บทที่ 277 กับดักของจิ้งจอกเฒ่า
ก่อนนอน เยี่ยหวันหวั่นคลิกเปิดหน้าเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหานเซี่ยนอวี่ทั้งหมด
แฟนคลับของหานเซี่ยนอวี่ต่างลิงโลด กระจายข่าวไปทั่ว สื่อมวลชนและชาวเน็ตก็พากันขอโทษขอโพยหานเซี่ยนอวี่ ทั้งยังขุดงานการกุศลต่างๆ ที่หานเซี่ยนอวี่เคยทำขึ้นมาอีกครั้ง
เรื่องในครั้งนี้นับว่าคลี่คลายอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เพียงเท่านี้ ชื่อเสียงของหานเซี่ยนอวี่ยังดังระเบิดกว่าเดิมหลายเท่า ถึงขนาดทำให้แฟนคลับอย่างเจียงเยียนหรานที่ก่อนหน้านี้ช่วยหานเซี่ยนอวี่โต้เถียงตามหลักเหตุผลทว่าถูกชาวเน็ตโจมตีโด่งดังไปด้วย และถูกเรียกว่า ‘แฟนคลับที่สวยที่สุด’
ตอนนี้เหลือเพียงไปหาฉู่หงกวงให้เขาทำตามสัญญาในวันพรุ่งนี้
วันต่อมา โกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์
เทียบกับครั้งก่อนที่เกือบถูกรปภ. ลากออกไป ครั้งนี้เยี่ยหวันหวั่นถูกปฏิบัติราวแขกคนพิเศษ มีเลขาของฉู่หงกวงนำทางไปที่ห้องท่านประธานด้วยตนเอง
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่น ฉู่หงกวงลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้แดงทันที ปรบมือยิ้มร่าอย่างมีความสุข “คลื่นลูกใหม่ไล่คลื่นลูกเก่า น้องเยี่ยเป็นคนหนุ่มมีความสามารถจริงๆ! น่านับถือ น่านับถือ!”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างนอบน้อม “ประธานฉู่ชมเกินไปแล้วครับ”
“นั่ง! นั่งก่อนๆ!” ฉู่หงกวงเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มให้นั่งลง แล้วสั่งให้เลขาไปเตรียมน้ำชารับรอง
ฉู่หงกวงจุดซิการ์ เอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า “ผลงานของน้องเยี่ยครั้งนี้สมบูรณ์แบบมาก เพอร์เฟกต์มากๆ! ไม่เพียงแค่ปกป้องเซี่ยนอวี่เอาไว้ได้ ยังทำให้ดังมากขึ้นไปอีก พาโกลบอลของพวกเราโด่งดังไปด้วย!
ฝีมือการทำงานแบบนี้เด็ดยิ่งกว่า CPO ที่ทำงานมาหลายปีหลายๆ คนซะอีก น้องเยี่ยเป็นคนมีความสามารถที่หาได้ยากจริงๆ! ไม่เลวเลย ไม่เลว…”
เยี่ยหวันหวั่นนั่งเงียบดื่มชาอยู่ตรงนั้น ข่มอารมณ์ฟังไปเรื่อยๆ รออยู่นาน เมื่อเห็นว่าฉู่หงกวงไม่พูดเข้าประเด็นเสียที จึงโคลงแก้วในมือขยับใบชาในแก้ว เอ่ยเตือนนิ่งๆ ว่า “ประธานฉู่พอใจก็ดีแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นที่ประธานฉู่รับปากผมไว้สองเรื่องล่ะ?”
