“จ้าวหลินเอ๋อร์? หมายความว่ายังไง? หรือแกจะรู้จักคุณหนูจ้าวแห่งตี้จิง?” หลี่ชิงซงสีหน้าตะลึง มองหน้าหลินอิ่งด้วยความแปลกใจ “เป็นไปได้ยังไง ไอ้ไร้น้ำยาเมืองเล็กๆอย่างแก จะไปรู้จักกับคุณหนูผู้ส่งอย่างคุณหนูจ้าวได้ยังไง?”
หลี่ชิงซงหรี่ตาลงเล็กน้อย มองหลินอิ่งใหม่อย่างละเอียด ในใจเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ หลินอิ่งมีความมั่นใจขนาดไหน ถึงได้รักษาความใจเย็นขนาดนี้ในสถานการณ์แบบนี้
หลินอิ่งไม่ใช่ลูกเขยไร้น้ำยาคนหนึ่งเหรอ? เอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน?
“ปากเก่งจริงนะ? ชื่อของคุณหนูจ้าว ให้แกเรียกออกมาอย่างนี้ได้เหรอ? แกนี่มันไม่กลัวตายจริงๆ” โจผิงหัวเราะเย็นชา มองหลินอิ่งอย่างเหยียดหยาม
เท่าที่เขาดูแล้ว ไม่รู้หลินอิ่งไปรู้จักชื่อของคุณหนูจ้าวแห่งตี้จิงมาจากไหน ถึงได้มาแสดงท่าทีอวดดีที่นี่
ไม่รู้จักคิด จ้าวหลินเอ๋อร์เป็นคุณหนูระดับไหน จะไปมีความเกี่ยวพันกับไอ้ไร้น้ำยาต่ำต้อยอย่างหลินอิ่งได้ยังไง?
จริงๆเลย คนระดับอย่างหลินอิ่ง ถือรองเท้าให้คุณหนูจ้าวยังไม่คู่ควรเลย ยังแสดงเหมือนสนิทสนมกับคุณหนูจ้าว?
ก็ไม่คิดดูว่า ตำแหน่งของเขาโจผิงในเมืองชิงหยูน ได้ทำงานให้คุณหนูจ้าวนั่นเป็นบุญวาสนาแค่ไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าได้เป็นเพื่อนกับคุณหนูจ้าว
“ช่างเป็นแมงดาไร้ยางอายจริงๆ สถานที่แบบนี้ หลินอิ่ง แกยังมีหน้ามาพูดถึงจ้าวหลินเอ๋อร์อีก? แกมีอะไรกับผู้หญิงบ้าคนนั้นจริงๆ” ลู่หย่าฮุ่ยพูดอย่างโมโห จ้องหลินอิ่งด้วยความไม่พอใจ
“แกนึกว่าแกเอาชื่อไอ้ผู้หญิงบ้านั่นออกมา ก็ขู่ใครได้เหรอ? ผู้หญิงคนนั้นมันก็แค่มีเงินหน่อย มีเครือข่ายในตี้จิง ในมณฑลตุงไห่ของเรา มันจะสู้คุณชายโจได้เหรอ?” ลู่หย่าฮุ่ยอย่างยโส
ในสายตาเธอ จ้าวหลินเอ๋อร์ก็แค่คนมีเงินที่มาจากตี้จิงเท่านั้น ไม่รู้ระดับความแตกต่างในแวดวงไฮโซแม้แต่น้อย
“นี่……”
ได้ยินคำพูดนี้ โจผิงมองลู่หย่าฮุ่ยด้วยความตะลึง รู้สึกไม่อยากเชื่อ
พูดตามตรง ตระกูลโจต่อหน้าคุณหนูผู้สูงส่งอย่างจ้าวหลินเอ๋อร์ ไม่ใช่ขี้หมาอะไรเลย
จ้าวหลินเอ๋อร์เป็นที่พึ่งของเขาโจผิง เจ้านายที่อยู่เบื้องหลัง ฟังคำพูดของลู่หย่าฮุ่ยแล้ว เขารู้สึกหน้าแดง
“คุณป้า คุณป้าน่าจะเข้าใจผิดแล้ว ไอ้ไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่ง จะไปมีความสัมพันธ์อะไรกับคุณหนูจ้าว?” โจผิงมองไปที่ลู่หย่าฮุ่ย พูดอย่างจริงจัง
“ไม่ผิดแน่นอน ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งมันไร้ยางอาย ต้องมีอะไรกับจ้าวหลินเอ๋อร์แน่นอน ไอ้ผู้หญิงคนนั้นยังมาหาเรื่องที่บ้านเราตั้งหลายครั้ง เพื่อจะหาหลินอิ่ง” ลู่หย่าฮุ่ยพูดอย่างเด็ดขาด
ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของโจผิงยิ่งแปลกใจ หันไปมองหลินอิ่งอย่างไม่อยากเชื่อ เริ่มมีความรู้สึกไม่ค่อยดีในใจแล้ว
ไอ้ลูกเขยไร้น้ำยาคนหนึ่ง จะได้รับความสนใจจากคุณหนูผู้สูงส่งอย่างจ้าวหลินเอ๋อร์ได้ยังไง?
