองบาดเจ็บสาหัส ผ่าตัดหลายครั้ง ก็ยังไม่มีสัญญาณจะฟื้น!”
ความโกรธแผ่ไปทั่วใบหน้าของลี่เฉินซี สายตาเย็นชาแดงก่ำ “นี่ครั้งที่สองแล้ว อัตราการเป็นเจ้าชายนิทราสูงถึง 90% หมอแจ้งว่าอยู่ในภาวะวิกฤติห้าครั้งแล้ว!”
“ตอนนั้นเขาอายุเพิ่งจะเท่าไหร่ คุณก็จากไป ตั้งห้าปีเต็มๆ คุณติดค้างเขามากแค่ไหน และครั้งนี้เพื่อช่วยคุณ เจิ้งเอ๋อถึงกับสละชีวิตตัวเอง!”
ลี่เฉินซีจับหน้าซูย้าวแรงๆ บังคับให้เธอมองทุกอย่างข้างในห้อง “คุณขายบริษัทของผม ขโมยเงินของผม ผมไม่แคร์ ต่อให้คุณไม่อยากแต่งงานก็ได้ แต่ซูย้าว เรื่องของคุณกับผม ทำไมต้องทำร้ายเด็กด้วย!”