“ดูความจำฉันสิ!” ฉู่หงกวงถึงได้ทำท่าราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ เคาะซิการ์เล็กน้อย นำเอกสารปึกหนึ่งออกมาแล้วผลักมาตรงหน้าอีกฝ่าย “น้องเยี่ยสบายใจได้ สิ่งที่นายอยากได้ ฉันจัดเตรียมไว้ให้นายหมดแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมอง เห็นบนเอกสารปึกนั้นเขียนว่าเอกสารโอนย้ายทรัพย์สินจินโตวปี้ไห่
เห็นตัวอักษรสี่คำที่แสนคุ้นเคยนั้นแล้ว นัยน์ตาเยี่ยหวันหวั่นพลันเป็นประกาย ยื่นมือไปรับมา…
จากนั้น เสี้ยววินาทีที่นิ้วมือของเยี่ยหวันหวั่นสัมผัสเอกสารชุดนั้น ฉู่หงกวงกลับเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน “น้องเยี่ย พูดกับนายตรงๆ นะ อสังหาริมทรัพย์ที่นี้มีความหมายที่พิเศษกับฉันมาก ตัวฉันเองชอบมันมากเลยทีเดียว แต่ว่าในเมื่อน้องเยี่ยช่วยฉันไว้ แล้วนายก็ชอบมัน ต่อให้จะเสียดายขนาดไหน ฉันก็จะทำตามสัญญา…”
พูดมาถึงตรงนี้ ฉู่หงกวงเอนตัวไปข้างหลัง พิงเก้าอี้เบาะหนังแท้ พลิกลิ้นทันควัน “น้องเยี่ย นายเองก็รู้ดี บ้านบนที่แห่งนั้นมีราคาสูงมาก แต่ว่าเดี๋ยวนายก็เป็นคนกันเองแล้ว พวกเราคนกันเองไม่พูดจาเป็นคนนอก ฉันไม่มีทางทำให้นายเสียเปรียบ เอาแบบนี้แล้วกัน…นายให้ค่าบ้านฉันมาแค่เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ บ้านหลังนี้ก็จะเป็นของนาย!”
ฉู่หงกวงเอ่ยด้วยท่าทางเปิดเผยจริงใจ
ทว่าหลังจากฟังฉู่หงกวงจบ นัยน์ตาของเยี่ยหวันหวั่นพลันฉายประกายกร้าว
ฉู่หวงกวงไม่เสียแรงที่มีชื่อว่าจิ้งจอกเฒ่าจริงๆ
ที่คุยกันไว้ในตอนแรก ความหมายของเธอคือต้องการบ้านหลังนี้ ตอนนี้เขากลับแอบเปลี่ยนความคิด ต้องการจะขายให้เธอแทน
ฉู่หงกวงจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าต่อให้แค่เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ สำหรับคนธรรมดาแล้วก็เป็นจำนวนตัวเลขสูงเสียดฟ้า
………………………………………………………..
บทที่ 278 เลือกตามใจเลย
จากนั้น ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นกลับไม่ได้มีอารมณ์อะไรมากมาย ที่มุมปากยังคงโค้งยิ้มอยู่อย่างนั้น
เธอรู้อยู่แล้ว ฉู่หงกวงคนนี้ไม่มีทางรักษาสัญญาแต่โดยดีหรอก
เพียงแต่ว่า…
แล้วยังไงล่ะ?
เดิมทีฉู่หงกวงคิดว่าจะได้เห็นฝ่ายตรงข้ามหน้าเปลี่ยนสี แต่กลับพบว่าใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นไม่มีความโกรธหรือไม่ยินยอมเลยแม้แต่น้อย จนอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ เพียงแต่ใบหน้ายังคงแสร้งเป็นคนดี “นายสบายใจได้ ฉันร่างสัญญาไว้แล้ว บ้านหลังนี้ฉันเก็บไว้ให้นายแน่นอน!”
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้วเล็กน้อย รอยยิ้มที่มุมปากยิ่งกว้างขึ้น ดวงตากระชากลมหายใจคู่นั้นเหลือบขึ้นเล็กน้อย มองใบหน้าเหี่ยวย่นจอมปลอมของฉู่หงกวง “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณประธานฉู่มากครับ!”
ฉู่หงกวงเดาความคิดของเยี่ยหวนหวั่นไม่ออก ทว่าด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปี ทำให้เขาซ่อนความคิดของตัวเองไว้ได้มิดชิด เขาตั้งใจทำเป็นยิ้มหัวเราะอย่างใจเย็น แล้วหยิบเอกสารอีกชุดหนึ่งให้เธอ “ตำแหน่งของนายฉันก็จัดการไว้ให้เรียบร้อยแล้ว โดยเลือกจากความสามารถของนายด้วย นายลองดูสิ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร วันนี้พวกเราก็เซ็นสัญญากันได้เลย!”
