“ท่าน ท่านประธานเซ่….นี่ท่าน..นี่ มันอะไรกันหรือครับ?”
หูบา เหงื่อผุดออกหน้าเป็นเม็ด ตะกุกตะกักถามประธานเซ่
“ท่านประธานเซ่คะ ครอบครัวเรากับท่านก็มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนะ เรื่องนี้ท่านต้องช่วยเราบ้างนะ”เมียของหูบาพูดอ้อมแอ้มอย่างหน้าตื่น
“ช่วยพวกคุณ? พวกเราสนิทกันมาก งั้นหรือ?”
เซ่ชิงมองหูบา สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ แววตาส่อให้เห็นขนาดอยากจะฆ่าหูบาทิ้งเสียเลย
เขาก็แค่รู้จักกันผิวเผิน
แต่ หูบาในครั้งนี้ เล่นลามไปถึงท่านคุณชายอิ่งระดับมหาพระใหญ่ ลองถ้าจัดระเบียบไม่ดี แม้แต่ตัวเขาเองจะล่มสลายสาบสูญเลยก็เป็นได้
ไอ้เงินค่าเหล้าค่าอาหารซื้อความสัมพันธ์บนโต๊ะในภัตตาคารนั้น มันไม่ใช่เรื่องเอามาเทียบคุยได้เลย
“ท่านประธานเซ่ ท่าน เออ..ธุรกิจของผมก็ไม่ใช่เล็กๆ ท่านคงไม่ทำให้ผมต้องลำบากใจนะครับ? ไอ้เด็กหนุ่มแซ่หลินนั่น มันใครกันครับที่ท่านต้องไปเคารพเค้าขนาดนี้?”หูบาถามอย่างยังคาใจ
เขาคิดในใจอยู่ว่า ในอาณาเขตย่านเมืองเก่านี้ เขาก็เป็นคนอยู่ในระดับสูงพอตัว
ถึงจะเป็นไปยังไง เซ่ชิงก็คงต้องหาทางลงให้เขาได้บ้าง
“ประธานเซ่ ผมเองในบริเวณแถบนี้ ขี้หมูขี้หมาก็ยังพอไว้หน้าไว้ตากับเขาอยู่บ้าง จะไม่ไว้หน้าผมบ้างสักนิดเลยหรือครับ?”
เพี๊ยะ
หูบาพูดยังไม่ทันจบ ซื่อไท่เดินเข้าไปฟาดมือลงไปที่หน้าอย่างแรง
“แกมีหน้าอะไร? คนมีหัวมีหน้า? แกรู้จักข้าหรือเปล่า?”
ซื่อไท่กระชากหัวหูบาไว้ ถลึงตามองใส่
“อึ๊บ เอ๊าะ!”
หุบา มองหน้าเหี้ยมเป็นเทพมหากาฬของซื่อไท่ ตกใจเกือบตาย อึกอักอึกอักพูดอะไรไม่ออก
“แกเป็นใคร ฮึ? เอะอะก็ลงไม้ลงมือตบหน้าคนได้ไง!”
เมียของหูบาพูดอย่างไม่พอใจ
“ท่านผู้นี้คือ ซื่อไท่จากไท่ซานกรุ๊ป ท่านประธานซื่อ คุณหูบาน่าจะรู้จักว่าเป็นใครมั้ง?”เซ่ชิงมองหูบาอย่างเย็นชา แล้วแนะนำ
“อ้อ? คุณซื่อไท่ พี่ใหญ่ซื่อ?”
“อะไรกัน!”
หลังจากเซ่ชิงแนะนำถึงสถานะของซื่อไท่ หูบาตาแทบถลน ให้พรั่นกลัวเป็นกำลัง
ถึงกระทั่งเมียของหูบา หญิงปากร้ายใจเกเรคนนี้ก็ยังตกใจจนตาหมดแวว
หลินอิ่ง ลุ่มลึกจนน่าคิดหนัก ก็ยังไม่มีภาพที่น่าสะพรึงกลัวเป็นรูปธรรมให้ต้องหวาดผวา
แต่ ซื่อไท่ ชื่อนี้ มันเป็นที่ทุกคนในวงการล้วนเคยได้ยิน
ประธานผู้อำนวยการไท่ซานกรุ๊ป พี่ใหญ่หัวมังกร สถานะโดดเด่นชัดเจน
แทบพูดได้ว่า บรรดาคนที่หาทำกินอยู่ในอาณาบริเวณแถบเมืองเก่านี้ ล้วนเคยได้ยินชื่อเสียงอันทรงอิทธิพลนี้
“นี่ นี่ นี่ …….ท่านประธานซื่อ…..”
