“หลินอิ่ง ผมจะบอกคุณให้ คุณเอาของจากตระกูลฉู่ไป นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนี้” ฉู่หยุนซานพูดข่มขู่อย่างเย็นชา
“ทางที่ดีคุณไปสืบในแวดวงลึกลับให้ดี มีใครกล้าแย่งยาจากตระกูลฉู่บ้าง?” ฉู่หยุนซานพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณมีวิชากังฟูอยู่บ้าง ก็ต้องมียอดฝีมือคอยสอน? หรือไม่รู้ระเบียบในแวดวงลึกลับเลย?”
ต้องรู้ว่า ตระกูลฉู่เป็นตระกูลราชาแห่งยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงลึกลับ หากวัดจากระดับความสามารถแล้ว ยอดฝีมือวิชาการต่อสู้โบราณของตระกูลฉู่ขึ้นลำดับในแวดวงลึกลับไม่ได้ แต่เรื่องทักษะการแพทย์อันเหนือชั้นนั้น ต่างก็เป็นที่หมายปองของเหล่าอำนาจชั้นสูงทั้งนั้น
เพราะว่า ใครจะไม่มีเรื่องเกิดแก่เจ็บตาย?
ไม่มีใครกล้าไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับราชาแห่งยาที่รากฐานแน่นหนาเช่นนี้ ถึงแม้อำนาจจะเหนือกว่าตระกูลฉู่ ก็ต้องคำนึงในใจก่อน
แต่หลินอิ่งคนนี้ กลับกล้าโผงผางขนาดนี้ ตระกูลฉู่คุยข้อเสนอดีๆกับเขาส่งยามาถึงตี้จิง กลับยังกล้าแย่งอีก?
“ระเบียบในแวดวงลึกลับ?” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา มุมปากโค้งขึ้น “ระเบียบในแวดวงลึกลับ ก็คือเคารพผู้แข็งแกร่ง”
“คุณความสามารถสู้ไม่ได้เอง ยังพูดอะไรได้อีก?”
ฉู่หยุนซานกลับมาพูดเรื่องระเบียบในแวดวงลึกลับอีก ไม่รู้เลยว่า แวดวงลึกลับในประเทศหลุงนั้น แก๊งมังกรก็คือผู้จัดระเบียบอย่างเด็ดขาด ผู้นำอันเด็ดขาด
หลินอิ่งเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างในแวดวงลึกลับ มากกว่าคนอื่น
“คุณ กล้าอวดดีได้เช่นนี้ อนาคตต้องเสียใจแน่” ฉู่หยุนซานพูดอย่างขึงขัง ถูกหลินอิ่งดูถูกวิชาการต่อสู้ สีหน้าแดงก่ำอย่างสุดขีด
“เสียใจ?” หลินอิ่งส่ายหน้า มุมปากยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา
“หลินอิ่ง ผมไม่รู้ว่าคุณจะรีบแย่งดอกโคมไปทำอะไร แต่ผมขอบอกคุณ คุณแย่งไปก็ไม่มีประโยชน์” ฉู่หยุนซานพูดอย่างไม่พอใจ “ดอกโคมเก็บไว้ในอำพันเฉพาะ ถ้าหากไม่มีวิธีการเอาออกของตระกูลฉู่ คุณจะทำลายดอกโคมไปเท่านั้น จะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย”
“หมายความว่าอะไร?” หลินอิ่งสายตาเย็นชาทันที ต้องหน้าฉู่หยุนซาน “วิธีนำดอกโคมออกมาคืออะไร?”
เขาคิดไม่ถึงว่ายังมีอีกขั้นตอน ยาอบแห้งของดอกโคมเก็บรักษาในอำพัน ถ้าหากไม่มีวิธีการเอาออกมาที่ถูกต้อง อาจจะทำลายตัวยาได้ นั่นก็พยายามอย่างสูญเปล่า
สร้างความขุ่นเคืองกับตระกูลฉู่ หลินอิ่งไม่กลัว แต่กลัวทำลายช่วยชีวิตของคุณปู่ตัวเอง
“พูดมา”
หลินอิ่งจับข้อมือของฉู่หยุนซาน ถามอย่างเย็นชา
“เอื้อก ช่างอวดดีจริงๆ หลินอิ่ง คุณเหยียมหยามผมแบบนี้ อย่าคิดที่จะรู้วิธีนำดอกโคมออกมาเลย” ฉู่หยุนซานพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณนี่มันพฤติกรรมที่ควรมีต่อผู้อาวุโสเหรอ? แล้วมันคือวิธีการขอร้องคนอื่นหรือ?”
