บทที่ 201 เรียกพี่ชายแล้วจะสอนเธอให้
เสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น ในห้องเรียนจึงได้เงียบสงบลง
โดยพื้นฐานแล้วอาจารย์ทุกวิชาจะต้องถามว่าเธอเป็นใคร ทั้งยังสงสัยว่าเธอมาเข้าเรียนแทนเยี่ยหวันหวั่น
ขอร้องล่ะเธอจะโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ? จะหาคนมาเรียนแทนก็ต้องหาคนที่หน้าตาเหมือนกันหน่อยสิ…
เพียงพริบตาเวลาก็ผ่านมาถึงช่วงบ่ายแล้ว ระหว่างนี้เยี่ยหวันหวั่นนอกจากจะต้องตอบข้อซักถามจากอาจารย์ทุกวิชา ยังต้องถูกคนมุงดูทุกคาบอีก
แทบจะทุกระดับชั้นต่างมาดูหน้าเธอรอบหนึ่ง ราวกับมาดูสิ่งมหัศจรรย์อะไร
เยี่ยหวันหวั่นเท้าคางบ่นพึมพำ “หากยังมีคนมาดูอีกฉันจะเก็บค่าชมแล้วนะ!”
ซือเซี่ยที่อยู่ด้านข้างกระพริบตาให้เธอทันที “ด้วยกันเถอะ! ฉันคิดว่าพวกเราสองคนร่วมมือกันต้องรวยแน่!”
เยี่ยหวันหวั่น “…”
เยี่ยหวันหวั่นมองไปยังท้องฟ้าด้านนอกที่เริ่มมืดครึ้มลงไป “ทำไมอยู่ดีๆ ก็หนาวแบบนี้?”
“ผลกระทบจากพายุใต้ฝุ่น วันนี้อุณหภูมิจะลดลงอย่างมาก เธอไม่รู้เหรอ?” ซือเซี่ยเอ่ย
“ไม่คิดเลยว่านายจะมีนิสัยชอบดูพยากรณ์อากาศด้วย!” เยี่ยหวันหวั่นแสดงออกถึงความประหลาดใจ
“เปล่า!”
“แล้วนายรู้ได้อย่างไร?”
ซือเซี่ยล้วงหยิบมือถือแล้วโยนให้เธอ เยี่ยหวันหวั่นยื่นหน้าไปมอง ก็เห็นข้อความรูปหัวใจเป็นชุดเตือนให้เขาระวังสุขภาพเพราะอากาศเปลี่ยนแปลง
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งไป
ก็ได้ เขามีแฟนคลับสาวๆ จำนวนนับไม่ถ้วนช่วยเขาดู!
เป็นตามคาด ไม่นานด้านนอกก็มีฝนตกพรำ อุณหภูมิเย็นลงเรื่อยๆ
เพียงแต่โดยทั่วไปแล้วทุกคนก็เหมือนกับเธอที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้ามากมาย อย่างไรแล้วเมื่อวานอากาศยังร้อนเหมือนฤดูร้อนอยู่เลย เมื่อเช้าก็ไม่มีสัญญาณสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
ตอนนี้เธอใส่แค่กระโปรงตัวเดียว เสื้อผ้าที่หอพักก็มีแต่เสื้อผ้าหน้าร้อน แม้แต่เสื้อโค้ทหนาๆ สักตัวก็ไม่มี
ซือเซี่ยชำเลืองเธอไปที “หนาวเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นไร้คำจะพูด “ไร้สาระ!”
ซือเซี่ยถอนหายใจ “หนาวก็ช่วยไม่ได้ ฉันใส่มาแค่ตัวเดียว หากจะถอดให้เธอ ฉันอาจจะเสียความบริสุทธิ์ไปได้”
เยี่ยหวันหวั่น “เหอเหอ ขอบใจแต่ไม่ต้องหรอก!”
ซือเซี่ยพูดพลางเหลือบมองไปทางหน้าประตู “เพียงแต่ อีกไม่นานกองทัพส่งเสื้อผ้าให้เธอน่าจะใกล้มาถึงแล้ว!”
กองทัพส่งเสื้อผ้าอะไรกัน?
ซือเซี่ยเพิ่งจะพูดจบ ที่หน้าประตูก็มีรุ่นน้องชายลักษณะขาวผุดผ่องยืนอยู่ มองมาทางเยี่ยหวันหวั่นพูดจาตะกุกตะกัก “สะ…สวัสดีครับรุ่นพี่ ผมชื่อจางรุ้ยชั้น ม.5 ห้อง A ครับ อากาศเย็นขนาดนี้ วันนี้พี่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ มา แบบนี้จะไม่สบายได้นะครับ! พี่ใส่เสื้อตัวนี้ของผมได้นะครับ?”
