ตอนที่ 487 หน้าเนื้อใจเสือ
เมื่อไปโรงพยาบาลทางคุณหมอให้วิธีรักษาโดยการฉีดเพิ่มโดสเซรุ่มต่อต้านพิษ ปล่อยให้พิษและเซรุ่มเป็นดูดซึมกันและกัน เช่นนี้จะทำให้พิษถูกขับออกทั้งหมด
แต่ว่าวิธีการรักษานี้ไม่รับประกันว่าจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
ปัจจุบันยังไม่มีการวิจัยกิ้งก่าพิษชนิดนี้อย่างละเอียดแน่ชัด ไม่มีการยืนยันว่าระหว่างพิษของมันกับพิษงูแตกต่างกันอย่างไร
เมื่อก่อนหมอหวงก็เคยรักษาคนที่เลี้ยงและบาดเจ็บเพราะถูกสัตว์มีพิษกัดต่อยมาไม่น้อย
เขาตรวจดูแผลของกู้ซูหลิงไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางรักษาเสียทีเดียว แต่อาจจะยุ่งยากและซับซ้อนเล็กน้อย คงทำได้เพียงลองรักษาตามอาการไปก่อนแล้วล่ะ
หมอหวงให้แผนการรักษาคือการให้ยาต้มและฝังเข็ม จากนั้นดูการฟื้นตัวแล้วค่อยปรับใบสั่งยาและวิธีการรักษาแผล
ยังต้องดูอาการอีกหรือ นี่คือไม่รับปากว่าจะสามารถรักษาหายได้หรือไม่ กู้ซูหลิงขมวดคิ้ว “แบบนี้จะดีเหรอคะ แต่ฉันไปรักษาที่โรงพยาบาลยังไงก็ไม่หาย คุณหมอรักษาด้วยวิธีนี้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่คะ คงไม่ต้องรอถึงปีครึ่งหรอกมั้งคะ”
คุณรักษาที่โรงพยาบาลไม่หายถึงได้เรียกผมมาอย่างไรเล่า หมอหวงตีหน้านิ่ง “เวลานานเท่าไหร่ไม่แน่ชัด ต้องดูจากการฟื้นตัวของคุณนะครับ”
กู้ซูหลิงเสนอเงื่อนไขที่เข้มงวด “ไม่ว่าคุณหมอต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันสามารถจ่ายให้เป็นสองเท่า เพียงแต่คุณหมอต้องรีบรักษามือของฉันให้หายไวๆ”
นี่เป็นปัญหาเรื่องของเงินหรือ หมอหวงเองก็เป็นคนมีฐานะมีอันจะกิน คำพูดนี้ทำให้เขาไม่สบายใจเอามากๆ “เอายาต้มไปสามห่อก่อน ลองดูก่อนนะครับ”
“คุณหมอมักง่ายไปหรือเปล่าคะ” กู้ซูหลิงไม่เชื่อถือในตัวหมอหวงเพราะมีอวี๋กานกานมาด้วย เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่าอวี๋กานกานจะร่วมมือกับหมอหวงทำร้ายเธอ จากที่บาดเจ็บเล็กน้อยอาจทำให้อาการลุกลามจนพิการไปทั้งแขนเลยก็ได้
น้ำตาเธอคลอเบ้า “คุณพ่อ เปลี่ยนหมอได้หรือเปล่าคะ”
โดยไม่รอให้กู้เชินตอบ หมอหวงจึงชิงพูดกับกู้เชินเสียก่อน “ท่านประธานกู้ หากไม่เชื่อในวิธีรักษาของผม ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน”
เมื่อกล่าวจบก็รีบเดินออกไปด้านนอก ส่วนอวี๋กานกานก็เร่งตามไป
กู้เชินจึงรีบเอ่ยรั้งเอาไว้ “คุณหมอหวง เดี๋ยวก่อนครับ”
ไม่ต้องพูดสิ่งใดแค่อายุอานามของหมอหวงก็แก่กว่ากู้เชินหนึ่งรุ่น
ยิ่งไปกว่านั้นแพทย์แผนจีนที่ชำนาญการรักษาพิษในปักกิ่ง หากกล่าวว่าหมอหวงรักษาไม่ดี เช่นนั้นทั้งปักกิ่งคงไม่มีหมอคนไหนที่กล้าพูดว่ารักษาหายได้ร้อยเปอร์เซนต์อีกแล้วล่ะ
ขณะนั้นเองหญิงวัยกลางคนที่ยังคงความสวยเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรีบร้อนและเป็นกังวลอย่างยิ่ง “อาเชิน มือของหลิงหลิงเป็นอย่างไรบ้างคะ”
เธอเบนสายตาไปทางด้านหลังแล้วเห็นอวี๋กานกานจึงชะงักไปทั้งร่าง
กู้ซูหลิงร้องไห้เรียกหาผู้เป็นแม่ในทันที “แม่…”
จูอวี้ลู่รีบผวาเข้าหาถือแขนกู้ซูหลิง “หลิงหลิง ไม่ต้องห่วงแผลที่มือลูกเดี๋ยวก็หายแล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก”
สายตาของอวี๋กานกานจับจ้องไปที่จูอวี้ลู่ จู่ๆ ก็เกิดภาพวูบไหวในหัวซึ่งเป็นใบหน้าที่คล้ายกับใบหน้าของจูอวี้ลู่
แต่ทว่าใบหน้านั้นกลับไม่ได้ดูอ่อนโยนเหมือนกับตอนนี้ อีกทั้งใบหน้าเกรี้ยวกราดดุดันใช้นิ้วชี้ที่ทาเล็บสีแดงจิ้มเฉดหัวเออย่างรุนแรงพร้อมถ้อยคำด่าทอเจ็บแสบ “นางเด็กเหลือขอ!”