ได้ยินแล้ว แววตาของหลินอิ่งก็ค่อยๆเย็นชาขึ้น หลินอิ่งจ้องฉู่หยุนซานอย่างเย็นชา แปร่งประกายแรงสังหาร
ดอกโคมไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ฉู่หยุนซานไม่ยอมเปิดปาก แบบนี้ก็ต้องใช้วิธีเฉพาะแล้ว เอากลับไป เขาจะแค้นสอบด้วยตัวเอง
“ผมถามเป็นครั้งสุดท้าย คุณพูดหรือไม่พูด?”
“เห้อ หลินอิ่ง นี่คุณกำลังขู่ผมเหรอ?” ฉู่หยุนซานพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม น้ำเสียงเย็นชา มองไปที่ฉู่สงซานพ่อลูก “น้องหก นี่ก็คือเพื่อนที่นายคบ? ยังบอกว่าอะไรเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์? ไร้ซึ่งมารยาท กดฉันไว้แบบนี้ ยังแย่งยาไปแล้วบีบบังคับถามวิธี นายว่ายังไง?”
ฉู่หยุนซานอดกลั้นความโมโห ยังคงต้องวางตัวสูง ไม่ยอมบอกวิธีการเอายาออกมาเด็ดขาด
“นี่…….” ฉู่สงซานสีหน้าลำบากใจ สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
เขายังอยู่ในอาหารตกตะลึง ยังรับสถานการณ์ไม่ทัน
ฉู่สงซานเองก็คิดไม่ถึง ว่าหลินอิ่งจะจับพี่ใหญ่ของเขาไว้ได้อย่างง่ายดาย และจู่โจมในทันที บีบถามวิธีการเอายา
คราวนี้ก็ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดไปแล้ว วิธีการนำดอกโคมออกมา เขาไม่รู้เรื่องเลยว่ามันคืออะไร มีเพียงฉู่หยุนซานที่ดูแลเรื่องในแวดวงลึกลับเท่านั้นที่รู้
“ประธานหลิน พี่ใหญ่ พวกท่านทั้งสองถอยคนละก้าวดีกว่านะ ไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไรใหญ่โต ไม่จำเป็นต้องสร้างความตึงเครียดขนาดนี้” ฉู่สงซานพูดโน้มน้าว
วิธีการจัดการปัญหาของหลินอิ่งรุนแรงไปหน่อย แต่เพราะว่าอายุน้อยกำลังกระฉับกระเฉง และมีอำนาจในตี้จิง
ส่วนพี่ใหญ่ เห้อ วางท่าตระกูลฉู่สูงเกินไปแล้วจริงๆ เข้ามาก็หาเรื่อง ท่าทางยโสอยู่เหนือกว่าคนอื่น แม้แต่มือก็ไม่ยอมจับกับหลินอิ่ง
นี่จะไม่ทำให้หลินอิ่งโมโหได้ยังไง? ที่สำคัญ เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินอิ่งอีก
“น้องหก นี่ไม่ใช่พี่ที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด หลินอิ่งคนนี้ไม่ได้มีความเคารพแม้แต่น้อย” ฉู่หยุนซานพูดอย่างเคร่งขรึม “นี่มันเป็นคำสั่งจากคุณท่านแล้ว หลินอิ่งรับยาไป ก็ต้องยอมรับข้อเสนอ”
“ตอนนี้ หลินอิ่ง ผมยอมรับว่าคุณมีสิทธิ์มาคุยข้อเสนอกับตระกูลฉู่ คุณเอายาไป แต่ว่า คุณก็ต้องมีพฤติกรรมของคนเป็นคนรุ่นหลังบ้าง?” ฉู่หยุนซานพูดอย่างเชื่องช้า “ถ้าอยากให้ผมบอกวิธีการเอายาให้คุณ ปล่อยผมก่อน ยกน้ำชาให้ผมมาให้ผมอย่างเคารพ ขอโทษก่อนค่อยว่ากัน”
“ให้ผมขอโทษคุณ?” หลินอิ่งมุมปากยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา
มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉู่หยุนซานยังไม่ยอมลดท่าทีลง ยังยึดฐานะตัวเอง ไม่ยอมลดศักดิ์ศรี?
