“หลินอิ่ง นาย นี่อะไรกัน?”
จ้าวเฉินเฉียนมองภาพในออฟฟิศ หลินอิ่งและแอนนา ชายหนึ่งหญิงหนึ่งอยู่ในห้องเดียวกัน
โดยเฉพาะ สีหน้าแอนนาแดงก่ำ
เขาแววตาตกใจ ในใจเขารู้สึกนับถือ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโมโห
“หลินอิ่ง นายนี่มันเจ้าชู้ไม่เลือกที่จริงๆ” จ้าวเฉิงเฉียนพูดเสียงเคร่งขรึม “น้องสาวฉันจ้าวหลินเอ๋อร์ หานายหาแทบเป็นแทบตาย แต่นายกลับสนุกขนาดนี้ ใช้เวลากับสาวสาย?”
หลินอิ่งมองจ้าวเฉิงเฉียน สายตาเย็นชา
“ฮาเดส ปล่อยเขาเข้ามาได้ยังไง?”
“นี่……” ฮาเดสสีหน้าหนักใจ ไม่รู้ควรตอบยังไง
เขาขวางแล้ว แต่ขวางยอดฝีมือข้างกายจ้าวเฉิงเฉียนสองคนนั้นไม่ได้
“ฉันจ้าวเฉิงเฉียนหานาย ลูกน้องนายจะขวางได้หรือ?” จ้าวเฉิงเฉียนหัวเราะเย็นชา พูดอย่างมั่นใจ
ได้ยินแล้ว หลินอิ่งแววตาเย็นชา
“ถ้าพูดแบบนี้ ก็แสดงว่านายบุกเข้ามา?”
“ถิ่นของฉันหลินอิ่ง นายก็กล้าบุกเข้ามา?”
มาโดยไม่ได้รับเชิญ ยังบุกเข้ามาถึงบริษัท
จ้าวเฉิงเฉียนคนนี้ คิดว่าตัวเองเป็นคุณชายอันดับหนึ่งแห่งตี้จิง ตัวหอยอย่างกับอะไร
“ใช่แล้วยังไง? ฉันมาหานาย หรือจะต้องทักทายกับนายก่อน?” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างยโส
“ฉันจะนายให้นะ หลินอิ่ง ฉันมาหานายครั้งนี้ มีอยู่สองเรื่อง”
จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเปิดอก “เรื่องที่หนึ่ง เกี่ยวกับกลุ่มสาขาย่อยของแก๊งหยางเหมินในเมืองก่าง”
“เรื่องที่สอง เกี่ยวกับเรื่องของน้องสาวฉัน จ้าวหลินเอ๋อร์”
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เรื่องของสำนักแก๊งหยางเหมินเมืองก่าง จ้าวเฉิงเฉียนเป็นเจ้าสำนักเมืองก่าง มาหาถึงที่ก็เป็นไปได้
ส่วนเรื่องของจ้าวหลินเอ๋อร์ ไร้สาระสิ้นดี
จ้าวหลินเอ๋อร์ใช้นิสัยคุณหนู จ้าวเฉิงเฉียนเป็นพี่ชาย กลับเล่นบ้าตามเธอ?
“คุณหลิน คุณคงยุ่งมาก ฉันขอตัวก่อนนะ”
แอนนานั่งดูอยู่ข้างๆ พูดอย่างรู้สึกสนุก
เธอไม่รู้จักจ้าวเฉิงเฉียน แต่ดูท่าทางแล้ว จ้าวเฉิงเฉียนก็มีที่มาไม่ธรรมดา มีเรื่องสำคัญต้องคุยกับหลินอิ่ง
หลินอิ่งพยักหน้า “นายกลับไปได้”
“ได้ คุณหลิน พวกเราเจอกันครั้งหน้า” แอนนาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง โบกมือไปมา เดินออกไปจากออฟฟิศอย่างสง่า
จ้าวเฉิงเฉียนหรี่ตาเล็กน้อย มีความโมโหในแววตา
หลินอิ่งพูดจายิ้มแย้มกับโครเมียร์ แอนนา ต่อหน้าเขา
ไม่ได้มีเขาจ้าวเฉิงเฉียน ตระกูลจ้าวตี้จิง อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
เป็นผู้ชายที่มีสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลจ้าว กลับทำเรื่องแบบนี้ ยังมีประเพณีอยู่ไหม
ถ้าไม่เห็นแก่ฐานะเบื้องหลังของโครเมียร์ แอนนา ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น จ้าวเฉิงเฉียนลงมือจับตัวไว้ทันทีแน่ เอากลับไปให้น้องสาวของตัวเองจ้าวหลินเอ๋อจัดการผู้หญิงสำส่อนคนนี้
“หลินอิ่ง ดูแล้วนายไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยนะ” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเย็นชา “ต่อหน้าฉัน ยังพูดจายิ้มแย้มกับโครเมียร์ แอนนาอีก? แกเอาสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลจ้าวไปไว้ไหน?”