“ท่านประธานซื่อของไท่ซานกรุ๊ป? นี่ นี่ คนระดับใหญ่ขนาดนี้มาสถาบันชิงถึงเพราะอะไรหรือ? ด้วยเพราะเจ้าเด็กหนุ่มแซ่ หลินนั่นนะหรือ?”
“อาของเด็กหญิงหยังสู้สู้คนนี้ เป็นมารเทพมาแต่ไหนกัน?”
มาถึงขณะนี้ เสียงอุทานขานกล่าวอึงคะนึงไปทั่วทั้งห้องทำงาน ทุกคนต่างหนาวสะท้านไปทั่วตัว ให้รู้สึกหวาดผวาเมื่อสบมองไปที่หลินอิ่ง
โดยเฉพาะอาจารย์หลีนั่น และครูใหญ่ซุน ยิ่งตกใจจนหน้าเผือดซีด ปากสะท้านสั่น
เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ
แนะนำตัวเองว่าแซ่ หลิน
ยังสามารถทำให้ซื่อไท่-พี่ใหญ่หัวมังกร ยอมสยบให้ความเคารพนบนอบขนาดนี้
ภาพตัวจริงของเด็กหนุ่มคุณอาของหยังสู้สู้ เริ่มให้เห็นเป็นลางๆ แล้ว
นอกจากคุณชายอิ่ง ที่ชื่อเสียงลือลั่น คงไม่มีใคร จะมีฐานะศักดิ์ขนาดนี้เป็นแน่
คนที่นี่ทั้งหมดไม่มีใครคิดถึงได้เลยว่า สถาบันชิงถึงเล็กๆ แห่งนี้ จะมีหลานสาวของคุณชายอิ่งมาเล่าเรียนอยู่ที่นี่
“ผมผิดไปแล้ว!ต้องขออภัยจริงๆ ท่านประธานซื่อ เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง”
“ท่านประธานซื่อคะ คุณชายอิ่งคะ พวกเราผิดไปแล้ว!ไว้ชีวิตพวกเราด้วยนะค่ะ”เมียของหูบา หวาดผวาจนพูดอะไรไม่เป็นศัพท์ ระทวยเป็นง่อยพูดอยู่ที่โต๊ะ
ซื่อไท่ไม่ใส่ใจด้วย ท่าทางเย็นหี้ยม แววตาส่อความโหดถมึงจ้องที่หูบาสองผัวเมีย
หากไม่ใช่เพราะท่านอิ่งสั่งไว้ว่าให้เชิญประธานเซ่มาจัดการเหตุการณ์เอง และถ้าไม่เห็นว่าเป็นสถานที่สำหรับให้การศึกษา ปล่อยให้เป็นเขาจัดการเองละก็ หูบาวันนี้ไม่ตายคงโดนถลกหนังไปสักชั้นแน่
“ครูใหญ่ซุน อาจารย์หลี คุณสองคนมานี่ เรื่องของเด็กหญิงหยังสู้สู้ มันเป็นยังไงกันแน่!”ประธานเซ่หันมองไปที่ครูใหญ่ซุนกับอาจารย์หลีด้วยสีหน้าตำหนิที่เคร่งขรึม
ทั้งสองคนที่ตกใจจนขวัญกระเจิงไปแล้ว โดนการตะคอกถามของประธานผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดนี้ ได้แต่ก้มหน้าตอบเล่าเหตุการณ์ข้อเท็จจริงทั้งหมดออกมา
“ท่านประธานเซ่ เรื่องทั้งหมดก็เป็นไปตามนี้ค่ะ ก็เพียงแต่เด็กนักเรียนสองคน มีเรื่องขัดแย้งกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง”อาจารย์หลีพินอบพิเทาตอบอย่างร้อนตัวในใจ
“เพียงแค่ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ? พวกบัดซบเอ๊ยย…!”
“เธอ จริงๆ ไม่เหมาะสมจะเป็นครูบาอาจารย์เลย”ประธานเซ่ดุว่าเสียงเยือกเย็น “แม้กับคุณธรรมในความเป็นภราดรภาพกันยังทำไม่ได้? เห็นหูบามีเงินมีอำนาจ ก็ปล่อยจิตใจให้เทเอียงไปทางลูกเขา?”