แปลกมาก
เหตุใดจู่ๆ ถึงเกิดภาพเหล่านี้ขึ้นในหัวของเธอ
หรือเพราะเธอมองเห็นถึงแก่นแท้ผ่านปรากฏการณ์ มองปราดเดียวก็เห็นถึงความหน้าเนื้อใจเสือในตัวของคุณนายกู้คนนี้
“แม่คะ เขาบอกให้ลองดูก่อน ลองยังไงให้ลองอีกแขนของหนูคงไม่เหลือแล้ว…” กู้ซูหลิงกอดจูอวี้ลู่ฟ้องร้องไห้แล้วกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
“ผู้หญิงคนนี้คืออวี๋กานกาน หนูไม่อยากให้เธอมารักษา ใครจะไปรู้เธออาจทำมิดีมิร้ายหนูก็ได้”
ตอนที่ 488 รักษาหรือพยายามฆ่า
จูอวี้ลู่ทำอะไรไม่ถูก แล้วมองเธออย่างโอ๋เข้าข้าง “ลูกควรเชื่อคุณหมอหวงนะ”
เธอเองก็ไม่เชื่ออวี๋กานกานเช่นกัน
อย่างไรเสียทั้งสองก็เป็นศัตรูหัวใจกัน หัวใจคนยากแท้หยั่งถึง ใครจะรู้อวี๋กานกานอาจลงไม้ลงมือทำอะไรก็ได้
แต่เธอเชื่อมั่นในตัวคุณหมอหวง
คุณหมอหวงมีชื่อเสียงมากในปักกิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาหน้าตาชื่อเสียงมาระบายความโกรธของเขากับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว หากเรื่องนี้แพร่ออกไปชื่อเสียงที่สั่งสมมาคงจบสิ้นไม่เป็นท่า
สายตาของจูอวี้ลู่จ้องอวี๋กานกานเขม็ง จากนั้นจึงหันไปยิ้มให้กับหมอหวงอย่างสง่างาม “คุณหมอหวงคะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ลูกสาวของฉันบาดเจ็บที่แขนอาจจะหงุดหงิดไปบ้างจึงเสียมารยาทกับคุณหมอ ยังไงคุณหมอหวงอย่าถือสาแกเลยนะคะ สิ่งไหนไม่ถูกไม่ควรได้โปรดอภัยให้ด้วยนะคะ”
กู้เชินอยู่ในแวดวงธุรกิจมานานจะทำอะไรต้องรู้จักพลิกแพลงเล่นลิ้นบ้าง ดังนั้นจึงหันไปยิ้มแล้วพูดกับหมอหวง “คุณหมอหวง เชิญทางนี้ครับ ผมเชิญคุณ”
หมอหวงเป็นคนพูดง่าย แม้อีกฝ่ายจะเสียมารยาทแต่อย่างไรเสียก็เป็นคนไข้ของเขา
เขาเองก็ไม่กล่าวอะไรอีกแล้วกลับไปนั่งที่เดิม อวี๋กานกานเงียบไม่พูดจาแล้วถือกล่องยาเดินตามไปเช่นกัน
ในขณะที่หมอหวงกำลังเขียนใบสั่งยา กู้เชินก็ออกไปรับโทรศัพท์
เขายื่นใบสั่งยาให้กับจูอวี้ลู่ “นี่คือยาใช้ภายในและภายนอก ค่อยใช้ร่วมกับการฝังเข็มนะ”
“ขอบคุณคุณหมอหวงมากค่ะ”
“ไม่เป็นไร”
เมื่อหมอหวงพูดเสร็จก็หันไปมองอวี๋กานกานเพื่อให้เธอมาข้างหน้า
การตรวจคนไข้ในแต่ละวันต้องรวบรวมสมาธิสูงมาก หมอหวงอายุมากแล้ว การฝังเข็มในกรณีที่ไม่ยากโดยปกติจะให้ลูกศิษย์เป็นคนทำการฝังเข็ม
วันนี้อวี๋กานกานตามมาเป็นผู้ช่วยหมอหวง ดังนั้นจึงรับหน้าที่นี้ไปโดยปริยาย