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นรบกวนประธานฉู่แล้วครับ” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวพลางหยิบสัญญาขึ้นมาดู แค่พลิกถึงหน้าแรก ดวงตาทั้งสองของเยี่ยหวันหวั่นก็หรี่เล็ก
นี่ไม่ใช่สัญญาผู้จัดการดาราของโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์ แต่เป็นบริษัทลูกในสังกัดของโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์ชื่อว่ากวงเย่ามีเดีย
ในบรรดาบริษัทลูกในสังกัดของโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กวงเย่ามีเดียเป็นบริษัทที่ย่ำแย่ที่สุด ดาราในสังกัดที่พอจะมีชื่อเสียง มีเพียงกงซวี่ที่อยู่ในความดูแลของโจวเหวินปิน นับได้ว่าเป็นสิทธิเด็ดขาดของโจวเหวินปิน
ฉู่หงกวงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเปิดเผยจริงใจ “สถานการณ์ตอนนี้ของกวงเย่าลำบากมากจริงๆ แทบทั้งบริษัทพึ่งนักแสดงเพียงคนเดียว ทำให้ฉันปวดหัวมาก!
ส่วนนาย เยี่ยไป๋ ครั้งนี้นายทำให้ฉันประทับใจมาก ฉันครุ่นคิดอย่างหนักอยู่นานถึงตัดสินใจมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้นาย ฉันเชื่อว่าด้วยความสามารถของนายแล้ว จะต้องพากวงเย่าออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้แน่!”
นิ้วมือของเยี่ยหวันหวั่นเคาะเบาๆ ลงบนแก้วชากระเบื้องเคลือบ ฟังไปพลางยิ้มหยันในใจ
สมแล้วที่เป็นฉู่หงกวง ถึงได้พูดจา ‘ขับไล่’ ได้ดูดีขนาดนี้
พ่อต่อสู้กับฉู่หงกวงมานานหลายปี เธอรู้แต่แรกแล้วว่าฉู่หงกวงเป็นคนเจ้าเล่ห์ มีชื่อในวงการว่าเป็นเสือหน้ายิ้ม ด้วยใบหน้ายิ้มๆ นี้สามารถเอาเปรียบคุณได้จนไม่เหลือแม้แต่กระดูก
ลูกไม้เหล่านี้ของฉู่หงกวง เธอจะเดาไม่ออกได้อย่างไร?
ฉู่หงกวงเพียงแค่เห็นว่าการรับมือเหตุการณ์ครั้งนี้ของเธอสมบูรณ์แบบ ทั้งอยากใช้งานเธอ ทั้งกลัวจะควบคุมเธอไม่ได้ ย่อมต้องแสดงอำนาจให้เธอดูสักหน่อย อีกทั้งจัดแจงใช้อุบายควบคุมมากมาย
เห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่พูดสิ่งใด ฉู่หงกวงก็ส่งเอกสารเล่มหนามาให้อีกปึกหนึ่ง “ฉันสั่งกวงเย่าทางนั้นไปแล้วว่าให้แต่ละแผนกคอยสนับสนุนช่วยเหลือนายอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นักแสดงทุกคนของกวงเย่า นอกจากกงซวี่ เขาอยู่กับเหวินปินจนเป็นคนคุ้นเคยกันแล้ว จะเปลี่ยนกลางคันคงไม่ค่อยดี คนอื่นๆ นายเลือกได้ตามใจเลย ฉันให้สิทธินายใหญ่สุด!”
ฮึ เลือกได้ตามใจอย่างนั้นเหรอ?
ทั้งกวงเย่า นอกจากกงซวี่แล้ว ไม่มีนักแสดงสักคนที่เป็นที่เชิดหน้าชูตา เธอจะเลือกอะไรได้?
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้บ่นอะไรกับจิ้งจอกเฒ่าฉู่หงกวง เพียงหยิบรายชื่อของฉู่หงกวงมาพลิกดูอย่างไม่รีบร้อน
ในเอกสารปึกนั้น ไม่มีนักแสดงคนไหนที่หยิบออกมาใช้งานได้เลยสักคน ฉู่หงกวงปากพูดว่าใจกว้าง แต่ความจริงแล้วกลับเล่นงานเธอทุกช่องทาง
เยี่ยหวันหวั่นพลิกดูเอกสารอย่างเงียบๆ
ขณะที่เธอพลิกถึงหน้าสุดท้ายนี้เอง นิ้วมือพลันหยุดชะงัก สายตาตกไปอยู่บนชื่อหนึ่งที่พิมพ์อยู่ตรงมุมกระดาษ
…………………………………………………