หลินอิ่งแววตาเรียบเฉย นั่งลงไปที่เก้าอี้ทำงาน ยกน้ำชาขึ้น จีบไปคำหนึ่ง
“เรื่องสัญญาหมั้นหมายของตระกูลจ้าว ฉันเคยบอกแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่ตระกูลฉีหมั้นหมายเอง นายจะหา ก็ไม่หาคนของตระกูลฉี” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “อีกอย่าง ฉันก็พูดกับน้องสาวนายอย่างชัดเจนแล้ว พวกนายจะมาเอาเรื่องให้ได้ ฉันจะได้เขียนหนังสือถอนหมั้นให้นายท่านตระกูลจ้าว”
“อวดดี สามหาว”
จ้าวเฉิงเฉียนโมโห ถูกคำพูดของหลินอิ่งทำให้โมโห
“แกเห็นตระกูลจ้าวของเราเป็นตระกูลอะไร? เห็นน้องสาวฉันเป็นผู้หญิงอะไร?” จ้าวเฉิงเฉีนพูดอย่างเคร่งขรึม “ยังหนังสือถอนหมั้น? แกอยากเหยียดหยามน้องสาวจ้าวหลินเอ๋อร์ของฉันเหรอ? อยากเหยียบหน้าตระกูลจ้าวของเราให้จมดินใช่ไหม?”
หลินอิ่งดื่มชาไปคำหนึ่ง แล้วส่ายหน้า “ไม่อย่างนั้นละ? นายต้องการอะไร? ฉันเคยได้ยินบังคับแต่ง ยังไม่เคยได้ยินบังคับสู่ขอ”
“เหอะ” จ้าวเฉิงเฉียนทำเสียงเย็นชา “แกจะหลงตัวเองเกินไปแล้ว ถ้าจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย ต้องก็เป็นตระกูลจ้าวของเราที่เขียนหนังสือถอนหมั้น ถอนหมั้นแกหลินอิ่ง ตระกูลจ้าวของเราเป็นฝ่ายถอนหมั้น ไม่ใช่แกถอนหมั้น แกมีสิทธิ์อะไรทำแบบนี้?”
หลินอิ่งส่ายหน้า คุณชายจ้าวคนนี้ แม้แต่สถานการณ์ยังแยกแยะไม่ออก ก็คิดอยากรักษาหน้าตระกูลจ้าวของพวกเขา
“ถ้าเป็นเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาหาฉันอีก ทัศนคติของผม ชัดเจนมากแล้ว” หลินอิ่งพูดอย่างเฉยชา
“เหอะเหอะ ทัศนคตินายทำอะไรได้?” จ้าวเฉิงเฉียนพูดเสียงเย็นชา
“อีกอย่าง หลินอิ่ง เรื่องสาขาแก๊งหยางเหมินเมืองก่าง แกคิดจะปล่อยมือเมื่อไหร่?” จ้าวเฉิงเฉียนเปลี่ยนเรื่อง ถามต่อ
“ก่อนหน้านี้นายบอกให้หรงหยังช่วยนายทำงาน ฉันเห็นแก่หน้านายท่านตระกูลจี้ ไม่ได้ไปยึดสาขาแก๊งหยางหหมินที่หรงหยังดูแลอยู่” จ้าวเฉิงเฉียนพูดเรียบเฉย “วันนี้ จี้ฉงซานล้มแล้ว ธุระก็ทำเสร็จแล้ว นายควรเอาอำนาจแก๊งหยางเหมินคืนมาให้ฉันได้แล้ว”
หลินอิ่งมองจ้าวเฉิงเฉียนอยู่นาน
“นั่นไม่ใช่สาขาย่อยของแก๊งหยางเหมินเมืองก่างแล้ว หรงหยังหันมาทำงานให้ฉันแล้ว เปลี่ยนเจ้าเปลี่ยนสำนักแล้ว”
“อะไร? เปลี่ยนสำนัก? หรงหยังมันกล้าดียังไง” จ้าวเฉิงเฉียนแววตาเย็นชา สีหน้าโมโห “หลินอิ่ง เรื่องของหรงหยังเกี่ยวข้องกับแก๊งหยางเหมิน ไม่มีช่องว่างในการเจรจาทั้งนั้น ฉันเตือนนายอย่ายื่นมือยาวเกินไป”
“สาขาย่อยแก๊งหยางเหมิน แก๊งหยางเหมินของเราต้องเอากลับมาแน่นอน” จ้าวเฉิงเฉียนพูดเสียงเรียบ “นายอย่าคิดว่านายล้มจี้ฉงซานได้แล้ว ก็ทำอะไรได้ตามใจชอบในเมืองก่าง กฎระเบียบในแวดวงผู้ลึกลับ นายต้องทำความเข้าใจด้วย”
“กฎระเบียบในแวดวงผู้ลึกลับ?” หลินอิ่งหัวเราะออกมา
จ้าวเฉิงเฉียนมาคุยเรื่องกฎระเบียบแวดวงผู้ลึกลับ?