เมื่อเห็นว่าอวี๋กานกานหยิบเข็มออกมา กู้ซูหลิงจึงสะดุ้งตกใจอย่างแรง
เธอเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนกขาวซีด “เธอมาฝังเข็มได้ยังไง ฉันไม่ต้องการให้เธอมาฝังเข็มให้”
ให้อวี๋กานกานฝังเข็มให้เธอ ไม่กี่นาทีเธอต้องอาการทรุดแน่ๆ เธอเบิกตาโพลงแล้วหันไปโวยวายกับหมอหวง “คุณหมอบอกจะรักษาฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงให้เธอลงมือล่ะคะ”
จูอวี้ลู่เองก็ไม่เชื่ออวี๋กานกานจึงหันไปพูดยิ้มๆ “คุณหมอหวงคะ คุณดูสิว่าพิษนี้มันร้ายแรงแค่ไหน คุณทำเองจะดีกว่าไหมคะ”
“แม้เสี่ยวอวี๋จะอายุยังน้อยแต่เธอมีใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนจีนอีกทั้งยังมีประสบการณ์หลายปี ผมอายุมากแล้วสายตาไม่ค่อยจะดี เสี่ยวอวี๋เคยฝังเข็มรักษาคุณท่านเจียง เทคนิคการฝังเข็มของเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผม พวกคุณมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์”
หมอหวงไม่รู้เรื่องบาดหมางระหว่างอวี๋กานกานกับกู้ซูหลิง
คิดเพียงแค่ว่าพวกเขาดูถูกอวี๋กานกานเพราะอายุยังน้อย ดังนั้นจึงรับประกันกับพวกเขาเต็มร้อยอีกทั้งยังให้อวี๋กานกานทำต่อ
อวี๋กานกานเองก็ไม่อยากฝังเข็มให้กู้ซูหลิง
แต่ในเมื่ออาจารย์หมอหวงเอ่ยปากออกมาแล้ว เธอก็ยากที่จะปฏิเสธ เธอจึงหยิบเข็มสามด้านออกมาหนึ่งเล่มจากนั้นแทงลงไปที่ปากแผลบริเวณมือที่บาดเจ็บของกู้ซูหลิงตามที่หมอหวงบอก
การฝังเข็มมีไหนบ้างที่ไม่เจ็บ เข็มทิ่มแทงเข้าเนื้ออย่างไรก็เจ็บเหมือนกันหมด ปฏิกิริยาตอบโต้ของกู้ซูหลิงแรงมาก
อวี๋กานกานรู้สึกว่าตัวเองก็เบามือแล้วนะ แต่ผลคือกู้ซูหลิงยังส่งเสียงกรีดร้อง “อ๊ากกก!”
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องทิ่มแทงหูทำให้อวี๋กานกานตกใจเกือบฝังเข็มพลาด
เธอมองอวี๋กานกานอย่างตื่นกลัวราวกับเจออาชญากรชั่วร้ายแล้วตำหนิด้วยความโมโห “เธอจงใจ เธอจะทำร้ายฉันหรือต้องการฆ่าฉันกันแน่”
จากนั้นเธอดึงเข็มที่อวี๋กานกานใช้ฝังเข็มให้เธอออกมาแล้วปาใส่หน้าอวี๋กานกาน
อวี่กานกานรีบหลบอย่างรวดเร็ว แต่เธอที่นั่งคุกเข่าอยู่ก่อนแล้วทำให้ยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคงจึงล้มนั่งลงที่พื้น
หมอหวงตกใจรีบเข้าไปประคองอวี๋กานกานขึ้นมา “เสี่ยวอวี๋ เธอเจ็บตรงไหนบ้าง”