หรือว่า หลินอิ่งจะมีฐานะไม่ธรรมดาจริงๆ?
โจผิงก็ไม่ใช่คนโง่ เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวแล้ว ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกไม่ดี
ตอนนั้นที่จ้าวหลินเอ๋อร์ให้เขาไปแต่งงานกับจางฉีโม่ หรือว่าเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่ง?
ขณะเดียวกัน หลี่ชิงซงหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง กดเบอร์โทรออก
หลังจากเสียงติ๊ดสองครั้ง ก็มีคนรับ
“ฮัลโหล คุณหนูจ้าว สวัสดีครับ ผมหลี่ชิงซง ยุ่งอยู่ไหมครับ? ผมมีเรื่องเล็กน้อยอยากรายงานท่าน…..” หลี่ชิงซงถือโทรศัพท์ไว้ พูดอย่างระมัดระวัง
“คืออย่างนี้ ทางผมมีคนชื่อหลินอิ่ง เขา……..”
“ครับ ครับ คุณหนูจ้าว ขอโทษครับ ผมเข้าใจสถานการณ์แล้วครับ”
ไม่รู้ว่าในโทรศัพท์ฝั่งโน้น พูดอะไรไปบ้าง
หลี่ชิงซงสีหน้าซีดขาว แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตัวสั่นไปทั้งร่าง
ทันใดนั้น เขามองไปที่หลินอิ่ง ด้วยความนับถือยิ่งกว่าพระเจ้า ไม่กล้าสบตาโดยตรง
“เป็นอะไร? คุณหลี่ ทำไมสีหน้าคุณเปลี่ยนไป?”
“คุณหลี่ คุณรีบเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งเลย กลับเอาชื่อคนอื่นมาข่มขู่ท่าน? รนหาที่ตายจริงๆ”
“ใช่ ฉันว่าคนแบบนี้ ก็ไอ้พวกคนต่ำต้อยเท่านั้น ยังคิดว่าตัวเองรู้จักคนใหญ่โตที่ไหน? ยังกล้าแสดงท่าทางอวดดีต่อหน้าคุณหลี่”
คนในงานเห็นหลี่ชิงซงโทรศัพท์ ก็พากันถามขึ้นมา
พวกเขาทนดูคนอย่างหลินอิ่งไม่ไหวนานแล้ว ลูกเขยไร้น้ำยาชื่อเสียงเน่าเหม็นทั่วเมือง ยังมาอวดดีต่อหน้าคนรวยอย่างพวกเขา ไม่หักหน้าหลินอิ่ง ไม่มีใครยอมแน่
“พวกคุณหยุดพูดได้แล้ว” หลี่ชิงซงมือสั่น เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พูดด้วยเสียงเคร่งเครียด
พูดจบ หลี่ชิงซงสีหน้าซีดขาว ลุกขึ้นกะทันหัน หันไปมองหลินอิ่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“หลิน ประธานหลิน……..” หลี่ชิงซงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ “ขอโทษ”
พูดไป หลี่ชิงซงก็ก้มหัวโค้งคำนับให้หลินอิ่ง
“ผมมีตาหามีแววไม่ ประธานหลิน ผมต้องขอโทษด้วยความจริงใจ หวังว่าท่านจะไม่ติดใจ อย่างถือสาคนต่ำต้อยอย่างพวกเราเลย”
หลี่ชิงซงก้มหน้า โค้งคำนับ เก้าสิบองศาต่อหน้าหลินอิ่ง ดูเหมือนกำลังรอหลินอิ่งเปิดปากพูด หลินอิ่งไม่แสดงทัศนคติ เขาไม่กล้าแม้แต่เงยหน้า
“นี่? คุณหลี่ ท่านทำไมถึงไปขอโทษมัน?”