“หากพูดว่าให้ผมขอโทษยอมรับผิดกับคุณอีก อย่าบอกว่าผมไม่ให้เกียรติคุณท่านฉู่ของพวกคุณ วันนี้ผมจะแหกปากคุณเอง” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา
พูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไป จับคอของฉู่หยุนซานไว้ บีบจนฉู่หยุนซานหายใจหอบ สีหน้าเคร่งเครียด
“เอื้อก หลินอิ่ง นี่คุณคิดจะทำอะไร?” ฉู่หยุนซานตะลึงหน้าซีด คิดไม่ถึงว่าหลินอิ่งจะไม่เห็นแก่ฐานะหัวหน้าตระกูลของเขาเลยแม้แต่น้อย ลงมือหนักขนาดนี้
“หลินอิ่ง วันนี้คุณกล้าลงมือกับผมแม้แต่น้อย วันหน้าตระกูลฉู่ต้องเอาคืนร้อยเท่าแน่” ฉู่หยุนซานยังคงฝืนพูดด้วยความโมโห
“คุณหลิน คุณอย่าวู่วาม” ฉู่ฉู่ลุกขึ้นทันที เดินเข้าไปพูดด้วยสีหน้าเขินอาย “คุณหลิน ฉันรู้วิธีการนำดอกโคมออกมา”
“คุณรู้?” หลินอิ่งสีหน้าตกใจเล็กน้อย มองดูฉู่ฉู่ที่อาการเขินอาย
“ฉู่ฉู่ นี่เป็นความลับสูงสุดของตระกูล เธอรู้ได้ยังไง? ไม่ต้องไปสนใจหลินอิ่ง ตระกูลฉู่ของเราไม่มีวันก้มหัวให้คนรุ่นหลังอย่างเขา” ฉู่หยุนซานพูดอย่างไม่พอใจอยู่ด้านข้าง
“พอแล้ว คุณลุง เลิกท้าทายกับคุณหลินได้แล้ว คุณหลินต้องการดอกโคมอย่างรีบร้อนแบบนี้ ต้องมีเรื่องด่วนแน่นอน” ฉู่ฉู่พูดอย่างจริงจัง “ก่อนมาตี้จิง คุณปู่ของวิธีการนำดอกโคมให้หนูรู้แล้ว คุณปู่ยังพูดว่า ถ้าหากคุณลุงสู้คนอื่นไม่ได้ ก็อย่าทำให้ท่านขายหน้า คุณปู่เดาออกตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าคุณลุงต้องก่อเรื่องที่ตี้จิงแน่นอน”
“นี่……มัน” ฉู่หยุนซานฟังคำพูดของฉู่ฉู่แล้ว สีหน้าก็ยิ่งแดงก่ำ
ที่แท้คุณท่านคาดการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว ยังสั่งฉู่ฉู่ไว้แล้ว สุดท้ายก็ทำให้คนเป็นผู้ใหญ่อย่างเขา ต้องให้หลานสาวมาช่วยจัดการเรื่องราว ช่างทำให้เขาอายจนอยากขุดหลุมมุดตัวลงไปจริงๆ
“ถ้าเช่นนั้นก็ต้องรบกวนคุณฉู่ฉู่แล้ว เวลาเร่งรีบ ตามผมไปที่จื่อหลงซานเดี๋ยวนี้เลย” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง
เขาไม่อยากสนใจว่าคุณท่านตระกูลฉู่คิดแผนการอะไร อาการป่วยของคุณปู่รอไม่ได้ ต้องรีบทำยาทันที