“แม่เจ้า! เด็กน้อยจากที่ไหนเนี่ย! มาแย่งสาวถึงถิ่นของพวกเราเลย! พี่น้องเราถอด! ปล่อยให้รุ่นน้องแย่งดาวโรงเรียนไปได้จะขายหน้าขนาดไหน!” นักเรียนชายห้อง F พลันหยุดทันที
และแล้ว…
เพียงครู่เดียว ตรงหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็ได้รับเสื้อผ้ากองหนึ่ง…
“ไม่ต้องหรอก ขอบใจนะ ฉันไม่หนาว”
“จะไม่หนาวได้อย่างไร รุ่นพี่จามขนาดนี้แล้ว!”
“ฉันกลับไปหยิบเสื้อที่หอพักสักตัวก็พอแล้ว”
“ได้อย่างไรกัน ตอนนี้ข้างนอกฝนตกอยู่นะ!”
“ไม่ต้องจริงๆ…”
“ต้องเอาๆ!”
ขณะที่ทางนี้เยี่ยหวันหวั่นกำลังปฏิเสธไปทีละคน กองทัพส่งเสื้อผ้าของซือเซี่ยอีกด้านหนึ่งก็มาถึง
ตรงหน้ามีสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งในมือมีเสื้อโค้ทผู้ชายสีดำอยู่ตัวหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น “ซือเซี่ย ทำไมนายถึงใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้ล่ะ! ก่อนหน้านี้นายเพิ่งจะป่วยมา จะปล่อยให้เป็นหวัดไม่ได้นะ! หากไม่รังเกียจล่ะก็ นายใส่เสื้อตัวนี้ได้นะ! เมื่อครู่ฉันไปยืมจากพี่ชายห้องข้างๆ มาให้น่ะ!”
ซือเซี่ยเอ่ยพูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ชินกับการใส่เสื้อผ้าของคนอื่น”
“อ้อ…แบบ…แบบนี้นี่เอง…งั้นก็ได้…” สาวน้อยถือเสื้อโค้ทเดินกลับไปด้วยความผิดหวัง และนักเรียนหญิงคนอื่นๆ ด้านข้างที่คิดอยากลองดูต่างก็ถอยกลับไปทั้งหมด
ส่วนเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังต่อสู้อยู่ มองเห็นเหตุการณ์ด้านข้างพลันอุทานอย่างน่าทึ่ง สุดยอดไปเลย! แค่ประโยคเดียวก็จัดการได้แล้ว?
ซือเซี่ยเหมือนจะเดาออกว่าเธอกำลังคิดอะไร มีสีหน้าแห่งความภาคภูมิใจผุดขึ้นมา “เป็นอย่างไร อยากเรียนวิชากับฉันหน่อยไหม? เรียกฉันพี่ชายสักคำ แล้วจะสอนเธอให้!”
เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุก “ฉันเรียกทวดนายสิ!”
ใครอยากเรียนของแบบนี้กันล่ะ!
………………………………….
บทที่ 202 กลัวเธอแล้วจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็ถูกลมหนาวพัดจนจาม “ฮัดชิ้ว!”
ช่วยไม่ได้ เธอนั่งอยู่แถวแรกตรงข้ามกับประตู ลมหนาวพัดโชยตรงเข้ามาทางเธอพอดี
เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ตอนนี้มีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยตื่นตระหนกรีบนำเสื้อผ้ามาส่งให้ลูกๆ ของตัวเอง บ้างก็นำมาให้ด้วยตัวเอง บ้างก็ให้คนใช้ที่บ้านนำมาให้
เยี่ยหวันหวั่นกำลังครุ่นคิดว่าจะฝ่าหิมะกลับไปหยิบผ้าห่มที่หอพักมาดีไหม ทันใดนั้นหางตาเหลือบเห็นเงาร่างอันคุ้นเคยที่หน้าประตูห้อง A อาคารการเรียนการสอนตรงข้าม
เมื่อเห็นคนคนนั้น เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ลุกขึ้นพรวดพราด
พี่ชาย…
เห็นเพียงเฉินเมิ่งฉีสวมกระโปรงชิ้นบางเดินออกมาจากห้องเรียน เยี่ยมู่ฝานที่อยู่หน้าประตู หยิบเสื้อคลุมคอตตอนตัวยาวจากถุงในมือออกมา แล้วจัดการห่อตัวเฉินเมิ่งฉีอย่างจริงจัง ยกมือของเธอขึ้นมาอังให้ความอบอุ่น อีกทั้งพูดอะไรบางอย่างกับเธอด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย
เยี่ยหวันหวั่นมองภาพนั้นด้วยอาการตกตะลึงราวกับวิญญาณลอยหายไปจากร่าง ขอบตาพลันแดงกร่ำ
ซือเซี่ยเห็นท่าทางแปลกไปของเยี่ยหวันหวั่นในทันที คิ้วขมวดมองตามทิศทางสายตาของเธอไปยังฝั่งตรงข้าม คนแรกที่เห็นคือเฉินเมิ่งฉี ต่อมาก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งตัวสูง หน้าตาหล่อเข้มมาก
ถึงแม้ว่าด้วยมาตรฐานช่างเลือกของเขา ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผู้ชายฝั่งตรงข้ามคนนั้นเป็นหนุ่มหล่อที่พบเห็นได้ยากคนหนึ่งจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ หน้าตาของคนผู้นี้ดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก ดูแล้วมีส่วนคล้ายเยี่ยหวันหวั่นอยู่บ้าง?