“แล้วแบบอย่างเธอนี่ยังจะใช่ครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้อบรมสั่งสอนนักเรียนหรือ คุณธรรมไม่เหมาะกับตำแหน่ง ไปให้พ้นได้แล้ว โรงเรียนของเราไม่ต้องการครูบาอาจารย์แบบเธอนี่ คุณถูกให้ออกแล้ว ต่อไปนี้ ไม่ต้องหวังจะได้มีโอกาสหากินในอาชีพครูในพื้นที่ตี้จิงนี้อีกต่อไป”เซ่ชิงพูดเสียงเย็นชา
“อีกเรื่องหนึ่ง ครูใหญ่ซุน คุณก็เหมือนกัน คุณก็ถูกให้ลาออกด้วย”
“โอ้ะ!นี่….”
“ท่านประธานเซ่ ท่านดู……”
อาจารย์หลีกับครูใหญ่ซุนมีสีหน้าที่ข้องใจ ยังคิดพูดหวังขอความเห็นใจจากประธานเซ่
“หุบปากไปเลย รีบไสหัวออกจากสถาบันแห่งนี้!”ประธานเซ่พูดอย่างตัดบท “คุณสองคนไม่อยู่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนนี้อีกต่อไป หากยังขืนจะอิดออดงี่เง่า ก็อย่ามาว่าผมที่จะใช้มาตรการรุนแรงกับพวกคุณนะ!”
มาดเข้มดุของประธานผู้อำนวยการออกมาแบบนี้ เล่นเอาอาจารย์หลีกับครูใหญ่ซุนหน้าซีดเป็นขี้เถ้า ไม่กล้าหือออกเสียง
พวกเขาได้แต่นึกเจ็บใจตัวเองจนช้ำไปถึงไส้ใน
การโดนไล่ออกจากสถาบันชิงถึงนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดว่าแค่ออกจากงาน….
ไม่ต้องพูดถึงคุณชายอิ่งว่าบารมีทะลุฟ้าขนาดไหน เอาเพียงแค่อิทธิพลของซื่อไท่กับประธานเซ่ ก็พอทำให้สองคนนี้จะหาทำกินในตี้จิงไม่ได้ต่อไปอีก ไม่มีงานธุรกิจใดของใครกล้ารับไว้ใช้เป็นแน่
ทั้งสองได้แต่เจ็บปวดในใจไม่รู้สิ้น ทำไมต้องเพราะเผลอไปชั่ววูบ แล้วไปกระทบคนระดับอิทธิพลทะลุฟ้าอย่างท่านคุณชายอิ่ง ได้
เพียงทว่า เขาทั้งสองคงไม่มีทางจะได้รู้ชัดแจ้งอีกตลอดไปว่า พวกเขาผิดอยู่ตรงจุดไหน
“ท่านประธานเซ่ ผม พวกผมเข้าใจแล้วครับ”ครูใหญ่ซุนพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงสุดขมขื่น
จัดการสั่งสอนครูใหญ่ซุนกับอาจารย์หลีจบ ประธานเซ่หันกลับมา มองหน้าหูบาสองผัวเมีย
“หูบา ผมบอกตรงๆ นะว่าผมมองคนอย่างคุณไม่ขึ้นเลย เมียคุณนี่อายุขนาดนี้แล้ว ยังไปหาเรื่องกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ? แล้วยังลงมือตบตี?”ประธานเซ่พูดเสียงเยือกเย็น “จะต้องให้คนอื่นตามเอาผู้ปกครองมาให้คำตอบกับคุณให้ได้? ทีนี้ คุณยังจะให้เรียกผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงหยังคนนี้มาอีกไหม?”
“ผม…..ประธานเซ่ ผม ผมขอร้องท่านช่วยขอความกรุณาจากท่านคุณชายอิ่ง ขอความกรุณาท่านประธานซื่อให้ผมด้วยเถอะครับ”
“ขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ!ผมไม่น่าไปทำกับหยังสู้สู้เลย……..”
หูบาสองผัวเมีย สีหน้าเต็มด้วยความขมขื่น โค้งคำนับขออภัยไม่หยุด
“หนูหยังจ๊ะ น้าผิดไปแล้ว หนูให้อภัยน้าได้หรือเปล่าจ๊ะ หนูจะตีน้าก็ได้ “
เมียหูบาทำตีสีหน้ายิ้ม พูดเจรจาขอร้องหยังสู้สู้