หัวหน้าแห่งแวดวงผู้ลึกลับเมืองก่าง ท่านมังกรดำขององครักษ์มังกรดำ จนวันนี้ยังไม่กล้าเผยโฉมหน้ามาให้เห็นเลย
แก๊งหยางเหมิน ยังกล้าพูดเรื่องกฎระเบียบต่อหน้าตัวเอง
“หลินอิ่ง หรงหยัง นายเอาไปได้ ฉันไม่ไปชำระบัญชีกับมัน แต่ว่า อำนาจและกิจการของสาขาย่อยแก๊งหยางเหมินเมืองก่าง นายต้องส่งมาที่มือฉัน” จ้าวเฉิงเฉียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หรงหยังหันไปพึ่งหลินอิ่ง ไม่เป็นไร
เพราะว่าหรงหยังไม่ได้จงรักภักดีกับเขา เขาในฐานะเจ้าสำนักแก๊งหยางเหมิน ก็ไม่ได้ขาดยอดฝีมือรายการคนอย่างหรงหยังคนเดียว สู้ช่วยหลินอิ่งให้เขาติดหนี้บุญคุณดีกว่า
ไม่ว่ายังไง น้องสาวของเขายังตั้งความหวังไว้ในตัวหลินอิ่ง ไอ้เด็กนี่รู้จักบุญคุณ
จ้าวเฉิงเฉียนคิดในใจ มองหน้าหลินอิ่งอย่างจริงจัง
“เป็นไปไม่ได้”
หลินอิ่งปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“ตอนนี้หรงหยังเป็นคนของฉันช่วยฉันทำงาน นายบอกให้เขาส่งอำนาจธุรกิจในมือให้นาย ก็ต้องส่งเหรอ?” หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง “ให้นายทำแบบนี้ จากนี้ไป ฉันจะนำคนยังไง?”
“นาย หลินอิ่ง นายจะเกินไปแล้วนะ” จ้าวเฉิงเฉียนแววตาเฉียบคม จ้องหน้าหลินอิ่งตาไม่กะพริบ
“ถ้าไม่เห็นแก่หน้าน้องสาวฉัน ท่าทางอวดดีของนาย โดนฉันตบหน้าแบนไปแล้ว” จ้าวเฉิงเฉียนพูดเสียงเคร่งเครียด
หลินอิ่งส่ายหน้า มุมปากยิ้มอย่างเย็นชา
จ้าวเฉิงเฉียนจับแหวนหยกตัวเอง แววตาเย็นชา เริ่มมีแววความโหดเหี้ยมในตัว
“นายนี่มันให้ลูกอมไม่เอาจะเอาหมัดใช่ไหม ให้โอกาสแล้วนายไม่เอา”
“วันนี้ ฉันจะเอาตัวนายไปขอโทษต่อหน้าน้องสาวฉันจ้าวหลินเอ๋อร์ ตามด้วยจัดการเรื่องของหรงหยันไปพร้อมกัน”
จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างหนักแน่น คิดจะใช้ไม้แข็งลงมือแล้ว
เขาเป็นเจ้าสำนักแก๊งหยางเหมิน ยังเป็นคนโหดที่ฆ่าเจ้าสำนักอีกสองคนถึงได้ขึ้นมาอยู่ตำแหน่งนี้ได้ ต้องมีฝีมือกังฟูที่ไม่ธรรมดาแน่
จ้าวเฉิงเฉียนยังคงไม่เกรงกลัว
หลินอิ่งมองจ้าวเฉิงเฉียนอย่างสนใจ พูดว่า “นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ฉัน”