“เฮ้…เธอทำอะไรน่ะ? มองหนุ่มหล่อจนตะลึงค้างเหรอ?” ซือเซี่ยเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
แต่เยี่ยหวันหวั่นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด สายตายังคงติดตามผู้ชายคนนั้นอยู่ มองผู้ชายคนนั้นไถ่ถามสารทุกข์พลางสั่งกำชับเฉินเมิ่งฉีไม่หยุด มองดูเขามองส่งเฉินเมิ่งฉีเข้าห้องเรียน แล้วก็มองดูเขาเดินลงจากอาคารไป มองดูเขาขับรถแล่นออกจากประตูโรงเรียน…
จวบจนรถคันนั้นแล่นหายไปกลางสายฝน ซือเซี่ยก็เห็นน้ำตาของเยี่ยหวันหวั่นพรั่งพรูออกมา
ได้เห็นเยี่ยหวันหวั่นจู่ๆ ก็ร้องไห้ ซือเซี่ยพลันตกใจ “เฮ้…เฮ้เธอเป็นอะไร? อยู่ดีๆ ทำไมถึงร้องไห้ได้? เธอ…เธอไม่เป็นไรใช่ไหม…”
เยี่ยหวันหวั่นยังคงจดจ้องทิศทางที่เยี่ยมู่ฝานจากไป ร้องไห้ไร้เสียงหยาดน้ำตาไหลร่วงไม่หยุด อยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอได้
ผ่านไปพักหนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นค่อยๆ นั่งลงมา ฟุบลงกับโต๊ะเอาหน้าที่เปื้อนด้วยคราบน้ำตาซุกลงไป หัวไหล่สั่นเทา ร้องไห้คร่ำครวญเสียงเบา “คนเลว…”
รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธออยู่โรงเรียนเดียวกับเฉินเมิ่งฉี รู้อยู่แล้วว่าห้องเรียนของเธออยู่ฝั่งตรงข้าม มาส่งเสื้อผ้าให้เฉินเมิ่งฉี แต่กลับลืมเธอได้เสียสนิท
นี่คือการลงโทษงั้นเหรอ?
หากว่าใช่ละก็ เขาทำสำเร็จแล้ว
ตอนนี้เธอน้อยเนื้อต่ำใจทุกข์ทรมานจนแทบจะตายอยู่แล้ว!
แค่คิดถึงพี่ชายที่เคยรักและทะนุถนอมเธออย่างมาก ตอนนี้กลับมอบทุกสิ่งอย่างไปให้เฉินเมิ่งฉี…
แต่บังเอิญว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้มีต้นเหตุมาจากเธอเอง…
ครั้งแรกที่ได้เกิดใหม่อีกครั้ง เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอเองได้ และไม่เคยคิดอยากควบคุมด้วย มันช่างทรมานเหลือเกิน…
ซือเซี่ยไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรไม่ถูกแบบนี้มาก่อนเลย “เยี่ยหวันหวั่น เธอเป็นอะไรกันแน่? คนเลว? ใครเป็นคนเลว? เธอเลิกร้องได้แล้ว…”
คนข้างหูส่งเสียงเอะอะรบกวนเธอไม่หยุด เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวจนแทบระเบิด “นายเลิกยุ่งกับฉันสักที ฉันหนาวจนร้องไห้ไม่ได้เหรอ?”
ซือเซี่ยเม้มริมฝีปากแน่นจ้องมองผู้หญิงที่ฟุบอยู่กับโต๊ะ บ่นเสียงออดแอด “กลัวเธอแล้วจริงๆ!”
พูดจบ สองมือจับปลายเสื้อยืดบนร่างกายของตัวเอง พลิกขึ้นมาตามมือ ถอดเสื้อออกมาอย่างสะอาดเรียบร้อย จากนั้นวางทาบลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น…
ในห้องเรียนเงียบอยู่ประมาณสิบวินาที จากนั้นได้เห็นท่อนบนเปลือยเปล่าของซือเซี่ย กระดูกไหปลาร้า กล้ามหน้าท้อง…
นักเรียนหญิงทั้งชั้นเรียนต่างระเบิดเสียงกรี๊ดกร๊าดราวกับระเบิดปรมาณู “กรี๊ด! อร้ายยยยย–”
………………………………….