“ฉันไม่ได้ดูผิดใช่ไหม? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
คราวนี้ ทุกคนในงานถูกพฤติกรรมของหลี่ชิงซงทำให้ตกใจ แต่ละคนสีหน้าตกใจ
พวกเขาไม่เข้าใจ ทำไมในชั่วพริบตา ผู้มีอำนาจล้นฟ้าในเมืองชิงหยูนอย่างหลี่ชิงซง ข้าราชการดีเด่น ทำไมถึงได้ก้มหัวยอมรับผิดให้ไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งคนนี้?
นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปไหม?
“นายกเทศมนตรีหลี่ ท่าน นี่ท่านทำอะไรเนี่ย?” โจผิงมองหลี่ชิงซงด้วยสีหน้าตกใจ ทันใดนั้นรู้สึกเหมือนเรื่องมันผิดปกติแล้ว
หลี่ชิงซงมุมปากกระตุก มาถึงขั้นนี้แล้ว โจผิงกลับยังไม่รู้สถานการณ์อีก?
เขาแอบถอนหายใจ คิดไม่ถึง เมืองเล็กๆอย่างเมืองชิงหยูน กลับซ่อนบุคคลใหญ่โตอย่างหลินอิ่งไว้
ใครจะไปคิดถึง ลูกเขยไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่งที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมาหลายปีในเมืองชิงหยูน จะเป็นคุณชายอิ่งแห่งตี้จิงในตำนาน?
“ประธานหลินคือคุณชายอิ่ง……” หลี่ชิงซงก้มหน้า พูดเสียงเบา
“อะไรนะ”
คำพูดของหลี่ชิงซง มีเพียงโจผิงที่อยู่ข้างๆได้ยินเท่านั้น
ทันใดนั้น โจผิงสีหน้าซีดขาวไปทันที ร่างกายสั่นเหมือนดั่งหนาวมาก
เขาหันไปมองหลินอิ่งด้วยสายตาหวาดกลัว รู้สึกในใจว่างเปล่า หนาวเย็นไปทั่วร่าง
หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย แววตาเย็นชา
แววตาอันเย็นชานั้น ยิ่งทำให้โจผิงในตอนนี้ รู้สึกเหมือนตกลงไปในเหวลึก
“คุณชาย…….อิ่ง?” ปากของโจผิงพูดอย่างขมขื่น เกลียดจนอยากตบปากตัวเองให้บวมไปตอนนี้เลย
หลี่ชิงซงคุยโทรศัพท์กับคุณหนูจ้าวแล้ว ฐานะของหลินอิ่ง ต้องไม่ใช่เรื่องปลอมแน่
ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ว่าเพราะอะไร หลินอิ่งถึงพูดว่าจะตัดชื่อตระกูลโจออกได้ง่ายดายขนาดนั้น…….
โจผิงเคยใช้ชีวิตในสังคมตี้จิงมาก่อน เขาเข้าใจ ตัวหนังสือสามตัวนี้อยู่ในตี้จิงหมายความว่าอะไร
คุณชายอิ่ง
สามคำนี้ เหมือนดั่งเทพนิยายในตี้จิง ชื่อเสียงโด่งดัง รู้จักทั่วทุกสารทิศ
คนใหญ่โตล้นฟ้าระดับนี้
เขาโจผิง หลับไม่รู้ที่ต่ำที่สูงพูดจาเหยียดหยามเสียดสีต่อหน้าแบบนี้? ยังจัดงานเลี้ยงจะหมั้นกับจางฉีโม่ภรรยาของคุณชายอิ่ง?
ตุ๊บตั๊บ
โจผิงทนรับความกดดันในใจไม่ไหว คุกเข่าลงพื้น คุกเข่าต่อหน้าหลินอิ่งทันที
“ประธานหลิน ผมผิดไปแล้ว”